ย้อนเวลาใหม่ครั้งนี้ขอยอมง้อเธอด้วยรัก นิยาย บท 7

บทที่ 6 มาดูแมวที่ห้องเราไหม

ถัดจากวันนั้นเมื่อ ฝน รุ่นน้องของเธอที่ขับรถมอเตอร์ไซด์ชนแมวพอเริ่มมีสติก็รีบติดต่อมาหารันทันที เจ้าตัวขออาสาจ่ายค่าผ่าตัด ค่ารักษาทั้งหมด ระยะเวลาที่เจ้าแมวผ่าตัดเป็นช่วงที่รันวุ่นวายกับโปรเจกต์จบพอดีเลยทำให้ไม่ได้เข้าไปเยี่ยมเจ้าเหมียวน้อย ทว่าสิ่งเดียวที่เกินคาดคิดคือตลอดเวลาที่แมวน้อยต้องผ่าตัดและพักฟื้น นอกจากฝนที่เข้าไปคอยเช็กอาการ ก็มีคีร์ที่คอยดูแลเจ้าเหมียวไม่ห่าง

การที่คีร์อาสาเข้าไปดูแลแมวทุกวันเลยเปิดโอกาสให้เขาหาเรื่องติดต่อเธอ แม้ว่าเธอจะบล็อกโซเชียลมีเดียเขาทุกช่องทางแต่ในวันนั้นหลังจากที่เขากลับมาส่งเธอที่หน้าหอพัก เขาก็ขอให้เธอปลดบล็อกเบอร์เขาก่อน เผื่อเขามีเรื่องแมวน้อยคืบหน้าจะได้รีบโทรแจ้ง รันให้เขารับปากว่านอกจากเรื่องแมวแล้วจะไม่คุยกันเรื่องอื่นซึ่งเจ้าตัวก็ตกปากรับคำเป็นมั่นเหมาะ ที่ไหนได้เธอดูเบาเขาเกินไป อย่างเช่นตอนนี้ที่เสียงปลายสายโทรศัพท์ยังคงพูดจ้อไม่หยุด

“เธอรู้ไหม วันนี้เจ้าเหมียวเริ่มกินอาหารเยอะขึ้นแล้วน้า น้าพงษ์บอกว่าไม่เกินอาทิตย์นี้ถ้าเจ้าเหมียวอาการเริ่มทรงตัวขึ้นก็คงพากลับบ้านได้แล้ว” เขาร่ายยาวถึงพฤติกรรมแมวเหมียว ไม่ว่าเจ้าแมวจะลืมตา กะพริบตา ร้องโวยวาย หรือ เดิน ทุก ๆ อากัปกิริยาเขาล้วนรายงานเธอวินาทีต่อวินาที ราวกับกำลังถ่ายทอดสดสถานการณ์ข่าวอย่างไรอย่างนั้น

“ถ้ามันดีขึ้น ก็โอเคแล้ว ค่าใช้จ่ายทั้งหมดน้องฝนจ่ายแล้วใช่ไหม” รันถามเขา ค่าใช้จ่ายรอบนี้เหมือนจะไม่ใช่น้อย ๆ เธอรู้ดีว่าฐานะทางบ้านน้องฝนไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่เจ้าตัวก็ยังยืนกรานจะจ่ายค่ารักษานี้ให้ได้เพื่อชดเชยความผิด

“อ้อ น้องฝนเพิ่งกลับไปเมื่อกี้นี่เอง เหมือนจะจ่ายเงินส่วนค่ารักษาครบแล้วนะ เหลือเพียงค่าพักค้างคืนเพื่อรักษาตัวของเจ้าแมวนี่แหละที่ยังไม่จ่าย ฉันเห็นว่ามันราคาไม่กี่พันเลยอาสาจ่ายส่วนนี้เองเพราะอย่างน้อยก็ถือเป็นโชคชะตาที่ฉันได้เจอกับเจ้านี่” ปลายสายตอบกลับมาหาเธอ รันไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เขายื่นมือเข้าช่วยเหลือ อย่างที่บอกเบื้องลึกจิตใจคีร์ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร

“ฉันวางก่อนนะ” เธอรู้ดีว่าถ้าถือสายนานกว่านี้ฝั่งนั้นคงได้หาเรื่องชวนเธอคุยยาวแน่ ๆ เดี๋ยวลากเข้าเรื่องแมว เดี๋ยวทำทีขอปรึกษาเรื่องอาการ เธอจึงต้องรีบวางสายก่อน หลังจากพูดจบเธอก็ตัดสายทันที

คืนวันนั้นหลังจากที่เธอร้องไห้ในอ้อมแขนของเขา รู้สึกตัวอีกทีรันก็รีบผละออกจากอ้อมกอด เธอรู้สึกผิดนิด ๆ ที่โยงเรื่องชาติก่อนหน้ามาพาลลงใส่ชายหนุ่ม แม้ว่าเขาจะเป็นคนเดียวกันแต่จิตสำนึกเธอก็พอแยกได้ว่าชายหนุ่มไม่ได้รับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นต่อจากนั้น เธอเลือกที่จะเลี่ยงอธิบายเกี่ยวกับสาเหตุที่ร้องไห้ ก่อนจะนั่งเงียบตลอดทางกลับบ้าน

รันถอนหายใจกับตัวเองอีกครั้ง ว่ากันตามตรงแม้เธอจะรู้สึกสบายใจกับอีกฝ่ายขึ้นมาบ้างแต่ก็ยังไม่มากถึงขั้นวางเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นแล้วเปิดใจยอมรับเขาได้ เธอตระหนักรู้นิสัยของเขาดีเขาอาจเปลี่ยนแปลงตัวเองเพียงชั่วคราวเพราะอย่างนั้นจะเอาพฤติกรรมตอนนี้มาด่วนสรุปไม่ได้

ถัดจากวันนั้นอีกสองวันระหว่างที่เธอกำลังจะกลับหอพัก เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นหญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเมื่อเห็นเบอร์ของปลายสายเธอก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ เป็นคีร์เจ้าเก่าเจ้าประจำ วันนี้เขาโทรมาไวกว่าทุกทีปกติจะโทรศัพท์มาหาเธอช่วงเย็น ๆ แต่นี่เพิ่งบ่ายกว่า ๆ เอง เธอลังเลใจเล็กน้อยก่อนจะใช้นิ้วสไลด์หน้าจอรับสาย

“มีอะไร” น้ำเสียงนิ่งเรียบกรอกลงไปบนสาย

“รัน ฉันตัดสินใจได้แล้วว่าฉันจะรับเลี้ยงเจ้าเหมียวเอง วันนี้ฉันเลยให้น้าพงษ์โทรไปยกเลิกเพื่อนของน้าที่ตกลงจะรับเลี้ยงแมวตอนแรกและก็ไปรับมันมา ตอนนี้เจ้าเหมียวอยู่ที่ห้องฉันเรียบร้อย” เขาพูดจ้อตามเคย หญิงสาวประหลาดใจที่ชายหนุ่มตัดสินใจเลี้ยงแมวไว้เอง ในชาติก่อนหน้าเขาค่อนข้างกังวลกับการเลี้ยงสัตว์อะไรบางอย่างด้วยข้อจำกัดด้านเวลา อย่างพลูโตตอนนั้นก็เป็นเพราะรันรับปากเขาว่าจะดูแลเป็นอย่างดีสุดท้ายเขาจึงใจอ่อน

“อ้อ งั้นก็ดูแลมันดีดีนะ” หญิงสาวตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีถ้าเขาสามารถใส่ใจเจ้าแมวได้เขาอาจจะใส่ใจให้ความสำคัญกับคนรอบข้างมากขึ้น ไม่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางเหมือนก่อนหน้านั้น

“แต่ฉันมีเรื่องอยากปรึกษาเธอนิดหน่อย อันที่จริงฉันไม่แน่ใจว่าของที่ต้องใช้ดูแลเจ้าเหมียวซื้อมาครบหรือยังเธอสนใจมา..” ยังไม่ทันที่จะพูดจบหญิงสาวก็ตอบกลับทันที

“นายลองเข้าไปเช็กในกูเกิลสิ ฉันจำได้ว่ามีเว็บไซต์ช่วยคนเลี้ยงแมวมือใหม่อยู่” รันตัดความหวังเขาอย่างไร้เยื่อใย แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ยอมแพ้

“อ้อแต่ฉันจะเช็คเองได้ไหมนะ อีกอย่างเจ้าเหมียวนี่ดูน่าสงสารมากเลยนะมันดูอยากเจอเธอมากกกกก” เขาจงใจลากเสียงคำว่ามาก เพื่ออ้อนให้หญิงสาวใจอ่อน ว่ากันตามจริงเธอก็อยากเจอเจ้าแมวอยู่เหมือนกันแต่ด้วยเงื่อนไขที่ต้องไปหาเขาถึงคอนโดทำให้เธอตัดความอยากเจอทิ้งไปอย่างง่ายดาย

“คงไม่ดีกว่า” รันตอบกลับ เขาเงียบไปสักพักก่อนจะตอบกลับมา

“เอางี้ฉันสัญญา ถ้าเธอมาหามันฉันขอเวลาเธอครึ่งชั่วโมงก็ได้แล้วเดี๋ยวฉันไปส่ง ฉันอยากให้เธอเจอมันจริง ๆ นะ” เขาพยายามเกลี้ยกล่อมเธอสุดฤทธิ์ น้ำเสียงรอบนี้ไม่มีความอ้อนเหมือนประโยคก่อนหน้า ท่าทีของเขาเหมือนต้องการให้เธอ ไปเจอเจ้าแมวจริง ๆ เธอลังเลเล็กน้อยทว่าเมื่อมองไปเห็นคนที่กำลังเดินมาทางนี้ เธอจึงตอบรับเขาไปอย่างไว

“เอาสิ ได้ อีก 15 นาทีเจอกัน” เมื่อหญิงสาววางสายลง ทางฝั่งคีร์ก็คล้ายคนที่ตกอยู่ในห้วงความฝัน รันตกลงมาห้องเขาแล้ว เขาเหลือบมองเจ้าแมวที่ดมฟุดฟิด สำรวจห้องเขาไปมาก่อนจะยิ้มไปอุ้มมันมาลูบหัว เคราะห์ดีที่ขาหลังของมันยังพอผ่าตัดรักษาได้แม้จะเดินกะเผลกไปบ้างแต่ก็ยังไม่เสียขาไปถาวร เขาอุ้มมันขึ้นมาจ้องหน้าก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ต่อไปนี้ห้องนี้ก็คือบ้านของหนูนะ” เจ้าแมวมองหน้าเขาก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาเลียแก้มชายหนุ่ม คีร์หัวเราะเล็กน้อยกับเจ้าก้อนขนตัวนี้ เขาตั้งใจซื้อปลอกคอแบบเป็นผ้าเย็บสีน้ำเงินให้ไม่ใช่แบบเป็นสายยาง เมื่ออยู่กับแมวน้อยนี่แล้วจึงเหมือนกับเด็กน้อยเวลาผูกผ้ากันเปื้อน

เขาเกาคางให้มันเล่นไปสักพักก่อนที่เสียงเคาะประตูจะดังขึ้น ชายหนุ่มรีบวางแมวลงแล้วถลาไปเปิดประตูทันที ทว่าทันทีที่เปิดประตู กลับพบรันและชายหนุ่มอีกหนึ่งยืนอยู่หน้าห้องเขา

“ไง พอดีรันชวนฉันมาด้วยอะ เห็นว่านายเอาแมวมาเลี้ยงใหม่ ฉันเลยอยากมาดูด้วยอีกคน” เสียงของต้นสนพูดขึ้นอย่างราบเรียบ เขาแอบหัวเราะในใจเล็ก ๆ ที่เห็นเพื่อนเขาทำสีหน้าสุดเซ็งบอกบุญไม่รับใส่ ทำไงได้เจ้านี่ดันแผนสูงเอาแมวมาล่อสาวให้มาหา เขาเลยอาสามาเป็นกอขอคอให้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย้อนเวลาใหม่ครั้งนี้ขอยอมง้อเธอด้วยรัก