เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 506

งานเลี้ยงที่ชิวซื่อจัดขึ้นก็คล้ายกับตัวนางเอง เรียบง่ายไม่หวือหวา เพียงเชิญคนจากซอย ซิ่งหลินและประตูเฉาหยาง

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวพึงพอใจมากที่ชิวซื่อมีความสามารถในการจัดการงานใหญ่โตมากมายได้ ไม่เพียงพาโจวเสาจิ่นไปด้วย แต่ยังนํากระดาษเฉิงซินหนึ่งเตา ที่ฝนหมึกตวนเอี้ยนสองอันและ พู่กันหูโจวหนึ่งกล่องมอบให้เฉิงรั่ง ทว่าตอนที่โจวเสาจิ่นประคองฮูหยินผู้เฒ่ากัวลงจากเกี้ยวหน้าประตูชั้นใน แล้วเห็นอู๋เป่า จางที่มาต้อนรับพร้อมกับหยวนซื่อ เฉิงเจิง หมิ่นเจียและคนอื่นๆ ก็อึ้งงันอย่างยากจะระงับ หมิ่นเจียเห็นแล้วก็อธิบายยิ้มๆ ขึ้นว่า “เป็นข้าที่เชิญน้องสาวนั่วมาด้วยกัน นางอยู่จิงเฉิง คนเดียวจึงรู้สึกเหงาเป็นอย่างมาก” ไม่ได้เจอกันเพียงไม่กี่วัน ความสัมพันธ์ของพวกนางก็ดีขนาดนี้แล้วหรือ โจวเสาจิ่นยิ้มรับน้อยๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร นี่เป็นงานเลี้ยงของชิวซื่อ นางย่อมไม่อาจทําตัวเป็นเจ้าของงานได้เป็นธรรมดา ครั้นทําความเคารพกันแล้ว คนทั้งกลุ่มก็เดินเข้าห้องรับแขกดื่มนํ้าชา ฮูหยินผู้เฒ่ากัวก็ให้ โจวเสาจิ่นนําของขวัญที่มอบให้เฉิงรั่งแก่ชิวซื่อ ชิวซื่อได้รับของขวัญจากฮูหยินผู้เฒ่ากัว ย่อมต้องรู้สึกปลาบปลื้มยินดี รีบนําใบรายการ อาหารให้แก่ฮูหยินผู้เฒ่ากัว “ท่านดูว่าต้องเพิ่มหรือลดอะไรหรือไม่นะเจ้าคะ” โจวเสาจิ่นรีบหยิบแว่นขยายให้ฮูหยินผู้เฒ่ากัว

4707

ทว่าฮูหยินผู้เฒ่ากัวกลับคร้านจะดู มอบใบรายการอาหารให้แก่โจวเสาจิ่น พลางกล่าวว่า “เจ้าดูเถอะ หากมีอาหารอะไรที่กินไม่ได้ เจ้าก็รู้อยู่แล้ว”

หากแต่งงานเข้ามาในตระกูลเฉิงยี่สิบกว่าปี แล้วแม้แต่อาหารที่แม่สามีตนเองชื่นชอบก็ ไม่รู้ ยังจะนับเป็นสะใภ้อะไร ยิ่งไปกว่านั้นใบรายการอาหารนี้ชิวซื่อก็ได้ลอบหารือกับโจวเสา จิ่นมาก่อนแล้ว

นางยิ้มพลางดูอาหารในใบรายการนั้นรอบหนึ่ง เห็นว่าตรงกับที่ทั้งสองคนหารือกันไว้ใน ตอนแรก ก็คืนใบรายการอาหารให้แก่ชิวซื่อยิ้มๆ พลางกล่าวว่า “ลําบากพี่สะใภ้รองแล้ว อาหารที่ ตระเตรียมไว้ล้วนเป็นอาหารที่ท่านแม่ชอบกินทั้งนั้นเจ้าค่ะ”

ฮูหยินผู้เฒ่ากัวได้ยินแล้วก็ระบายยิ้ม

ชิวซื่อก็ปีติยินดีเป็นอย่างมาก มอบใบรายการอาหารให้แก่มามาแม่บ้านที่อยู่ข้างหลัง แล้วนั่งลงพร้อมกับหยวนซื่อและคนอื่นๆ ล้อมรอบฮูหยินผู้เฒ่ากัว พลางกล่าวกับฮูหยินผู้เฒ่ากัว ขึ้นว่า “นายท่านรองอยู่จิงเฉิงมาโดยตลอด ไม่เคยออกจากจิงเฉิงมาก่อน ข้าก็ไม่รู้ว่าควรจะให้ นายท่านรองนําอะไรไปดี พอถามพี่สะใภ้ใหญ่ นางก็มอบใบรายการใบหนึ่งให้ข้า หาไม่แล้วข้าก็ ไม่มีคู่มือนําทางสักเล่มหนึ่งเลยเจ้าค่ะ!”

หยวนซื่อกล่าวยิ้มๆ ว่า “ข้าก็เพียงทําตามแบบอย่างที่มี ในปีนั้นข้าก็ไม่รู้เรื่องพวกนี้ เหมือนกัน ยังเป็นท่านแม่ที่แนะนําข้า!”

คนที่อายุมากแล้วก็ชื่นชอบคุยเรื่องวันวาน ฮูหยินผู้เฒ่ากัวได้ยินแล้วก็พูดถึงเรื่องราวของเฉิงซวินกับเฉิงจิงที่เข้ารับราชการในปีนั้น หมิ่นเจียอดมองฮูหยินผู้เฒ่ากัวด้วยสายตาชื่นชมไม่ได้

4708

ตอนที่เห็นท่าทางการวางตัวอย่างไม่เหมาะสมของหยวนซื่อ นางยังคิดว่าตระกูลเฉิงได้ รับคํายกย่องชื่นชมเกินจริง นึกไม่ถึงว่าฮูหยินผู้เฒ่ากลับเฉียบแหลมยิ่งยวด

อากาศค่อนข้างร้อน หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จแล้ว ทุกคนก็พักผ่อนครู่หนึ่ง แล้วเริ่มชมงานแสดง

เฉิงเจิงกับฮูหยินผู้เฒ่ากัววิพากษ์ทักษะการแสดงของนักแสดง เฉิงเซียว หยวนซื่อ หมิ่นเจียกับอู๋เป่าจางต่างฟังอยู่ข้างๆ อย่างสนใจ หยวนซื่อกับหมิ่นเจียยังวิจารณ์สองสามประโยค เป็นครั้งคราว ถือว่ามีสายตาหลักแหลมเช่นกัน ดูแล้วก็เป็นคนที่ชื่นชอบชมงิ้ว

โจวเสาจิ่นไม่สนใจเข้าร่วมวงเสวนา นั่งชมอยู่ข้างหนึ่ง เฉิงเซิงเห็นชิวซื่อมารดาของตน กําลังยุ่งกับการตระเตรียมมื้อเย็น จึงเอ่ยถึงเรื่องการเย็บปักถักร้อยกับโจวเสาจิ่นขึ้นว่า “…พี่สาว เซียวหาแบบผ้าคลุมเด็กทารกผืนนั้นที่เจ้าวาดให้หรงเกอเอ๋อร์ของพวกเขาในปีนั้นให้แก่ข้า ข้าก็หา คนปักผ้าตามแบบนั้นคนหนึ่ง ถึงตอนนั้นข้าจะเอามาให้เจ้าช่วยดู!”

“จริงหรือ” โจวเสาจิ่นลืมเรื่องนี้ไปนานแล้ว นางกล่าวยิ้มๆ ว่า “ก็ได้ ข้าจะดูว่าเจ้าต้องใช้สี อะไรให้เข้ากัน”

แม้แบบลายดูดี แต่ก็ยังต้องเลือกสีให้เข้ากันดีๆ

เฉิงเซิงยิ้มร่าพลางกล่าวว่า “เจ้ายังมีแบบเสื้อผ้าเด็กอีกหรือไม่ ถึงเวลานั้นข้าจะให้พวก สาวใช้ช่วยวาดสักสองสามแบบกลับมา”

“เจ้าต้องการแบบลายเช่นไร” โจวเสาจิ่นชื่นชอบเฉิงเซิงเป็นอย่างมาก “ให้ข้าวาดให้เจ้าสัก สองสามแบบเถอะ แบบลายนี้มักจะเปลี่ยนใหม่ทุกๆ ปี แบบลายที่ข้าวาดเมื่อก่อนก็มี แต่ไม่รู้ว่า จะถูกใจเจ้าหรือไม่”

4709

“งานเย็บปักถักร้อยของท่านอาสะใภ้ได้รับการยกย่องจากคนอื่นเสมอมา หากเก็บไว้ได้ จะต้องเป็นของดีอย่างแน่นอน” เฉิงเซิงกล่าวยิ้มๆ “เช่นนั้นเรื่องนี้ก็ตกลงกันแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะพาคน ไปหาท่านที่นั่น”

โจวเสาจิ่นพยักหน้า

จู่ๆ ก็มีคนพูดปนหัวเราะขึ้นว่า “ตกลงเรื่องอะไรกันหรือเจ้าคะ”

โจวเสาจิ่นกับเฉิงเซิงเงยหน้าขึ้นมา ไม่รู้ว่าอู๋เป่าจางเข้าร่วมวงสนทนาของพวกนางตั้งแต่ เมื่อใด

เฉิงเซิงไม่รู้เรื่องของอู๋เป่าจาง แต่นางเป็นน้องสะใภ้จากบ้านเดิมของนาง ทั้งยังเป็นแขก ในบ้านมารดาของนาง ย่อมจะต้องต้อนรับตามมารยาท เฉิงเซิงจึงยิ้มพลางเล่าให้ฟังรอบหนึ่ง

อู๋เป่าจางบิดผ้าเช็ดหน้ายิ้มๆ พลางกล่าวว่า “กูไหน่ไนสามมาหาถูกคนแล้วเจ้าค่ะ ตอนที่ อาสะใภ้ฉือเป็นเด็กสาวในห้องหอก็มีอุปนิสัยเอียงอาย หากมิได้อ่านตําราคัดอักษรก็ทํางานเย็บ ปักอยู่ในบ้าน พวกข้าต่างขออาสะใภ้ฉือช่วยวาดแบบลายให้อยู่ไม่น้อยเลยเจ้าค่ะ”

ทว่าโจวเสาจิ่นไม่อยากจะเกี่ยวข้องอะไรกับอู๋เป่าจาง ทําทีเป็นกล่าวอย่างงุนงงว่า “ตอน ที่ข้าอยู่ในเรือนมักจะมีคนมาขอให้ข้าวาดแบบลายผ้าจริงๆ แต่ข้าเคยวาดให้หลานสะใภ้นั่วด้วย หรือ ไฉนข้าถึงจําไม่ได้เลย ปรกติข้ามักจะอยู่แต่ในบ้าน ตอนที่หลานสะใภ้นั่วมาเป็นแขกที่บ้านก็ คลับคล้ายคลับคลาว่าเพียงสองสามครั้งเท่านั้นเอง…” นางรําลึกขณะกล่าว “ข้าวาดแบบลาย อะไรให้หลานสะใภ้นั่วหรือ หลานสะใภ้นั่วช่วยข้านึกได้หรือไม่”

อู๋เป่าจางเห็นว่าตนพยายามประจบประแจงโจวเสาจิ่นหลายครั้งหลายครา ทว่าโจวเสาจิ่ นกลับไม่ซาบซึ้งใจเลยสักนิด ก็ลอบรู้สึกขุ่นเคืองอย่างอดไม่ได้ กล่าวอย่างคลุมเครือสองสาม ประโยค แล้วหมุนกายไปฟังเฉิงเจิงวิพากษ์งิ้ว ไม่สนใจโจวเสาจิ่นอีกเลย

4710

ในที่สุดโจวเสาจิ่นก็รู้สึกเงียบสงบเสียที

เฉิงเซิงลุกขึ้นไปเข้าห้องทางการ

โจวเสาจิ่นเห็นนางประคองเอว ค่อยๆ เดินไปอย่างช้าๆ ไม่เหมือนกับท่าทางมีชีวิตชีวาใน ยามปรกติ ก็อดเป็นห่วงเล็กน้อยไม่ได้ ลุกขึ้นมาประคองนาง แล้วไปห้องทางการเป็นเพื่อนนาง

จู่ๆ หมิ่นเจียที่ตั้งใจฟังฮูหยินผู้เฒ่ากัววิจารณ์งิ้วมาโดยตลอดก็หมุนกายมา กระซิบกับอู๋ เป่าจางยิ้มๆ ว่า “นึกไม่ถึงว่าความสัมพันธ์ของเจ้ากับอาสะใภ้เล็กท่านนั้นของพวกข้าจะดียิ่ง?”

อู๋เป่ าจางนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ สีหน้าก็เยียบเย็นเล็กน้อย พลางกล่าวว่า “จะว่าดีก็ ไม่ได้หรอก เพียงแค่รู้จักกันเท่านั้นเอง!”

หมิ่นเจียกล่าวยิ้มๆ ว่า “แต่ก็ยังดีกว่าข้าอยู่ดี อย่างน้อยก็รู้จักกัน เจ้าไม่รู้อะไร ตอนที่ข้า เห็นนางวันนั้น ข้าค้นพบว่ายังมีอาสะใภ้ที่อายุน้อยกว่าข้าสามปีคนหนึ่งอยู่ด้วย ข้ายังคิดว่าเป็น ภรรยาใหม่ของท่านลุงหรือท่านอาท่านใดเสียอีก ไม่คาดคิดว่าเป็นภรรยาของท่านอาฉือ เหตุใด ท่านอาฉือถึงได้แต่งงานกับอาสะใภ้คนหนึ่งที่เด็กขนาดนี้หรือ บางครั้งเวลาที่ข้าเอ่ยเรียกก็รู้สึก กระดากอายอยู่บ้างว่าไหม”

ครั้นอู๋เป่ าจางได้ยินหมิ่นเจียพูดว่าโจวเสาจิ่นเหมือนภรรยาใหม่ของท่านลุงหรือท่านอา ท่านใดนั้น ในใจพลันตื่นเต้นดีใจ เอ่ยขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ว่า “ใครว่าไม่ใช่กันเล่า! แต่ก่อนนางยัง เรียกข้าว่าพี่สาวอยู่เลย! ตอนนี้กลับเป็นข้าที่เรียกนางว่าท่านอาสะใภ้…”

หมิ่นเจียเม้มปากกลั้นยิ้ม กล่าวว่า “ข้าเห็นว่าลักษณะนิสัยของท่านอาสะใภ้เล็กท่านนั้น อ่อนโยนยิ่งนัก บางทีอาจจะไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยกับเจ้าก็ได้!”

แต่ก่อนนางไม่กล้าพูดจาเสียงดังตอนที่สนทนาต่อหน้านาง ทว่าตอนนี้แต่งงานกับเฉิงฉือ แล้ว กลับวางท่าเป็นผู้อาวุโสกว่า ไม่สนใจไยดีนางแต่อย่างใด

4711

ตอนที่ 506 หาเรื่อง 1

ตอนที่ 506 หาเรื่อง 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน