หยวนซื่อเป็นสะใภ้ใหญ่ของจวนหลัก โจวเสาจิ่นมาอาศัยอยู่ที่จวนหลัก หยวนซื่อต้องรู้อยู่แล้ว แต่การรู้ประเภทนี้กลับทำให้โจวเสาจิ่นรู้สึกอึดอัดและไม่สบายใจ
นางให้ชุนหว่านนำปิ่นไข่มุกที่หยวนซื่อให้มาไปเก็บไว้อีกที่หนึ่ง เตรียมเอาไว้สำหรับมอบเป็นรางวัลให้ผู้อื่น
เนื่องจากคุณหนูของตระกูลกู้มีอายุไล่เลี่ยกันหลายคน เฉิงอี้เองก็ไม่เด็กแล้ว ตระกูลเฉิงและตระกูลกู้ทั้งสองตระกูลจึงเชิญคนที่เกี่ยวกับข้องกับงานแต่ง ตรวจสอบดวงชะตา และเริ่มกำหนดเรื่องหมั้นหมายกันอย่างรวดเร็ว
ส่วนฮูหยินใหญ่เหมี่ยนนั้นกลับลากโจวเสาจิ่นไปดูเรือนหลังใหม่ที่สร้างให้เฉิงเก้า ยังชี้ไปยังห้องข้างที่ยังยุ่งเหยิงอยู่หลายห้องนั้นของเรือนหลังใหม่ของเฉิงเก้าพลางกล่าว “สองปีมานี้ได้ปันผลจากร้านตั๋วแลกเงินอวี้ไท่ดีนัก ลุงใหญ่ของเจ้ากับข้าจึงปรึกษากัน ให้ปรับปรุงบริเวณนั้นไปด้วย สำหรับสร้างเรือนใหม่ให้อี้เกอเอ๋อร์ เช่นนี้แล้วพวกเราก็ไม่ต้องปรับปรุงเรือนไปอีกอย่างน้อยห้าสิบปี” กล่าวจบ ทอดถอนใจกล่าวอีกว่า “หวังว่าพวกเขาพี่น้องจะสามัคคีปรองดองกัน ช่วยกันทำให้กิจการของตระกูลรุ่งเรืองยิ่งขึ้น”
ตอนนี้นางวางโจวเสาจิ่นเอาไว้ในตำแหน่งบุตรสาวของตัวเองกลายๆ โจวเสาจิ่นรู้สึกไม่ค่อยสบายใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คิดว่าต่อไปต้องกตัญญูต่อฮูหยินใหญ่เหมี่ยนและฮูหยินผู้เฒ่ากวนให้มากถึงจะถูก ดังนั้นจึงควรจะมาอยู่เป็นเพื่อนฮูหยินใหญ่เหมี่ยนและฮูหยินผู้เฒ่ากวนบ่อยๆ
โจวเสาจิ่นได้ยินแล้วก็กล่าวยิ้มๆ ว่า “ต้องเป็นเช่นนั้นอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ กูที่สิบเจ็ดของตระกูลกู้เป็นคนนิสัยดีมาก พี่สะใภ้เก้าก็เป็นบุตรสาวของตระกูลเหอที่ผูโข่ว ทั้งสองตระกูลล้วนเป็นตระกูลบัณฑิตรู้หนังสือ พวกนางจะต้องเข้ากันได้ดีอย่างแน่นอน ท่านป้าใหญ่รอใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างมีความสุขก็พอแล้วเจ้าค่ะ!”
คำพูดของนางทำให้ใบหน้าของฮูหยินใหญ่เหมี่ยเผยรอยยิ้มออกมา กล่าวขึ้นว่า “ข้าหวังให้เป็นอย่างที่เจ้ากล่าวออกมา ข้าแต่งเข้ามาที่ตระกูลเฉิงหลายปีขนาดนี้ ล้วนใกล้ชิดสนิทสนมกับท่านยายของเจ้ามาโดยตลอด ก็หวังว่าพวกนางจะใกล้ชิดสนิทสนมกับข้าด้วย” กล่าวจบ นางร้อง “อ้อ” เสียงหนึ่ง แล้วกล่าวขึ้นว่า “เสาจิ่น ใกล้จะถึงเทศกาลวันไหว้พระจันทร์แล้ว จวนหลักมีการเตรียมการอะไรหรือไม่ ท่านยายของเจ้าตั้งใจจะรับเจ้ากลับมาฉลองเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ด้วยกันที่เรือนเจียซู่ นางให้ข้ามาถามเจ้าสักหน่อย หากเจ้ามีการเตรียมการอื่นเอาไว้แล้ว พวกเราทางด้านนี้ก็จะจัดงานให้เร็วขึ้นสักวันหนึ่ง ทุกคนจะได้กลับมารวมตัวพร้อมหน้าพร้อมตากัน รอให้ถึงเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ปีหน้า พี่สะใภ้ใหญ่กับพี่สะใภ้รองของเจ้าแต่งเข้ามาแล้ว ก็คงจะเป็นความครึกครื้นอีกแบบหนึ่งแล้ว”
ถึงแม้บุตรสะใภ้จะดี แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้แต่งเข้ามา ยังไม่ได้รู้จักกัน จะเปรียบกับโจวเสาจิ่นที่เติบโตกับตนมาตั้งแต่เล็กๆ ได้อย่างไร
โจวเสาจิ่นกล่าวขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่า กล่าวขึ้นว่า “ฮูหยินผู้เฒ่ากัวอยากจะให้พี่ชายสวี่กลับมาฉลองเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ แต่ท่านน้าฉือกล่าวว่า เทศกาลวันไหว้พระจันทร์นั้นมีเป็นประจำแต่วันเวลานั้นมีไม่มากนัก ให้พี่ชายสวี่ตัดสินใจเอาเอง ฟังจากความหมายของพี่ชายสวี่แล้ว ช่วงเทศกาลวันไหว้พระจันทร์นั้นเขาจะยังคงรั้งอยู่ที่เจ่าหยวน ไม่กลับมาแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่ากัวไม่ได้เจอพี่ชายสวี่มานานแล้ว จึงอยากจะไปฉลองเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ที่เจ่าหยวนเป็นเพื่อนพี่ชายสวี่ ท่านน้าฉือไม่ได้กล่าวอะไร จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีข่าวคราวที่ชัดเจน ข้ากลัวว่าจะเป็นเพราะพวกเขาเป็นห่วงข้า จึงคิดอยู่พอดีว่าอยากจะมาปรึกษาท่านป้าใหญ่ อยากจะมาฉลองเทศกาลวันไหว้พระจันทร์เป็นเพื่อนท่านกับท่านยายเจ้าค่ะ…”
ฮูหยินใหญ่เหมี่ยนดีใจเป็นอย่างยิ่ง กล่าวขึ้นว่า “ข้าจะไปบอกท่านยายของเจ้า ท่านยายของเจ้าทราบแล้วจะต้องดีใจมากเป็นแน่”
โจวเสาจิ่นรีบเอ่ยห้ามนางไว้ก่อนว่า “เรื่องนี้ข้ายังไม่ได้คุยกับฮูหยินผู้เฒ่าและท่านน้าฉือเลยเจ้าค่ะ! รอให้ข้าแจ้งฮูหยินผู้เฒ่ากับท่านน้าฉือก่อน ท่านค่อยบอกท่านยายก็ยังไม่สาย”
“ข้าทราบแล้ว!” ฮูหยินใหญ่เหมี่ยนกล่าวยิ้มๆ “ข้าให้คนไปจองปูกับหอยเป๋าฮื้อที่ร้านอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดตรงสะพานประตูเหนือของเมืองมา เจ้าร่างกายอ่อนแอ กินปูไม่ได้ แต่กินหอยเป๋าฮื้อได้…” จากนั้นลากนางไปดูเรือนหลังใหม่ของเฉิงเก้าอีกกว่าครึ่งค่อนวัน รั้งให้นางอยู่รับมื้อเที่ยงที่เรือนหานชิวแล้วถึงปล่อยนางกลับ
เนื่องจากโจวเสาจิ่นยังเป็นกังวลเรื่องเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ตอนบ่ายจึงไปคุยกับฮูหยินผู้เฒ่ากัว
ใครจะรู้ว่าฮูหยินผู้เฒ่ากัวกลับกล่าวยิ้มๆ ว่า “น้าฉือของเจ้าให้ข้าไปอยู่เป็นเพื่อนเจียซ่านที่เจ่าหยวน เขาจะอยู่ฉลองเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ที่จวน แต่ข้าจะทิ้งเขาไว้ที่เรือนหานปี้ซานเพียงลำพังได้อย่างไร บวกกับเจียซ่านเองก็ใกล้จะต้องลงสนามสอบแล้ว ไม่ใช่เวลาจะไปรบกวนเขาจริงๆ ข้าคิดไปคิดมา จึงตัดสินใจว่าจะรั้งอยู่ที่นี่ฉลองเทศกาลวันไหว้พระจันทร์เป็นเพื่อนน้าฉือของเจ้า ในเมื่อยายของเจ้าจะรับเจ้าไปฉลองเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ข้าว่าไม่สู้พวกเราทั้งสองครอบครัวมาฉลองวันไหว้พระจันทร์ด้วยกันดีกว่า ข้าจะเชิญยายของเจ้าเอง ทุกคนมาสนุกสนานกัน ก็ครึกครื้นไม่น้อย!”
เมื่อก่อนฮูหยินผู้เฒ่ากัวชื่นชอบความเงียบสงบ
ที่อยู่ฉลองวันไหว้พระจันทร์ที่ซอยจิ่วหรูในครั้งนี้ โดยมากก็คงเป็นเพราะนางกระมัง!
โจวเสาจิ่นรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก ไปบอกฮูหยินผู้เฒ่ากวน
ฮูหยินผู้เฒ่ากวนอารมณ์เบิกบาน กล่าวยิ้มๆ ว่า “ข้าว่าเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน วันที่สิบสี่เดือนแปดทุกคนมาที่เรือนเจียซู่ ส่วนวันที่สิบห้าเดือนแปดพวกเราไปที่เรือนหานปี้ซาน จะได้สนุกสนานกันทั้งสองวัน!”
โจวเสาจิ่นย่อมดีใจเป็นอย่างมาก
เฉิงฉือเองก็ไม่ได้ว่าอะไร
เรื่องนี้จึงกำหนดตามนี้
กระทั่งวันที่สิบสี่เดือนแปดพวกนางไปที่เรือนเจียซู่ โจวเสาจิ่นอยู่คุยเรื่องสัพเพเหระเป็นเพื่อนฮูหยินผู้เฒ่ากัว ฮูหยินผู้เฒ่ากวนและฮูหยินใหญ่เหมี่ยน ส่วนเฉิงเหมี่ยน เฉิงฉือ เฉิงเก้าและเฉิงอี้นั่งล้อมวงอยู่อีกโต๊ะถกเรื่องทั่วไปที่เกิดขึ้นในช่วงนี้
ตอนแรกโจวเสาจิ่นยังเป็นกังวลว่าเฉิงฉือจะนิ่งเงียบ คิดไม่ถึงว่าเฉิงฉือจะพูดคุยอย่างรื่นไหล อีกทั้งยังมีอารมณ์ขัน เย้าแหย่จนทุกคนต่างหัวเราะกันไม่หยุด
แรกเริ่มนางเองก็หัวเราะตามไปด้วยจนน้ำตาเกือบจะเล็ดออกมา ต่อมาเงียบงันลงเล็กน้อย
ท่านน้าฉือดีเพียงนี้ กลับถูกลิขิตให้นางกับเขาไร้วาสนาต่อกัน
ถูกลิขิตให้เป็นคนที่ต่อให้นางยอมลดตัวต่ำจนถึงดินก็ยังทำได้แค่มองอยู่ไกลๆ เท่านั้น
วันต่อมาคนจากจวนสี่มาฉลองวันไหว้พระจันทร์ที่จวนหลัก ตอนที่ทุกคนมานั่งชมจันทร์และกินขนมไหว้พระจันทร์ในสวนนั้น ไม่รู้เหตุใดจู่ๆ ก็พูดถึงเรื่องงานแต่งของเฉิงเก้าขึ้นมา
เฉิงฉือได้ยินแล้วก็กล่าวยิ้มๆ ว่า “เสาจิ่นเองก็ถึงเวลาต้องเรียนรู้เรื่องการจัดการงานบ้านงานเรือนแล้ว เรื่องจัดเตรียมงานแต่งนี้ก็เป็นเรื่องที่มีความสำคัญและค่อนข้างซับซ้อน ข้าว่าไม่สู้ให้เสาจิ่นไปช่วยท่าน นางก็จะได้เรียนรู้อะไรไปด้วยพอดี”
ทุกคนต่างเห็นดีเห็นงามด้วย
โจวเสาจิ่นมองไปที่เฉิงฉืออย่างซาบซึ้งใจครั้งหนึ่ง
เช่นนี้เมื่อเฉิงสวี่สอบเสร็จแล้ว นางก็จะได้หลบเลี่ยงเฉิงสวี่ได้พอดี
***
ผ่านพ้นเทศกาลวันไหว้พระจันทร์แล้ว ตระกูลเฉิงก็ไปส่งสินสอดที่ตระกูลกู้
โจวเสาจิ่นเองก็ตามไปด้วย นางกับกูที่สิบแปดและกูที่ยี่สิบพากันกล่าวหยอกเย้ากูที่สิบเจ็ดไปยกใหญ่ เมื่อกลับมาถึงเรือนหานปี้ซานกลับพบว่าหยวนซื่อกลับมาแล้ว ปิดประตูคุยกับฮูหยินผู้เฒ่ากัวอยู่พอดี

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน