เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 465

ฮูหยิน​ใหญ่​เหมี่ยนอด​ไม่ได้​กอด​โจว​เสาจิ่น​เอาไว้​ด้วย​ความเป็นห่วง​ กระซิบ​ถามนาง​เสียง​เบา​ว่า​ “เจ้าเป็น​อะไร​ไป​ ไม่สบาย​ตรงไหน​หรือเปล่า​”

โจว​เสาจิ่น​สูด​ลม​หายใจเข้า​ยาว​ๆ สอง​ครั้ง​ ถึงได้​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ “อาจ​เป็น​เพราะ​อยู่​ใน​ห้อง​นาน​เกินไป​ ตอนนี้​รู้สึก​เวียน​ศีรษะ​เล็กน้อย​เจ้าค่ะ​”

ฮูหยิน​ใหญ่​เหมี่ยน​พยักหน้า​อย่าง​คน​ที่​คิด​ว่า​น่าจะเป็น​เช่นนั้น​เหมือนกัน​

พวก​นาง​มาจาก​ทางใต้​ ล้วน​ไม่คุ้นชิน​กับ​อากาศ​ของ​ทางเหนือ​ เมื่อ​อยู่​ใน​ห้อง​นาน​เกินไป​จะรู้สึก​หายใจไม่ออก​ ต้อง​ออก​ไป​รับลม​ด้านนอก​ถึงจะดีขึ้น​

นึก​ถึงว่า​เรื่อง​ที่​นาง​ควร​พูด​ก็ได้​พูด​ไป​หมด​แล้ว​ ที่​เหลือ​นาง​ดู​ด้วยตัวเอง​ก็​เข้าใจ​ได้​ ฮูหยิน​ใหญ่​เหมี่ยน​จึงกล่าว​เสียง​เบา​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “เช่นนั้น​เจ้าพักผ่อน​ก่อน​เถิด​! ข้า​จะบอก​ชุน​หว่าน​เอาไว้​สัก​คำ​หนึ่ง​ ให้​พวก​นาง​อย่า​มารบกวน​เจ้า เจ้าดู​ไป​คนเดียว​เงียบๆ​ สัก​ครู่หนึ่ง​ จากนั้น​เก็บ​มัน​ไว้​ใต้​หีบ​พก​เอา​ไป​ด้วย​”

ต่อไป​เมื่อ​มีบุตรสาว​แล้ว​ ก็​จะได้​เอา​ออกมา​ให้​บุตรสาว​ใช้ได้​อีก​

โจว​เสาจิ่นรา​ว​กับ​ได้รับ​การ​พ้น​โทษ​ ลุกขึ้น​เดิน​ออก​ไป​ส่งฮูหยิน​ใหญ่​เหมี่ยน​

ฮูหยิน​ใหญ่​เหมี่ยน​กลับ​ให้​โจว​เสาจิ่น​พักผ่อน​ให้​เร็ว​สักหน่อย​ “อย่า​ปล่อย​ให้​ไม่สบาย​ใน​วัน​งานแต่ง​วันนั้น​เชียว​ เช่นนั้น​คง​วุ่นวาย​เป็นแน่​”

โจว​เสาจิ่นขา​น​รับคำ​ ส่งฮูหยิน​ใหญ่​เหมี่ยน​จนถึง​ม่าน​ประตู​ มอง​ส่งฮูหยิน​ใหญ่​เหมี่ยน​เลิก​ม่าน​ขึ้น​เดิน​ออก​ไป​แล้ว​ ถึงได้​หมุนตัว​กลับ​เข้าไป​ใน​ห้องนอน​ นั่ง​คิด​อะไร​เงียบๆ​ คนเดียว​อยู่​บน​เตียง​

นาง​ควรจะ​ทำ​อย่างไร​ดี​

ควรจะ​บอก​ท่าน​น้า​ฉือ​ดี​หรือไม่​

เมื่อ​ความคิด​วาบ​ผ่าน​ นาง​นึกถึง​ความอบอุ่น​ตอนที่​ท่าน​น้า​ฉือ​กอด​นาง​และ​สีหน้า​อบอุ่น​ของ​ท่าน​น้า​ฉือ​ยาม​กอด​นาง​เอาไว้​ขึ้น​มา…

บางที​นาง​อาจจะ​ทน​ได้​ก็​เป็นได้​?

โจว​เสาจิ่น​อยาก​ไป​ถามพี่สาว​หรือไม่​ก็​เฉิงเจีย​ดู​สักหน่อย​ว่า​ผ่าน​คืน​เข้า​หอ​กัน​อย่างไร​ แต่​ด้วย​ที่​เป็น​คน​หน้าบาง​ เดิน​ไป​ถึงข้าง​กาย​โจว​ชูจิ่น​หลาย​ต่อ​หลายครั้ง​แต่​ก็​พูดไม่ออก​ อีก​ทั้ง​โจว​ชูจิ่น​ก็​วุ่นอยู่กับ​ฮูหยิน​ใหญ่​เหมี่ยน​เรื่อง​จัดแจง​สั่งการ​พวก​บ่าว​รับใช้​ยก​สิน​เจ้าสาว​ของ​นาง​ไป​วาง​บน​ที่​แบกหาม​มงคล​ ทั้ง​ไม่มีเวลา​มาคุย​กับ​นาง​และ​ไม่ได้​สังเกตเห็น​ความผิดปกติ​ของ​นาง​ด้วย​ ส่วน​เฉิงเจีย​นั้น​ยิ่ง​ไม่ต้อง​กล่าวถึง​ เดินทาง​ไป​ที่​ประตู​เฉาหยาง​เรียบร้อย​แล้ว​

กลับเป็น​กู​ที่​สิบ​เจ็ด​ตระกูล​กู้​ที่​สังเกตเห็น​ความผิดปกติ​ของ​นาง​ แต่​นาง​เข้าใจ​ว่า​นั่น​เป็น​เพราะ​โจว​เสาจิ่น​ใกล้​จะได้​เป็น​เจ้าสาว​คน​ใหม่​แล้ว​นั่นเอง​

ก่อนที่​นาง​จะแต่ง​กับ​เฉิงอี้​ ก็​หวาดกลัว​อยู่ไม่สุข​ไป​หลาย​วัน​เหมือนกัน​มิใช่หรือ​

หลังจาก​แต่งงาน​แล้ว​ นึกถึง​ประโยค​ที่ว่า​ ‘ไม่รู้​รสชาติ​อาหาร​ที่​แม่สามีชอบ​ ให้​น้องสาว​สามีลอง​ชิมดูก่อน​’ ขึ้น​มา หัวใจ​ของ​นาง​ก็​ไม่สงบ​ไป​หลาย​วัน​เหมือนกัน​มิใช่หรือ​

กู​ที่​สิบ​เจ็ด​ตระกูล​กู้​เอ่ย​เย้า​โจว​เสาจิ่น​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “เจ้าวางใจ​เถิด​ พวก​ข้า​ไม่ทำ​สิน​เจ้าสาว​ของ​เจ้าหล่น​หาย​อย่าง​แน่นอน​ เจ้ารอ​แต่ง​เข้าไป​อย่าง​สบายใจ​ก็​พอแล้ว​ ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​เห็น​เจ้ามาตั้งแต่​เล็ก​ ไม่อย่างนั้น​ก็​คง​ไม่เลือก​เจ้ามาเป็น​บุตร​สะใภ้หรอก​ คาด​ว่า​นาง​คง​พึงพอใจ​ใน​ตัว​เจ้าไม่น้อย​เลย​ทีเดียว​ ต่อไป​จะมีแต่​คน​มารัก​เจ้าเพิ่มขึ้น​อีก​คน​เท่านั้น​ เจ้าน่ะ​ ทำใจ​ให้​สบาย​อย่าง​เดียว​ก็​พอแล้ว​ รับรอง​ว่า​ไม่มีเรื่อง​อะไร​ผิดพลาด​อย่าง​แน่นอน​”

ทุกคน​ต่าง​หัวเราะ​ออกมา​อย่าง​พร้อมเพรียงกัน​ มอง​โจว​เสาจิ่น​อย่าง​เอื้อ​เอ็นดู​

โจว​เสาจิ่น​ขัดเขิน​จน​ไม่กล้า​เงยหน้า​ขึ้น​มา วิ่งหนี​กลับ​ไป​ที่​ห้อง​ ไหน​เลย​จะกล้า​ไป​พูดถึง​เรื่อง​คืน​เข้า​หอ​อีก​

แต่​ขณะที่​ใจยังมี​ความหวาดกลัว​เล็กน้อย​อยู่​นั้น​ ท่ามกลาง​การ​ส่งสิน​เจ้าสาว​ การ​แต่งหน้า​แต่งตัว​ คำ​เร่งเร้า​เจ้าสาว​ และ​เสียง​อึกทึก​ของ​ผู้คน​นั้น​ นาง​ก็​ถูก​คน​คล้อง​แขน​เดิน​ไป​ยัง​ห้องโถง​ หันไป​โขก​ศีรษะ​ทำความเคารพ​เก้าอี้​มีเท้าแขน​ที่ว่างเปล่า​อยู่​ แล้ว​ถูก​เฉิงอี้​แบก​ขึ้น​หลัง​ไป​ส่งขึ้น​เกี้ยว​มงคล​

ท่ามกลาง​เสียง​ประทัด​ที่​ดัง​ปึงปัง​นั้น​ น้ำตา​ของ​โจว​เสาจิ่น​พลัน​ไหลริน​ออกมา​อย่าง​กะทันหัน​

กำลังจะ​แต่งงาน​แล้ว​จริงๆ​!

นาง​จะได้​แต่งงาน​กับ​เฉิงฉือ​แล้ว​จริงๆ​!

แม้น​จะเป็นเรื่อง​ที่​คาดการณ์​ไว้​อยู่แล้ว​ แต่​เมื่อ​เกิดขึ้น​จริงๆ​ แล้ว​กลับ​มีความรู้สึก​เหมือนกับ​ว่า​มัน​มิใช่ความจริง​ขึ้น​มา

โจว​เสาจิ่นรี​บ​ดึง​ผ้าเช็ดหน้า​ที่ซ่อน​อยู่​ใน​แขน​เสื้อ​ออกมา​เช็ด​ที่​หาง​ตา​เบา​ๆ กลัว​ว่า​จะทำให้​เครื่อง​แต่งหน้า​เลอะ​ ยิ่งไปกว่านั้น​คือ​กลัว​ว่า​จะเป็นลางร้าย​

นาง​จะต้อง​ผ่าน​ไป​ได้​ด้วยดี​อย่าง​แน่นอน​!

โจว​เสาจิ่น​ลอบ​หยิก​กำปั้น​เล็กน้อย​

ลง​จาก​เกี้ยว​ เดิน​ข้าม​กระถาง​ไฟ กราบไหว้​ฟ้าดิน​ ถูก​ส่งเข้าไป​ใน​เรือนหอ​

โจว​เสาจิ่น​เดิน​เข้าไป​อย่าง​มั่นคง​

ชาติก่อน​ นาง​เอง​ก็​เคย​เดิน​มาก่อน​แล้ว​ครั้งหนึ่ง​

เวลา​นั้น​มีเพียง​ความหวาดหวั่น​และ​สิ้นหวัง​

นาง​ไม่รู้​ว่า​อนาคต​อยู่​ที่ไหน​

และ​ก็​ไม่รู้​ว่า​สิ่งที่​ตัวเอง​เลือก​นั้น​ถูก​หรือ​ผิด​

ใน​ใจของ​นาง​มีเพียง​ความคิด​เดียว​ นั่น​ก็​คือ​นาง​ไม่อาจ​ตกลง​ไป​ใน​หนอง​บึง​ที่​เน่าเปื่อย​จน​กลายเป็น​โคลนตม​ นาง​ไม่อาจ​ทำให้​บิดา​และ​พี่สาว​ต้อง​อับอาย​เพื่อ​นาง​ไป​ตลอดกาล​ได้​

แต่ว่า​ตอนนี้​ ใน​ใจของ​นาง​กลับ​เต็มไปด้วย​ความหวัง​ที่​มั่นคง​และ​รู้สึก​ปลอดภัย​

นาง​รู้​ว่า​นางใน​ตอนนี้​อาจจะ​ยัง​ไกล​ห่าง​จาก​บุตร​สะใภ้ที่​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​คาดการณ์​เอาไว้​มาก​โข​ แต่​เพื่อ​เฉิงฉือ​แล้ว​ นาง​จะบากบั่น​ตั้งใจ​เรียนรู้​จาก​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​ จะรับเอา​หน้าที่​ดูแล​เรือน​ของ​ประตู​เฉาหยาง​มาไว้​ใน​มือ​ ให้​เหมือนกับ​ที่​เฉิงฉือ​เคย​ทำ​เพื่อ​นาง​มาก่อน​เช่นนั้น​ นาง​เอง​ก็​จะช่วย​แบ่งเบาภาระ​ให้​เฉิงฉือ​ ให้​เขา​ได้​ดูแล​รับผิดชอบ​การงาน​ด้านนอก​ได้​อย่าง​สบายใจ​

ผ้าคลุม​ศีรษะ​สีแดงสด​ดิ้น​ทอง​ถูก​เลิก​ขึ้น​ด้วย​ไม้มงคล​

นาง​เห็น​ดวง​หน้า​หล่อเหลา​ของ​เฉิงฉือ​

ไม่ได้​ผอม​ลง​และ​ก็​มิได้​คล้ำ​ขึ้น​ด้วย​

นัยน์ตา​เป็นประกาย​สว่าง​สุกใส​ เจือ​ความยินดี​เต็มเปี่ยม​เอาไว้​

โจว​เสาจิ่น​พลัน​รู้สึก​ว่าความ​ทุกข์ระทม​ของ​ตัวเอง​ก่อนหน้านี้​ได้​มลาย​หาย​ไป​จาก​ตัวนาง​จน​หมดสิ้น​แล้ว​

สิ่งที่​นาง​อ้อนวอน​ร้องขอ​มาตลอด​ทั้งสอง​ชาติ​ภพ​ มิใช่ว่า​ขอให้​มีดวงตา​สัก​คู่​หนึ่ง​ที่​มอง​นาง​อย่าง​อบอุ่น​ เอาใจใส่​และ​มีความสุข​เหมือน​เช่น​ตอนนี้​หรอก​หรือ​

มุมปาก​ของ​โจว​เสาจิ่นยก​ยิ้ม​ขึ้น​ เผย​รอยยิ้ม​อบอุ่น​และ​อ่อนหวาน​หนึ่ง​ออกมา​

มีเสียง​เจือ​รอยยิ้ม​ของ​สตรี​ดัง​ขึ้น​ภายใน​ห้อง​ว่า​ “วันนี้​เจ้าสาว​คน​ใหม่​ช่างงดงาม​จริงๆ​ เจ้าค่ะ​!”

โจว​เสาจิ่น​เงยหน้า​ขึ้น​ ก็​เห็น​สะใภ้สามตระกูล​อู๋​ผู้​ทำหน้าที่​เป็น​ผู้​เปี่ยม​ไป​ด้วย​พร​ทุก​ประการ​

นอกจาก​นาง​แล้ว​ ภายใน​ห้อง​หอ​ยังมี​สาวใช้​อยู่​ด้วย​อีก​สี่คน​

หนึ่ง​ใน​จำนวน​นั้น​มีเจิน​จูอยู่​ด้วย​ ส่วน​คน​ที่​เหลือ​นั้น​ไม่คุ้นหน้า​ยิ่งนัก​ น่าจะ​เพิ่ง​เข้า​จวน​มาใหม่​

เจิน​จูจึงกล่าว​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “ฮูหยิน​สี่ ต้องการ​ให้​ข้า​ช่วย​ถอด​เครื่อง​หัว​ออกมา​ให้​ท่าน​หรือไม่​ ท่าน​จะได้​เอนตัว​นอน​พัก​บน​เตียง​สัก​ครู่หนึ่ง​”

โจว​เสาจิ่น​เป็น​คน​อยู่​ใน​กฎระเบียบ​มาโดยตลอด​ ถามขึ้น​อย่าง​ลังเล​ว่า​ “ถอด​ได้​ด้วย​หรือ​”

การ​เกล้าผม​เช่นนี้​ต่อให้​เป็น​คน​มีประสบการณ์​ก็​อาจจะ​ต้อง​ใช้เวลา​ถึงครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ พรุ่งนี้​นาง​ยัง​ต้อง​ตื่น​ตั้งแต่​ฟ้ายัง​ไม่สาง พวก​ชุน​หว่าน​ยัง​เข้ามา​ปรนนิบัติ​นาง​ไม่ได้​ นาง​ยัง​ต้อง​เกล้าผม​เช่นนี้​ไป​พบปะ​ทำความรู้จัก​ญาติพี่น้อง​อี​ก.​..

“ได้​เจ้าค่ะ​!” เจิน​จูกล่าว​ยิ้ม​ๆ กวักมือ​เรียก​สาวใช้​ผู้​หนึ่ง​เข้ามา​ กล่าว​ขึ้น​ว่า​ “นาง​ชื่อ​หยวน​หยวน​ มือ​คล่องแคล่ว​ว่องไว​มีฝีมือ​เป็น​ที่สุด​ เกล้าผม​ได้​สิบห้า​ถึงสิบ​หก​แบบ​ ต่อไป​ฮูหยิน​สี่ให้​นาง​ลอง​เกล้าผม​ให้​ท่าน​ดู​ได้​เจ้าค่ะ​”

โจว​เสาจิ่น​โล่งอก​ไป​เปลาะ​หนึ่ง​

ข้าง​กาย​นาง​ไม่มีสาวใช้​ประจำ​หน้าที่​ตายตัว​ หาก​มิใช่เกล้าผม​อย่าง​ง่ายๆ​ ให้​ตัวเอง​ก็​จะให้​ชุน​หว่าน​ช่วย​เกล้าผม​ทรง​ก้นหอย​คู่​หรือไม่​ก็​ทรง​มวย​คู่​ธรรมดาๆ​ ประเภท​นั้น​ให้​เท่านั้น​

หยวน​หยวน​เข้ามา​ช่วย​ถอด​เครื่อง​หัว​ให้​นาง​

มือ​สั่นเทา​เล็กน้อย​ คล้าย​กับ​กลัว​ว่า​จะทำ​เส้น​ผม​ของ​นาง​หลุด​ออกมา​เส้น​หนึ่ง​ก็​ไม่ปาน​

โจว​เสาจิ่น​มอง​แล้ว​รู้สึก​อารมณ์​ดีขึ้น​มาไม่น้อย​อย่าง​อธิบาย​ไม่ได้​ กล่าว​ยิ้ม​ๆ ว่า​ “ไม่เป็นไร​ เจ้าค่อยๆ​ ทำ​ไป​เถิด​”

หยวน​หยวน​หน้าแดง​ มือ​เท้า​เบา​มาก​อย่าง​ที่​บอก​จริงๆ​

มีคน​เคาะ​ประตู​

ทุกคน​ต่าง​มองหน้า​กัน​ไปมา​

“ข้า​เอง​!” ก็​ได้ยิน​เสียง​ที่​ตั้งใจ​กด​ให้​ต่ำ​ลง​ของ​เฉิงเจีย​ดัง​เข้า​มาจาก​ด้านนอก​ของ​ประตู​ “ข้า​มาดู​เจ้า!”

เจิน​จูเดิน​ไป​เปิด​ประตู​ให้​อย่าง​ไร้​ทางเลือก​เล็กน้อย​

เฉิงเจีย​เดิน​เข้ามา​อย่าง​ยิ้มแย้ม​ เอ่ย​ขึ้น​ตั้งแต่​จาก​ที่​ไกลๆ​ ว่า​ “ไอ้​โหย​ว​ เรือนหอ​นี้​ช่างตกแต่ง​ได้​โอ่อ่า​หรูหรา​จริงๆ​! เชิงเทียน​ลาย​มังกร​และ​นก​เฟิ่งนี้​คง​เป็น​ทอง​แท้​กระมัง​ ยังมี​ผ้าม่าน​เตียง​นี้​อีก​ ดู​คล้าย​จะเป็น​ผ้า​ทอ​เค่อซือ​สีแดงสด​ลาย​พิเศษ​อีกด้วย​!”

โจว​เสาจิ่น​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​หัวเราะ​หรือ​ร้องไห้​ดี​ กล่าว​ขึ้น​ว่า​ “เป็น​เพราะว่า​เจ้าเป็น​นาย​หญิง​อยู่​ที่​ลั่ว​หยาง​จน​เคยตัว​แล้ว​ใช่หรือไม่​ เห็น​อะไร​ก็​กลาย​เป็นเงินเป็นทอง​ไป​หมด​แล้ว​!”

“ใช่แล้ว​!” เฉิงเจีย​กล่าว​โอ้อวด​อย่าง​ไม่เขินอาย​เลย​สักนิด​ว่า​ “ก็​ตอนนี้​ข้า​เป็น​ภรรยา​ของ​พ่อค้า​นี่​นา​”

โจว​เสาจิ่น​หลุด​หัวเราะ​ออกมา​อย่า​งอด​ไม่อยู่​ ถามขึ้น​ว่า​ “เจ้าไม่ดื่ม​สุรา​มงคล​หรือ​ วิ่ง​มาทำ​อะไร​ที่นี่​”

นับว่า​เฉิงเจีย​ยังมี​หัวคิด​อยู่​เล็กน้อย​ มิได้​ตรง​ไป​นั่งลง​บน​เตียง​มงคล​ แต่​นั่งลง​บน​ตั่ง​สี่เหลี่ยม​ข้าง​เตียง​มงคล​แทน​ กล่าว​ขึ้น​ว่า​ “ช่างน่าเสียดาย​จริงๆ​ ที่​วันนี้​เป็น​วัน​มงคล​ของ​เจ้า เจ้าเป็น​เจ้าสาว​ต้อง​นั่ง​รอ​อยู่​ใน​ห้อง​หอ​ ก็​เลย​ไม่ได้​เห็น​ ฮูหยิน​รอง​ของ​ตระกูล​ฟางก็​มาร่วม​งานแต่ง​ด้วย​เช่นกัน​ ทว่า​ฟางเซวียน​ไม่มา แต่​ข้า​ดู​จาก​ท่าทาง​ของ​นาง​แล้ว​ ดู​คล้าย​กับ​คน​กลืน​แมลงวัน​เข้าไป​ตัว​หนึ่ง​ก็​ไม่ปาน​ ยังมี​ฮูหยิน​และ​สะใภ้ของ​ตระกูล​หมิ่น​ก็​มาร่วม​ด้วย​สอง​สามท่าน​ มีผู้​หนึ่ง​คล้าย​จะเป็น​ภรรยา​เอก​ของ​หมิ่น​เจี้ยน​สิง ข้า​ยัง​ตั้งใจ​มอง​อย่าง​พิเศษ​ไป​ครั้งหนึ่ง​ หน้าตา​ดู​ธรรมดา​สามัญยิ่งนัก​ แต่ว่า​กิริยามารยาท​ไม่เลว​เลย​ น่าจะ​มาจาก​ตระกูล​ใหญ่​เช่นกัน​ แต่​น้อง​สะใภ้ของ​นาง​ผู้​นั้น​ไม่ได้เรื่อง​เลย​จริงๆ​ มักจะ​คอย​สืบ​เรื่อง​ของ​เจ้าทั้ง​โดยตั้งใจ​และ​ไม่ตั้งใจ​อยู่​ตลอด​ คน​ที่​น่าขัน​ที่สุด​เห็นจะ​เป็น​อู๋​เป่า​จางแล้ว​ พูด​ต่อหน้า​ญาติสนิท​มิตรสหาย​ที่มา​ร่วม​ดื่ม​สุรา​มงคล​เหล่านั้น​ว่า​นาง​เป็น​สหาย​สนิท​ของ​เจ้า แรกเริ่ม​ตอนที่​เจ้าอาศัย​อยู่​ที่​จวน​สี่นั้น​เป็น​อย่างไรบ้าง​ แล้วก็​ถูก​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​กัว​รับ​ไป​ดูแล​ต่อ​อย่างไรบ้าง​ ช่วย​คัด​พระธรรม​ให้​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​อยู่​ที่​เรือน​หา​น​ปี้​ซาน​ ได้รับ​ความ​โปรดปราน​จาก​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​ ได้​ติดตาม​ท่าน​อา​ฉือ​และ​ฮูหยิน​ผู้เฒ่า​เดินทาง​ไป​เขา​ผู่​ถัว​ด้วย​…แต่​ฮูหยิน​หยวน​ไม่ว่า​อะไร​สัก​ประโยค​ กลับเป็น​ฮูหยิน​รอง​เว่ย​ที่​คิด​จะหยุด​นาง​ แต่​ด้วย​ลักษณะ​ที่​นุ่มนิ่ม​ประหนึ่ง​บัวลอย​แป้ง​ข้าวเหนียว​ของ​นาง​นั้น​ พูด​ไป​เพียง​ไม่กี่​ประโยค​ก็​ถูก​อู๋​เป่า​จางสกัดกั้น​เอาไว้​ได้​แล้ว​ ข้า​ฟังแล้วก็​ร้อนใจ​เป็นอย่างมาก​ จำต้อง​กล่าว​แนะนำ​ตัวเอง​ ก้าว​ออก​ไป​กล่าว​ทักทาย​คน​ของ​ตระกูล​หมิ่น​ จากนั้น​ถากถาง​อู๋​เป่า​จางผู้​นั้น​ไป​ประโยค​หนึ่ง​ ถามนาง​ว่า​ เจ้าคือ​ผู้ใด​หรือ​ เหตุใด​ข้า​ถึงไม่รู้จัก​เจ้ามาก่อ​น.​..

…นาง​ตกตะลึง​ รีบ​กล่าวตอบ​ว่า​ ข้า​คือ​พี่สะใภ้​นั่ว​ของ​เจ้า…

…ข้า​จึงกล่าว​ตัดบท​คำพูด​ของ​นาง​ว่า​ ไม่จริง​กระมัง​! พี่สะใภ้​นั่ว​ของ​ข้า​เป็น​คุณหนู​ใหญ่​ของ​จวน​เจ้าเมือง​จิน​ห​ลิง​ ข้า​เห็น​เจ้าพูดจ้อ​ไม่หยุด​ พูดเจื้อยแจ้ว​มาก​ขนาด​นี้​ ดู​ไม่ค่อย​เหมือน​นัก​! คง​มิใช่ว่า​เป็น​อนุ​ของ​พี่ชาย​นั่ว​หรอก​กระมัง​ พอ​เห็น​ว่า​สะใภ้ตัวจริง​ไม่อยู่​ก็​เลย​แอบอ้าง​?…

…เจ้าไม่ได้​เห็น​สีหน้า​นั่น​ของ​อู๋​เป่า​จาง ประเดี๋ยว​ก็​ขาวซีด​ ประเดี๋ยว​ก็​เขียว​ครึ้ม​ คล้าย​กับ​ถูก​ละเลง​ด้วย​สีก็​ไม่ปาน​ ทำเอา​ข้า​ขำ​จน​แทบจะ​ทนไม่ไหว​อยู่แล้ว​!”

…………………………………………………………………..

[1]ต้น​อวี้​ซู่ ต้น​ยูคาลิปตัส​

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน