ไม่เคย!
โจวเสาจิ่นคิดอย่างเศร้าใจ
นางเคยมีความรู้สึกเช่นนี้…กับท่านน้าฉือเท่านั้น!
หรือว่านางจะชอบท่านน้าฉือเข้าแล้ว!
โจวเสาจิ่นเอามือปิดหน้าเอาไว้ อับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปซ่อนไว้ที่ไหนแล้ว
เป็นเพราะรู้สึกชอบอยู่ในใจ ฉะนั้นทั้งๆ ที่ท่านน้าฉือดื่มสุรามามากแต่นางกลับยังนั่งโบกพัดให้เขาอยู่ข้างๆ ได้ใช่หรือไม่ นั่งจนตีกลองบอกเวลายามสามแล้วก็ยังไม่อยากกลับไป…
เพราะรู้สึกชอบอยู่ในใจ ดังนั้นนางถึงได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่เรือนหานปี้ซานอย่างง่ายดายโดยไม่ต้องคิดทบทวนเพิ่มเติมใช่หรือไม่ ขอเพียงในทุกๆ วันได้ใกล้ชิดหรือได้เห็นเขาสักครั้งก็พอ…
เพราะรู้สึกชอบอยู่ในใจ ด้วยเหตุนี้นางถึงได้ชอบไปหาเขาไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ก็ตามใช่หรือไม่ ขอเพียงได้เห็นท่าทางของเขาที่ทำเพื่อนางอย่างขะมักเขม้น ก็รู้สึกมีความสุขอย่างไม่สิ้นสุดแล้ว…
“พี่สาวเจีย!” นางกอดเฉิงเจียเอาไว้พร้อมกับร้องไห้อย่างทุกข์ระทมออกมา “เหตุใดท่านต้องชอบหลี่จิ้งด้วย”
ถ้าหากเฉิงเจียไม่ได้ชอบหลี่จิ้ง นางก็ไม่ต้องมารับรู้ว่าอะไรคือ ‘ชอบ’ แล้ว…ล้วนเป็นเพราะเฉิงเจีย! พาให้นางมาอยู่ในสถานการณ์ที่ยากจะทานทนนี้!
ต่อไปนางควรจะเผชิญหน้ากับเฉิงฉืออย่างไรดี!
โจวเสาจิ่นร้องไห้อย่างทุกข์ระทมยิ่ง!
ราวกับถูกผู้อื่นพรากของรักอะไรบางอย่างไปก็ไม่ปาน ร้องไห้จนควบคุมตัวเองไม่ได้
นี่นางกลัวว่าหลังจากที่ตนแต่งกับหลี่จิ้งแล้วจะไม่ใยดีนางอย่างนั้นหรือ
เฉิงเจียได้ยินแล้วขอบตาก็แดงตามขึ้นมาด้วย นางกอดโจวเสาจิ่นเอาไว้ ค่อยๆ ลูบหลังนางเบาๆ กล่าวปลอบโยนนางว่า “ต่อให้ข้าชอบหลี่จิ้ง เจ้าก็ยังเป็นน้องสาวของข้านี่นา! หลี่จิ้งให้ความสำคัญกับข้า ก็ย่อมจะดีกับเจ้าด้วยเช่นกัน ต่อไปจะมีพี่ชายมาเอาอกเอาใจเจ้าเพิ่มอีกคนหนึ่งแล้วไม่ดีหรือ”
ไม่ดี!
โจวเสาจิ่นร้องไห้ไปด้วยส่ายศีรษะไปด้วย
หลี่จิ้งเป็นของเฉิงเจีย เกี่ยวอะไรกับนางด้วย
นางต้องการเพียงท่านน้าฉือของนาง…นางเพียงอยากให้นางกับท่านน้าฉือเป็นเหมือนอย่างที่เคยเป็นมาเท่านั้น…
โจวเสาจิ่นเอาแต่กัดริมปากอย่างเป็นเอาตาย พูดอะไรไม่ออกแม้สักประโยค แล้วก็ไม่กล้าพูดอะไรสักประโยคด้วยเช่นกัน นางกลัวว่าตัวเองจะอดกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ จะพูดสิ่งที่ทำให้นางและเฉิงฉือต้องตกนรกหมกไหม้ไปด้วยกันทั้งหมด
เฉิงเจียมองนางกัดริมฝีปากจนช้ำไปหมด ร่างซวนเซไปมา ท่าทางเจ็บปวดจนเหมือนกับจะล้มลงไปได้ทุกเมื่อ ใบหน้าเต็มไปด้วยหยาดน้ำตานั้นแล้ว ก็ตะโกนเรียกไม่หยุดว่า “เสาจิ่นๆ เจ้าอย่าเป็นเช่นนี้! ข้าไม่แต่งแล้วก็ยังไม่ดีหรือ ไม่แต่งแล้วก็ยังไม่ดีหรือ”
“เปล่าเจ้าค่ะๆ!” โจวเสาจิ่นไม่รู้ว่าตัวเองอยากพูดอะไร กอดแขนเฉิงเจียเอาไว้แน่นประหนึ่งกอดขอนไม้ช่วยชีวิตขอนหนึ่ง
เฉิงเจียชอบหลี่จิ้ง อย่างน้อยก็ยังพูดออกมาได้ว่าชอบ!
แล้วนางเล่า?
นางจะเลือกทางเส้นไหนดี
แสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วอยู่ที่เรือนหานปี้ซานต่อไป?
หรือว่าจะฝังความรู้สึกนี้เก็บไว้ในส่วนลึกของหัวใจแล้วทำเสมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น?
รอจนกระทั่งท่านน้าฉือแต่งงาน นางก็จะไม่เป็นอะไรแล้ว!
นางทำไม่ได้…ทำไม่ได้…
แต่ต่อให้นางทำไม่ได้แล้วจะทำอะไรได้?
จะไปเผยความรู้สึกที่แท้จริงต่อหน้าเขาอย่างหน้าไม่อายอย่างนั้นหรือ
แค่คิดว่าถึงเวลานั้นเฉิงฉือจะมองนางด้วยสายตาประหลาดใจและดูแคลน นางก็รู้สึกปวดไปทั้งหัวใจแล้ว เหมือนกับที่เฉิงเจียกล่าวมา เจ็บปวดราวกับถูกมีดจ้วงแทง เจ็บจนอยากจะตายไปเสียยังจะดีกว่า
นางซบอยู่ในอ้อมกอดของเฉิงเจียพึมพำกล่าวขึ้นว่า “พี่สาวเจีย ท่านว่าข้าควรจะทำอย่างไรดี ข้าควรจะทำอย่างไรดี”
โจวเสาจิ่นอยากไปหาพี่สาว
แต่เรื่องนี้พูดกับพี่สาวได้หรือ
หรือไปหาบิดา?
นั่นคงยิ่งไม่อาจพูดออกมาได้
นางควรจะทำอย่างไรดี
ทำอย่างไรดี
โจวเสาจิ่นวิตกและหวาดกลัวราวกับสัตว์ตัวน้อยที่ตกลงไปในกับดัก
ตอนที่ฝานหลิวซื่อกับชุนหว่านเร่งมาถึงนั้น ก็เห็นโจวเสาจิ่นกับเฉิงเจียกอดคอกันร้องไห้อย่างเจ็บปวด
“นี่…นี่เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ” ฝานหลิวซื่อเอ่ย จะแยกพวกนางออกจากกันก็ไม่ดี จะไม่แยกก็ไม่ดี
เป็นเฉิงเจียที่รู้สึกตัวก่อน เช็ดน้ำตาพร้อมกับกล่าวขึ้นว่า “มามาช่วยตักน้ำเข้ามาให้พวกข้าล้างหน้าใหม่สักครั้งเถิด! พวกข้าพูดคุยถึงเรื่องน่าเศร้าใจบางอย่าง ก็เลยพากันร้องไห้ขึ้นมา”
แน่นอนว่าฝานหลิวซื่อไม่เชื่อ แต่ตอนนี้ก็มิใช่เวลามาไล่เรียงถามเรื่องพวกนี้
นางสั่งสาวใช้เด็กตักน้ำเข้ามา ชุนหว่านกับชุ่ยหวนนั้น คนหนึ่งปรนนิบัติโจวเสาจิ่นอีกคนหนึ่งปรนนิบัติเฉิงเจีย ช่วยพวกนางล้างหน้าหวีผมใหม่
ทางด้านโน้นของเฉิงเจียนั้นไม่นานก็ล้างหน้าหวีผมเสร็จแล้ว แต่ทางด้านนี้ของโจวเสาจิ่นกลับยังมีสีหน้าซึมเศร้า น้ำตาไหลลงมาไม่หยุดราวกับเชือกร้อยสร้อยไข่มุกขาด เช็ดแล้วก็รินไหลลงมาใหม่ รินไหลลงมาแล้วก็เช็ดให้แห้งอีกครั้ง ไม่นานดวงตาก็บวมแดงขึ้นมา
ฝานหลิวซื่อกอดโจวเสาจิ่นเอาไว้ กล่าวอย่างปวดใจว่า “คุณหนูที่แสนดีของข้า นี่ท่านเป็นอะไรไปเจ้าคะ มีเรื่องอะไรขอเพียงท่านบอกข้า ต่อให้ข้าจะใช้การไม่ได้ แต่ก็ยังมีนายหญิงผู้เฒ่า ฮูหยินผู้เฒ่า แล้วก็นายท่านใหญ่อยู่นี่นา ท่านเป็นเช่นนี้ ทำให้ข้าเจ็บปวดยิ่งกว่าฆ่าข้าให้ตายเสียอีกเจ้าค่ะ!”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน