เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 257

เห็นท่าทางที่ทั้งขุ่นเคืองและรำคาญใจนั้นของโจวเสาจิ่นแล้ว เฉิงฉือต้องอดกลั้นไว้ถึงไม่ได้หัวเราะออกมา กล่าวขึ้นว่า “ข้ามาหาเจ้าเพราะมีธุระ!”

โจวเสาจิ่นรีบยืนให้เรียบร้อยอย่างนอบน้อม

เนื่องจากท่านน้าฉือทราบเรื่องที่นางย้อนกลับมามีชีวิตใหม่ และเชื่อในสิ่งที่นางบอกไปด้วย เช่นนั้นการมาหานางคงมิใช่เรื่องเล็กๆ

เฉิงฉือลดเสียงลงกระซิบเล่าเรื่องที่เขาอธิบายให้ฮูหยินผู้เฒ่ากัวฟังว่านางรู้เรื่องการช่วงชิงตำแหน่งเจ้ากรมพิธีการระหว่างหวงหลี่กับเฉิงจิงได้อย่างไรให้นางฟัง

โจวเสาจิ่นตกใจจนอ้าปากค้าง ไม่รู้ว่าควรจะกล่าวอะไรดี

ท่านน้าฉือช่างกุเรื่องเก่งจริงๆ!

พูดโกหกโดยไม่ต้องเตรียมการเอาไว้ก่อนเลยสักนิด แค่อ้าปากก็กล่าวออกมาได้แล้ว

นางคิดมากว่าสองปีก็ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรให้ท่านน้าฉือเชื่อคำพูดของนางแล้วเอาไปบอกเฉิงจิง แต่ท่านน้าฉือกลับเพียงแค่อ้าปากก็ทำให้ฮูหยินผู้เฒ่ากัวเชื่อแล้ว

นี่ถือว่ามีพรสวรรค์ของซูฉินหรือไม่ก็จางอี๋อยู่ใช่หรือไม่นะ

โจวเสาจิ่นกล่าวขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ว่า “ท่านน้าฉือ ท่านยอดเยี่ยมจริงๆ เจ้าค่ะ! แม้แต่ฮูหยินผู้เฒ่าก็ยังหลอกได้สำเร็จ!”

เฉิงฉือได้ยินแล้วสีหน้ามืดครึ้ม

เหตุใดเด็กผู้นี้ถึงได้พูดจาได้น่ารำคาญใจมากเพียงนี้นะ

เขาลดเสียงลงกล่าวขึ้นว่า “เรียกว่า ‘หลอกลวง’ อะไรกัน นี่คือ ‘กลยุทธ์’ ต่างหาก! ‘กลยุทธ์’ เจ้าเข้าใจหรือไม่ หรือว่าเจ้าอยากให้ผู้อื่นรู้เรื่องที่เจ้าย้อนกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง? หรือว่าเจ้าไม่กลัวว่าจะทำให้แม่ของข้าตกใจจนเสียสติ? หรือว่าเจ้าไม่กลัวว่าจะถูกคนโง่เขลาพวกนั้นคิดว่าเจ้าเป็นสัตว์ประหลาดและจับถ่วงน้ำ?”

โจวเสาจิ่นถูกขู่ให้กลัวจนหน้าซีดเผือด พยักหน้าหงึกๆ

แต่นางก็รู้ดีว่าท่านน้าฉือทำเช่นนี้ก็เพื่อเป็นการดีต่อตัวนาง…ท่านน้าฉือพูดแล้วว่าไม่อาจบอกผู้อื่น แม้แต่ฮูหยินผู้เฒ่ากัวเขาก็ปิดบังเอาไว้จริงๆ

นางซาบซึ้งใจยิ่งนัก

เฉิงฉือเห็นนางยอมรับการสั่งสอนแล้ว ในใจถึงได้รู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย กล่าวขึ้นว่า “เจ้าต้องหัดฉลาดเอาไว้บ้าง! หากผู้อื่นถามถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เจ้าก็เพียงพูดไปตามนี้ ห้ามเผยพิรุธอะไรต่อหน้าแม่ของข้าเป็นอันขาด เข้าใจหรือไม่”

“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะๆ!” โจวเสาจิ่นรีบให้สัญญาอย่างเชื่อฟัง “ข้ารับปากท่านแล้วว่าจะไม่บอกผู้ใด ข้าก็จะไม่บอกผู้ใดเป็นอันขาดเจ้าค่ะ” กล่าวจบ นางครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วกล่าวเสริมขึ้นว่า “แม้แต่พี่สาวข้าก็จะไม่บอกเจ้าค่ะ”

สีหน้าของเฉิงฉือคลายจากความโกรธลงเล็กน้อย

โจวเสาจิ่นถอนหายใจอย่างโล่งอกครั้งหนึ่ง

ท่านน้าฉือดีกับนางยิ่งนัก นางไม่อยากทำให้ท่านน้าฉือโกรธ

นางถามเฉิงฉือเสียงอ่อนโยนว่า “ท่านอยากเข้าไปนั่งดื่มชาในห้องสักจอกหรือไม่เจ้าคะ บริเวณนี้เพิ่งจะจุดประทัดเสร็จไปเป็นจำนวนมาก ทั่วบริเวณต่างอบอวลไปด้วยกลิ่นประทัด ได้กลิ่นแล้วชวนให้หายใจไม่ออกเล็กน้อยเจ้าค่ะ!”

เฉิงฉืออยากจะพูดเรื่องรับนางมาเลี้ยงกับนางอยู่พอดี กล่าวขึ้นว่า “เรื่องดื่มชาไม่ต้องก็ได้ คนในบ้านของพวกเจ้าต่างกำลังยุ่งเรื่องงานแต่งของพี่สาวเจ้าอยู่ ไหนเลยจะมีคนมาต้มน้ำให้ได้ แต่ว่าข้ายังมีธุระต้องการคุยกับเจ้า ไปนั่งในห้องรับรองแขกสักครู่ก็ดีเหมือนกัน กลิ่นประทัดบริเวณนี้ออกจะมากไปจริงๆ ตระกูลเลี่ยวคงจะพอใจกับงานแต่งงานในครั้งนี้เป็นอย่างมาก ประทัดมากราวกับปลูกออกมาจากที่ดินของตัวเองก็ไม่ปาน จุดติดต่อกันไม่หยุด คิดไม่ถึงว่าพี่ชายใหญ่ของข้าจะเป็นพ่อสื่อได้เยี่ยมยอดถึงเพียงนี้!”

โจวเสาจิ่นเม้มปากกลั้นหัวเราะ กำลังจะเดินไปยังห้องโถงรับรองพร้อมกับเฉิงฉือ เฉิงเจียกลับวิ่งเข้ามา พร้อมกับกล่าวขึ้นว่า “เสาจิ่น เจ้ามายืนอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร เพียงพริบตาเดียวข้าก็ไม่เห็นเจ้าแล้ว เกี้ยวเจ้าสาวของพี่สาวชูจิ่นกำลังจะออกจากถนนผิงเฉียวแล้ว เจ้าไม่ไปดูสักหน่อยหรือ…” ขณะที่นางกล่าวอยู่นั้น เสียงก็หยุดลงกะทันหัน ร้องเสียงหนึ่งออกมาอย่างประหลาดใจว่า “ท่านอาสี่ฉือ” ยืนเอามือแนบลำตัวอย่างสบายๆ อยู่ตรงนั้น ทว่านัยน์ตาโตทั้งคู่กลับมองไปที่โจวเสาจิ่นที แล้วก็มองไปที่เฉิงฉือที สุดท้ายสายตาไปหยุดอยู่บนร่างของโจวเสาจิ่น ด้วยใบหน้าที่มีคำถามว่า “ท่านอาสี่ฉือมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร” เขียนอยู่เต็มใบหน้า

“ท่านน้าฉือมาร่วมงานเลี้ยง” โจวเสาจิ่นยิ้มน้อยๆ ขณะที่กล่าว “เจอกันตรงนี้โดยบังเอิญ จึงคุยกันสองสามประโยค พี่สาวเจีย ท่านมาหาข้าเพื่อจะบอกว่าเกี้ยวเจ้าสาวของท่านพี่กำลังจะออกจากประตูไปแล้วอย่างนั้นหรือ ข้าตั้งใจรั้งอยู่ตรงนี้เอง ข้ากลัวว่าเมื่อเห็นเกี้ยวเจ้าสาวของท่านพี่ออกจากประตูไปแล้วจะอดร้องไห้ออกมาไม่ได้!”

“พูดอะไรน่ะ” เฉิงเจียก้าวออกมาดึงมือของโจวเสาจิ่นเอาไว้ พลางกล่าว “หากเจ้าไม่ไปดูจะเสียใจภายหลังได้!” กล่าวจบ นางหันไปยิ้มหวานให้เฉิงฉือ พลางกล่าว “ท่านอาสี่ฉือ ท่านยืนตรงนี้สักครู่หนึ่งก่อนนะเจ้าคะ ข้ากับน้องสาวรองไปครู่เดียวเดี๋ยวก็มาแล้วเจ้าค่ะ” จากนั้นก็ลากโจวเสาจิ่นมุ่งหน้าไปยังด้านนอกโดยไม่รอคำทัดทานอะไรอีก

“พี่สาวเจียๆ!” โจวเสาจิ่นกล่าวอย่างร้อนรน “ข้าไม่อาจเดินจากไปเช่นนี้ได้ ท่านน้าฉือยังอยู่ตรงนี้อยู่เลยนะเจ้าคะ!”

เฉิงเจียกลับกล่าวว่า “ทางด้านของท่านอาสี่ฉือให้พ่อบ้านมาอยู่เป็นเพื่อนก็ได้แล้ว พวกเรารีบไปที่ประตูใหญ่กันเถิด! เมื่อครู่ฮูหยินหลายท่านต่างก็ร้องไห้ออกมา”

เอาเถิด!

ต่อให้นางไม่ตามเฉิงเจียไปดูความครึกครื้น ด้วยนิสัยของเฉิงเจียแล้ว นางไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าจะได้คุยกับท่านน้าฉือตามลำพังอย่างสงบได้

คงได้แต่ต้องรอให้ผ่านไปครู่หนึ่งแล้วค่อยหาโอกาสมาถามท่านน้าฉือว่ายังมีธุระอะไรต้องการคุยกับนางอีก!

โจวเสาจิ่นหันไปยิ้มให้เฉิงฉืออย่างขอลุแก่โทษ ถูกเฉิงเจียลากให้เดินไปด้วยอย่างโซซัดโซเซ

นัยน์ตาของเฉิงฉือมีความไม่พอใจสายหนึ่งวาบผ่าน

***

สุดท้ายเฉิงเจียก็ไปถึงช้าไปก้าวหนึ่ง

กระทั่งตอนที่นางลากโจวเสาจิ่นไปถึงประตูใหญ่นั้น เกี้ยวเจ้าสาวของโจวชูจิ่นก็ออกไปแล้ว ตรงประตูใหญ่เหลือเพียงเศษกระดาษสีแดงเกลื่อนเต็มพื้นกับกลิ่นควันที่อบอวลอยู่กลางอากาศเท่านั้น

เฉิงเจียกล่าวอย่างขุ่นเคืองว่า “เจ้าดูเจ้าสิ พลาดจนได้!”

โจวเสาจิ่นกลับพึมพำกล่าวอย่างใจลอยว่า “บางเรื่อง เพราะเจ้าไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง จึงแสร้งทำเป็นว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นได้ ข้าไม่ได้เห็นพี่สาวออกจากบ้านด้วยตาตัวเอง ก็เสมือนกับว่าพี่สาวเพียงออกจากบ้านไปเท่านั้น อีกไม่กี่วันก็กลับมาแล้ว…”

“ขอยอมพ่ายแพ้แก่เจ้าแล้วจริงๆ!” เฉิงเจียกล่าวอย่างไร้ทางเลือก “เจ้าอยากหลอกตัวเองและผู้อื่นเช่นนี้ ข้าเองก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม พี่สาวชูจิ่นจะกลับมาเยี่ยมบ้านเมื่อใดหรือ ถึงเวลานั้นข้าอยากมาเยี่ยมนาง”

“อีกหนึ่งเดือนหลังจากนี้” โจวเสาจิ่นและเฉิงเจียคุยกันไปด้วย มุ่งหน้าเดินไปยังห้องโถงรับรองไปด้วย บรรดาบ่าวรับใช้ต่างทำความเคารพและกล่าวทักทายพวกนางมาตลอดทาง “วันนั้นที่เจ้าบอกว่าอยากมาค้างกับข้าคืนหนึ่ง เป็นเพราะต้องการคุยเรื่องของหลี่จิ้งกับข้าใช่หรือไม่”

เฉิงเจียหน้าแดง กระซิบกล่าวเสียงเบาว่า “ข้าอยากฟังความเห็นของพี่สาวชูจิ่นด้วยเช่นกัน รอให้พี่สาวชูจิ่นกลับมาเยี่ยมบ้าน เจ้าช่วยมาแจ้งข้าสักหน่อย ดูว่าข้าจะหาโอกาสมาอยู่เป็นเพื่อนพี่สาวชูจิ่นสักครั้งได้หรือไม่!”

เนื่องจากทั้งสองบ้านอยู่ห่างกันไกล แผนการที่เดิมทีตั้งใจไว้ว่าจะยกเลิกประเพณีกลับมาเยี่ยมบ้านของเจ้าสาวก็ถูกฟางซื่อยืนกรานให้เปลี่ยนเป็นกลับมาหลังจากผ่านไปหนึ่งเดือนแทน ด้วยเหตุนี้โจวชูจิ่นยังได้พักอยู่ที่บ้านอีกสามวันแล้วค่อยกลับไปอีกด้วย

ตอนที่ 257 พูดผิดพูดใหม่ 1

ตอนที่ 257 พูดผิดพูดใหม่ 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน