เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 158

ฮูหยินผู้เฒ่ากวนออกมากล่าวแก้สถานการณ์ให้บรรยากาศชื่นมื่นขึ้น ยิ้มพลางเอ่ยว่า “ทุกคนนั่งลงรับประทานอาหารกันเถอะ! วันนี้เป็นคืนรวมญาติ เก้าเกอเอ๋อร์ ประเดี๋ยวเจ้านำน้องเสาจิ่นของเจ้าไปจุดประทัดสักหน่อย!”

ทุกๆ ปีที่ผ่านมางานประเภทนี้ล้วนเป็นเฉิงอี้ที่แย่งเอาไปทำ

โจวเสาจิ่นชำเหลืองมองเฉิงอี้ครั้งหนึ่ง เขาทำหน้าเศร้าสร้อยอย่างที่คิดไว้จริงๆ โจวเสาจิ่นรู้สึกอารมณ์เบิกบานยิ่ง นางยิ้มหวานพลางตอบรับ กระทั่งทุกคนนั่งล้อมวงกันแล้ว นางจึงไปจุดประทัดกับเฉิงเก้า

แม้บอกให้จุดประทัดด้วยกัน แต่ความจริงคืออู้เอ๋อร์ผู้เป็นบ่าวเด็กของเฉิงเก้าเป็นคนถือด้ามไม้ไผ่ และเฉิงเก้าเป็นคนจุดประทัด ส่วนโจวเสาจิ่นยืนอุดหูหลบอยู่ข้างหลังซื่อเอ๋อร์ที่ใต้ชายคา

ครั้นเสียงประทัดดังตูมตามขึ้นรอบหนึ่ง กลุ่มควันโขมงก็ฟุ้งตลบไปทั่วลาน

ไกลออกไปก็มีเสียงประทัดดังสลับกันเป็นระลอกๆ ไม่รู้ว่าเป็นจวนใดที่ได้เริ่มมื้ออาหารในคืนฉลองวันตรุษจีนเล็กกันแล้ว

โจวเสาจิ่นถึงได้รู้สึกลึกๆ ในใจว่าปีใหม่ใกล้มาถึงแล้วจริงๆ อีกไม่นานนางก็จะได้ต้อนรับรัชศกจื้อเต๋อปีที่สิบเก้าแล้ว

หวังว่าปีหน้ามู่อี๋เหนียงจะได้แต่งงานกับหลินซื่อเซิ่งอย่างราบรื่น และหวังว่าปีหน้านางจะได้พูดคุยกับท่านน้าฉื่ออย่างราบรื่นด้วยเช่นกัน

นางมองดูแสงโคมไฟสีแดงที่ส่องสว่างดั่งดวงดาวพร่างพราวอยู่ไกลๆ พลางภาวนาต่อองค์พระโพธิสัตว์อยู่เงียบๆ

เฉิงเก้ายิ้มน้อยๆ พลางตบไหล่ของนาง แล้วเอ่ยขึ้นว่า “ไปเถอะ พวกเรากลับไปกันเถอะ! ที่นี่มีแต่ควัน ระวังจะสำลักเอาได้”

โจวเสาจิ่นคลี่ยิ้มแล้วเดินเข้าเรือนไปพร้อมกับเฉิงเก้า

เฉิงอี้นั่งอยู่บนเก้าอี้มีเท้าแขนทรงกลมที่รองไว้ด้วยเบาะรองนั่งดิ้นเงินหนานุ่ม ไม่เหลือบมองโจวเสาจิ่นแม้แต่หนเดียวอย่างเย่อหยิ่ง

โจวเสาจิ่นก็คร้านจะสนใจเขา นั่งลงข้างๆ พี่สาว

เมื่อสาวใช้เด็กเริ่มยกอาหารจานเย็นขึ้นโต๊ะ เฉิงเหมี่ยนจึงเริ่มให้โอวาท

เขาอวยพรฮูหยินผู้เฒ่ากวนสองสามประโยคก่อน แล้วจึงกล่าวกับโจวเสาจิ่นสองพี่น้องว่า “เมื่อกลับถึงบ้านแล้วให้ปิดประตูหน้าต่างให้ดี หากเกิดเรื่องอะไรก็ให้ส่งคนมาแจ้งลุงทันที เช้าตรู่ของวันที่สองข้าจะบอกพ่อบ้านให้ไปรับพวกเจ้าสองพี่น้องกลับจวน” พอถึงคราวของเฉิงเก้ากับเฉิงอี้ก็กล่าวว่า “…เริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปให้คร่ำเคร่งกับการอ่านตำราอยู่ในเรือน ทบทวนความรู้ที่ครูบาอาจารย์เคยสั่งสอนไว้ให้ดี เข้าใจก็คือเข้าใจ ไม่เข้าใจก็คือไม่เข้าใจ ท่านป้าของพวกเจ้าจะกลับไปคารวะญาติผู้ใหญ่ที่ผูโข่วในวันที่ห้า วันที่สี่พวกเจ้าสองคนก็ต้องติดตามมารดาของเจ้าไปผูโข่วด้วย ประการแรกให้ไปคารวะท่านลุงของเจ้า ประการที่สองให้ไปโขกศีรษะแก่นายท่านผู้เฒ่าตระกูลเหอสักสองสามที อีกอย่างพวกเจ้าก็ไม่ใช่เด็กๆ กันแล้ว ควรจะติดตามพี่ชายตระกูลเหอออกไปข้างนอกให้มากถึงจะถูก”

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะทราบเรื่องมาก่อนหรือไม่ เฉิงเก้าถึงได้ขานรับเสียงหนึ่งอย่างสงบนิ่ง เห็นได้ชัดว่าสีหน้าค่อนข้างจริงจัง ทว่าเมื่อเฉิงอี้ได้ยินแล้วดวงตากลับเปล่งประกายระยิบระยับ มองฮูหยินใหญ่เหมี่ยนอย่างกระตือรือร้น

ตนเองคลอดบุตรเช่นไรออกมาตนเองย่อมรู้ดีที่สุด ฮูหยินใหญ่เหมี่ยนมองดูสามี เมื่อเห็นว่าท่าทางของสามีดูอ่อนโยน จึงกระซิบบอกเฉิงอี้เป็นนัยว่า “คราวนี้แม่จะพาเจ้าไปด้วย เจ้าต้องเชื่อฟังให้ดี ไม่เช่นนั้นวันหลังเจ้าก็อย่าได้คิดว่าข้าจะพาเจ้าออกไปที่ไหนอีกเลย”

หลังจากถูกโบยตีแล้วก็ยังมีส่วนแบ่งให้อยู่บ้างอย่างคาดไม่ถึง!

เฉิงอี้ดีใจอย่างลิงโลด รับปากสัญญาเสียงดัง รู้สึกเริงร่าอย่างห้ามไม่อยู่

เฉิงเหมี่ยนปรายตามองเฉิงอี้หนหนึ่ง

เฉิงอี้รีบก้มหน้าหลุบตาลงแล้วนั่งตัวตรงในทันใด

ความพึงพอใจสายหนึ่งวาบผ่านดวงตาของเฉิงเหมี่ยน เขาหันไปเอ่ยถามฮูหยินผู้เฒ่ากวนอย่างอบอุ่นว่า “ท่านแม่ ท่านมีเรื่องอะไรอยากจะกล่าวสักหน่อยหรือไม่ขอรับ”

“ไม่มีๆ” ฮูหยินผู้เฒ่ากวนยิ้มตอบ “ปีนี้ทุกคนล้วนสงบสุขและราบรื่นทุกประการ ปีหน้าก็ขอให้สงบสุขและสมบูรณ์แข็งแรงเช่นเดียวกัน!”

“น้อมรับคำอวยพรของท่านเจ้าค่ะ!” ฮูหยินใหญ่เหมี่ยนกล่าวยิ้มๆ โจวเสาจิ่นและคนอื่นๆ อีกสองสามคนต่างก็หัวเราะกันอย่างแช่มชื่น

สาวใช้เด็กเริ่มยกอาหารจานร้อนขึ้นโต๊ะ

เฉิงเหมี่ยนรินสุราให้ฮูหยินผู้เฒ่ากวนด้วยตนเองจอกหนึ่ง แล้วยิ้มพลางกล่าวว่า “นี่เป็นสุราจินหวาของตระกูลอู่ที่ให้คนนำกลับมาจากหังโจวเป็นการเฉพาะขอรับ ท่านลองชิมดูเถิด”

ฮูหยินผู้เฒ่ากวนยิ้มร่าพลางมองบุตรชายรินสุราให้ตนเอง แล้วฉีกยิ้มกล่าวว่า “เจ้าก็รินให้ฮูหยินของเจ้าด้วยสักหนึ่งจอก ปีนี้นางดูแลจัดการงานบ้านในเรือนอย่างขยันขันแข็งเชียว”

ฮูหยินใหญ่เหมี่ยนหน้าแดงเถือก รีบลุกขึ้นมา และกล่าวไม่หยุดว่า “ท่านทำให้สะใภ้ผู้นี้ซาบซึ้งใจยิ่งนักแล้วเจ้าค่ะ”

“ไม่เกินเลยๆ” ขณะที่ฮูหยินผู้เฒ่ากวนตอบอยู่นั้น เฉิงเหมี่ยนก็รินสุราให้ฮูหยินใหญ่เหมี่ยนจอกหนึ่ง

ฮูหยินใหญ่เหมี่ยนยังไม่ทันจิบสุราสักคำแต่ท่าทางคล้ายกรึ่มเมาไปเสียแล้ว

โจวเสาจิ่นกับโจวชูจิ่นต่างปิดปากกลั้นยิ้มอยู่ข้างๆ

ฮูหยินใหญ่เหมี่ยนจึงเอ่ยขึ้นว่า “พวกเจ้าสองพี่น้องก็ดื่มด้วยสักหน่อย โดยเฉพาะเสาจิ่น โตเป็นสาวเป็นนางแล้ว ต้องค่อยๆ ฝึกดื่มสุราให้เป็นได้แล้ว”

ในชาติก่อน จวบจนนางออกจากตระกูลเฉิงไปแล้ว ก็ไม่มีผู้ใหญ่ท่านใดที่คิดว่านางดื่มสุราได้เลย

โจวเสาจิ่นดวงหน้าขึ้นสีแดงเรื่อขณะที่สาวใช้เด็กรินสุราให้ตน

เฉิงเหมี่ยนยกจอกสุราขึ้น

นอกจากฮูหยินผู้เฒ่ากวนผู้เดียวแล้ว ทุกคนต่างยิ้มร่าพลางยืนขึ้นมา

ข้างหน้าเฉิงอี้เป็นน้ำชา เขาต้องยันเก้าอี้ลุกขึ้นถึงสองครั้งถึงจะยืนขึ้นมาได้

ครั้นจิบสุราคำหนึ่งเรียบร้อยแล้ว มื้ออาหารในค่ำคืนของการฉลองวันตรุษจีนเล็กก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

ไม่เหมือนกับที่ผ่านมาที่ห้ามส่งเสียงยามรับประทานอาหารและห้ามพูดคุยยามเข้านอน ทุกคนต่างรับประทานอาหารกันอย่างครึกครื้นกว่าทุกที จนกระทั่งตั้งหม้อไฟใบสุดท้ายขึ้นโต๊ะแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่ากวนจึงเอ่ยถามฮูหยินใหญ่เหมี่ยนเกี่ยวกับการไปผูโข่วว่าลืมตระเตรียมของขวัญของผู้ใดหรือไม่ ส่วนเฉิงเหมี่ยนก็เอ่ยถึง ‘ปกิณกคดีฉบับใหม่’ อันเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วแผ่นดินเมื่อไม่นานมานี้กับเฉิงเก้า “เป็นงานประพันธ์ของบัณฑิตหลวงหูโจ๋วหรานผู้ล่วงลับไปแล้ว กล่าวกันว่าองค์ฮ่องเต้ทรงยกย่องสรรเสริญยิ่งนัก ตั้งใจให้เป็นหนึ่งในหัวข้ออรรถาธิบายในการสอบขุนนาง แม้นายท่านผู้เฒ่าตระกูลเหอกับหูโจ๋วหรานเคยพบหน้ากันเพียงครั้งเดียว แต่ก็เป็นสหายร่วมสำนักศึกษากัน เจ้าไปครั้งนี้ ต้องขอคำแนะนำจากนายท่านผู้เฒ่าเหอให้มาก…”

โจวชูจิ่นเป็นผู้คงแก่เรียน สนใจเรื่องเศรษฐศาสตร์และหัวข้ออรรถาธิบายในการสอบขุนนางยิ่งนัก จึงนั่งฟังอย่างเพลิดเพลิน

โจวเสาจิ่นไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของนายท่านผู้เฒ่าตระกูลเหอกับบุคคลนามว่าหูโจ๋วหรานผู้นี้ดีหรือไม่ แต่กลับรู้ว่า ในอีกสามปีข้างหน้านายท่านผู้เฒ่าตระกูลเหอจะล้มป่วยจนเสียชีวิตจากไป และด้วยเหตุที่เหอเฟิงผิงอายุมากกว่าเฉิงเก้าหนึ่งปี เพื่อไม่ให้การแต่งงานระหว่างเหอเฟิงผิงกับเฉิงเก้าต้องล่าช้า ครั้นนายท่านผู้เฒ่าล้มป่วยลง ฮูหยินเหอจึงให้เหอเฟิงผิงรีบออกเรือน ส่วนตำรา ‘ปกิณกคดีฉบับใหม่’ ที่หูโจ๋วหรานเป็นผู้ประพันธ์เล่มนี้ได้กลายมาเป็นหนึ่งในอรรถาธิบายของการสอบขุนนางในอีกหกปีต่อมา

ตอนที่ 158 วันตรุษจีน 1

ตอนที่ 158 วันตรุษจีน 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน