บทที่ 7 รถสีแดง
รันรู้สึกตัวอีกครั้งกลับพบว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวเก่งของบ้านหลังเก่า บ้านที่เธอกับคีร์ตกลงซื้อหลังแต่งงานและช่วยกันผ่อน เธองุนงงเล็กน้อยว่าทำไมจู่ ๆ ถึงมานั่งอยู่ที่บ้านหลังนี้ในเมื่อตามหลักความเป็นจริงเวลานี้เธอต้องอยู่ที่ห้องของคีร์สิ เจ้าตัวหันซ้ายหันขวามองบรรยากาศในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ สิ่งของจัดวางในมุมเดิมที่คุ้นเคย ยังไม่ทันจะได้คำตอบอะไรเพิ่มเติมจู่ ๆ เสียงเท้าก้าวลงจากบันไดด้านบนก็ดังขึ้น คีร์ในชุดเสื้อเชิ้ตเดินลงมาพลางพับแขนเสื้อ ที่แขนของเขาพาดเสื้อสูทเอาไว้ ชายหนุ่มมองเธอก่อนจะรีบพูด
“วันนี้ฉันมีงานด่วน เลยต้องรีบเข้าบริษัท ไม่แน่ใจอาจกลับมาไม่ทันข้าวเย็น ถ้าจะกินอะไรก็กินก่อนได้เลยไม่ต้องรอ” เขาพูดพลางเดินเข้าไปในห้องทำงานเยื้องกับห้องนั่งเล่น หอบหิ้วเอกสารออกมา
“คีร์ ฉันเดินตามหาพลูโตทั่วบ้านแล้วแต่ไม่เจอมันเลย” เสียงของหญิงสาวตอบกลับอัตโนมัติ รันตกใจทันทีเนื่องจากตัวเองไม่ได้พูด เสียงเมื่อกี้เป็นเจ้าของร่างที่ตอบกลับไปซึ่งก็คือตัวเธอในชาติก่อน ทุกอย่างเกิดขึ้นคล้ายกับเหตุการณ์ในอดีต ราวกับเธอกำลังสิงร่างของตนเอง เธอพยายามลองเปล่งเสียงดูบ้างกลับพบว่าตนเองบังคับร่างกายนี้ไม่ได้แม้แต่น้อย
“หยุดคิดมากน่า มันคงวิ่งอยู่แถวนี้หรือออกไปหน้าบ้านอีกสักพักคงกลับเข้ามา ฉันไปก่อนนะแล้วเจอกัน” รันรับรู้ได้ถึงความเครียดและกังวลของหญิงสาวเจ้าของร่าง เจ้าตัวพยายามอยากให้คนรักเห็นความสำคัญของเหตุการณ์นี้ทว่าเขากลับเร่งรีบไปทำงาน ไม่สนใจเธอแม้แต่น้อย รันจำเหตุการณ์นี้ได้ดี หญิงสาวหันมองร่างของสามีเดินออกไปขึ้นรถถอนหายใจให้กับพฤติกรรมนี้ ระหว่างนั้นเองรันกลับได้ยินเสียงแมวร้อง
“เมี้ยว..” นั่นมันเสียงพลูโตนี่ เธอเบิกตากว้างขึ้นเมื่อเสียงของแมวเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ รันพยายามบังคับให้ร่างนี้หันหน้าไปหาต้นเสียงทว่าร่างของเธอกลับลุกขึ้นขยับอัตโนมัติหญิงสาวเจ้าของร่างกำลังเดินตามหาเจ้าแมวจากภายในบ้านอีกครั้ง รันเริ่มเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ ตัวเธอร่างจริง ๆ ในอดีตไม่ได้ยินเสียงแมว รันพยายามบังคับร่างของตนให้เดินไปอีกทางจนกระทั่งตัวเธอกลับหลุดออกมาจากร่างที่เธอสิงอยู่ รันมองมือตัวเองซึ่งอยู่ในสภาวะโปร่งแสง จากมุมนี้ตัวเธอมองเห็นร่างตัวเธอในอดีตกำลังก้มตัวตามซอกตู้และโซฟาร้องเรียกหาพลูโต นี่มัน...อะไรกัน
“เมี้ยว..” เสียงของแมวดังขึ้นอีกครั้ง รอบนี้รันตัดสินใจหันกลับไปสนใจต้นทางของเสียงนั้น เธอตัดสินใจเดินไปตามทางก่อนจะพบว่าเสียงดังกล่าวเหมือนอยู่บริเวณหน้าบ้าน เจ้าตัวนึกถึงหนังที่เคยดู ในสภาวะโปร่งแสงแบบนี้ถ้าลองเอามือเลื่อนผ่านวัตถุจะจับอะไรได้ไหมนะ รันใช้มือจับผนังทว่ามือของเธอกลับทะลุผ่านกำแพงเหมือนดั่งที่เธอคิด เมื่อเป็นดังนั้นเจ้าตัวจึงไม่ลังเลเดินทะลุผ่านกำแพงบ้านทันที เธอเดินทะลุผ่านรั้วบ้านเพื่อไปตามทางเสียงของพลูโต ยิ่งเดินเข้าใกล้เสียงเรื่อย ๆ ก็เริ่มเข้าใกล้จุดที่เธอพบร่างแมวน้อยในชาติก่อน ตรงบริเวณโพรงหญ้าตรงนั้น
บริเวณซอยทางเข้าหมู่บ้านของเธอมีบ้านเรือนหลักเล็กชั้นเดียวเรียงราย คล้าย ๆ ชุมชนบ้านเช่า ตรงข้ามกับบ้านเป็นดงทุ่งหญ้าดูรกเต็มไปด้วยพุ่มไม้ระเกะระกะ เธอเดินใกล้จะถึงจุดเดียวกับที่พบร่างพลูโต ก่อนจะพบว่ามีรถเก๋งสีแดงคันหนึ่งสตาร์ทจอดอยู่ เจ้าตัวพยายามเพ่งมองรถยนต์ตรงหน้าจากด้านหลัง ป้ายทะเบียนจากมุมนี้ค่อนข้างเลือนลางเธอจึงพยายามเดินเข้าไปใกล้ ทว่ายิ่งจ้องเท่าไหร่กลับเห็นตัวเลขและตัวอักษรไม่ชัดสักที ในช่วงจังหวะนั้นจู่ ๆ กระจกรถก็เลื่อนลงจากโซนคนขับ เธอเห็นมือของคนยื่นออกมาในมือคล้ายกับอุ้มอะไรบางอย่าง นั่นมัน! พลูโตนี่นา ร่างของพลูโตดูไร้เรี่ยวแรงขัดขืน หญิงสาวพยายามวิ่งเข้าไปหาแต่กลับขยับตัวไม่ได้ คล้ายกับมีอะไรฉุดรั้งไว้ เธอมองมือคู่นั้นโยนร่างแมวตัวน้อย เข้าไปยังโพรงหญ้าก่อนจะปิดกระจกรถขึ้นและขับออกไป หญิงสาวฝืนออกแรงพยายามขยับตัวทว่ากลับทำอะไรไม่ได้แม้แต่น้อย เสียงของเจ้าแมวลูกรักค่อย ๆ แผ่วเบา สวนทางกับเสียงของเธอที่เริ่มกรีดร้องเรียกชื่อมัน “พลูโต! พลูโต! พลูโต!!!!!!!!!!!”
“รัน! รัน! รัน!!!” เสียงของคีร์ดังขึ้น ดึงเธอให้ตื่นจากฝันเมื่อเธอลืมตากลับพบว่าตอนนี้เธอกำลังอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม สีหน้าของเขาดูตื่นตระหนกจ้องมองมาที่เธอ รันหอบหายใจก่อนจะเอื้อมมือจับแขนของเขาไว้ มือของเธอกดไปที่แขนของเขาเต็มแรงพยายามพูดถึงเรื่องในฝัน
“รถ .. รถสีแดง....พลูโต....พลูโต...” เธอพยายามเปล่งเสียงพูดกับคนตรงหน้า สีหน้าของเขาดูไม่เข้าใจ เขาจับเธอนั่งหลังตรงก่อนจะพยายามบอกให้เธอสูดหายใจเข้าออกลึก ๆ รันทำตามที่ชายหนุ่มบอก เมื่อสูดหายใจเข้าไปได้สักพักสติของเธอก็เริ่มกลับมา ในตอนนี้เองหญิงสาวถึงได้รู้ตัวว่าเธอกำลังอยู่ในห้องนอนของเขา คีร์ที่เห็นว่ารันเริ่มมีสติก็รีบหยิบน้ำจากโต๊ะข้างเตียงรินให้เธอดื่ม
“รัน กินน้ำก่อน ค่อย ๆ กินนะ” เธอหยิบแก้วจากมือเขาก่อนจะค่อย ๆ ดื่มเข้าไป เมื่อได้ดื่มน้ำเธอก็รู้สึกตื่นเต็มตา เมื่อสติกลับมาเธอจึงเริ่มเอะใจ
“ทำไมฉันอยู่บนเตียงนาย” หญิงสาวหรี่ตาถามชายหนุ่ม เขามองหน้าเธอก่อนจะอ้อมแอ้มตอบกลับมา
“ตอนบ่าย ๆ เธอเผลอหลับไปฉันเลยอุ้มเธอมานอนในห้อง ส่วนฉันก็อยู่ข้างนอกแต่เมื่อกี้เสียงเธอละเมอดังมาก ฉันตกใจเลยเข้ามาปลุกเธอ” เขาพยายามอธิบาย หญิงสาวพยักหน้าเข้าใจเธอไม่โทษอะไร เขาคงเจตนาดีอยากให้เธอพักผ่อน ทว่าเมื่อเธอลุกออกจากเตียงหญิงสาวถึงเพิ่งรู้ตัวว่าตอนนี้เหงื่อออกเต็มร่างจนเสื้อนักศึกษาชุ่มไปด้วยเหงื่อคล้ายกับเพิ่งตกลงไปในถังน้ำ เสื้อที่เปียกขนาดนี้ทำให้ แนบลู่ไปกับร่างกายจนเห็นอะไรต่อมิอะไรข้างในเสื้อ ในตอนนี้เองคีร์ที่กำลังมองเธอจึงรีบหันหน้าขวับไปอีกทาง ในขณะที่เธอก็มุดตัวกลับไปในผ้าห่ม
“ธะ ธะเธอจะเปลี่ยนชุดก่อนกลับไหม เดี๋ยวฉันไปส่ง” เขาเสนอไอเดียขึ้น รันตอบกลับว่าได้ด้วยเสียงเบา
“งั้น เธอจะอาบน้ำใหม่เลยก็ได้นะ ฉันมีผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้าอยู่รอแปปหนึ่ง” เขาพูดพลางลุกไปคุ้ยหาเสื้อ ก่อนจะได้เป็นเสื้อเชิ้ตแขนยาวขนาดโอเวอร์ไซส์ลายทางสีดำตัวกับกางเกงบอล หยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหม่วางไว้ที่ปลายเตียงก่อนจะรีบออกจากห้องไป
รันรีบจัดการภารกิจส่วนตัวของตนด้วยความไว ที่เธอตกลงอาบน้ำก็เพราะเธอเองก็รู้สึกเหนียวตัวอยู่ไม่น้อย เมื่ออาบน้ำเสร็จเปิดประตูห้องนอนออกมาก็เห็นเขาเอนตัวนอนดูทีวี บนตักมีเจ้าโจนอนหลับตาพริ้ม ทว่าเมื่อเสียงเธอดันประตูปิดดัง เจ้าโจก็ลืมตาจ้องมาทางเธอ ก่อนจะกระโดดลงมาเอาตัวถูไถขา ความเอ็นดูทำให้หญิงสาวนั่งลงพลางเล่นกับมัน
“เสร็จแล้วเหรอ กลับเลยไหม” เขาเสนอเพราะตอนนี้ปาเข้าไปเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว เป็นเวลาที่ดึกมาก
“อือได้”
ตลอดทางกลับหอพักหญิงสาวจมอยู่ในภวังค์ตลอดทางเธอแทบไม่พูดอะไรเช่นเดียวกับคีร์ที่ตั้งใจขับรถ เธอพยายามเค้นความทรงจำในฝันออกมาให้ได้มากที่สุด จริงอยู่ว่ามันเป็นเพียงความฝัน แต่ทุกอย่างล้วนสมจริงเกินไปรถสีแดงคันนั้น หญิงสาวครุ่นคิดแสดงว่าโจไม่ได้โดนรถชนตามชาวบ้านแถวนั้นบอก
“นายเชื่อเรื่องพวกย้อนเวลา ฝันบอกเหตุ กลับชาติมาเกิดอะไรทำนองนี้ไหม” เสียงของรันถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ คีร์ชะงักไปนิดหนึ่งก่อนจะตอบกลับไป
“เชื่อสิ ฉันเชื่อยิ่งกว่าอะไร” เขาหันกลับมามองหน้าเธอ เสี้ยววินาทีที่ทั้งสองสบตากันรันเริ่มสัมผัสได้ว่าคนตรงหน้าไม่เหมือนชาติที่แล้วที่เธอรู้จัก ทว่าเธอก็อธิบายไม่ถูกว่าทำไมถึงคิดอย่างนี้ เขาหันกลับไปสนใจทางตรงหน้าในขณะที่เธอยังคงนั่งมองเสี้ยวหน้าของเขาจากที่นั่งข้างคนขับ
“ว่าแต่ เธอฝันถึงอะไรหรือเปล่าฉันเห็นเธอละเมอเสียงดังมาก ๆ ทำเอาฉันตกใจแทบแย่” เขาพูดขึ้นระหว่างขับรถ
“ฝันถึงแมวที่เคยเลี้ยงน่ะ ไม่มีอะไร” รันเลี่ยงตอบคำถาม ชายหนุ่มจึงพยักหน้าไม่ถามอะไรต่อ
ขณะที่รถเริ่มเลี้ยวเข้าซอยหอพักรันจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเลยพบว่า มีสายเรียกเข้าจากเบอร์น้องชายเธอไม่ต่ำกว่า 20 สาย เธอตกใจเพราะตั้งแต่ที่เธอตื่นนอนในห้องของชายหนุ่ม หญิงสาวไม่ได้เช็กโทรศัพท์เลย รันตัดสินใจโทรกลับไปหาเบอร์น้องชายทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย้อนเวลาใหม่ครั้งนี้ขอยอมง้อเธอด้วยรัก