บทที่ 12 ผู้ต้องสงสัย
ค่ำคืนที่ไร้ผู้คนเดินผ่านไปมาตึกคณะวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ตั้งตระหง่านท่ามกลางความมืดมีเพียงแสงไฟจากหลอดไฟบริเวณโถงชั้นหนึ่ง ชายหนุ่มสองคนเดินเข้ามาภายในโถงด้วยฝีเท้าที่เบาสนิท เขาทั้งสองเหล่มองบริเวณโต๊ะประจำจุดของยามเฝ้าตึกก่อนจะพบกับความว่างเปล่า ต้นสนหันไปมองคีร์ทันทีเมื่อเห็นว่าตรงจุดนี้ไร้ซึ่งยามยืนเฝ้า
เขาพยักหน้าให้กันราวกับรู้ว่าขั้นตอนต่อไปต้องทำอะไร ทั้งสองคนมุ่งหน้าไปทางบันไดของตึกเพื่อขึ้นไปยังชั้น 4 ของอาคาร ก่อนจะแยกเดินไปคนละฝั่งด้วยเพราะห้องปลายทางมีประตูทางเข้าได้จากสองฝั่ง คีร์และต้นสนเหลียวมองต้นทางก่อนจะมุ่งหน้าเดินต่อไป
ย้อนกลับไปช่วงเวลาก่อนหน้านี้ ระหว่างที่ต้นสนกำลังเพลิดเพลินกับเกมเพลย์สเตชั่นที่ต่อเล่นในห้องของคีร์ เขาสังเกตเห็นว่าชายหนุ่มกำลังนั่งนิ่งมองหน้าจอคอมของตนเองเสียงเคาะแป้นพิมพ์ดังขึ้นเป็นจังหวะ ด้วยสีหน้าของคีร์ที่จ้องหน้าจอมีความซีเรียสทำให้ต้นสนลุกจากโต๊ะแอบเดินมายืนข้าง ๆ
“นี่มันอะไรกัน..” เขาพึมพำมองหน้าจอที่เป็นภาพจากกล้องคล้ายกล้องวงจรปิด ทว่าภาพที่เห็นกลับเป็นภาพที่ตึกคณะเขา ในภาพปรากฏร่างชายผู้น่าสงสัยเดินผ่านพร้อมถือถังอะไรบางอย่างไว้ในมือ
“ฉันมีเรื่องต้องไปทำนิดหน่อย นายอยากตามไปไหม” คีร์กดหยุดภาพจากจอก่อนจะหันมาถามเขา ต้นสนงุนงงกับท่าทีคนตรงหน้า ลางสังหรณ์บางอย่างบอกเขาว่าไม่ควรปล่อยให้เพื่อนเขาคนนี้ไปทำอะไรที่ว่านั่นตามลำพัง
“บอกมาก่อนว่าจะไปไหน” ใช่ว่าต้นสนจะไม่รู้สึก เขาสัมผัสได้ว่าระยะหลังมานี้คีร์คล้ายจะเปลี่ยนไปแน่นอนว่าลักษณะนิสัยบางอย่างยังคงเป็นคีร์คนเดิมแต่ภาวะการตัดสินใจหรือความคิดกลับดูเฉียบขาดขึ้น แม้กระทั่งเรื่องของรันที่จู่ ๆ ก็พลิกเป็นฝ่ายเดินตามง้อ หลาย ๆ อย่างเป็นจุดน่าสงสัยที่เขาพยายามหาคำตอบ
ก่อนหน้านี้จู่ ๆ คีร์ก็ถามถึงเรื่องแม่ของเขาร้อยวันพันปีชายหนุ่มไม่เคยนึกสงสัยอะไรเกี่ยวกับครอบครัวของเพื่อน อย่างต้นส้มที่ตนเองเคยเจอแล้วในงานสำคัญเมื่อปีก่อน เขายังแทบจำหน้าน้องสาวของเพื่อนไม่ได้เมื่อคีร์ถามต้นสนจึงเล่าเรื่องของแม่เท่าที่ตนพอจะเล่าได้ หลังจากเล่าจบคีร์กลับพูดเตือนเขาว่า
‘ทำในสิ่งที่สมควรทำก่อนจะสายไป’ ต้นสนจับต้นชนปลายไม่ถูกในตอนนั้นว่าสิ่งที่เขาสมควรทำคืออะไร ทว่าการทักประโยคนั้นของเพื่อนทำให้ต้นสนตัดสินใจติดต่อแม่กลับไปอีกครั้ง ในที่สุดเขาก็เข้าใจเพราะไม่กี่อาทิตย์ถัดจากนั้นแม่ก็จากเขาไปอย่างหวนกลับมาไม่ได้ เขาพยายามจะถามคีร์ถึงสาเหตุว่าทำไมถึงพูดเตือนเขาอย่างนั้นแต่ชายหนุ่มกลับเลี่ยงที่จะตอบ
อย่างในตอนนี้ภาพของชายคนนั้นที่ปรากฏในหน้าจอทำให้ต้นสนเกิดความรู้สึกแปลกใจแต่กลับไม่ตกใจเท่าไหร่กับการที่เพื่อนของตนลงทุนหากล้องไปแอบวางไว้ที่ตึกคณะ คล้ายกับคีร์ล่วงรู้ว่าจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น เขาสบสายตากับเพื่อนตรงหน้าเพื่อรอคำตอบ
“ไปที่ตึกคณะ อาจมีความเสี่ยงเล็ก ๆ แต่ฉันประเมินคร่าว ๆ คิดว่าถ้ามีเราสองคนน่าจะเอาอยู่” คีร์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ เขาพนันในใจไปเรียบร้อยว่าอย่างไรต้นสนก็ต้องล่มหัวจมท้ายในแผนการนี้ด้วยแน่ ๆ
“ไม่ต้องตามไอนัทหรอ” ต้นสนถามกลับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย้อนเวลาใหม่ครั้งนี้ขอยอมง้อเธอด้วยรัก