ยอดคุณหมอตาวิเศษ นิยาย บท 888

เมื่อมาถึงเกาะซวนหวู่ ประประชุมนัดบอดก็กำลังจะเริ่ม ทหารหลานพันคนในกองทัพชิงหลงยืนเรียงกันเป็นแถว และทหารหญิงกองทัพซวนหวู่ที่ได้รับการคัดเลือก หากพวกเขาต้องการ ทังสองก็จะจับมือกันและเดินออกไปพูดคุย

อู๋เป่ยและจี้รัวเฟยนั่งอยู่ในเต็นท์ มองดูผู้ใต้บังคับบัญชาของพวกเขาจับคู่กันที่ละคนที่ละคน พวกเขารู้สึกว่าน่าสนใจ

อู๋เป่ยพูด "ทหารกองทัพชิงหลงและทหารกองทัพซวนหวู่ต้องรับราชการทหารนานเท่าไหร่?"

"สิบปี" จี้รัวเฟยตอบ "สิบปีนี้ ทุกปีจะมีวันลาครอบครัวสิบวันเท่านั้น ดังนั้นทหารทั้งหลายจึงเหงามาก หลายปีที่ผ่านมา พวกทหารเลวจากกองทัพชิงหลงของคุณมักแอบเข้ามาในเกาะซวินหวู่ของฉัน แต่ฉันมักจะเมินเฉย ปิดตาข้างหนึ่ง"

อู๋เป่ย "ใช่แล้ว ทุกวันออกไปตาย ความกดดันก็สูง หากได้เยอะคู่ มันก็เป็นวิธีคลายเครียดที่ดี"

จี้รัวเฟย "ไม่ผิด สิบปีมานี้ คนพวกนี้ตายไปแล้วยี่สิบเปอร์เซ็นต์"

พูดถึงจุดนี้ อู๋เป่ยคิดถึงเวทย์ปีศาจจึงถามว่า "การรุกรานของเวทย์ปีศาจนี้ ดำเนินมานานแค่ไหนแล้ว?"

จี้รัวเฟย "จากประสบการณ์ของฉัน หากเวทย์ปีศาจประสบความสูญเสียครั้งใหญ่สามครั้งติดต่อกัน พวกมันจะระงับการบุกรุก"

อู๋เป่ย "นั้นก็คือ พวกเราจะต้องรบอีกสองครั้ง"

จี้รัวเฟย "เป็นไปได้มากที่สุด พี่อู๋วันนี้รบกวนพี่แล้ว"

อู๋เป่ยยิ้มแล้วพูดว่า "ไม่ลำบากหรอก สุดท้ายการฆ่าพวกเวทย์ปีศาจถือเป็นคุณธรรมทหาร"

จี้รัวเฟย "คุณธรรมทหารจะถูกแบ่งครึ่ง วันใดที่ฆ่าเวทย์ปีศาจได้ล้านตัว คุณกับฉันก็จะได้เกษียณ"

อู๋เป่ยใจสั่น "อ่อ ฆ่าเวทย์ปีศาจได้ล้านตัวก็จะสามารถเกษียญได้?"

จีรัวเฟย "พูดให้ถูกคือ ถ้าฆ่าเวทย์ปีศาจได้ลานตัว กจะได้รับคำสั่งและสิทธิ์เข้าสู่ดินแดนแห่งเซียนชั้นหนึ่ง"

อู๋เป่ย "ในประวัติศาสตร์ มีแม่ทัพแห่งจตุรเทพกี่คนที่ได้ตำแหน่งนี้?"

จีรัวเฟยส่ายหน้า "ไม่มีสักคน แม่ทัพแห่งจตุรเทพหนึ่งคนจะสังหารเวทย์ปีศาจนับล้านได้ เขาจะตองต่อสู้อย่างน้อยร้อยครั้ง การเอาชีวิตรอดในการต่อสู้ร้อยครั้งนั้นยากยิ่งกว่าการฝึกฝนใหเป็นเซียน"

อู๋เป่ยขมวดคิ้ว "ดังนั้นในประวัติศาสตร์ แม่ทัพแห่งจตุรเทพส่วนมากก็ตายแล้ว"

จี้รัวเฟย "นั้นก็ไม่แน่ มีทั้งตายแล้ว มีทั้งเกษียญก่อน"

อู๋เป่ยปวดหัวเล็กน้อย "จินซวินไป๋คงไม่ได้ให้ฉันช่วยฆ่าเวทย์ปีศาจล้านตัวหรอกนะ?"

จี้รัวเฟยยิ้มแล้วพูดว่า "จะเป็นไปได้ยังไง ในช่วงเดือนนี้ จินซวินไป๋จะกลับมาที่เกาะชิงหลง"

อู๋เป่ยพูด "เขาไม่ได้ทำให้นักบุญศักดิ์สิทธิ์ขุ่งเคืองหรือ?"

จี้รัวเฟยตอบอย่างใจเย็น "นักบุญศักดิ์สทธิ์นั้น เป็นเพียงนักบำเพ็ญที่แข็งแกร่งและมีระดับฝึกฝนสูง แต่ในโลนี้ก็มีคนจำนวนมากที่แข็งแกร่งกว่าเขา"

อู๋เป่ย "ดังนั้นจินซวินไป๋จึงไม่กลัวนักบุญศักดิ์สิทธิ์"

"แม่ทัพใหญ่แห่งจตุรเทพ เบื้องหลังของแต่ละคนคือกลุ่มกองกำลังที่ทรงพลัง สิ่งที่เรียกว่านักบุญศักดิ์สิทธิ์นั่นไม่สามาถรุกรานได้ง่ายๆ อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่คุณเป็นมือซ้ายของแม่ทัพแห่งจตุรเทพ หมายความว่าคุณจะเป็นคนแรกที่จะสืบทอดสถานะของแม่ทัพแห่งจตุรเทพ เมื่อจินซวินไป๋ตายไปหรือว่าหลังเกษียณอายุ คุณก็ต้อวกลายเป็นแม่ทัพแห่งจตุรเทพคนต่อไปโดยอันตโนมัติ"

อู๋เป่ยไม่แปลกใจนัก เขารู้เรื่องนี้นานแล้วและพูดว่า "ข้างกายคุณก็มีมือซ้ายแม่ทัพแห่งจตุรเทพไหม?"

จี้รัวเฟย "แม่ทัพแห่งจตุรเทพส่วนใหญ่ จะตั้งมือซ้ายแม่ทัพแห่งจตุรเทพขึ้นมา เมื่อเป็นมือซ้ายแม่ทัพแห่งจตุรเทพแล้ว คุณจะได้รับผลตอบแทนมากมาย แต่ก็จะต้องสูญเสียบางอย่างเช่นกัน เช่น หลังจากนี้อยู่ที่เหยียนหลง คุณอาจจุภูกปราบปรามโดยกองกำลังของนักบุญศิกดิ์สิทธิ์"

อู่เป่ย "นักบุญศักดิ์สิทธิ์คนนั้นแข็งแกร่งมากเหรอ?"

จี้รัวเฟย "ชายคนนี้มีต้นกำเนิดลึกลับ เขามีวิชาที่ยอดเยี่ยม ในช่วงร้อยปีมานี้เขาเลี้ยงดูปรมาจารย์จำนวนมาก ปรมาจารย์เหล่านี้จัดตั้งกลุ่มเพื่อนผลประโยชน์ขึ้น ตอนนี้คุณอยู่ข้างจินซวินไป๋แล้ว ฉันรับประกันได้เลย ภายในหนึ่งเดือน คุณจะต้องสละตำแหน่งท่านผู้นำแน่"

อู๋เป่ยขมวดคิ้ว เขาก็จัดการเรื่องในเทียนหลงไม่น้อย จะให้เขาสละตำแหน่ง อย่างแม้แต่จะคิด!

จี้รัวเฟยพูด "ที่จริงแล้วจะเป็นผู้นำหรือไม่เป็นผู้นำ มันก็ไม่ได้สำคัญกับคุณมากนักหรอก ฉันแนะนำคุณทำธุรกิจมนเหยียนหลงน้อยหน่อย ทางที่ดีเปลี่ยนใจไปดินแดนแห่งเซียนผลฝึกยุทธ์เถอะ"

ในวันที่สิบ อู๋เป่ยนำกองกำลังของเขากลับไปที่เกาะชิงหลง ทีนทีที่เขากลับมาบนเกาะ เขาก็เห็นจินซวนไป๋ที่สวมชุดเครื่องแบบนั้งอยู่ในเต็นท์ใหญ่

เขาทั้งตกใจทั้งดีใจ "แม่ทัพแห่งจตุรเทพ คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่?"

จินซวินไป๋ยิ้มแล้วตอบว่า ๆ "พึ่งมาถึง ครั้งเดือนนี้ คุณทำได้ดีมาก เป็นเพราะคุณ ฉันเลยกลับมาที่นี่ก่อนกำหนดครึ่งเดือน"

อู๋เป่ยกระพริบตาแล้วพูดว่า "แม่ทัพแห่งจตุรเทพ นี้เกี่ยวอะไรกับฉันเหรอ?"

จินซวินไป๋ "เดียวค่อยอธิบายให้ฟังที่หลัง"

เขาไม่ได้พูด อู๋เป่ยก็ไม่ถามอะไรต่อมากและพูดว่า "แม่ทัพแห่งจตุรเทพ ฉันอยู่ที่นี้มาครึ่งเดือนแล้ว อยากจะขอลาพักยาว"

จินซวินไป๋ยิ้มแล้วตอบว่า "ได้สิ ที่นี้ คุณอยากมาก็มา อยากไปก็ไปได้เลย"

หลังอู๋เป่ยบอกลาทหารทั้งหลาย ก็ไปที่เกาะชวินหวู่เพื่อบอกลาจี้รัวเฟย แต่เมื่อมาถึงเกาะชวินหวู่ก็พบว่า จี้รัวเฟยได้รับข่าวจากที่บ้าน สองชั่วโมงก่อนก็ไปจากเกาะแล้ว

ในเมื่อจี้รัวเฟยไม่อยู่ อู๋เป่ยก็กลับบ้านทันที ขณะที่บินจากเกาะซวินหวู่ไปเทียนจิง เขาก็ผ่านเหนือเกาะปั้นพอดี

เมื่อถึงเกาะปั้น เขาก็หยุดลงกระทันหัน นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้

เขาได้ยินมาว่า ที่สนามรบของเกาะปั้น ในกลางดึกจะมีเงาผีปรากฏมากมาย เขาหยิบเครื่องระบุตำแหน่งออกมาไม่นานก็ระบุตำแหน่งบริเวณกว้างได้ จาอนั้นก็ร่อนลงไป

หลังจากร่อนลงมา เขาก็พบว่านี้เป็นทุ่งข้าวสาลี นี้เป็นเวลาบ่าย ครอบครัวหนึ่งทั้งเด็กแล้วผู้ใหญ่กำลังเก็บเกี่ยวข้าวสาลีกันอยู่

เมื่อเขาปรากฏตัวกระทันหัน ก็ทำให้คนในครอบครัวตกตะลึง ชายชราคนหนึ่งถามเป็นภาษาถิ่นเกาะปั้น "คุณคือใคร?"

อู๋เป่ยไม่เข้าใจภาษาเกาะปั้น เขายิ่ใแล้วพูดว่า "ผู้เฒ่าอย่ากลัวไป ฉันเป็นนักท่องเที่ยว"

ได้ยินเขาพูดภาษาเหยียนหลง ผู้เฒ่าก็ถอนหายใจแล้วตอบกลับเขาด้วยภาษาเหยียนหลง "ที่แท้ก็เป็นสหายจากเหยียนหลง สวัสดี ฉันชื่อจินโหย่วจือ ฉันเคยต่อสู้เคียงข้างกับทหารของเหยียนหลงเขาชนะพวกปีศาจอเมริกัน"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ