ย้อนเวลาใหม่ครั้งนี้ขอยอมง้อเธอด้วยรัก นิยาย บท 2

บทที่ 1 หากเพียงได้ย้อนเวลากลับไป

เขาว่ากันว่าเมื่อเราเผชิญหน้ากับความตายรอบตัวเราจะแวดล้อมไปด้วยความเงียบ ความตายแสนสงบสวนทางกับใจคนเป็นที่แสนเจ็บปวด

ไม่รู้เวลาของวันนี้ผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว คีร์นั่งอยู่บนเก้าอี้ประธานหันหน้าเข้ากับโลงไม้สีขาวอย่างดี รอบ ๆ โลงประดับด้วยดอกไฮเดรนเยียสีม่วงที่เธอชอบ เขาไม่รู้ว่าพิธีกรรมนี้ควรประดับด้วยดอกไม้อะไรเขารู้แค่เพียงนี่คือสิ่งที่เธอชอบ อย่างน้อยถ้าเธอยังอยู่แถวนี้ สิ่งพวกนี้คงตอบคำถามที่เธอถามเขาในห้องนั่งเล่นเมื่อวานได้

สำคัญสิ เธอสำคัญที่สุด

เขานั่งมองโลงศพตรงหน้าด้วยความเหม่อลอย ภาพความทรงจำระหว่างเขากับเธอค่อย ๆ แจ่มชัดเข้ามาในหัว แทบทุกช่วงของเหตุการณ์ ตั้งแต่วันนั้นที่เธอบอกกับเขาว่าเธอชื่อรัน ตั้งแต่วันนั้นที่เธอบอกชอบ ตั้งแต่วันนั้นที่เธอขอคบ ทุกอย่างฉายซ้ำไปเรื่อย ๆ

ท่าทีของเขาที่เซื่องซึมล้วนอยู่ในสายตาของหญิงสูงวัย ในชุดผ้าไหมสีดำ เธอค่อย ๆ เดินเข้ามาหาเขา เจ้าตัวนั่งเหม่อมองโลงศพจนไม่รู้สึกตัวว่ามีคนมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว เงาที่บดบังการมองเห็นทำให้เขาเริ่มสังเกตว่าตรงหน้าเขามีคนยืนอยู่

“คุณแม่” คีร์ลุกขึ้นยืนก่อนจะสวัสดี ช่วงเวลานี้ยังเป็นช่วงเที่ยง ทำให้แขกเหรื่อยังมาไม่เยอะ เขาแจ้งข่าวของหญิงสาวกับแม่ของเธอในช่วงย่ำเช้า แน่นอนว่าแม่ของเธอคงรีบบึ่งรถจากต่างจังหวัดมาทันทีเมื่อได้ยินข่าว

เพียะ!!! เสียงฝ่ามือของหญิงตรงหน้าตบเข้าที่แก้มขวาของคีร์ทันทีเมื่อเขาพูดจบ

“เธอ... เธอพรากลูกสาวฉันไป....เธอทำอย่างนี้ได้ยังไง..” น้ำตาของจรสจันทร์ไหลลงมาเป็นสายมือของเธอกำเสื้อสูทสีดำของชายหนุ่ม ทุบลงไปตรงนั้นระบายความรู้สึก คีร์ยืนนิ่งอยู่กับที่ปล่อยให้แม่ของหญิงสาวทุบอกเขาอยู่อย่างนั้น ชายหนุ่มพนมมือก่อนจะก้มตัวลงกราบลงไปที่เท้าจรสจันทร์ หยดน้ำตาเอ่อล้นจากดวงตาเขาอย่างห้ามไม่ได้

“ผมขอโทษ แม่ครับผมขอโทษ” เขาพึมพำประโยคเดิมซ้ำไปมา

“ทำไมปล่อยให้ยัยรันขับรถออกไปตอนนั้น ทำไมไม่ห้ามเธอไว้ ทำไม!! ฉันคิดเอาไว้ไม่ผิด ฉันไม่น่ายกลูกสาวให้คนอย่างแกเลย!!” จรสจันทร์กรีดร้องทั้งน้ำตาก่อนจะทรุดตัวเป็นลม เคราะห์ดีที่ชายหนุ่มรับตัวไว้ทัน ในช่วงจังหวะนั้น ปัน น้องชายของรันก็ปรี่ตัวมาช่วยเขาพยุงจรสจันทร์นั่งพิงเก้าอี้ กระวีกระวาดหายาดม

“พี่คีร์ ต้องไปติดต่ออะไรอีกหรือเปล่า เดี๋ยวผมดูแลแม่ให้” ปันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบโดยไม่มองหน้าเขา คนในครอบครัวเธอตอนนี้คงเกลียดเขามากกว่าเดิมจากที่เคยเกลียดอยู่แล้วเป็นทุนเดิม คีร์พยักหน้าก่อนจะลุกออกไป

ทว่าเสียงของปันก็พูดตามหลังมาเบา ๆ จงใจให้เขาได้ยิน “พี่อย่าโกรธแม่เลยนะ แม่เขายังทำใจไม่ได้”

“พี่ไม่โกรธหรอก ตอนนี้พี่เกลียดตัวเองมากกว่า” เขาพูดตอบโดยไม่หันกลับไป พลางก้าวขาเดิน

เขาจัดเตรียมอาหารกลางวันที่ต้องเตรียมวางไว้ข้างโลงศพ คีร์มองถาดกลมตรงหน้าของในถาดล้วนแล้วแต่เป็นของที่เธอชอบ ชายหนุ่มประคองถาดในมือไปวางไว้ตรงจุดวางอาหารข้างโลง ก่อนจะเอื้อมมือเคาะ เบา ๆ บนโลง3ที

ทุกจังหวะที่เคาะกรีดหัวใจชายหนุ่มให้ทรมาน เสียงของเขาสั่นเครือ “รัน ข้าวเที่ยงอยู่ตรงนี้นะ อย่ากินช้าล่ะ เดี๋ยวปวดท้องเอา” เขาไม่วายอดนึกถึงเธอที่มักปวดท้องเพราะโรคกระเพาะไม่ได้

เมื่อวางข้าวเรียบร้อยเขาก็เตรียมไปติดต่อกับทางวัดเพิ่มเติม ช่วงจังหวะที่กำลังจะเดินออกจากศาลาน้องสาวของเขาก็เพิ่งเดินทางมาถึง

“พี่คีร์” สายตาของเธอเจือไปด้วยความเศร้าก่อนตรงเข้ามาสวมกอดพี่ชาย

“มาถึงแล้วก็ไปจุดธูปบอกพี่รันเขาหน่อย” คีร์พูดขึ้น น้องสาวของเขาผงะไปเล็กน้อยราวกับกำลังกังวลอะไรบางอย่าง

“พ่อกับแม่กำลังรีบมา วี..วีขอโทษ” วีทำท่าจะอธิบายอะไรบางอย่างแต่หัวใจของคีร์หนักหนาเกินกว่าจะรับรู้อะไรเพิ่ม

“ไม่เป็นไร เรื่องนั้นไว้เราค่อยคุยกัน” เขาบอกปัดก่อนจะเดินไป วีมองตามพี่ชายรู้สึกปวดใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าเจ้าหล่อนไม่คาดคิดว่าเรื่องนี้จะนำมาซึ่งความสูญเสียเกินกว่าพี่ชายเธอจะแบกรับได้ พี่ชายที่แสนร่าเริงคนนั้นคล้ายกับจากไปแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย้อนเวลาใหม่ครั้งนี้ขอยอมง้อเธอด้วยรัก