เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 462

“นี่​ก็​จริง​!” สือ​ควน​กล่าว​ยิ้ม​ๆ “ได้ยิน​ว่า​หยาง​โซ่ว​ซาน​โยกย้าย​แรงงาน​ไป​หนึ่ง​แสน​คน​ เตรียม​จะขุด​ลอก​แม่น้ำเหลือง​ หาก​น้อง​จื่อ​ชวน​ออกจาก​สำนัก​ข้าหลวง​ฝ่ายจัดการ​น้ำ​ในเวลานี้​ เกรง​ว่า​จะไม่ค่อย​สมเหตุสมผล​นัก​”

เฉิงฉือ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “แรงงาน​หนึ่ง​แสน​คน​เป็นเรื่อง​ที่​โยกย้าย​กัน​ได้​ง่าย​ขนาด​นั้น​เชียว​หรือ​ นอกจากนี้​ถึงแม้ฤดูหนาว​ปี​นี้​จะหนาวเย็น​ ทว่า​เป็น​ปี​อธิกมาส​เดือน​สี่ เกรง​ว่า​ฤดูใบไม้ผลิ​จะมาถึงเร็ว​ แรงงาน​หนึ่ง​แสน​คน​ยัง​ไป​ไม่ถึงแม่น้ำเหลือง​ ก็​ใกล้​จะถึงฤดู​หว่าน​ไถแล้ว​…”

สือ​ควน​ได้ยิน​แล้​วอด​ขมวดคิ้ว​มุ่น​ไม่ได้​ กล่าว​ขึ้น​ว่า​ “คิดไม่ถึง​ว่า​เจ้าจะเข้าใจ​การคำนวณ​ปฏิทิน​ด้วย​!”

“เป็น​เพียง​งานอดิเรก​เท่านั้น​ขอรับ​!” เฉิงฉือ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ อย่าง​ไม่ใส่ใจนัก​ “แล้วก็​ไม่ได้​คำนวณ​ได้​แม่นยำ​อะไร​เท่าไร​นัก​”

สือ​ควน​กล่าว​ “น้อง​จื่อ​ชวน​อยาก​เอา​ตัวเอง​ออก​มาจาก​เรื่อง​นี้​หรือไม่​”

“มิใช่ว่า​อยาก​เอา​ตัวเอง​ออกมา​หรอก​ขอรับ​” เฉิงฉือ​ริน​สุรา​ให้​สือ​ควน​อีก​จอก​หนึ่ง​ พลาง​กล่าว​ “เนื่องจาก​ข้า​ได้รับ​การ​ฝากฝัง​จาก​ขุนนาง​ใหญ่​ซ่ง อย่างไร​ก็​ไม่อาจ​ทำให้​เขา​เสียน้ำใจ​ใน​ครั้งนี้​ได้​ เพียงแต่ว่า​หยาง​โซ่ว​ซาน​เพิ่งจะ​มารับงาน​ต่อ​จาก​กู๋​จิ่งอวี้​ อยาก​จะสร้าง​บรรยากาศ​ใหม่​ๆ ขึ้น​มา ค่อนข้าง​รีบร้อน​เกินไป​เล็กน้อย​ ซึ่งมิใช่ช่วงเวลา​ที่​ดี​นัก​ ข้า​จึงอยาก​จะหลบเลี่ยง​ทิศทาง​ลม​นี้​สักหน่อย​ก็​เท่านั้น​”

ความหมาย​โดยนัย​ก็​คือ​ หยาง​โซ่ว​ซาน​ผู้​นี้​ดื้อรั้น​หัวแข็ง​ ไม่ดูแล​การ​ขุด​ลอก​แม่น้ำเหลือง​ใน​ครั้งนี้​ให้​ดี​

สือ​ควน​ครุ่นคิด​ กล่าว​ขึ้น​ว่า​ “มิใช่ว่า​ขุนนาง​ใหญ่​หยวน​เป็น​ญาติ​ของ​พวก​เจ้าหรอก​หรือ​ เจ้าลอง​เดิน​อยู่​ใน​เส้นสาย​ของ​ขุนนาง​ใหญ่​หยวน​ดู​ก็ได้​นี่​นา​!”

เฉิงฉือ​ยิ้ม​ขื่น​ กล่าว​ขึ้น​ว่า​ “ขุนนาง​ใหญ่​หยวน​ไม่ลงรอย​กับ​ขุนนาง​ใหญ่​ซ่งขอรับ​!”

สือ​ควน​ได้ยิน​แล้ว​สีหน้า​ดู​ไร้​ทางออก​เล็กน้อย​เช่นกัน​ ครุ่นคิด​ครู่หนึ่ง​ กล่าว​ขึ้น​ว่า​ “หรือไม่​ ข้า​ช่วย​เป็น​ด้าย​ประสาน​ให้​เจ้าสัก​เส้น​ดี​หรือไม่​ หวัง​จ้วน​รอง​เจ้ากรม​ขุนนาง​กับ​ข้า​เคย​ติดต่อกัน​อยู่​บ้าง​ มิสู้ไปหา​เขา​ดู​ หา​ข้ออ้าง​หนึ่ง​โยกย้าย​เจ้ากลับมา​ก่อน​ รอ​ให้​ถึงฤดูใบไม้ผลิ​ งาน​ที่​แม่น้ำเหลือง​ก็​เหลือ​ไม่มาก​แล้ว​ เจ้าค่อย​ไป​จี่หนิง​ตอนนั้น​ก็​ยัง​ไม่สาย​ อย่างไร​เสีย​เจ้าก็​ได้รับแต่งตั้ง​ให้​เป็น​ที่ปรึกษา​ฝ่ายจัดการ​น้ำ​กรม​โยธา​ ก็​เป็น​อะไร​ที่​สมเหตุสมผล​” กล่าวถึง​ตรงนี้​ เขา​ตบ​หน้าผาก​ตัวเอง​แรง​ๆ ครั้งหนึ่ง​ กล่าว​ขึ้น​ว่า​ “ข้า​นึกออก​แล้ว​ หลาย​ปี​มานี้​ดอกบัว​ที่​ราช​อุทยาน​หลวง​ไท่เย่ฉือ​ล้วน​บาน​ได้​ไม่ค่อย​ดี​นัก​ คน​ของ​สำนัก​ดูแล​พระราชวัง​ให้​คน​ของ​ฝ่าย​จัดสรร​และ​ดูแล​ทิวทัศน์​ไปดู​แล้ว​ บอ​กว่า​ต้อง​ทำความสะอาด​ องค์​ฮ่องเต้​ทรง​เตรียม​จะให้​กรม​โยธา​มาเป็น​ผู้รับผิดชอบ​งาน​นี้​ ข้า​ว่า​เจ้ามิสู้ใช้โอกาส​นี้​เป็น​ข้ออ้าง​กลับ​เมืองหลวง​มาจัดการ​เรื่อง​นี้​สัก​ครั้งหนึ่ง​” ขณะที่​กล่าว​ เขา​ก็​กด​เสียงต่ำ​ลง​ เอ่ย​ว่า​ “อาจจะ​ทรง​ให้​องค์​รัชทายาท​มาควบคุม​ดูแล​ และ​ให้​พระ​ราช​นัดดา​พระองค์​โตมา​เป็น​ผู้ช่วย​”

เฉิงฉือ​มิสนใจ​

นับตั้งแต่​ที่​รู้​ว่า​ชาติก่อน​ตระกูล​เฉิงถูก​องค์​ฮ่องเต้​สั่งลงทัณฑ์​ทั้ง​ตระกูล​เป็นต้นมา​ ใน​ใจของ​เขา​ก็​อัด​แน่น​ไป​ด้วย​ความขุ่นเคือง​หนึ่ง​มาโดยตลอด​

ตระกูล​เฉิงไม่มีทาง​คิดคด​เป็น​กบฏ​ได้​

องค์​ฮ่องเต้​ทำให้​ตระกูล​เฉิงไร้​ผู้สืบทอด​สกุล​ นั่น​เป็นเรื่อง​ไม่ถูกต้อง​

เขา​กล่าว​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “หลัก​ๆ แล้ว​ข้า​เพียง​อยาก​จะหลีกเลี่ยง​การ​ขุด​ลอก​แม่น้ำเหลือง​ใน​ครั้งนี้​เท่านั้น​ ส่วน​เรื่อง​อื่น​ข้า​ไม่ได้คิด​อะไร​มาก​ขนาด​นั้น​”

สือ​ควน​มอง​สำรวจ​เฉิงฉือ​อย่าง​ละเอียด​ รู้สึก​ว่า​เขา​ไม่ผิด​จาก​ที่​เคย​ได้ยิน​มาจริงๆ​ รู้สึก​ยกย่อง​ชื่นชม​อยู่​ใน​ใจเป็น​อย่างยิ่ง​ กล่าว​ขึ้น​ว่า​ “น้อง​จื่อ​ชวน​ช่างเป็น​ผู้ทรง​คุณธรรม​จริงๆ​”

เฉิงฉือ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “ผู้ทรง​คุณธรรม​กับ​ผู้​ไร้​คุณธรรม​ก็​ห่าง​กัน​เพียง​หนึ่ง​เส้น​บาง​ๆ กั้น​เท่านั้น​ เวลานี้​ข้า​ปรารถนา​จะให้​เวลา​กับ​ที่​บ้าน​ จึงเป็นธรรมดา​ที่จะ​ได้​เป็น​ผู้ทรง​คุณธรรม​ แต่​ถ้าเวลานี้​ข้า​อยาก​จะให้​หน้าที่​การงาน​ราบรื่น​ คง​ไม่แคล้ว​ได้​เป็น​ผู้​ไร้​คุณธรรม​ไป​แล้ว​!”

สือ​ควน​ชื่นชม​เป็น​อย่างยิ่ง​ ยก​จอก​สุรา​ขึ้น​แสดง​ความนับถือ​ต่อ​เฉิงฉือ​ กล่าว​ขึ้น​ว่า​ “น้อง​จื่อ​ชวน​มีจิตใจ​กว้างขวาง​ ข้า​เทียบ​ไม่ได้​จริงๆ​ เรื่อง​กลับ​เข้า​เมืองหลวง​ของ​เจ้า ก็​ปล่อย​ให้​เป็น​หน้าที่​ของ​ข้า​ก็แล้วกัน​”

น้ำเสียง​การ​พูด​ดู​มั่นใจ​ยิ่งนัก​

แววตา​ของ​เฉิงฉือ​สว่าง​วาบ​ นั่ง​อยู่​ที่​ร้านเหล้า​เล็ก​ๆ ท้าย​ซอย​แห่ง​นั้น​กับ​สือ​ควน​ไป​เกือบจะ​หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​ ดื่ม​และ​พูดคุย​กัน​จน​ลิ้นพัน​กัน​เล็กน้อย​แล้ว​ ถึงได้​นำ​เอา​สุรา​ที่​เหลืออยู่​ทั้งสอง​ขวด​มอบให้​สือ​ควน​ทั้งหมด​ ทั้งสอง​คน​เดิน​เรียงหน้า​คน​หนึ่ง​หลัง​คน​หนึ่ง​ออก​มาจาก​ร้านเหล้า​เล็ก​ๆ แห่ง​นั้น​ สือ​ควน​นั่ง​เกี้ยว​ออก​ไป​จาก​หน้า​ประตู​ ส่วน​เฉิงฉือ​ขึ้น​รถม้า​คัน​หนึ่ง​ที่​จอด​อยู่​ไม่ไกล​จาก​ท้าย​ซอย​แห่ง​นั้น​ แต่​เมื่อ​เขา​ขึ้น​มาบน​รถม้า​แล้ว​ แววตา​ที่​ดู​เมามาย​เล็กน้อย​นั้น​ก็​พลัน​กระจ่าง​ใสขึ้น​มาในทันที​ สั่งการ​ไหว​ซาน​ที่​รอ​อยู่​ใน​รถม้า​เป็นเวลา​นาน​นั้น​ให้​เตรียม​กระดาษ​และ​หมึก​ นั่ง​เขียนจดหมาย​แผ่น​หนึ่ง​อยู่​บน​รถม้า​แล้ว​ส่งให้​ไหว​ซาน​ ให้​เขา​นำ​ไป​ส่งให้​โจว​เสาจิ่น​

ไหว​ซาน​ไม่กล้า​ชักช้า​ ถือ​กระดาษ​ไป​ที่​ซอ​ยอ​วี๋เฉียน​อย่าง​รีบร้อน​ นำ​ไป​ส่งให้​ซางมามา

โจว​เสาจิ่น​เปิด​ออก​อ่าน​ครั้งหนึ่ง​ เฉิงฉือ​ถามนาง​ว่า​รู้จัก​หวัง​จ้วน​หรือไม่​ ท้ายที่สุด​แล้ว​คน​ผู้​นี้​ได้​ดำรงตำแหน่ง​อะไร​

นาง​ครุ่นคิด​อย่าง​ละเอียด​ บอก​เฉิงฉือ​ไป​ว่า​ หลังจากที่​ฮ่องเต้​พระองค์​ใหม่​เถลิง​ราชย์​แล้ว​ หวัง​จ้วน​ก็ได้​เข้า​ดำรงตำแหน่ง​แทน​ชวี​หยวน​ผู้​เป็น​เจ้ากรม​โยธา​และ​ที่ปรึกษา​ประจำ​พระที่นั่ง​จิ่นเซินคน​ก่อน​อย่าง​รวดเร็ว​ ขึ้น​มาเป็นสมาชิก​ราชเลขาธิการ​และ​ที่ปรึกษา​ระดับสูง​คน​ใหม่​ใน​ราชสำนัก​ ส่วน​บุตรชาย​ของ​เขา​ถูก​ดึง​ตัว​จาก​สำนัก​ฮั่น​หลิน​ไป​เป็น​หัวหน้า​ฝ่าย​ดูแล​ทรัพย์สิน​ยศ​ขั้น​ห้า​ล่าง​ มีครั้งหนึ่ง​ที่​หลิน​ซื่อ​เซิ่งและ​ผู้อื่น​เคย​รับงาน​ของ​พิธี​ล่าสัตว์​ด้วยกัน​ครั้งหนึ่ง​ ตอน​วาง​ใบเสร็จ​คิด​ค่าใช้จ่าย​ต้อง​ไปหา​บุตรชาย​ของ​หวัง​จ้วน​เพื่อ​ประทับตรา​ ด้วยเหตุนี้​ยัง​ส่งสร้อย​ไข่มุก​ที่​มุก​แต่​ละเม็ด​มีขนาดใหญ่​เท่า​นิ้วโป้ง​สองชั้น​ไป​ให้​เส้น​หนึ่ง​ด้วย​ ตอนนั้น​เอง​นาง​ถึงได้​รู้​ว่า​หัวหน้า​ฝ่าย​ดูแล​ทรัพย์สิน​คือ​บุตรชาย​ของ​หวัง​จ้วน​ นอกจากนี้​ หลังจากที่​ตระกูล​เฉิงถูก​สั่งตรวจสอบ​แล้ว​นั้น​ เลี่ยว​เส้าถังเคย​ไป​ขอร้อง​หยวน​เหวย​ชาง แต่​ถูก​เขา​ปฏิเสธ​ คล้าย​กับ​ว่า​เหตุผล​ที่​ปฏิเสธ​จะบอกเป็นนัย​ว่า​เขา​มิได้​เป็นที่​โปรดปราน​ของ​องค์​ฮ่องเต้​แล้ว​ หวัง​จ้วน​อาจจะ​ได้​ขึ้น​เป็น​หัวหน้า​ราชเลขาธิการ​ ตัว​เขา​เอง​ก็​ไร้​อำนาจ​จะปกป้อง​ตัวเอง​เช่นกัน​

เฉิงฉือ​ได้รับ​กระดาษ​แล้วก็​แสยะ​ยิ้ม​เย็น​

ฝ่าย​ดูแล​ทรัพย์สิน​นั้น​รับผิดชอบ​ดูแล​ทรัพย์สมบัติ​ของ​พระราชวัง​ เครื่องรางของขลัง​ และ​ตราประทับ​ ส่วน​กรม​โยธา​รับผิดชอบ​ดูแล​กำแพงเมือง​การ​ขุด​ลอก​คู​คลอง​ การ​ก่อสร้าง​ซ่อมแซม​ ช่างฝีมือ​กองทหาร​รักษาการณ์​ และ​แม่น้ำ​คู​คลอง​ต่างๆ​ ทั่ว​ใต้​หล้า​…กรม​โยธา​ทำงาน​เสร็จ​แล้ว​ ต้อง​ไป​ประทับตรา​ที่​ฝ่าย​ดูแล​ทรัพย์สิน​ จากนั้น​ถึงค่อย​ไป​วาง​ใบเสร็จ​คิดเงิน​กับ​กรม​การคลัง​ บิดา​ควบคุม​ดูแล​กรม​โยธา​ บุตรชาย​ควบคุม​ดูแล​ตราประทับ​ นี่​ช่างเปรียบ​ได้​กับ​ยื่น​เงิน​ของ​ราชสำนัก​จาก​มือ​ข้าง​ซ้าย​ส่งไป​ให้​มือ​ข้าง​ขวา​เสีย​จริง​ ทุกอย่าง​ล้วน​ขึ้นอยู่กับ​การ​คิด​คำนวณ​ของ​สอง​พ่อ​ลูกคู่​นี้​ทั้งสิ้น​

ถ้าหาก​หวัง​จ้วน​ผู้​นี้​มิใช่คน​ที่​องค์​ชาย​สี่ไว้ใจ​นั่น​ถึงจะเป็นเรื่อง​แปลก​!

เฉิงฉือ​เผา​กระดาษ​ที่​โจว​เสาจิ่น​เขียน​ทิ้ง​ไป​

เขา​ให้​ไหว​ซาน​นำ​ของขวัญ​ล้ำค่า​ไป​เยี่ยม​สือ​ควน​ “…บอ​กว่า​แทน​น้ำใจ​ที่​ช่วยเหลือ​ เรื่อง​งาน​ที่​อุทยาน​หลวง​ตะวันตก​นั้น​ให้​ช่างมัน​เถิด​ ทำให้​ข้า​ได้​กลับมา​พักผ่อน​ที่​เมืองหลวง​สัก​สอง​สามเดือน​ ได้​จัดการ​เรื่อง​งานแต่ง​ให้​แล้วเสร็จ​ได้​พอดี​นั่น​ต่างหาก​ที่​สำคัญ​กว่า​”

เฉิงฉือ​ถึงได้​ไป​อาบน้ำ​เปลี่ยน​อาภรณ์​ เตรียมตัว​ไป​คารวะ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​

ทว่า​ชิงเฟิงกลับ​เข้ามา​รายงาน​ว่า​ “นาย​ท่าน​สี่ นาย​ท่าน​ใหญ่​เวิ่น​ได้ยิน​ว่า​ท่าน​กลับมา​แล้ว​ อย่างไร​ก็​ต้องการ​ขอ​พบ​ท่าน​ให้ได้​ขอรับ​…”

ตอนที่ 462 หยั่งเชิง 1

ตอนที่ 462 หยั่งเชิง 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน