เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 308

โจวเสาจิ่นตื่นสายในวันถัดมา

นางลอบรู้สึกดีใจอย่างช่วยไม่ได้

โชคดีที่ฮูหยินผู้เฒ่ากัวมิได้มีนิสัยชอบตั้งกฎเกณฑ์ให้ผู้คน ไม่อย่างนั้นเหตุการณ์เช่นนี้ ก็เพียงพอให้นางถูกผู้อื่นประณามได้แล้ว

โจวเสาจิ่นรีบลุกขึ้นจากเตียง หลังจากรับประทานมื้อเช้าแล้วก็ไปที่เรือนหลักของเรือนหานปี้ซาน

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวไปห้องพระแล้ว กำลังล้างมือเตรียมตัวสวดพระธรรม

โจวเสาจิ่นเดินเข้ามาด้วยใบหน้าแดงเรื่อ

แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงบนใบหน้าของนาง สว่างไสวแวววาว งดงามดุจหยกงามชั้นดีไร้ที่ติ

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวอดไม่ได้ที่จะกล่าวกับสื่อมามายิ้มๆ ว่า “อายุน้อยนี่ดีจริงๆ! เมื่อวานกว่าจะเข้านอนก็ยามสามของกลางดึกแล้ว แต่พอตื่นขึ้นมาในตอนเช้าก็ยังดูเปล่งประกายมีชีวิตชีวา ไม่เหมือนพวกเรา อยู่ภายใต้แสงไฟมองแล้วล้วนเหมือนกับเถาวัลย์แก่ๆ เหล่านั้น”

สื่อมามาหัวเราะดังลั่นอย่างขบขัน

โจวเสาจิ่นก้าวออกไปพร้อมกับร้องเสียงหนึ่งอย่างขัดเขินว่า “ฮูหยินผู้เฒ่า”

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวจับมือของนางเอาไว้ กล่าวขึ้นอย่างใจดีว่า “ไม่เป็นไร! ตอนที่ข้าอายุเท่าเจ้ายังสู้เจ้าไม่ได้เลย! หากให้ข้าออกไปเที่ยวเล่นมาทั้งวันแล้วยังต้องตื่นเช้าเพียงนี้ ข้าคงปีนขึ้นจากเตียงไม่ไหวด้วยซ้ำ”

โจวเสาจิ่นซาบซึ้งใจยิ่งนัก ประคองฮูหยินผู้เฒ่ากัวไปนั่งลงตรงหน้าพระพุทธองค์ เริ่มสวดพระธรรมเป็นเพื่อนฮูหยินผู้เฒ่ากัว

ตกบ่าย นางได้รับจดหมายจากพี่สาว

โจวชูจิ่นเห็นว่านางอยู่ที่ซอยจิ่วหรูอย่างสุขสบายดีก็พึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง ในจดหมายยังเล่าให้นางฟังด้วยว่า ตอนเทศกาลวันไหว้บ๊ะจ่างนั้นเลี่ยวเส้าถังหาข้ออ้างออกไปเยี่ยมเยียนสหายแล้วแอบพานางไปดูการแข่งขันเรือมังกร

โจวเสาจิ่นรู้อยู่แล้วว่าหลังจากแต่งงานแล้วพี่สาวจะมีชีวิตที่ดี แต่พอได้รับจดหมายจากพี่สาว สัมผัสได้ถึงความสุขของพี่สาวผ่านตัวอักษรแล้ว นางยังคงรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากอย่างช่วยไม่ได้ วางจดหมายลงแล้วก็เขียนจดหมายตอบกลับพี่สาว ถามพี่สาวว่าเมื่อใดจะได้เดินทางไปจิงเฉิง ถ้าหากไปจิงเฉิงแล้ว อย่าลืมนำผลไม้แช่อิ่มมาฝากนางด้วย นางอยากกินของกินทานเล่นของจิงเฉิงยิ่งนัก ยังคัดเลือกเรื่องราวในชีวิตประจำวันที่น่าสนใจเล่าให้พี่สาวฟังด้วย ส่วนความกังวลใจที่มีต่อเรื่องของอู๋เป่าจางและเฉิงลู่นั้น นางไม่เอ่ยถึงเลยสักตัวอักษร

เพียงแต่ยังไม่ทันที่นางจะได้เขียนจดหมายจนแล้วเสร็จ เฉิงเจียก็มาหา

นางถืออิงเถาและส้มมาด้วยอย่างละหนึ่งตะกร้า ยื่นหน้าเข้ามาใกล้โจวเสาจิ่นพร้อมกับพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า “เจ้ากำลังเขียนจดหมายให้พี่สาวชูจิ่นอยู่หรือ เขียนอะไรไปบ้าง พี่สาวชูจิ่นอยู่ทางโน้นเป็นอย่างไรบ้าง พี่เขยรักใคร่ดีหรือไม่” แล้วก็ตะโกนบอกชุนหว่านว่า “นำอิงเถากับส้มนี้ไปแบ่งเสีย”

โจวเสาจิ่นไม่สนใจนาง เพียงแต่กล่าวกับชุนหว่านว่า “อย่าลืมแบ่งไปให้ที่เรือนหลักสักหน่อยด้วย!”

ชุนหว่านยิ้มพลางถอยออกไป

เฉิงเจียจึงช่วยฝนหมึกให้โจวเสาจิ่นอย่างกระตือรือร้น กล่าวขึ้นว่า “เสาจิ่น ซื่อจื่อของเหลียงกั๋วกงจะจัดพิธีมงคลสมรสในวันที่สิบห้า ข้าคิดว่าจูจูคงไม่สะดวกออกมาเป็นแน่ ข้าดูปฏิทินแล้ว คิดว่าจะเชิญทุกคนมาชมดอกบัวที่จวนในวันที่ยี่สิบห้าเดือนห้า เจ้าคิดว่าเป็นอย่างไรบ้าง”

โจวเสาจิ่นยังคงทำหน้าเย็นชาดังเดิม กล่าวขึ้นว่า “เจ้าจะเชิญคนมาชมดอกไม้ เกี่ยวอะไรกับข้าด้วย”

เฉิงเจียยิ้มอย่างประจบประแจง กล่าวขึ้นว่า “เสาจิ่น ที่จวนมีเด็กสาวคือเจ้ากับข้าสองคนเท่านั้น ข้าเชิญแขก เจ้าจะไม่มาร่วมได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นเดิมทีคนเหล่านี้ก็เป็นสหายของเจ้า ข้าก็เพียงยืมดอกไม้ของผู้อื่นมาถวายพระเท่านั้น แล้วจะไม่เกี่ยวกับเจ้าได้อย่างไร”

โจวเสาจิ่นไม่กล่าวอะไร เลียนแบบท่าทางของเฉิงฉือ ค่อยๆ โรยทรายละเอียดลงบนจดหมายอย่างช้าๆ

เฉิงเจียคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ ตอนที่โจวเสาจิ่นกำลังรอให้หมึกแห้งอยู่นั้นจึงกล่าวขึ้นอย่างจริงใจว่า “เสาจิ่น ข้ารู้ว่าเรื่องนี้ข้าทำไม่ถูก ข้าขอโทษเจ้าจริงๆ! เจ้าอย่าโกรธข้าอีกเลย ข้าไปพบหลี่จิ้งก็เพราะ…ก็เพราะทำไปตามความรู้สึก!” ขณะที่นางกล่าว ใบหน้าก็แดงระเรื่อ น้ำเสียงเบาลงหลายส่วน “ข้าเคยไปขอท่านย่าแล้ว คิดไม่ถึงว่าท่านย่าก็คัดค้าน ยังบอกอีกว่า นี่เป็นความตั้งใจของแม่ข้า นางรู้สึกว่าที่แม่ข้าพูดมาก็ไม่ผิด แต่งเข้าตระกูลพ่อค้า ชีวิตความเป็นอยู่ไม่เหมือนกัน จะเกิดข้อเปรียบเทียบมากมายตามมาได้ แต่ใจของข้าตกไปอยู่กับเขาแล้ว เพียงคิดว่าต้องแต่งให้ผู้อื่น หัวใจดวงนี้ก็เจ็บปวดเสมือนกับถูกมีดจ้วงแทงเป็นรูจนโลหิตไหลรินก็ไม่ปาน…”

โจวเสาจิ่นตะลึงงัน

เฉิงเจียเห็นว่าในที่สุดนางก็มีปฏิกิริยาอะไรบ้างแล้ว และก็คิดว่านางเป็นคนใจอ่อน ขอเพียงเจ้าจริงใจกับนาง นางก็จะดีกับเจ้ามากยิ่งกว่าเสียอีก จึงกล่าวความในใจของตัวเองออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ว่า “เริ่มแรกข้ารู้เพียงว่าเขาคิดจะใช้อิทธิพลของซอยจิ่วหรู ต่อมาค้นพบว่าที่ลั่วหยางเขาก็มีชีวิตที่ไม่ด้อยเลย ที่บ้านก็มิใช่ว่าไม่เคยมีจิ้นซื่อมาก่อน เพียงแต่ว่าเขาถ่อมตัวยามอยู่ต่อหน้าข้าเท่านั้น ในใจจึงรู้สึกผิดเล็กน้อย…ต่อมาเห็นเขาให้ความสำคัญกับคำพูดของข้าประหนึ่งเป็นพระราชโองการก็ไม่ปาน ขอเพียงเป็นเรื่องที่ข้าพูดขึ้นมาหรือสิ่งของที่ข้าอยากได้ เขาก็พร้อมจะปีนภูเขาดาบหรือดำลงทะเลเพลิงเพื่อหามาให้ข้า ทว่ากลับไม่เคยเอ่ยถึงความลำบากที่เคยเผชิญมาเหล่านั้นยามอยู่ต่อหน้าข้าเลย หัวใจของข้าดวงนี้จึงไม่อาจมองเขาเป็นเพียงญาติผู้พี่ต่อไปได้อีก…ต่อมาอีก ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ล้วนวางข้าไว้เป็นลำดับแรก…ขอพูดอย่างหน้าไม่อายประโยคหนึ่งว่า แม้แต่บิดามารดาของข้าก็ยังไม่เอาใจใส่และอ่อนโยนเท่านี้ ข้าค่อยๆ รู้สึกว่าปล่อยเขาไปไม่ได้แล้ว…” ขณะที่นางกล่าว ขอบตาก็รื้นชื้นขึ้น ทว่าใบหน้ากลับเผยรอยยิ้มราวกับอยู่ในห้วงฝันออกมา น้ำเสียงรักใคร่อ่อนหวานประหนึ่งประกอบไปด้วยน้ำผึ้ง “เสาจิ่น เจ้าไม่เคยตกหลุมรักผู้ใดมาก่อน หากเจ้าเคยตกหลุมรักใครสักคนเจ้าก็จะเข้าใจ…ยามได้กินกับข้าวอร่อยๆ เจ้าก็จะคิดถึงเขา คิดว่าหากเขาได้กินสักคำหนึ่งก็คงจะดี ยามเดินผ่านสวนดอกไม้แล้วเห็นดอกไม้บานอย่างงดงามเจ้าก็จะคิดถึงเขา คิดว่าหากเขาได้มาชื่นชมด้วยก็คงจะดี ยามพูดคุยกับผู้คนแล้วบังเอิญเอ่ยถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเขาเจ้าก็จะคิดถึงเขา คิดว่าเวลานี้เขากำลังทำอะไรอยู่ จะคิดถึงตัวเองบ้างหรือไม่ แม้แต่ตอนนอนก็คิดถึง…สิ่งที่เฝ้าคะนึงหาอยู่ในใจและที่ปรากฏอยู่ในห้วงความคิด ล้วนเป็นเขาทั้งหมด…ขอเพียงได้คิดว่าเขายังอยู่ที่เมืองจินหลิง ใจของข้าก็รู้สึกว่ามีที่พึ่ง รู้สึกปลอดภัย…ขอเพียงได้พบเขา ต่อให้ข้าจะต้องทำตัวลับๆ ล่อๆ ประหนึ่งหัวขโมย ทำในสิ่งที่ข้าดูหมิ่นและไม่ชอบที่สุดก็ตาม ข้าก็ยินดียอมรับความยากลำบากเหล่านั้น…ความรู้สึกชอบประเภทนี้ เติบโตมาขนาดนี้นี่นับเป็นครั้งแรก ไม่เคยรู้สึกกับผู้ใดมาก่อน…และต่อไปก็คงไม่อาจมีให้ใครได้อีกแล้ว…

…ดังนั้นตอนอยู่ที่หอชิงเยียน พอข้ารู้ว่าเขาอยู่ข้างๆ ข้าก็ไม่อาจยับยั้งตัวเองเอาไว้ได้…

…คิดว่าขอเพียงได้เห็นเขาสักครั้งก็พอ…

…ขอเพียงได้เจอสักครั้ง…

…ขอเพียงได้พูดคุยสักสองสามประโยค…

ตอนที่ 308 รู้สึกตัว 1

ตอนที่ 308 รู้สึกตัว 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน