ย้อนยุคไปเป็นสปายขันทีผู้เก่งกาจ!(จบ) นิยาย บท 9

ซูลั่วร่างสั่นระริกเมื่อได้ยินเสียงร้องครางนั้น ไม่เสียเที่ยวที่ได้ข้ามมิติมา

หญิงสาวคนแรกที่เขาได้หลับนอนด้วยวิเศษถึงเพียงนี้ สุดยอดไปเลย!

เขายื่นมือไปช้อนตัวเย่กูหลานขึ้นมาอุ้ม แล้วเดินตรงไปที่เตียง

“อ๊ะ ฝ่าบาทป่าเถื่อนจังเลยเพคะ…”

“แล้วเจ้าไม่ชอบหรือ”

“ไม่…หม่อมฉันชอบเหลือเกิน…”

ไม่ช้า ในห้องก็มีเสียงร้องดังออกมาเป็นจังหวะ

ตี้จิ้งเห็นทุกอย่างกับตาตัวเอง ทั้งโกรธทั้งสงสัยใคร่รู้ในคราวเดียวกัน

นางอดไม่ได้ที่จะลอบมองดูทั้งสองคน

พอได้เห็นว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น คิ้วของตี้จิ้งก็ขมวดเข้าหากันแน่น

ในใจรู้สึกขยะแขยงและเขินอายไปพร้อมกัน

หน้าไม่อายจริงๆ !

แต่ว่า…เรื่องอย่างว่านี้เป็นแบบที่เขาพูดกันจริงๆ หรือ?

จนกระทั่งม่านที่เตียงถูกปิดลง ตี้จิ้งถึงได้สติคืนกลับมา

ตี้จิ้งสงบจิตสงบใจ เบือนหน้าหนีแล้วร้องหึออกมา คิดในใจว่าเย่กูหลานไม่ใช่ผู้หญิงประเสริฐเลิศเลออย่างที่คิดจริงๆ

ตอนนี้ซูลั่วกำลังมัวเมาอยู่ในความหวานหอมยั่วยวนของเย่กูหลาน

โชคดีที่ตี้จิ้งเป็นผู้หญิง หากเป็นผู้ชายแล้วมีของดีเช่นนี้อยู่กับตัวละก็คงไม่เป็นอันทำงานบ้านงานเมืองพอดี!

อีกอย่างถ้าตี้จิ้งไม่ใช่ผู้หญิง เรื่องวิเศษแบบนี้ก็คงไม่ตกถึงมือซูลั่วหรอก!

คำกล่าวที่ว่า วังในมีหญิงงามถึงสามพันคน นี่แค่คนแรกเท่านั้น!

……

ครู่ต่อมา

ความว่างเปล่าในจิตใจของเย่กูหลานถูกเติมเต็มในที่สุด

นางมองโครงร่างแข็งแรงกำยำของซูลั่วใต้แสงจันทร์สลัว

แม้จะมองใบหน้าของฝ่าบาทได้ไม่ชัด แต่ก็รู้สึกถึงความไม่ชัดเจนที่แสนพิเศษ

ตี้จิ้งยืนรออยู่ด้วยใบหน้าแดงก่ำถึงหู

สุดท้ายก็หลับตาลงเพ่งจิตไปที่พลังภายใน

แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่อาจสลัดภาพของซูลั่วกับเย่กูหลานออกไปจากหัวได้

นางหันกลับไปมองทั้งคู่อีกครั้ง

เสียงในห้องค่อยๆ เงียบลง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย้อนยุคไปเป็นสปายขันทีผู้เก่งกาจ!(จบ)