เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 258

เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ใจของโจวเสาจิ่นก็สงบลงมา

กระทั่งการจัดเก็บข้าวของที่ถนนผิงเฉียวเกือบจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว นางจึงไปแจ้งหลี่ซื่อให้ทราบ แล้วพาชุนหว่านไปยังเรือนเจียซู่ที่ซอยจิ่วหรู

เมื่อฮูหยินผู้เฒ่ากวนเห็นนางก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง ดึงมือของนางเอาไว้พลางสอบถามว่า “วันนี้เจ้ามาได้อย่างไร มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”

“เนื่องจากไม่มีธุระอะไร จึงมาเยี่ยมท่านกับท่านป้าใหญ่เจ้าค่ะ” โจวเสาจิ่นเรียนรู้จากเวลาที่ฮูหยินผู้เฒ่ากัวสนทนาแลกเปลี่ยนกับผู้คน แล้วก็จำนำมาใช้ยามเข้าสังคม

ฮูหยินผู้เฒ่ากวนได้ยินแล้วก็ยิ่งดีใจเข้าไปใหญ่ ไม่เพียงให้สาวใช้ยกของว่างที่นางชื่นชอบมาให้เป็นจำนวนมากเท่านั้น ยังให้นางพักอยู่ด้วยอีกสองสามวัน “…เรือนหว่านเซียงยังคงเก็บเอาไว้พวกเจ้าสองพี่น้อง บ่าวรับใช้ต่างๆ ล้วนยังคงอยู่ ส่วนพวกเครื่องประดับต่างๆ ก็ใช้ของป้าใหญ่ของเจ้าก็ได้แล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องพกแม้แต่เสื้อผ้ามาเลยสักชุดก็ได้”

โจวเสาจิ่นขานรับอย่างดีอกดีใจ กล่าวขึ้นว่า “ฮูหยินบอกว่า หลังจากท่านพี่กลับมาเยี่ยมบ้านแล้ว จะพาข้ากลับไปที่เมืองเป่าติ้งด้วยเจ้าค่ะ ข้าจึงได้ใช้เวลาสองสามวันนี้เข้าจวนมาอยู่เป็นเพื่อนท่านกับท่านป้าใหญ่เจ้าค่ะ”

ฮูหยินผู้เฒ่ากวนตะลึงงัน กล่าวขึ้นว่า “ฮูหยินโจวต้องการพาเจ้ากลับไปเมืองเป่าติ้งด้วยอย่างนั้นหรือ”

“ใช่แล้วเจ้าค่ะ!” โจวเสาจิ่นกล่าวยิ้มๆ “ท่านพี่แต่งงานแล้ว ข้าเองก็โตแล้ว คงจะไม่ดีนักหากจะอยู่ที่ถนนผิงเฉียวเพียงลำพัง ดังนั้นฮูหยินจึงบอกว่าให้ข้าตามนางกลับไปเมืองเป่าติ้งด้วย ท่านพ่อรับราชการอยู่ที่อื่นมาตลอด ข้าเติบโตเพียงนี้แล้วก็ยังไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนคุยกับท่านพ่อดีๆ เลยสักครั้ง ก็ถือเป็นการดีที่จะได้อยู่กับท่านพ่อช่วงหนึ่งเจ้าค่ะ” ขณะที่นางกล่าว จู่ๆ ก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา กล่าวขึ้นว่า “ท่านยาย ข้าได้ยินว่าผักดองซีอิ๊วของหอต้าฉือที่เมืองเป่าติ้งเลื่องชื่อยิ่งนัก ถึงเวลานั้นข้าจะนำกลับมาให้ท่านลองชิมดูนะเจ้าคะ”

ฮูหยินผู้เฒ่ากวนเห็นโจวเสาจิ่นพูดถึงเรื่องกลับเมืองเป่าติ้งด้วยความยินดี ครุ่นคิดว่าตนเลี้ยงดูนางมาช่วงหนึ่ง แต่สุดท้ายแล้วใจของนางยังคงรู้สึกคะนึงหาบิดามารดาของตัวเอง ในใจรู้สึกหม่นหมองเล็กน้อย แต่ต่อมาเมื่อเห็นว่านางพูดจาราวกับเด็กน้อยผู้หนึ่ง ที่อยากจะนำผักดองซีอิ๊วกลับมาฝากนาง ประหนึ่งว่านางเพียงไปอยู่ที่นั่นไม่กี่วันก็กลับมาแล้ว ในใจก็กลับมารู้สึกเป็นสุขขึ้นมาเล็กน้อย

นางยิ้มร่าพลางกล่าว “แล้วเสาจิ่นยินดีจะอยู่เป็นเพื่อนยายต่อไปหรือไม่เล่า”

โจวเสาจิ่นใจเต้นตึกตักอยู่ครู่หนึ่ง

เหตุผลที่นางยังไม่พูดเข้าเรื่องที่นางอยากจะขนย้ายข้าวของที่เก็บไว้ในเรือนหว่านเซียงไปที่ถนนผิงเฉียวในทันทีที่พบหน้าฮูหยินผู้เฒ่ากวนก็เพราะกลัวว่าฮูหยินผู้เฒ่ากวนจะคิดว่านางไร้หัวใจไม่คิดถึงผู้อื่น แต่คิดไม่ถึงว่าคำพูดดีพร้อมไร้ที่ติแล้ว ทว่าเรื่องราวกลับยังมีข้อผิดพลาดอยู่ กล่าวคือ ฮูหยินผู้เฒ่ากวนถึงกับต้องการเก็บนางไว้ที่ซอยจิ่วหรู นั่นมิใช่เท่ากับว่ามีใจแน่วแน่ต้องการให้นางแต่งงานกับเฉิงอี้หรอกหรือ!

แต่นางกลับไม่กล้าพูดอะไรแม้สักประโยคเดียว ได้แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องเท่านั้น

“ข้าย่อมยินดีอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ!” โจวเสาจิ่นฝืนทำใจดีกล่าวสิ่งที่ตรงข้ามกับความในใจ “แต่ว่าทางด้านท่านพ่อ…”

ฮูหยินผู้เฒ่ากวนยิ้มพลางกล่าวในทันทีว่า “ทางด้านบิดาของเจ้า ข้าจะพูดให้เอง ข้ากลัวแต่ว่าเจ้าเห็นพี่สาวของเจ้าออกเรือนไปแล้ว จะไม่ต้องการฮูหยินแก่ๆ โดดเดี่ยวอย่างข้าอีกแล้ว จึงตั้งใจมาถามเจ้าเป็นพิเศษ”

ถึงกับนำอุบายนี้มาใช้แล้ว โจวเสาจิ่นยิ่งรู้สึกว่าวัตถุประสงค์ที่ฮูหยินผู้เฒ่ากวนต้องการเก็บนางเอาไว้ยิ่งไม่ธรรมดาแล้ว

“ได้เจ้าค่ะ!” นางกล่าวยิ้มๆ ทว่าในใจกลับคำนวณแผนการว่าเมื่อกลับไปแล้วจะเขียนจดหมายให้บิดาฉบับหนึ่ง จากนั้นให้ม้าเร็วนำไปส่งให้บิดา ทางด้านของหลี่ซื่อเองก็ต้องแจ้งให้ทราบด้วยเช่นกัน ห้ามมิให้เกิดเรื่องที่ว่าขายนางออกไปเพราะไม่ทราบสถานการณ์เป็นอันขาด

ฮูหยินผู้เฒ่ากวนพึงพอใจกับความว่าง่ายและเชื่อฟังของโจวเสาจิ่นเป็นอย่างมาก

ทว่าโจวเสาจิ่นกลับเสมือนกับนั่งอยู่บนเบาะที่เต็มไปด้วยเข็มก็ไม่ปาน ชั่วขณะนั้นอยากให้มีปีกงอกออกมาแล้วรีบบินกลับออกไปในทันที ไหนเลยจะได้ยินสิ่งที่ฮูหยินผู้เฒ่ากวนพูด กระทั่งตอนได้ยินฮูหยินผู้เฒ่ากวนเรียกให้สาวใช้ไปเชิญฮูหยินใหญ่เหมี่ยนมา นางก็ยิ่งนั่งไม่ติดที่ หาโอกาสหนึ่งลุกขึ้นพลางกล่าว “ท่านยาย หากว่าท่านป้าใหญ่กำลังยุ่งอยู่ พวกเราก็อย่าเพิ่งรบกวนนางเลยเจ้าค่ะ ข้าไปทำความเคารพฮูหยินผู้เฒ่ากัวที่เรือนหานปี้ซานก่อน แล้วค่อยกลับมาสนทนากับท่านป้าใหญ่ก็ได้เจ้าค่ะ”

ฮูหยินผู้เฒ่ากวนตั้งใจจะให้โจวเสาจิ่นได้รับการเลี้ยงดูอยู่ที่จวนหลัก จึงเป็นธรรมดาที่จะยินดีที่เห็นว่าโจวเสาจิ่นใกล้ชิดกับฮูหยินผู้เฒ่ากัว นางยิ้มพลางพยักหน้า ย้ำกำชับกับโจวเสาจิ่นว่า “ฮูหยินผู้เฒ่าโปรดปรานเจ้ายิ่งนัก ตอนที่เจ้าไม่อยู่ เรือนหานปี้ซานก็เงียบเหงาไม่น้อย เจ้าไปแล้ว ก็อยู่สนทนากับฮูหยินผู้เฒ่าสักครู่หนึ่ง หากฮูหยินผู้เฒ่ารั้งให้เจ้าอยู่รับมื้อเที่ยงด้วย เจ้าก็รับมื้อเที่ยงให้เสร็จเรียบร้อยแล้วค่อยกลับมา ช่วงบ่ายป้าใหญ่ของเจ้ามักจะว่างไม่มีธุระอะไรแล้ว”

โจวเสาจิ่นรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่ฮูหยินผู้เฒ่ากวนดูรักใคร่จวนหลักเพียงนี้ แต่นางเองก็มีเจตนาจะอยู่ที่จวนหลักให้นานสักหน่อย จึงไม่คิดอะไรให้มากอีกพร้อมกับขานรับยิ้มๆ แล้วรีบเดินไปหาฮูหยินผู้เฒ่ากัวอย่างรวดเร็ว

ทว่านางไม่ได้เดินไปที่เรือนหลัก แต่แอบเดินวนรอบหนึ่งอย่างเงียบๆ แล้วตรงไปที่เรือนหลีอิน

แสงแดดของฤดูใบไม้ผลิดียิ่งนัก ชิงเฟิงนั่งอาบแดดอยู่บนธรณีประตูกำลังคุยอยู่กับนักพรตเด็กที่มีอายุไล่เลี่ยกันกับเขาผู้หนึ่งอยู่

นักพรตเด็กผู้นั้นสวมชุดนักพรตเต้าเผาผ้าไหมสีดำ ผิวขาวละเอียด หน้าตาหล่อเหลา ดูเสมือนกับคุณชายของบ้านใดบ้านหนึ่ง ไม่เหมือนคนที่คอยรับใช้ผู้อื่น ทว่าดูไม่คุ้นหน้ายิ่งนัก

หรือว่าท่านน้าฉือจะรับบ่าวเด็กเพิ่ม?

โจวเสาจิ่นครุ่นคิดอยู่ในใจ

ชิงเฟิงกำลังหันไปคุยกับนักพรตเด็กผู้นั้นอย่างออกรสออกชาติ จึงไม่ได้สังเกตเห็นถึงความเคลื่อนไหวรอบข้าง กลับเป็นนักพรตเด็กไม่คุ้นหน้าผู้นั้นที่เห็นโจวเสาจิ่น เขาสะกิดชิงเฟิง กระซิบกล่าวเสียงเบาว่า “มีคนมา!” ชิงเฟิงถึงได้จบการสนทนา แล้วหันศีรษะกลับมา

เมื่อเห็นว่าเป็นโจวเสาจิ่น เขาลุกขึ้นมาด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบายใจเล็กน้อย กล่าวขึ้นว่า “คุณหนูรอง ท่านมาแล้ว ไม่ทราบว่าท่านมาหาผู้ใดขอรับ”

โจวเสาจิ่นกล่าว “ท่านน้าฉืออยู่หรือไม่ ข้ามาหาท่านน้าฉือ!”

ชิงเฟิงกล่าว “อาจารย์จางของเขาหลงหู่มาหา นายท่านสี่กำลังสนทนากับอาจารย์จางอยู่ขอรับ” ความหมายของคำกล่าวนี้คือให้นางรอก่อน

โจวเสาจิ่นคิดไม่ถึงว่าตนจะโชคร้ายถึงเพียงนี้

นางมองนักพรตเด็กผู้นั้นครั้งหนึ่ง

นักพรตเด็กรีบก้าวออกมาทำความเคารพโจวเสาจิ่น กล่าวแนะนำตัวเองว่า “ข้าคือซ่านอวี๋นักพรตเด็กข้างกายอาจารย์จาง คารวะคุณหนูรองขอรับ!”

ตอนที่ 258 ตกใจกลัว 1

ตอนที่ 258 ตกใจกลัว 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน