เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 493

โจวเสาจิ่นอับอายยิ่งนัก “อ้อ” ไปสองครั้ง กล่าวกับชุนหว่านอย่างลวกๆ ว่า “ก็ไม่มีอะไร

เพียงแต่ว่าสองวันก่อนเหมือนข้าจะเห็นมุขปาฐะเล่มหนึ่ง ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหนเสียแล้ว”

ชุนหว่านกล่าวยิ้มๆ ว่า “ใช่ ‘บันทึกไข่มุกหวนคืน’ ที่ท่านอ่านเมื่อสองวันก่อนเล่มนั้น

หรือไม่ ข้าจําได้ว่าพวกข้าช่วยท่านเก็บหนังสือเล่มนั้นไว้ใต้โต๊ะบนเตียงเตา ข้าจะไปช่วยหามาให้

ท่านเดี๋ยวนี้…”

หนังสือเล่มนั้นมีอะไรน่าอ่านกัน!

บัณฑิตสอบได้จ้วงหยวนผู้หนึ่งเป็นที่ถูกใจของอัครเสนาบดีในรัชสมัยนั้น ต้องการขอเขา

ไปเป็นบุตรเขย เขาทั้งอยากได้ตําแหน่งอํานาจและทั้งกลัวเสียชื่อเสียง สุดท้ายภรรยาคนแรกและ

บุตรสาวของอัครเสนาบดีจึงทําตามแบบอย่างของพระธิดาเอ๋อร์และพระธิดาอิง276

1

คู่นั้น…นางอ่าน

ไปสองบทก็พลิกไปตอนจบแล้วทิ้งไว้ข้างๆ แล้ว

“มิใช่เล่มนั้น!” โจวเสาจิ่นกุเรื่องต่อไป “ข้าจําชื่อเรื่องไม่ได้แล้ว จําได้แค่ว่าเป็นหนังสือ

หน้าปกสีนํ้าเงินเล่มหนึ่ง…ช่างเถอะ เจ้าเองก็ไม่ต้องหาแล้ว ไม่แน่ว่าวันใดอาจจะโผล่ออกมาเองก็

เป็นได้!” ขณะที่กล่าว นางก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา “นายท่านสี่เล่า เหตุใดถึงไม่เห็นเขา”

ชุนหว่ายิ้ม พลางกล่าว “นายท่านสี่ตื่นมาตั้งแต่เช้าตรู่และขี่ม้าออกไปกับท่านอาไหวซาน

แล้วเจ้าค่ะ ยังฝากฝังคําพูดเอาไว้ บอกว่าหากท่านตื่นแล้วเขายังไม่กลับมา ให้รับมื้อเช้าก่อนเลย

ไม่ต้องรอเขา ฮูหยิน ข้าเรียกหยวนหยวนและหมานหม่านมาเกล้าผมแต่งตัวให้ท่านดีหรือไม่”

นายท่านสี่กลับมาแล้ว ฮูหยินสี่ย่อมจะแต่งหน้าแต่งตัวดีๆ อย่างแน่นอน

1 พระธิดาเอ๋อร์และพระธิดาอิงมีสวามีคนเดียวกัน

โจวเสาจิ่นหน้าแดงเล็กน้อย เลือกเสื้อเพ่ยจื่อสีม่วงอ่อนเหลือบทอง กระโปรงจีบกว้างสี

ชมพูปักลายดอกไม้แปดแฉกตรงปลาย ปักปิ่นไข่มุกใต้ขนาดใหญ่เท่าเม็ดบัว ดูผ่าเผยสง่างาม

และเผยความมีชีวิตชีวาของเด็กสาวออกมาหลายส่วน ชุนหว่านมองแล้วพยักหน้าไม่หยุด ยิ่งไม่

ต้องพูดถึงเฉิงฉือที่กลับมาจากด้านนอก ส่งแส้ม้าให้ชุนหว่านทว่ากล่าวกับโจวเสาจิ่นว่า “ให้คน

ตักนํ้าเข้ามา ข้าจะเปลี่ยนชุด!”

ความหมายก็คือเจ้ายังไม่รีบมาปรนนิบัติข้าเปลี่ยนอาภรณ์อีก

โจวเสาจิ่นหน้าแดงลุกขึ้นมา

พวกเขาแต่งงานได้เก้าวันเขาก็ไปจี่หนิงแล้ว เวลานั้นในบ้านยังมีแขกเหรื่ออยู่ หากมิใช่

ดูแลแขกเหรื่อพวกเขาก็นัวเนียกันอยู่บนเตียง ตัวติดกันแนบแน่นดั่งนํ้าผึ้งผสมอยู่ในนํ้ามัน จึงมิได้

พูดคุยถึงการอยู่ร่วมกันระหว่างสามีภรรยาเท่าไรนัก

วันนี้ต้องสงบใจลงมาใช้ชีวิตด้วยกันแล้ว ทว่านางกลับลืมเรื่องนี้ไปเสีย

โจวเสาจิ่นเดินไปหาเฉิงฉือ

เฉิงฉือเดินตรงไปยังห้องข้างที่เชื่อมกับห้องนอนเอาไว้

โจวเสาจิ่นรีบสาวเท้าตามเข้าไป

ห้องข้างกั้นเป็นสองส่วน ส่วนแรกเก็บเสื้อผ้าของนางและของเฉิงฉือที่สวมใส่บ่อยๆ อีก

ส่วนหนึ่งทําเป็นห้องอาบนํ้า

ตอนที่นางเข้าไปนั้นเฉิงฉือกําลังถอดเสื้อผ้าแล้ว

โจวเสาจิ่นรีบก้าวออกไปช่วย

กลับถูกเฉิงฉือกอดเอาไว้ในอ้อมแขน ก้มหน้าลงมากระซิบที่ห้างหูนางว่า “ยังปวดเนื้อ

ปวดตัวอยู่หรือไม่”

ทําเอาโจวเสาจิ่นหน้าแดงกํ่า

เมื่อวานเขามิได้รักนาง แต่เรื่องที่กระทําออกมานั้นทําให้คนอับอายยิ่งกว่ารักนางเสียอีก

ตื่นเช้าขึ้นมา ร่างของนางมีจุดเขียวบ้างม่วงบ้าง ทั้งหมดล้วนเป็นร่องรอยที่เขาทิ้งเอาไว้บนเรือน

ร่างของนางทั้งสิ้น นอกจากนี้นางรู้สึกอยู่รางๆ ว่า เหมือนจะเป็นความตั้งใจของเขา

“เมื่อวานข้าทําตัวไม่ดี!” เฉิงฉือกระซิบกล่าวขอโทษนางที่ข้างหูเสียงตํ่าลึก “นับตั้งแต่

วันที่ข้าออกเดินทางไป ข้าก็คิดถึงแต่เจ้าทุกวัน พอเห็นเจ้าอยู่ในอ้อมกอด ข้าก็เลยห้ามใจไม่อยู่ไป

ชั่วขณะหนึ่ง…” ขณะที่เขากล่าว ดวงตาก็เผยสายตาเสน่หาที่ใช้มองนางเมื่อคืนออกมา

โจวเสาจิ่นตกใจเป็นอย่างยิ่ง

เขาคงไม่คิดจะ…อยู่ที่นี่เวลานี้หรอกกระมัง

นางนึกถึงที่เขาจงใจให้นางช่วยเปลี่ยนอาภรณ์ให้โดยเฉพาะ แล้วก็นึกถึงเมื่อก่อนที่เขา

มักจะช่วยเปลี่ยนชุดให้นางขึ้นมา…ในใจก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้น

โจวเสาจิ่นหน้าร้อนผ่าว รีบผลักไหล่ของขาเบาๆ กล่าวขึ้นว่า “อย่าทําเช่นนี้ อย่าทําตรงนี้

เจ้าค่ะ…” หากผู้อื่นมาเห็นเข้า ต้องอับอายตายเป็นแน่…

เฉิงฉือจึงกอดนางเอาไว้พลางหอมแก้มนางเบาๆ กระซิบกล่าวว่า “แล้วร่างกายของเจ้า

ยังปวดอยู่หรือไม่”

นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง นึกถึงว่าคืนนี้เขาอาจจะทําเช่นนั้นกับตนอีกก็เป็นได้ นางไม่กล้าบ่าย

เบี่ยงเขา กล่าวอย่างเขินอายว่า “ยังเจ็บเล็กน้อย…”

นางบอกว่ายังเจ็บเล็กน้อย จะต้องไม่สบายตัวมากอย่างแน่นอน

แววตาของเฉิงฉือหม่นลงเล็กน้อย ลูบผมนางเบาๆ กล่าวด้วยนํ้าเสียงแหบแห้งเล็กน้อย

ว่า “เสาจิ่น ข้าจะทายาให้เจ้าสักหน่อย…”

กลัวสิ่งไหนสิ่งนั้นก็มาจริงๆ!

เสียงของเฉิงฉือเพิ่งจบลง โจวเสาจิ่นยังไม่ทันได้ตอบ ก็ได้ยินเสียง “ว้าย” หนึ่งดังขึ้น ฝาน

หลิวซื่อยกอ่างนํ้าเงินอ่างหนึ่งเลิกผ้าม่านเข้ามา แล้วก็รีบถอยออกไปอย่างรวดเร็ว

โจวเสาจิ่นหน้าร้อนผะผ่าว อยากหาที่หลบสักที่หนึ่งเหลือเกิน

เฉิงฉือกลับยังคงมีท่าทางสงบสบายๆ ดังปกติ ไม่เพียงกล่าวปลอบใจนางยิ้มๆ ว่า “ไม่

เป็นไร” เท่านั้น ยังกล่าวอีกว่า “ตอนนี้เจ้าเป็นภรรยาของข้าแล้ว พวกเราเป็นเช่นนี้ถึงจะถูกต้อง

หากต่างคนต่างไม่สนใจกัน เช่นนั้นจะเป็นอะไรไปแล้ว เจ้าวางใจเถิด แม่นมของเจ้าเห็นพวกเรา

เป็นเช่นนี้มีแต่จะดีใจเท่านั้น!”

โจวเสาจิ่นเองก็รู้

แต่รู้ก็ส่วนรู้ ถูกคนมาพบเห็นเข้าโดยไม่ตั้งใจก็ส่วนถูกคนมาพบเห็นเข้าโดยไม่ตั้งใจ

เฉิงฉือปลอบใจนางกว่าครู่ใหญ่ นางถึงได้มีความกล้าหลบอยู่หลังม่านให้คนตักนํ้าเข้า

มา

คนที่เข้ามาครั้งนี้เป็นหยวนหยวนและหมานหม่าน ทั้งสองคนยิ้มพลางตักนํ้าให้เฉิงฉือ

เฉิงฉือจึงบอกให้โจวเสาจิ่นเปลี่ยนชุดให้เขา คล้ายกับต้องการให้โจวเสาจิ่นปรนนิบัติเขา

เป็นอย่างยิ่งก็ไม่ปาน

โจวเสาจิ่นมองแล้วในใจหวานลํ้า หมุนล้อมรอบเฉิงฉือ

หยวนหยวนและหมานหม่านต่างเม้มปากกลั้นยิ้ม

โจวเสาจิ่นได้แต่ทําเป็นมองไม่เห็น

ไม่ง่ายเลยกว่าจะช่วยเปลี่ยนอาภรณ์ให้เฉิงฉือเสร็จ ทั้งสองคนนั่งรับมื้อเช้าอยู่บนเตียง

เตาหลังใหญ่ข้างหน้าต่างในห้องรับแขก

เฉิงฉือบอกให้โจวเสาจิ่นช่วยจัดชามตะเกียบและตักโจ๊กเติมนํ้าแกงให้เขาอีกครั้ง

โจวเสาจิ่นชอบการที่ได้ทํานั่นทํานี่ให้เขาเป็นอย่างยิ่ง บนดวงหน้าจึงประดับด้วยรอยยิ้ม

อยู่ตลอดมิได้ขาด กระทั่งไปคารวะฮูหยินผู้เฒ่ากัวที่ลานทิงเซียง ก็ไม่อาจกดข่มความสุขเบิกบาน

ใจเอาไว้ได้

ตอนที่493 พี่ ชายน้องชาย 1

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน