ดวงตาของฮูหยินผู้เฒ่ากัวเผยความประหลาดใจ กล่าวยิ้มๆ ว่า “เกรงว่านี่อาจจะเป็น แผนของเจ้าสี่ ไม่อย่างนั้นเจ้าสี่ย่อมไม่มีทางไปแสวงหาความเด่นดังนี้อย่างแน่นอน เป็นเพียงคน ตัวเล็กที่เพิ่งจะก้าวเข้าสู่ราชสํานัก ก็กล้าไปจัดการเรื่องของสํานักข้าหลวงฝ่ายจัดการนํ้าอย่างไม่รู้ ฟ้าสูงแผ่นดินตํ่าแล้ว นี่มิใช่วิสัยของเจ้าสี่” ขณะที่กล่าว ก็เอ่ยกับโจวเสาจิ่นเสียงอบอุ่นว่า “ตอนนี้ เจ้าคงวางใจได้แล้วกระมัง! ทางด้านของลุงใหญ่ของเจ้า ข้าจะไปบอกเขาเอง”
โจวเสาจิ่นพยักหน้า เอ่ยขอบคุณฮูหยินผู้เฒ่ากัว
มีสาวใช้เด็กเข้ามาบอกว่านายหญิงผู้เฒ่าของบ้านใต้เท้าเผิงผู้เป็นหัวหน้าฝ่ ายเสมียน กรมการคลังให้คนนําโจ๊กล่าปามาส่งให้ฮูหยินผู้เฒ่ากัว
หัวหน้าฝ่ ายเสมียนกรมการคลังนั้นมียศขั้นห้าบน หากเป็นที่จวนที่ว่าการในต่างจังหวัด ถือได้ว่าเป็นขุนนางระดับสูง แต่ที่จิงเฉิงนี้ แม้แต่จะมาร้องไห้ในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพ ของเชื้อพระวงศ์ก็ยังมาปรากฏตัวไม่ได้ด้วยซํ้า ฮูหยินผู้เฒ่าผูกมิตรกับนายหญิงผู้เฒ่าผู้หนึ่งของ ขุนนางยศเท่านี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน
โจวเสาจิ่นหันไปมองชิวซื่อ
ชิวซื่อส่ายศีรษะเบาๆ เป็นสัญญาณบอกว่าตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
แต่ฮูหยินผู้เฒ่ากัวกลับยังคงกล่าวกับพวกนางสองคนว่า “วันนี้วุ่นวายมาทั้งวัน พวกเจ้า เองก็เหน็ดเหนื่อยแล้ว ต่างคนต่างกลับไปพักผ่อนสักครู่หนึ่งเถิด! รอให้พวกเจ้าใหญ่และเจ้ารอง กลับมาแล้ว พวกเราค่อยมากินข้าวด้วยกันดีๆ สักมื้อหนึ่ง”
เนื่องจากต้องการพบคนที่นายหญิงผู้เฒ่าเผิงให้มาส่งโจ๊กผู้นั้น จึงอยากไล่พวกนาง ออกไป
4510
ชิวซื่อและโจวเสาจิ่นรู้สึกสงสัยยิ่งนัก แต่ยังคงย่อเขาทําความเคารพอย่างเชื่อฟังและ ออกมาจากเรือนหลักไป
โจวเสาจิ่นเอ่ยขึ้นว่า “พี่สะใภ้รอง พี่สะใภ้ใหญ่ไปที่ใดแล้วหรือ”
ชิวซื่อทอดถอนหายใจกล่าว “พี่สะใภ้ใหญ่บอกว่ายังมีธุระอีกเล็กน้อยที่ซอยซิ่งหลิน นาง กลับไปครั้งหนึ่งแล้วจะกลับมาใหม่ แต่ตอนที่ข้าออกไปส่งนางที่ประตูนั้น ได้ยินนางสั่งการคน หามเกี้ยวว่าให้ไปที่ซอยอีเถียว”
ซอยอีเถียวคือที่ตั้งบ้านของตระกูลหยวนแห่งถงเซียงที่จิงเฉิง
หยวนซื่อดื้อรั้นเช่นนี้ โจวเสาจิ่นเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรดีแล้ว
ชิวซื่อกลับเป็นกังวลใจแทนนาง กระซิบกล่าวว่า “เสาจิ่น ข้าเองก็ไม่รู้ว่านางคิดอย่างไร กันแน่ เจ้าดู แม้แต่เรื่องที่บุตรสะใภ้ของหวงหลี่มีพื้นเพเป็นมาอย่างไรนั้น ท่านแม่ออกจากบ้านไป เพียงครั้งเดียวก็ทราบเรื่องแล้ว เกี้ยวที่นางนั่งไปก็เป็นเกี้ยวของตระกูลเฉิง หากท่านแม่คิด อยากจะรู้ ย่อมต้องรู้ตั้งนานแล้ว ท่านแม่บอกแล้วว่าให้นางไม่ต้องไปตระกูลหยวน ทว่านางก็ยัง ไปอีก นี่มิใช่ว่านางตั้งใจทําให้ท่านแม่ขุ่นเคืองอย่างโจ่งแจ้งหรอกหรือ เมื่อก่อนนางมิใช่คนเช่นนี้นี่ นา!”
แต่มนุษย์ล้วนเปลี่ยนกันได้ทั้งนั้น!
ล้วนเปลี่ยนไปตามตําแหน่งและสถานะของตัวเอง
โจวเสาจิ่นถอนหายใจ กล่าวขึ้นว่า “ข้าทําได้เพียงรับปากว่าหากท่านแม่ไม่ถามข้าก็จะไม่ พูด แต่ถ้าท่านแม่ถามถึงขึ้นมา ข้าย่อมต้องพูดความจริงเจ้าค่ะ”
4511
ก่อนออกเรือนนางเคยได้รับการสั่งสอนมาจากฮูหยินผู้เฒ่ากัว ได้แต่งงานกับเฉิงฉือ ฮู หยินผู้เฒ่าก็ไม่คัดค้าน ตอนนี้เป็นแม่สามีของนางแล้ว นางย่อมยืนอยู่ข้างเดียวกับฮูหยินผู้เฒ่ากัว อยู่แล้วเป็นธรรมดา
ชิวซื่อฟังแล้วก็พยักหน้าหงึกๆ พลางกล่าว “ข้าเองก็คิดเช่นนี้!”
ทว่าในใจอดรู้สึกชื่นชมโจวเสาจิ่นมากขึ้นไม่ได้
คนที่กระทําสิ่งต่างๆ อย่างชัดเจนและตรงไปตรงมาเช่นนี้มีไม่มากนัก
ความลําบากบีบคั้นให้นางมีความคิดเห็นเป็นของตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย เข้มแข็งกว่า อาเซิงตอนเด็กมากโข!
ทั้งสองคนไปดื่มนํ้าชาที่ห้องข้างด้านหลัง
หลี่ว์มามาออกไปส่งป้ารับใช้ของตระกูลเผิงด้วยตัวเอง
โจวเสาจิ่นถามหลี่ว์มามาว่า “ฮูหยินผู้เฒ่ารู้จักนายหญิงผู้เฒ่าของตระกูลเผิงได้อย่างไร”
หลี่ว์มามากล่าวยิ้มๆ ว่า “นายหญิงผู้เฒ่าของตระกูลเผิงแซ่อวี๋ พี่สาวคือฮูหยินเฟิ งเซิ่งที่ จากไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน ตระกูลฝั่งสามีของนายหญิงผู้เฒ่าเป็นคนบ้านเดียวกับเผิงเฉิงป๋ อ นาย หญิงผู้เฒ่าและฮูหยินเผิงเฉิงมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันยิ่ง ตอนที่ฮูหยินเฟิ่ งเซิ่งยังมีชีวิตอยู่นั้น ไป มาหาสู่กับนายหญิงผู้เฒ่าบ่อยๆ ด้วยเหตุนี้จึงสนิทสนมกับฮูหยินเผิงเฉิงไปด้วย หลายปีมานี้ฮู หยินผู้เฒ่าและนายหญิงผู้เฒ่าเผิงต่างครองตัวเป็นหม้ายอยู่ในบ้าน จึงไม่ค่อยได้ไปมาหาสู่กันนัก เป็นเมื่อหลายวันก่อนที่ส่งของขวัญเทศกาลปีใหม่กันนั้น ฮูหยินผู้เฒ่าตั้งใจเพิ่มชื่อของตระกูลเผิง ลงไปเป็นพิเศษ ทั้งสองตระกูลถึงได้เริ่มไปมาหาสู่กันใหม่อีกครั้ง สองวันก่อนฮูหยินผู้เฒ่ายังไป เยี่ยมนายหญิงผู้เฒ่าเผิงเป็นการเฉพาะอีกด้วย”
ฮูหยินเฟิ่ งเซิ่งคือแม่นมขององค์ฮ่องเต้
4512
โจวเสาจิ่นหัวใจกระตุก
หลายวันก่อนนางไปเยี่ยมเฉิงเจียพร้อมกับเฉิงเซิง ตอนกลับมาเห็นผ้าม่านเกี้ยวที่จอดพัก อยู่ในโรงจอดเกี้ยวหลังหนึ่งตากหิมะจนเปียกชื้นไปหมด ตอนนั้นนางยังคิดว่าฮูหยินผู้เฒ่าออกไป ที่ไหนมาใช่หรือไม่ ถามบ่าวที่เฝ้าเวรยามอยู่ที่โรงจอดเกี้ยว บ่าวที่เฝ้าเวรยามอยู่ต่างบอกว่าไม่ ทราบ เพราะพวกเขาเพิ่งมาเข้าเวร ยังถามนางว่าต้องการให้ไปสอบถามคนที่อยู่เวรก่อนหน้านี้ หรือไม่
เวลานั้นนางอยากให้ไปสอบถามมาให้ ทว่าสาวใช้ในบ้านวิ่งมาบอกว่าท่านลุงตระกูลหลี่ ของเจียงซีให้คนนําของขวัญเทศกาลปีใหม่มาส่งให้เป็นจํานวนมาก เป็นของกว่าหลายคันรถ ฉินจื่ออี๋ตรวจสอบตามรายการของเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ว่าคนที่มาส่งของขวัญผู้นั้นบอกว่าท่าน ลุงตระกูลหลี่สั่งการมาว่าจะต้องพบนางและโขกศีรษะให้นางสักครั้งแล้วค่อยกลับไปให้ได้ เนื่องจากมีหิมะตก ฟ้ามืดเร็วกว่าปกติ กลางคืนก็หนาวเย็นมากเป็นพิเศษ นางกลัวว่าจะทําให้ พวกเขากลับโรงเตี๊ยมล่าช้า จึงรีบเข้าไปที่เรือนชั้นใน คิดไม่ถึงว่าท่านลุงตระกูลหลี่ไม่เพียงส่งเนื้อ แพะทั้งตัวและเนื้อหมูทั้งตัวมาให้เป็นของขวัญปีใหม่เท่านั้น ยังมอบลิ่มทองให้อีกสองกล่องเต็มๆ อีกด้วย โจวเสาจิ่นปฏิเสธไม่ได้ จําต้องไปขอให้ฮูหยินผู้เฒ่ากัวช่วยชี้แนะ ฮูหยินผู้เฒ่ากัวให้นาง เก็บของเอาไว้ นางถึงได้กล้ารับของเอาไว้ เมื่อส่งป้ารับใช้ของตระกูลหลี่ออกไปแล้ว นางไปที่ ลานทิงเซียงอีกครั้ง ฮูหยินผู้เฒ่ากัวสอนนางว่าควรจะ “ตอบแทนของขวัญ” อย่างไร ไปๆ มาๆ นางก็ลืมเรื่องนี้ไปเสียแล้ว
ดูทีแล้วฮูหยินผู้เฒ่ากัวคงจะออกจากบ้านในวันนั้นนั่นเอง หลังจากกลับมาแล้วก็ไม่เอ่ยถึงสักคํา ปกติหากว่าฮูหยินผู้เฒ่ากัวไปที่ไหนมาหรือทําอะไรมาบ้าง ล้วนจะพูดให้นางฟัง… โจวเสาจิ่นรู้สึกอยู่รางๆ ว่าดูเหมือนเรื่องนี้จะมิได้ง่ายๆ ธรรมดาสามัญขนาดนั้น
4513
แต่หากเจ้าให้นางอธิบายว่าเป็นความรู้สึกอะไรนั้น นางก็อธิบายออกมาไม่ได้ นางมิได้ คิดว่าตระกูลเฉิงมีสถานะสูงส่ง คนที่ไปมาหาสู่ด้วยล้วนเป็นสายหลักของตระกูลใหญ่ตระกูลโต พวกนั้น ตระกูลเผิงเป็นเพียงหัวหน้าฝ่ ายเสมียนกรมการคลังยศขั้นห้าบนผู้หนึ่งเท่านั้น การที่ ตระกูลเฉิงคบค้ากับพวกเขาแล้วจะเป็นการลดสถานะลงไปแต่อย่างใด
เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้ยังมีอะไรที่นางยังไม่รู้อีก
โจวเสาจิ่นเก็บความสงสัยไว้ในใจ
ตกบ่าย เฉิงเว่ยกลับมาถึงก่อน เขาบอกฮูหยินผู้เฒ่ากัวว่า “องค์ฮ่องเต้ทรงเรียกขุนนาง ใหญ่หลายท่านในสํานักราชเลขาธิการเข้าวัง พี่ใหญ่ส่งจดหมายมาบอกข้า อาจจะเป็นเรื่องของ เมืองจี่หนิงทางด้านโน้น เขาให้ข้ามาบอกท่าน เรื่องนี้ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะพยายามเจรจาให้อย่าง สุดความสามารถ ไม่ให้เจ้าสี่ต้องเข้าไปพัวพันอยู่ในนั้นอย่างแน่นอน”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน