เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 317

ตกลงเฉิงเจียไปอยู่ที่ไหนกันแน่นะ

ได้ยินฮูหยินผู้เฒ่ากัวกล่าวเช่นนี้แล้ว โจวเสาจิ่นก็รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก

แต่ไหนแต่ไรมาเวลาที่มีเรื่องอะไรเฉิงเจียชอบมาหานางเป็นที่สุด ทว่าคราวนี้กลับไม่สนใจนางเลย เห็นได้ชัดว่าตัดสินใจเอาไว้นานแล้วเพียงแต่กลัวว่าจะสร้างความลำบากให้นาง ดังนั้นจึงทำตัวห่างเหินกับนาง

ช่างเป็นเด็กโง่ผู้หนึ่งจริงๆ!

ในขณะที่ไม่รู้ว่านางหายตัวไปไหน ตนจะยืนดูอยู่ข้างๆ โดยไม่ทำอะไรเลยได้อย่างไรเล่า

อย่างไรก็ตาม ถ้อยคำของฮูหยินผู้เฒ่ากัวก็มีเหตุผลเหมือนกัน

สุดท้ายแล้วเรื่องของเฉิงเจียกับหลี่จิ้งก็เป็นเรื่องที่น่าอับอายขายหน้าเรื่องหนึ่ง บางทีเจียงซื่อก็ไม่อยากให้ผู้อื่นรู้มากนักก็เป็นได้ โดยเฉพาะตนเอง ที่ตั้งแต่เล็กก็ถูกนำมาเปรียบเทียบกับเฉิงเจีย ตอนนี้เฉิงเจียเกิดเรื่องขึ้นมาเช่นนี้ กลัวแต่ว่าสิ่งที่เจียงซื่อหวาดกลัวมากที่สุดก็คือตนเอง

โจวเสาจิ่นบอกที่พำนักก่อนหน้านี้ของหลี่จิ้งให้ฮูหยินผู้เฒ่ากัวทราบ แล้วกล่าวว่า “แม้จะบอกให้รอท่านลุงใหญ่หลูกับท่านป้าใหญ่หลูมาถึงแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรถึงจะดีที่สุด แต่พี่สาวเจียก็มิใช่คนอื่นคนไกล พวกเราจึงไม่อาจมองดูนางพลาดพลั้งได้ ยิ่งไปกว่านั้นนางไปกับหลี่จิ้งจริงๆ หรือไม่นั้น ก็เป็นเพียงการคาดเดาของพวกเราฝ่ายเดียว ถ้าหากไม่ได้เป็นอย่างนั้นเล่า ข้าคิดว่าหากจะจับโจรพวกเราควรจะจับหัวหน้าโจรก่อน ตรงไปหาหลี่จิ้งเลยจะดีกว่า ถ้าหากพี่สาวเจียไปกับหลี่จิ้งจริง พวกเขาคงจะเพิ่งวางแผนขึ้นมาเป็นแน่ อาจจะพบเบาะแสบางอย่างจากโรงเตี๊ยมหรือร้านขายของชำเหล่านั้นได้ไม่มากก็น้อย แต่ถ้าหากว่าพี่สาวเจียไม่ได้ไปกับหลี่จริง เกรงว่าทางนี้คงจะต้องค้นหากันทั่วทั้งภูเขาเสียแล้วเจ้าค่ะ…”

ถึงเวลานั้นก็ค้นหากันจนเสียงดังวุ่นวายเสียแล้ว

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวเห็นแววตาของโจวเสาจิ่นแล้วก็รู้สึกชื่นชมนางมากขึ้นอีกส่วนหนึ่ง กล่าวขึ้นว่า “แผนการนี้ของเจ้าไม่เลว! เช่นนั้นก็ทำตามแผนของเจ้าแล้วกัน!”

โจวเสาจิ่นตะลึงงัน

นางเพียงกล่าวสิ่งที่คิดอยู่ในใจออกมาเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าบุคคลเช่นฮูหยินผู้เฒ่ากัวนอกจากจะไม่กล่าวหาว่านางพูดจาไร้สาระแล้ว ยังเตรียมจะทำตามแผนการที่นางบอกไปอีกด้วย

นะ…นี่…นางเกิดมาเป็นคนสองชาติภพ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนให้ความสำคัญกับถ้อยคำของนางเช่นนี้!

จู่ๆ นางก็เป็นกังวลถึงผลได้ผลเสียขึ้นมา กล่าวขึ้นอย่างตะกุกตะกักว่า “ฮะ…ฮูหยินผู้เฒ่าเจ้าคะ ข้ายังด้อยความรู้และประสบการณ์ คำพูดที่กล่าวออกไปอาจจะใช้ไม่ได้…”

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวยิ้มน้อยๆ พลางตัดบทสนทนาของโจวเสาจิ่น กล่าวขึ้นว่า “มีใครบ้างที่ไม่ได้เริ่มต้นมาจากศูนย์ แผนการนี้ของเจ้าล้วนขบคิดได้อย่างละเอียดรอบคอบ อย่างไรก็ไม่เสียหายหากจะลองทำตามแผนของเจ้าดู หากว่าใช้ไม่ได้ เลวร้ายที่สุดก็ค่อยมาตั้งต้นนับหนึ่งกันใหม่” แล้วกล่าวอีกว่า “ถ้าหากเฉิงเจียกับหลี่จิ้งหนีตามกันไปจริงๆ ก็ยังดี อย่างน้อยเฉิงเจียก็ใช้ชีวิตอย่างไร้กังวลได้ กลัวแต่ว่ามันจะเป็นเพียงสิ่งที่พวกเราคาดเดากันไปเองเท่านั้น เช่นนั้นพวกเราจึงต้องระวังเอาไว้สองเรื่อง เรื่องแรกคือเฉิงเจียเดินเตร็ดเตร่อยู่ในวัดแล้วหลงทาง ติดอยู่ที่ไหนสักแห่ง ส่วนเรื่องที่สองคือเฉิงเจียถูกคนมีเจตนาลักพาตัวไป แล้วจะเป็นอันตรายต่อชีวิตและชื่อเสียง สิ่งแรกที่พวกเราต้องทำคือแจ้งพระอาจารย์ซื่อฮุ่ยก่อน เพราะอย่างไรเสียเรื่องก็เกิดขึ้นในวัดกันเฉวียน คนหายตัวไปเช่นนี้ เขาก็ต้องรับผิดชอบ เขาจะต้องอยู่ฝ่ายเดียวกับพวกเราอย่างแน่นอน พวกเราไม่เพียงมีเจ้าถิ่นเป็นผู้ช่วยเท่านั้น ยังไม่ต้องกังวลว่าเขาจะแพร่งพรายเรื่องนี้ให้ผู้อื่นทราบอีกด้วย ประเดี๋ยวจะให้พระอาจารย์ซื่อฮุ่ยหาทางช่วยพวกเราค้นหานาง คำนวณเวลาดูแล้ว พวกเราล่าช้าไปเล็กน้อยแล้ว กลัวแต่ว่าคนร้ายจะพาเฉิงเจียหนีไปไกลแล้ว แต่ไม่ว่าเขาจะหลบหนีไปที่ใด ในพื้นที่รัศมีหลายสิบหมู่นี้ล้วนเป็นพื้นที่ของวัดกันเฉวียน ก็เหมือนอย่างที่เจ้าบอก อาจจะพบเบาะแสบางอย่างก็เป็นได้”

รอให้เฉิงหลูกับเจียงซื่อเร่งรุดมาถึง พวกนางก็คงจัดการไปได้หลายเรื่องแล้ว ทั้งยังมีฮูหยินผู้เฒ่าหลี่เป็นกำบังให้ ต่อให้พวกเขาโมโหขึ้นมาก็ได้แต่โกรธขึ้งฮูหยินผู้เฒ่าหลี่เท่านั้น จะกล่าวโทษพวกนางได้อย่างไร

อย่างไรก็ตาม เสาจิ่นเด็กคนนี้ใสซื่อเกินไป เรื่องพวกนี้ไม่ต้องบอกนางแล้วก็แล้วกัน

รอให้นางโตขึ้นอีกสักหน่อย ผ่านเรื่องราวต่างๆ มากขึ้นแล้วค่อยชี้แนะนางอย่างช้าๆ ก็พอแล้ว!

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวใคร่ครวญอยู่ในใจ

โจวเสาจิ่นรู้สึกซาบซึ้งใจจนน้ำตาคลอเบ้า

นางรู้ว่าฮูหยินผู้เฒ่ากัวกำลังสั่งสอนวิธีการวางตัวและจัดการเรื่องต่างๆ ให้นางอยู่ จึงขานรับอย่างนอบน้อมเชื่อฟัง แล้วประคองฮูหยินผู้เฒ่ากัวออกจากห้องข้าง

ห้องข้างที่เฉิงเจียกับหลี่ซื่อพักอยู่ชุลมุนวุ่นวายจนคล้ายกับเละเป็นโจ๊กหม้อหนึ่งก็ไม่ปาน พวกบ่าวหญิงสูงวัยต่างพากันตื่นตระหนกส่วนพวกสาวใช้ต่างก็พากันร้องห่มร้องไห้ มีบ่าวหญิงที่มากประสบการณ์สองสามคนคอยเกลี้ยกล่อมอยู่ข้างๆ ในทางกลับกันบ่าวรับใช้ที่พามาจากเรือนหานปี้ซานกลับยังคงมีสีหน้าท่าทางที่สงบนิ่งเป็นอย่างมาก ควรจะทำอะไรก็ทำอย่างนั้น สายตาจดจ่อไม่วอกแวก ไม่เหมือนกับบ่าวหญิงและสาวใช้ของจวนสี่สองสามคนนั้น ด้านหนึ่งก็เกลี้ยกล่อมคนของจวนสาม อีกด้านหนึ่งก็มองเหมือนเป็นเรื่องสนุกพลางซุบซิบนินทากันไปด้วย

ยังดีที่ไม่ว่าจะเป็นคนของจวนสามหรือจวนสี่ต่างก็เกรงกลัวฮูหยินผู้เฒ่ากัวยิ่งนัก เมื่อฮูหยินผู้เฒ่ากัวยืนอยู่ที่ระเบียงแล้ว บรรดาบ่าวหญิงและสาวใช้จึงต่างรู้สึกเคร่งเครียดขึ้นมาจนไม่กล้าหายใจ ก้มหน้าหลุบตาไม่กล้าเอื้อนเอ่ยคำใด ทว่าเสียงร้องไห้ของฮูหยินผู้เฒ่าหลี่กับเสียงกระซิบปลอบใจของฮูหยินผู้เฒ่ากวนภายในห้องกลับดังชัดเจนยิ่งขึ้น

โจวเสาจิ่นรู้สึกชื่นชมเหลือเกิน

ไม่แปลกที่ฮูหยินผู้เฒ่ากัวจะบ่มเพาะบุคคลเช่นท่านลุงใหญ่จิงกับท่านน้าฉือออกมาได้

หากว่ามีเด็กให้ฮูหยินผู้เฒ่ากัวช่วยบ่มเพาะ เด็กคนนั้นจะต้องกลายเป็นบุคคลที่มีอนาคตไกลเหมือนท่านลุงใหญ่จิงหรือไม่ก็ท่านน้าฉือได้สักคนหนึ่งอย่างแน่นอน

โจวเสาจิ่นรู้สึกเคารพยกย่องฮูหยินผู้เฒ่ากัวมากยิ่งขึ้น

เห็นเพียงสีหน้าของฮูหยินผู้เฒ่ากัวเคร่งขึ้น กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “นี่ทุกคนทำอะไรกันอยู่ วัดกันเฉวียนกว้างใหญ่ขนาดนี้ คุณหนูเจียหายตัวไป ก็จัดคนไปตามหานางก็ได้แล้ว มัวแต่ทำตัวแตกตื่นกันเช่นนี้ เหมาะสมแล้วหรือ ผู้ใดเป็นมามาหรือสาวใช้ใหญ่คนสนิทของฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้!”

สาวใช้ที่มีอายุประมาณสิบห้าถึงสิบหกปีและมีหน้าตาน่ารักงดงามผู้หนึ่งก้าวออกมาด้วยอาการสั่นเทา กล่าวเสียงค่อยอย่างอกสั่นขวัญแขวนว่า “หลี่มามากับพี่สาวฟางหวาต่างปลอบประโลมฮูหยินผู้เฒ่าหลี่อยู่ในห้องข้างเจ้าค่ะ!”

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวมองสาวใช้คนนั้นทีหนึ่ง แล้วเอ่ยถามขึ้นว่า “เจ้าชื่ออะไร ไปเรียกฟางหวาออกมา”

สาวใช้ผู้นั้นตอบเสียงเบาว่า “บ่าวชื่อเซียงเหวินเจ้าค่ะ บ่าวจะไปเรียกพี่สาวฟางหวาออกมาเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวพยักหน้า สีหน้าสงบลงเล็กน้อย แล้วกระซิบบอกสื่อมามาให้ไปเชิญพระอาจารย์ซื่อฮุ่ยมา และให้พ่อบ้านที่ติดตามมาด้วยเข้ามารอรับคำสั่ง ส่วนบรรดามามาข้างกายให้เตรียมตัวไปช่วยเณรน้อยในวัดค้นหาเฉิงเจีย นอกจากนี้เนื่องจากพอฮูหยินผู้เฒ่าหลี่เห็นเฉิงเจียหายตัวไปก็ตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก จึงรีบส่งคนไปแจ้งเฉิงหลูในทันที ฮูหยินผู้เฒ่ากัวจึงบอกให้สื่อมามาส่งคนไปรอต้อนรับคนที่จะมาจากซอยจิ่วหรูข้างนอกประตูวัดอีกด้วย

สื่อมามารีบออกไปจากลานที่พัก

สาวใช้ที่ชื่อฟางหวาคนนั้นก็ถูกเรียกตัวมาพบฮูหยินผู้เฒ่ากัว

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวมองดูฟางหวาที่ร่ำไห้จนดวงตาบวมแดง พลางกล่าวเสียงเข้มว่า “บางทีหลานเจียแค่ออกไปเที่ยวเล่นจนหลงทางเท่านั้นก็เป็นได้ พวกเจ้าไม่ไปตามหานาง เอาแต่ร้องไห้คร่ำครวญอยู่อย่างนี้นับเป็นเรื่องอะไรกัน ทุกคนจงไปล้างหน้าหวีผมให้เรียบร้อย พวกสาวใช้อยู่ปรนนิบัติฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ ส่วนพวกบ่าวหญิงสูงวัยและบ่าวหญิงที่แต่งงานแล้วประเดี๋ยวให้ทุกคนรอฟังคำสั่งของปี้อวี้ ช่วยกันไปตามหาหลานเจีย!”

ไม่มีใครเชื่อว่าเฉิงเจียจะเอาแต่เล่นสนุกจนหลงทางเลยสักคน แต่มีคนออกหน้าจัดการสถานการณ์วุ่นวายนี้ให้ หนำซ้ำคนผู้นั้นยังเป็นฮูหยินผู้เฒ่ากัวด้วย บ่าวหญิงและสาวใช้เหล่านั้นก็เหมือนมีเสาหลักให้พึ่งพิงคนหนึ่งแล้ว แต่ละคนต่างดึงสติกลับมาแล้วเช็ดหน้าเก็บผมเผ้าของตนเองให้เรียบร้อย พวกที่เป็นเวรยามก็ยืนตัวตั้งตรง ส่วนพวกที่ไม่ได้เป็นเวรยามต่างก็ไปที่ห้องน้ำชาและรอรับคำสั่งต่อไป

ภายในลานจึงมีบรรยากาศของตระกูลใหญ่เล็กน้อย

จวบจนพระอาจารย์ซื่อฮุ่ยรีบเร่งเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด โจวเสาจิ่นก็ตามไปปรนนิบัติอยู่ข้างๆ ฮูหยินผู้เฒ่ากัว

ตอนที่ 317 เสียใจ 1

ตอนที่ 317 เสียใจ 2

ตอนที่ 317 เสียใจ 3

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน