เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 119

รับสินบนของผู้อื่นแล้ว ย่อมไม่สามารถทำตัวเป็นกลางได้

หลังจากทานเกี๊ยวไส้กุ้งที่จี๋อิ๋งนำมาให้แล้ว สายตาของซือเซียงและคนอื่นๆ ที่มองจี๋อิ๋งก็เป็นมิตรมากขึ้นหลายส่วน

เมื่อก่อนตนเข้าใจว่าจี๋อิ๋งเป็นคนที่หยิ่งยโสและเย็นชา ไม่รู้จักปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นไปได้อย่างไร

โจวเสาจิ่นลอบถากถางอยู่ในใจ นำผ้าไหมซงเจียงสีขาวพระจันทร์ที่จี๋อิ๋งทิ้งเอาไว้เมื่อวานขึ้นมากางเอาไว้บนโต๊ะก่อน จากนั้นหยิบแท่งสีกับกรรไกรออกมา แล้วถามจี๋อิ๋งว่า “ตัวอย่างเล่า”

จี๋อิ๋งงุนงง ถามนางกลับว่า “ตัวอย่างอะไรหรือ”

โจวเสาจิ่นกระพริบตาปริบๆ กล่าวขึ้นว่า “เจ้าจะให้ข้าช่วยสอนเจ้าว่าการทำถุงเท้าให้ท่านน้าฉือต้องทำอย่างไรบ้าง แต่เจ้ากลับไม่นำตัวอย่างมาให้ข้าด้วย แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าขนาดความกว้างยาวเป็นเท่าไหร่”

สีหน้าของจี๋อิ๋งดำครึ้มขึ้นเล็กน้อย กล่าวขึ้นว่า “เจ้ารอสักครู่ ข้าจะไปหาถุงเท้าเก่ามาให้คู่หนึ่ง”

โจวเสาจิ่นพูดไม่ออก

จี๋อิ๋งเดินออกจากประตูไปอย่างรวดเร็ว เผอิญสวนทางกับซือเซียงที่กำลังยกชาและของทานเล่นเข้ามาพอดี

ซือเซียงมองจี๋อิ๋งที่เดินสวนกับนางไปพอดีนั้น กล่าวขึ้นอย่างไม่เข้าใจว่า “เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ เหตุใดแม่นางจี๋อิ๋งเพิ่งมาถึงก็จะออกไปแล้ว”

“ไม่มีอะไร” โจวเสาจิ่นค่อยๆ นำกล่องเล็กๆ ที่บรรจุแท่งสีเอาไว้ไปวางข้างๆ โต๊ะ พลางกล่าว “ประเดี๋ยวก็กลับมา”

ซือเซียงตอบ “อ่า” ออกมาเสียงหนึ่ง นำน้ำชาและของทานเล่นไปวางบนโต๊ะที่อยู่ข้างๆ กล่าวขึ้นว่า “คุณหนูรอง เชิญดื่มชาเจ้าค่ะ”

โจวเสาจิ่นพยักหน้า จิบชาคำหนึ่ง ครุ่นคิดว่าเช่นนั้นเช้าวันนี้ก็ถือเสียว่าพักผ่อนเอ้อระเหยเสียครั้งหนึ่ง หากว่าเช้าวันพรุ่งนี้จี๋อิ๋งก็ยังมาหาอีก ตนค่อยเร่งทำของขวัญวันเกิดให้ฮูหยินผู้เฒ่ากัวตอนกลางคืนก็แล้วกัน เมื่อคำนวณเวลาแล้ว เวลาน่าจะไม่พอ พวกรองเท้าหรือถุงเท้าน่าจะทำไม่ทันแล้ว เช่นนั้นก็ทำผ้าโพกศีรษะส่งไปให้สักสองเส้นก็แล้วกัน อีกอย่างฝีมือเย็บปักของตน ก็ไม่ค่อยได้ทำเพื่อมอบเป็นของขวัญให้ผู้อื่นสักเท่าใดนัก ก่อนหน้านี้มีหยวนซื่อมาขอให้นางช่วยร่างภาพเด็กน้อยวิ่งเล่นให้ ส่วนตอนนี้ก็มีจี๋อิ๋งมาขอให้นางช่วยทำถุงเท้าอีก ใครจะรู้ว่าพรุ่งนี้จะดึงดูดผู้ใดมาอีกบ้าง นางไม่ใช่ช่างเย็บปักเสียหน่อย นอกจากนี้พี่สาวก็ใกล้จะออกเรือนแล้ว ชาติก่อน พี่สาวมีบุตรชายยากนัก นางจึงอยากจะปักลายองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมประทานบุตรสักผืนให้พี่สาวนำติดตัวไปเป็นสินเจ้าสาว งานเย็บปักที่ค่อนข้างเป็นงานชิ้นใหญ่เช่นนี้ นางต้องใช้เวลาทำอย่างน้อยครึ่งปี หากมีเรื่องเข้ามาทำให้ล่าช้า เวลาในการเย็บปักอาจยาวนานไปถึงหนึ่งปี เมื่อทบทวนอย่างละเอียดแล้ว คงต้องรีบเตรียมการตั้งแต่ตอนนี้เสียแล้ว

ยิ่งคิดนางก็ยิ่งรู้สึกว่าเวลาของตนมีไม่พอเสียแล้ว

นางเรียกซือเซียงเข้ามาด้วยน้ำเสียงกังวานใส ให้นางช่วยเตรียมกระดาษขนาดค่อนข้างใหญ่ให้ตนหนึ่งแผ่น “…ให้มีความยาวสี่ฉื่อทั้งสี่ด้าน”

กระดาษแผ่นเล็กๆ ล้วนตัดออกมาจากกระดาษแผ่นใหญ่ เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องง่ายดายยิ่งนัก

ซือเซียงขานตอบแล้วเดินออกไป ระหว่างนั้นก็สวนทางกับจี๋อิ๋งอีกครั้งพอดี

โจวเสาจิ่นร้อง “เอ๋” ออกมาเสียงหนึ่งอย่างอดไม่ได้ กล่าวขึ้นว่า “เจ้ากลับมาเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร”

สีหน้าของจี๋อิ๋งไม่น่าดูสักเท่าไหร่นัก ไม่ตอบข้อสงสัยของนาง แต่ใช้สองนิ้วดึงรองเท้าคู่หนึ่งออกมาทิ้งลงตรงหน้าโจวเสาจิ่น “เอ้านี่…รองเท้าของท่านน้าฉือของเจ้า”

โจวเสาจิ่นมองรองเท้าผ้าฝ้ายสีดำเข้มปักลายเมฆมงคลที่วางตั้งตรงข้างหนึ่งและวางกลับด้านข้างหนึ่งบนพื้น กล่าวขึ้นอย่างประหลาดใจว่า “ไม่ใช่ว่าเจ้าจะให้ข้าช่วยสอนเจ้าทำถุงเท้าหรอกหรือ แล้วเจ้าเอารองเท้ามาทำไม หรือว่าแม่นางหนานผิงให้เจ้าช่วยทำรองเท้าให้ท่านน้าฉือด้วยอย่างนั้นหรือ”

จี๋อิ๋งดูตะลึงพรึงเพริดยิ่งกว่านางเสียอีก นัยน์ตาเบิกกว้างพลางกล่าวขึ้นว่า “ไม่ใช่ว่าต้องทำตามขนาดความกว้างยาวของรองเท้าหรอกหรือ”

“ใครบอกเจ้ากัน!” ดวงตาของโจวเสาจิ่นเบิกกว้างขึ้น

“ตอนข้าอยู่ที่บ้าน หมัวมัวที่บ้านล้วนทำถุงเท้าตามขนาดรองเท้าของข้า” ดวงตาของจี๋อิ๋งเบิกกว้างยิ่งกว่าของโจวเสาจิ่นเสียอีก “หากเจ้าทำถุงเท้าโดยที่ไม่ได้อิงตามขนาดความกว้างยาวของรองเท้า แล้วเจ้าทำถุงเท้าโดยอิงตามขนาดความกว้างยาวของอะไรหรือ อย่าบอกนะว่าจะให้ข้าไปวัดขนาดเท้าของท่านน้าฉือของเจ้ามาด้วย” นางทำท่าสยอง กล่าวต่อไปว่า “หากเป็นเช่นนั้น ข้ายอมไปถามขนาดถุงเท้าของท่านน้าฉือของเจ้าจากหนานผิงยังจะดีเสียกว่า”

นั่นก็เป็นเพราะว่าเจ้าเป็นสตรี ฉะนั้นหมัวมัวที่บ้านของเจ้าจึงไม่สามารถนำถุงเท้าเก่าของเจ้าไปเป็นตัวอย่างให้ผู้อื่นทำให้

โจวเสาจิ่นไม่รู้จะกล่าวอะไรแล้วจริงๆ หลับตาลง ผ่านไปกว่าครู่ใหญ่ถึงได้กล่าวขึ้นว่า “เช่นนั้นเจ้าไปหาถุงเท้าเก่าของท่านน้าฉือมาคู่หนึ่ง หรือไม่ก็ให้แม่นางหนานผิงร่างแบบถุงเท้ามาให้สักหนึ่งแผ่น”

หนานผิงเป็นคนดูแลงานเย็บปักของเรือนเสี่ยวซานฉงกุ้ย ดังนั้นขนาดถุงเท้าของท่านน้าฉือนางย่อมรู้ดีที่สุด การร่างแบบถุงเท้ามาให้สักหนึ่งแผ่นจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร

อย่างไรก็ตาม โจวเสาจิ่นคาดว่าจี๋อิ๋งไม่มีทางไปหานาง

ไม่เช่นนั้นเมื่อครู่คงไม่ทำเรื่องโง่งมขนาดนั้นออกมาได้

แต่จี๋อิ๋งกล่าวว่า ตอนนางอยู่ที่บ้าน หมัวมัวที่บ้านล้วนทำถุงเท้าให้นางโดยอิงตามขนาดรองเท้าของนาง นี่นับเป็นสิ่งที่ตระกูลใหญ่พึงปฏิบัติกัน…หรือว่าครอบครัวของจี๋อิ๋งจะเป็นตระกูลขุนนางที่ถูกทำให้ล้มหายตายจาก? ไม่ถูก นางบอกไว้ไม่ใช่หรือว่าบิดามารดาของนางทำงานเพาะปลูกอยู่ที่บ้านเดิม อีกทั้งยังมีพี่ชายอีกสองคน…เช่นนั้นเพราะเหตุใดนางถึงต้องเข้ามาเป็นผู้รับใช้ของท่านน้าฉือด้วย

ยิ่งคิดโจวเสาจิ่นก็ยิ่งสับสน

จี๋อิ๋งกลับมาอย่างรวดเร็วราวลมพัดเช่นเดิม ใช้สองนิ้วดึงถุงเท้าคู่หนึ่งออกมา “เอ้านี่ ให้เจ้า!”

โจวเสาจิ่นเพียงมองครั้งเดียวก็คำนวณขนาดในใจได้แล้ว

นางชี้ไปที่ตะกร้าหวายสานขนาดเล็กข้างๆ โต๊ะ กล่าวขึ้นว่า “วางไว้ตรงนั้นก็แล้วกัน”

จี๋อิ๋งโยนถุงเท้าลงไปในตะกร้าหวายสาน

โจวเสาจิ่นหยิบแท่งสีขึ้นมาและเริ่มร่างแบบถุงเท้าลงบนผ้า

จี๋อิ๋งกล่าวขึ้นอย่างประหลาดใจว่า “เจ้าไม่ต้องใช้ที่วัดขนาดเลยหรือ”

“นี่ยังต้องใช้ที่วัดขนาดด้วยหรือ” โจวเสาจิ่นกล่าวขึ้นโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาด้วยซ้ำ “เมื่อก่อนตอนที่ข้าเรียนงานเย็บปักนั้น ไม่รู้ว่าทำถุงเท้าไปแล้วเป็นจำนวนเท่าไหร่บ้าง”

จี๋อิ๋งประหลาดใจมากยิ่งขึ้น กล่าวขึ้นว่า “เหตุใดต้องทำถุงเท้าด้วย”

“ก็เพื่อฝึกฝนการเย็บปักอย่างไรเล่า!” โจวเสาจิ่นหยิบกรรไกรขึ้นมาและเริ่มตัดผ้าเสียงฉับๆ “งานเย็บปักจะทำได้ดีหรือไม่ดี สิ่งสำคัญคือต้องดูว่าฝีเข็มเย็บได้ต่อเนื่องและสม่ำเสมอกันหรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝนบ่อยๆ ถึงใช้ได้ ไม่เช่นนั้นต่อให้เสื้อผ้าของเจ้าตัดมาดีเพียงไร แต่หากหลังจากเย็บแล้วความใหญ่เล็กของฝีเข็มกลับไม่เรียบเสมอกัน จะทำให้เสื้อผ้าตัวนั้นไม่น่าดูไปด้วย ดังนั้นมือใหม่ที่หัดปักลวดลายต่างๆ ล้วนฝึกปักผ้าเช็ดหน้า ส่วนมือใหม่ที่หัดทำชุดล้วนฝึกจากการทำถุงเท้า” นางเห็นท่าทางที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับงานเย็บปักของจี๋อิ๋งแล้ว ก็รู้สึกสนใจภูมิหลังของจี๋อิ๋งขึ้นมาอีกครั้ง ถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ว่า “ตอนที่เจ้าเป็นเด็กไม่เคยฝึกทำงานเย็บปักเลยหรือ”

จี๋อิ๋งกล่าวขึ้นอย่างคลุมเครือว่า “แม่ของข้าอยากให้ให้ฝึก แต่พ่อของข้าบอกว่าเช่นข้านี้ ไม่ฝึกก็ไม่เป็นไร อีกอย่างมีสตรีมากมายที่เป็นงานเย็บปัก ถึงเวลาค่อยเชิญคนมาทำเสื้อผ้า รองเท้า ถุงเท้าให้ก็พอแล้ว” เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ สีหน้าของนางก็เปลี่ยนเป็นหมองขึ้นมาเล็กน้อย

ตอนที่ 119 ถุงเท้า 1

ตอนที่ 119 ถุงเท้า 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน