เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 178

แต่นางควรจะเดินไปทางไหนดีนะ

โจวเสาจิ่นจ้องกระดานหมากอย่างพินิจพิเคราะห์

ไม่ว่านางจะวางหมากลงตรงไหน ล้วนไม่มีทางให้กินหมากของเฉิงฉือได้เลย

โจวเสาจิ่นมองไปที่เฉิงฉืออย่างสับสนครั้งหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี

เฉิงฉือยั้งตัวเองเอาไว้อย่างหนักถึงได้ไม่เอามือไปก่ายหน้าผาก

คนเรียนหมากล้อม ปกติมักจะเริ่มจากการจับกิน ดังนั้นคนที่เพิ่งเริ่มเรียนหมากล้อมเวลาเดินหมากจึงมักจะไม่สนใจหัวหรือท้าย ตั้งหน้าตั้งตาจะจับกินอย่างเดียว

คนฝีมือระดับเฉิงฉือเดินหมากกับคนเช่นนี้ ก็เปรียบได้กับชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งแข่งงัดข้อกับเด็กทารกผู้หนึ่ง ซึ่งไม่มีอะไรให้ต้องกล่าวถึงผลแพ้หรือชนะเลย

หรือว่าตนควรจะสอนเด็กคนนี้เล่นหมากล้อมจริงๆ ไปเสีย?

เฉิงฉือแสยะยิ้มอย่างทะนงอยู่ในใจครั้งหนึ่ง

หลายครั้งที่พี่ชายรองของเขาอยากให้รั่งเกอเอ๋อร์ผู้เป็นบุตรชายของเขามาเรียนหนังสือกับเขาเขายังรู้สึกว่ายุ่งยาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าให้สอนเด็กผู้ที่ไม่มีพื้นฐานอะไรผู้หนึ่งเล่นหมากล้อมเลย!

แต่ที่ผ่านมาเขาไม่เคยบีบให้คนต้องจนมุม ซึ่งหากว่าเขาบีบคนให้จนมุมล่ะก็ นั่นก็คงจะเป็นสถานการณ์ที่หากไม่ตายก็จะไม่วางมือ

ด้วยเหตุนี้เฉิงฉือจึงกล่าวยิ้มๆ ว่า “เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน…”

นางแพ้แล้วอย่างนั้นหรือ

โจวเสาจิ่นรู้ว่าระดับฝีมือการเล่นหมากของตนไม่มีทางเทียบได้กับของเฉิงฉือ แต่นางมองไปยังพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ตรงมุมขวาของกระดานหมาก ไม่ว่าอย่างไรก็คิดไม่ออกว่าเหตุใดตนถึงแพ้แล้ว!

อย่างไรก็ตาม การที่ท่านน้าฉือกล่าวเช่นนี้แสดงว่าย่อมต้องมีเหตุผล

นางจึงขานตอบ “เจ้าค่ะ” ไปเสียงหนึ่ง แล้วจัดการเก็บเม็ดหมากอย่างเชื่อฟัง

เฉิงฉือชำเลืองมองโจวเสาจิ่นครั้งหนึ่ง

หรือนางยังคิดจะเล่นกับตนอีกกระดานหนึ่งอย่างนั้นหรือ

ด้วยฝีมือที่ต่างกันของทั้งสองคน เล่นหมากอีกหนึ่งกระดานกับเล่นหมากอีกสิบกระดานก็ไม่ต่างอะไรกัน นอกเสียจากว่าตนจะต่อให้นางยี่สิบเม็ด ไม่สิ ต่อให้ตนต่อให้นางยี่สิบเม็ด ก็ไม่แน่ว่านางจะทำให้เขาแพ้ได้

เฉิงฉือกล่าวยิ้มๆ ว่า “เจ้าเรียนหมากล้อมกับเฉินต้าเหนียงมาสิบกว่าวันก็รู้จักกินหมากแล้ว ถือว่าพอจะมีพรสวรรค์อยู่บ้าง ข้าว่าเจ้าไปเรียนกับเฉินต้าเหนียงต่ออีกสักระยะหนึ่งแล้วพวกเราค่อยมาเล่นหมากกันสักกระดาน ข้าก็จะได้ดูด้วยว่าเจ้ามีพัฒนาการขึ้นบ้างหรือไม่…” เพียงแต่ว่าคำพูดของเขายังไม่ได้จบลง ฮูหยินผู้เฒ่ากัวก็เดินออกมาจากห้องชั้นใน

ฮูหยินผู้เฒ่าสวมเสื้อกั๊กปี๋เจี่ยผ้าไหมหังโจวสีม่วงอ่อนไร้ลวดลายสำหรับสวมใส่อยู่ในบ้านตัวหนึ่ง เส้นผมสีดอกเลาถูกเกล้าขึ้นเป็นมวยตรงท้ายทอยอย่างเรียบร้อย สวมตุ้มหูทองฝังมรกต ดูมีชีวิตชีวายิ่ง กล่าวยิ้มๆ อย่างสนอกสนใจว่า “เป็นอย่างไรบ้าง ใครเป็นผู้แพ้หรือ”

โจวเสาจิ่นรีบยืนขึ้นทำความเคารพฮูหยินผู้เฒ่ากัว เฉิงฉือกลับกล่าวยิ้มๆ ว่า “เล่นเพื่อความเพลิดเพลินเท่านั้น แบ่งแพ้แบ่งชนะอันใดกันขอรับ!”

“ดูทีแล้วคงเป็นเจ้าที่แพ้สินะ!” ฮูหยินผู้เฒ่ากัวได้ยินแล้วก็กล่าวยิ้มๆ “เจ้าเป็นน้า แต่ไม่รู้จักต่อให้เสาจิ่นสักหลายๆ เม็ดหน่อย การเอาชนะรุ่นเด็กเช่นนี้ใช้ได้หรือ”

“ต้องขออภัย” เฉิงฉือกล่าวยิ้มๆ “อย่างที่เขาว่ากันว่า ความสำเร็จไม่ขึ้นอยู่กับอายุ กานหลัวเป็นอัครเสนาบดีตั้งแต่อายุสิบสอง ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าระดับฝีมือของหลานตระกูลโจวเป็นอย่างไร พอมาถึงท่านก็อยากให้ข้าต่อหมากให้เลย ข้าว่าเป็นเพราะท่านอยากเห็นข้าแพ้ อยากหัวเราะเยาะข้าเสียมากกว่า!”

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวหัวเราะร่าดังลั่น

เป็นครั้งแรกที่โจวเสาจิ่นได้เห็นฮูหยินผู้เฒ่ากัวมีความสุขมากขนาดนี้ รอยยิ้มเหล่านั้น ล้วนเป็นรอยยิ้มที่ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ ทำให้คนรับรู้ได้ถึงความสุขของนาง

เช่นนี้นางยังจะพูดอะไรได้อีก

ได้แต่มองไปที่เฉิงฉือ

เฉิงฉือกลับไม่มองนางเลยสักนิด เขาเก็บเม็ดหมากไปด้วย สนทนากับฮูหยินผู้เฒ่ากัวไปด้วยว่า “…ท่านก็กระไร อย่าสร้างความลำบากให้เด็กอีกเลย นางยังต้องคัดพระธรรมให้ท่านอีกนะขอรับ!”

โจวเสาจิ่นได้ยินแล้วก็รู้สึกตัว รีบลุกขึ้นกล่าวอำลา

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวกลับหันมากวักมือเรียกนาง สั่งการเจินจูว่า “ไปหยิบจี้หยกที่อยู่ในลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งของข้าชิ้นนั้นมา ถึงแม้เด็กสาวจะเล่นหมากแพ้ แต่ก็ไม่อาจให้จากไปมือเปล่าเช่นนี้ได้ เอาจี้หยกกลับไปด้วย” ประโยคสุดท้ายเป็นการพูดกับโจวเสาจิ่น

โจวเสาจิ่นหน้าแดงระเรื่อ รีบกล่าวขึ้นว่า “ไม่ต้องเจ้าค่ะๆ ข้า…ข้าเพียงเล่นหมากเป็นเพื่อนท่านน้าฉือไปอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวเท่านั้น…”

นางรู้ว่าฮูหยินผู้เฒ่ากัวเข้าใจนางผิดไปแล้ว แต่ที่ท่านน้าฉือทำไปก็เพื่อหลอกล่อให้ฮูหยินผู้เฒ่ากัวมีความสุขเท่านั้น หากนางพูดความจริงออกไป ท่านน้าฉือคงโกรธนางเป็นแน่

โจวเสาจิ่นหันไปมองเฉิงฉืออย่างขอความช่วยเหลือ

เฉิงฉือกลับไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องสำคัญอะไร

เงินเป็นสิ่งที่เอาไว้สำหรับใช้จ่าย หากใช้เงินซื้อความสุขได้ ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี

เขากล่าว “ผู้ใหญ่ให้รางวัล ไม่อาจปฏิเสธ ให้เจ้าเจ้าก็รับเอาไว้เถิด!”

“ถูกต้อง” ฮูหยินผู้เฒ่ากัวอารมณ์ดียิ่งนัก นอกจากจี้หยกชิ้นนั้นแล้ว ยังมอบปิ่นปักผมดอกไม้ปะการังสีแดงคู่หนึ่งเป็นรางวัลให้นางอีกด้วย ยังไม่ต้องพูดถึงว่าจี้หยกชิ้นนั้นล้ำค่าเพียงใด เพียงแค่นกกางเขนที่กระโดดโลดเต้นอย่างยินดีอยู่บนกิ่งดอกท้อนั้น ดูมีชีวิตชีวาราวกับต้องการจะกระโจนตัวบินออกมาจากจี้หยกชิ้นนั้นก็ไม่ปาน ในขณะที่ปิ่นปักผมดอกไม้สีแดงคู่นั้น สีแดงของปะการังทำเป็นกลีบดอกไม้ สีเหลืองของขี้ผึ้งเป็นฐานดอก ทำออกมามีรูปทรงคล้ายดอกทับทิม มีขนาดใหญ่เท่าจอกเหล้า

ปะการังที่มีคุณภาพดีนั้นมีจำนวนน้อย แม้แต่ไข่มุกขนาดเท่าเม็ดบัวยังมีราคาแพงแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกลีบดอกไม้ขนาดเท่าเล็บมือเช่นนี้

โจวเสาจิ่นรู้สึกหนักอึ้ง

หากนางเล่นหมากเป็นเพื่อนท่านน้าฉือได้จริงๆ สักกระดานหนึ่งก็ดีไป แต่ทั้งหมดนี้นางได้แค่แสร้งทำท่าทางเท่านั้น เช่นนั้นนางจะรับของขวัญล้ำค่าเช่นนี้จากฮูหยินผู้เฒ่ากัวได้อย่างไร

“ฮูหยินผู้เฒ่าเจ้าคะ!” โจวเสาจิ่นสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ครั้งหนึ่ง ตัดสินใจว่าจะเล่าความจริงให้ฮูหยินผู้เฒ่ากัวฟัง ถึงแม้เหตุนี้จะทำให้เฉิงฉือไม่ชอบใจ แต่ก็ยังรู้สึกดีกว่าการหลอกลวงฮูหยินผู้เฒ่ากัวเช่นนี้ ใต้ผืนฟ้าแห่งนี้ไม่มีกำแพงที่ไม่มีรู แทนที่จะให้ฮูหยินผู้เฒ่ากัวได้ยินจากปากของคนอื่นไม่สู้นางเล่าให้ฮูหยินผู้เฒ่ากัวฟังด้วยตัวเองจะดีกว่า

แต่นางเพิ่งจะอ้าปากก็ถูกเฉิงฉือกล่าวตัดบทเสียก่อน “ท่านแม่ นางยังเป็นเพียงเด็ก ท่านให้ของรางวัลล้ำค่าขนาดนี้กับนางได้อย่างไร จะทำให้นางรู้สึกกังวลใจไปเปล่าๆ ต่อไปหากนางเล่นหมากกับข้าอีก ทีนี้ควรจะชนะหรือควรจะแพ้ดีเล่า หากท่านมีใจอยากให้รางวัลนาง ไม่สู้ให้เป็นของกินเอย ของเล่นเอย หนังสืออักษรภาพเอย หรือแม้แต่ชุดเครื่องเขียนก็ยังดีกว่าอันนี้นะขอรับ”

โจวเสาจิ่นพยักหน้ารัวอย่างซาบซึ้ง

“ดูข้าสิ!” ฮูหยินผู้เฒ่ากัวตบหน้าผากตัวเอง พลางกล่าว “ไปมาหาสู่กับพวกฮูหยินบ่อยๆ จึงลืมไปว่าเสาจิ่นยังเป็นเพียงเด็กสาวผู้หนึ่ง ครั้งนี้ก็ให้มันแล้วกันไป สิ่งสำคัญอยู่ที่ว่าของสองชิ้นนี้เหมาะสมกับเด็กคนนี้ยิ่งนัก คราวหน้าหากเจ้าเล่นหมากแพ้น้าฉือของเจ้าอีก วันที่หกเดือนหก ข้าจะพาเจ้าไปดูพระธรรมที่สลักอยู่บนหน้าผาที่วัดจีหมิงเป็นอย่างไร”

ตอนที่ 178 ความจริง 1

ตอนที่ 178 ความจริง 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน