เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 316

โจวเสาจิ่นรู้สึกว้าวุ่นใจยิ่งนัก นางประคองฮูหยินผู้เฒ่ากลับขึ้นเรือนไป

จากนั้นฮูหยินผู้เฒ่ากัวก็หารือกับสื่อมามาถึงเรื่องการไปวัดในวันพรุ่งนี้ว่า “…ปรกติล้วนไปที่วัดกันเฉวียน ครั้งนี้ก็ไปวัดกันเฉวียนเหมือนเดิมก็แล้วกัน แม้จะมีธุระที่ต้องทำนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้เป็นธุระยากนัก ออกเดินทางกันช่วงยามเหม่า[1] หลังจากรับอาหารเจที่นั่นในตอนเที่ยงเรียบร้อยแล้วค่อยกลับมา” จากนั้นก็ให้สื่อมามาไปที่จวนสี่ “ดูว่าฮูหยินผู้เฒ่ากวนกับฮูหยินใหญ่เหมี่ยนอยากจะออกไปทำบุญที่วัดด้วยกันหรือไม่”

สื่อมามายิ้มพลางขานรับว่า “เจ้าค่ะ” แล้วนำความไปแจ้งจวนสี่ด้วยตนเอง

หลายวันมานี้อากาศร้อนระอุเป็นพิเศษ คนงานที่ก่อสร้างเรือนใหม่ให้เฉิงเก้าบางคนเกือบจะเป็นลมแดดกันเลยทีเดียว เฉิงเหมี่ยนจึงให้คนงานเหล่านั้นพักงานชั่วคราวก่อน ฮูหยินผู้เฒ่ากวนไม่มีอะไรทำ แต่ฮูหยินใหญ่เหมี่ยนกลับยุ่งกับการซื้อบ่าวหญิงและสาวใช้เข้าเรือน พอได้ยินแล้วก็ส่งคนไปแจ้งฮูหยินผู้เฒ่ากัวว่า “นายหญิงผู้เฒ่ายินดีที่จะไปด้วย แต่ฮูหยินใหญ่กำลังยุ่งกับเรื่องงานแต่งงานของคุณชายใหญ่เก้าจึงไปด้วยไม่ได้เจ้าค่ะ”

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวตกรางวัลให้บ่าวหญิงสูงวัยผู้นั้น แล้วนัดเวลากับฮูหยินผู้เฒ่ากวน

โจวเสาจิ่นทำเหมือนกับการออกไปเที่ยวเล่น แม้ว่าอยากจะออกไปเที่ยวข้างนอก แต่เนื่องจากขาดเฉิงฉือไปคนหนึ่ง จึงรู้สึกเหมือนกับขาดอะไรบางอย่างไป ขาดความตื่นเต้นดีใจที่ได้ออกไปข้างนอกเล็กน้อย

หลังจากที่นางสวดมนต์เป็นเพื่อนฮูหยินผู้เฒ่ากัวในห้องพระแล้ว ก็เริ่มคัดพระธรรม

เนื่องจากขอให้องค์กวนอิมคุ้มครองเฉิงฉือให้เดินทางปลอดภัย ไม่สู้คัดพระธรรมเพิ่มอีกสักสองสามบทเพื่อแสดงความจริงใจถึงจะถูก

ฮูหยินลอบพยักหน้าเล็กน้อย

เด็กคนนี้ทั้งชาญฉลาดและรู้ความ จริงใจและมีมารยาท…น่าเสียดายจริงๆ!

นางถอนหายใจ แล้วบอกให้ปี้อวี้ปรนนิบัติโจวเสาจิ่น ส่วนตนกลับห้องไปพักผ่อน ให้สาวใช้เด็กนวดขา พลางครุ่นคิดไปเรื่อยเปื่อย

ตกบ่าย ชุ่ยหวนมาหาโจวเสาจิ่น บอกว่าได้รับคำสั่งจากเฉิงเจีย ให้มาเชิญโจวเสาจิ่นไปเป็นแขกในวันพรุ่งนี้

โจวเสาจิ่นรู้ว่านี่คือการที่เฉิงเจียต้องการขอบคุณนางที่ช่วยส่งจดหมายไปให้หลี่จิ้ง นางจึงยิ้มพลางปฏิเสธไปว่า “…พรุ่งนี้ข้าต้องไปถวายธูปที่วัดเป็นเพื่อนฮูหยินผู้เฒ่ากัว!”

ชุ่ยหวนรู้สึกผิดหวังยิ่งนัก

เพื่อมาเชิญโจวเสาจิ่นแล้วเฉิงเจียเปลืองแรงไปไม่น้อย ไม่คาดคิดว่าจะตรงกับธุระของฮูหยินผู้เฒ่ากัวพอดี น่าเสียดายยิ่งนัก

นางออกจากเรือนหานปี้ซานไปอย่างไม่มีทางเลือก

โจวเสาจิ่นไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ ครุ่นคิดว่ารออีกสองวันให้ตนมีเวลาว่างแล้วค่อยไปหาเฉิงเจียก็ยังไม่สาย

ใครจะรู้ว่าดวงอาทิตย์ยังไม่ทันตกถึงดิน ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ก็มาหาด้วยตนเอง บอกว่าอยากจะไปถวายธูปที่วัดกันเฉวียนกับฮูหยินผู้เฒ่ากัวด้วย

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวรู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก

ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่กล่าวขึ้นอย่างขัดเขินว่า “นี่ก็ทำเพื่อหลานเจีย เจียงซื่อกับเจ้าหลานคนนี้ทะเลาะกันทุกสองสามวัน เจ้าหลานคนนี้ถูกบีบคั้นจนหมดหนทาง วิ่งไปร้องห่มร้องไห้ต่อหน้าข้าทั้งบ่าย ข้าคิดว่าปล่อยให้เป็นเช่นนี้บ่อยๆ ไม่ได้ บังเอิญได้ยินว่าท่านจะไปทำบุญที่วัดกันเฉวียน จึงอยากจะพาเจ้าหลานคนนี้ไปผ่อนคลายจิตใจด้วย ทั้งยังได้คุยเล่นกับเสาจิ่นอีกด้วย”

อย่างไรก็ตามช่วงหน้าร้อนอากาศร้อนยิ่งนัก หนำซ้ำก็ไม่มีเรื่องอะไรให้ทำเช่นกัน ฮูหยินผู้เฒ่ากัวจึงตอบตกลงไปอย่างไม่ได้ใส่ใจมากนัก

ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่บ่นเรื่องของเจียงซื่อไปพักหนึ่ง จากนั้นถึงได้กลับไป

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่เห็นด้วย พร้อมกับกล่าวว่า “สุดท้ายก็เป็นหลานจากบ้านเดิมของตนเอง เจียงซื่อไม่ยอมลงให้เช่นนี้ นางจึงรู้สึกเสียหน้าไปด้วย ดังนั้นถึงได้จะพาเฉิงเจียไปถวายธูปที่วัดกับพวกเราด้วยกระมัง!”

เรื่องเช่นนี้ใครจะกล้าตอบเล่า

ยังคงเป็นปี้อวี้ที่ใจกล้า ยิ้มพลางเปลี่ยนหัวข้อสนทนาว่า “ฮูหยินผู้เฒ่าเจ้าคะ เป็นไปได้ว่านายหญิงผู้เฒ่าของจวนสามอาจจะนั่งรถม้าคันเดียวกับคุณหนูเจีย พรุ่งนี้ท่านจะนั่งรถม้าไปกับคุณหนูรองหรือฮูหยินผู้เฒ่ากวนเจ้าคะ”

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวยิ้มน้อยๆ พลางกล่าวว่า “ข้านั่งรถม้าไปกับฮูหยินผู้เฒ่ากวนดีกว่า! พรุ่งนี้มีหลานเจียไปด้วย ไม่แน่ว่าจะเล่นซุกซนอะไรอีก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะมานั่งรถม้าคันเดียวกับเสาจิ่นเลย”

นี่ก็มิใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้!

ปี้อวี้เม้มปากกลั้นยิ้ม

วันรุ่งขึ้นทุกคนมาพบกันที่ประตูชั้นในช่วงยามเหม่า ฮูหยินผู้เฒ่ากัวกับฮูหยินผู้เฒ่ากวนนั่งรถม้าไปด้วยกัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่กับเฉิงเจียนั่งรถม้าไปด้วยกัน ส่วนโจวเสาจิ่นกลับถูกทิ้งให้นั่งไปคนเดียว

ไม่ต้องพูดถึงโจวเสาจิ่น แม้แต่ฮูหยินผู้เฒ่ากัวก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง กล่าวขึ้นว่า “วันนี้หลานเจียรู้ความมากทีเดียว!”

เฉิงเจียที่กำลังประคองฮูหยินผู้เฒ่าหลี่อยู่ หน้าแดงเรื่อพลางกล่าวด้วยอาการสำรวมว่า “หายากที่ข้าจะได้ไปวัดเป็นเพื่อนท่านย่าสักครั้งหนึ่ง ฮูหยินผู้เฒ่าอย่าหัวเราะเยาะข้าไปเลยเจ้าค่ะ”

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวพยักหน้าให้อย่างอ่อนโยน แล้วขึ้นรถม้าไปโดยมีโจวเสาจิ่นช่วยประคอง มุ่งหน้าไปที่วัดกันเฉวียน

พระอาจารย์ซื่อฮุ่ยผู้เป็นเจ้าอาวาสของวัดกันเฉวียนออกมาต้อนรับหน้าอุโบสถด้วยตนเอง

เมื่อวานตระกูลเฉิงให้พ่อบ้านเร่งมาตระเตรียมอาหารและที่พักเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว พระอาจารย์ซื่อฮุ่ยเองก็ทราบจุดประสงค์การมาของพวกนางแล้วเช่นกัน รอจนกระทั่งโจวเสาจิ่นหยิบพระธรรมที่คัดเสร็จออกมาม้วนหนึ่งแล้ว เขากล่าวยิ้มๆ อย่างอดไม่ได้ว่า “ลายมือของคุณหนูรองนับวันยิ่งสง่างามและสละสลวย อีกสักสองสามปี ก็คงรับลูกศิษย์ได้แล้ว”

บรรดาคุณหนูจากตระกูลสูงศักดิ์ที่มีชื่อเสียงของเจียงหนาน ส่วนใหญ่ล้วนได้รับการอบรมสั่งสอนจากป้าอาหรือป้าสะใภ้อาสะใภ้กันทั้งสิ้น การบอกว่ารับลูกศิษย์ได้แล้ว ถือเป็นคำชมขั้นสูงสุดแล้ว

โจวเสาจิ่นยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับการได้รับคำชมเชยเช่นนี้ ดวงหน้าของนางขึ้นสีแดงเรื่อพลางกล่าวขอบคุณอย่างถ่อมตนไปหลายประโยค

เนื่องจากพระธรรมที่ฮูหยินผู้เฒ่ากัวถวายในวันสรงน้ำพระในปีนั้นก็เป็นพระธรรมที่โจวเสาจิ่นคัดมา จึงสร้างความประทับใจให้แก่พระอาจารย์ซื่อฮุ่ยเป็นอย่างมาก สองปีมานี้เวลาที่ฮูหยินผู้เฒ่ากัวมาทำบุญที่วัดก็ล้วนเป็นโจวเสาจิ่นที่ติดตามมาเป็นเพื่อนด้วย ความประทับใจที่เขามีต่อโจวเสาจิ่นจึงฝังแน่นยิ่งขึ้น เขาสนทนากับโจวเสาจิ่นสองสามประโยคอย่างสำรวม แล้วไปแลกเปลี่ยนคำทักทายกับฮูหยินผู้เฒ่ากัวและคนอื่นๆ

โจวเสาจิ่นเห็นเฉิงเจียยืนอยู่ตรงกันข้ามนางอย่างพินอบพิเทา ก็ให้รู้สึกแปลกใจยิ่งนัก

เฉิงเจียไม่เคยทนฟังเรื่องเช่นนี้ได้เลยสักครั้ง เหตุใดวันนี้ถึงได้ทำตัวสงบเสงี่ยมเพียงนี้เล่า

นางส่งสายตาให้เฉิงเจีย

ทว่าเฉิงเจียกลับแสร้งทำเป็นไม่เห็น ยืนอยู่เป็นเพื่อนข้างๆ ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่อยู่ตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ

โจวเสาจิ่นรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้อง นึกถึงช่วงก่อนที่เฉิงเจียให้นางช่วยสืบข่าวของหลี่จิ้ง…หรือว่าเรื่องจะแดงขึ้นมาแล้ว? แต่ถ้าหากถูกจับได้แล้วล่ะก็ ทำไมฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ยังจะพานางมาทำบุญที่วัดกันเฉวียนด้วยอีกเล่า

นางให้เสี่ยวถานไปสืบดู

ไม่นานก็ถึงเวลารับมื้อเที่ยง เสี่ยวถานมากระซิบบอกนางว่า “กล่าวกันว่ามีคนมาสู่ขอคุณหนูเจีย ฮูหยินใหญ่หลูพึงพอใจยิ่งนัก ในอีกไม่กี่วันแม่สื่อก็จะมาที่บ้านแล้วเจ้าค่ะ คุณหนูเจียคุกเข่าร้องไห้ฟูมฟายต่อหน้านายหญิงผู้เฒ่าหลี่ นายหญิงผู้เฒ่าหลี่รู้สึกสงสารคุณหนูเจีย จึงพานางออกจากบ้านเพื่อผ่อนคลายจิตใจเจ้าค่ะ”

โจวเสาจิ่นตกใจเป็นอย่างมาก กระซิบถามว่า “รู้หรือไม่ว่าเป็นผู้ใดที่มาสู่ขอพี่สาวเจีย”

ตอนที่ 316 วัดกันเฉวียน 1

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน