เข้าสู่ระบบผ่าน

ยามดอกวสันต์ผลิบาน นิยาย บท 88

ยามดอกวสันต์ผลิบาน – ตอนที่ 88 แขกผู้มาเยือน
หลังจากที่หัวเราะกันเสร็จแล้ว โจวเสาจิ่นก็เรียกฝานฉีเข้ามาหา กล่าวย้ำกับเขาเงียบๆ ว่า “ตอนว่างๆ เจ้าลองไปคลุกคลีอยู่กับคนของนายท่านสี่จากจวนหลักดู ไปสืบข่าวของเรือนเสี่ยวซานฉงกุ้ยมาสักหน่อย”

ฝานฉีที่มักจะกระตือรือร้นกับเรื่องทำนองนี้อยู่เสมอมานั้นกลับแสดงความลังเลออกมาให้เห็นอยู่หลายส่วนอย่างคาดไม่ถึง พลางกล่าวขึ้นว่า “คุณหนูรอง ทางด้านของนายท่านสี่ฝั่งโน้นนั้น มีคนที่คอยจะประจบประแจงอยู่เป็นจำนวนมากเกินไป ข้ากลัว…ข้ากลัวว่าจะเข้าไปไม่ถึงขอรับ!”

โจวเสาจิ่นตะลึงงันไปเล็กน้อย

มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ

แต่พอนางลองทบทวนดูอีกครั้งแล้ว เฉิงฉือนั้นดูแลเรื่องต่างๆ ภายในตระกูล ก็สมเหตุสมผลหากบรรดาพ่อบ้าน ป้าแม่บ้าน และบ่าวชายเหล่านั้นจะเสี่ยงชีวิตเข้าไปประจบสอพลอ!

นางจำต้องกล่าวว่า “เจ้าเก็บเรื่องนี้เอาไว้ในใจก่อน รอให้มีโอกาสแล้วค่อยว่ากันอีกทีก็แล้วกัน”

นี่คุณหนูรองต้องการทำอะไรกันแน่?

ฝานฉีพยักหน้า ถอยกลับออกไปด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้

ดูเหมือนว่า จะหวังพึ่งพาฝานฉีเพียงคนเดียวคงจะไม่ได้การแล้ว คงต้องคิดหาวิธีอื่นร่วมด้วย

โจวเสาจิ่นใช้เวลานั่งอยู่ข้างๆ โต๊ะกลมนั้นอยู่เป็นเวลานาน

วันต่อมา โจวเสาจิ่นและพี่สาวต่างก็ได้รับเทียบเชิญจากจวนเหลียงกั๋วกง เชิญพวกนางไปเที่ยวงานวัดและชมดอกไม้ในเทศกาลวันสารทจีน

ฮูหยินผู้เฒ่ากวนและฮูหยินใหญ่เหมี่ยนต่างก็ประหลาดใจเป็นอย่างมาก ฮูหยินใหญ่เหมี่ยนยิ่งแล้วใหญ่ มองไปที่โจวเสาจิ่นด้วยสายตายิ้มๆ มีความภาคภูมิใจประเภทหนึ่งทำนองว่า ‘บ้านข้ามีเด็กสาวที่กำลังจะเติบใหญ่’ ฉายอยู่บนใบหน้า พลางกล่าวขึ้นว่า “คิดไม่ถึงว่าเสาจิ่นติดตามข้าออกไปข้างนอกเพียงครั้งหนึ่ง ก็ได้ผูกมิตรกับคุณหนูใหญ่จากจวนเหลียงกั๋วกงแล้ว ฉะนั้นต่อไปเจ้าต้องออกไปข้างนอกกับข้าบ่อยๆ เสียแล้ว”

โจวเสาจิ่นรู้สึกว่าหากต้องนั่งคุยสัพเพเหระอยู่กับบรรดาคุณหนูเหล่านั้นไม่สู้นั่งทำงานเย็บปัก หรือไม่ก็นั่งคัดพระธรรมอยู่ในบ้านยังจะทำให้รู้สึกสบายใจมากกว่า

แต่คำพูดเหล่านี้นางไม่อาจกล่าวกับฮูหยินใหญ่เหมี่ยนได้

ท่านป้าใหญ่ล้วนแล้วแต่ทำเพื่อประโยชน์ของนาง คิดเผื่อนาง อยากให้นางมีชื่อเสียงที่ดีในหมู่ญาติพี่น้อง ต่อไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานแต่งหรือแต่งงานออกเรือนไปกับใคร ก็ล้วนแล้วแต่เป็นข้อดีทั้งนั้น

โจวชูจิ่นได้ยินแล้วก็พยักหน้าไม่หยุด ยิ้มพลางเอ่ยถามฮูหยินใหญ่เหมี่ยนว่า “เช่นนั้นพวกเราก็ส่งจดหมายตอบกลับไปให้จวนเหลียงกั๋วกงสักฉบับใช่หรือไม่เจ้าคะ”

“นั่นเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว” ไม่รอให้ฮูหยินใหญ่เหมี่ยนกล่าว ฮูหยินผู้เฒ่ากวนก็กล่าวยิ้มๆ ออกมาเสียก่อน “พวกเจ้าไม่เพียงต้องไปร่วมเท่านั้น ยังต้องแต่งตัวให้งดงามอีกด้วย ให้ผู้อื่นได้รู้ว่าตระกูลเฉิงของพวกเรามีดอกไม้งามอยู่สองดอก”

ผู้อาวุโสตื่นเต้นไปชั่วขณะ จึงลืมไปว่าสองพี่น้องตระกูลโจวนั้นแซ่ ‘โจว’

แต่ใครเล่าอยากจะทำให้เสียบรรยากาศ

แต่ไหนแต่ไรมาฮูหยินผู้เฒ่าล้วนปฏิบัติกับพวกนางราวกับหลานแท้ๆ มาโดยตลอด

ฮูหยินใหญ่เหมี่ยนเห็นบรรยากาศกำลังชื่นมื่น จึงใช้โอกาสที่ฮูหยินผู้เฒ่ากวนกำลังสำราญใจนี้กล่าวขึ้นว่า “ม้าจะงามก็ขึ้นอยู่กับอานม้า คนจะงามก็ขึ้นอยู่กับเสื้อผ้าอาภรณ์ ความงดงามนี้ไม่ใช่ว่าแค่พูดก็จะงดงามขึ้นมาได้ นอกจากต้องตัดชุดใหม่แล้ว ยังต้องสั่งเครื่องประดับใหม่ด้วยเจ้าค่ะ ข้าเองก็จะไม่ทำให้ท่านต้องลำบากใจมาก ขอเพียงท่านนำเงินส่วนตัวที่เก็บเอาไว้ออกมาสักเล็กน้อยเพื่อทำปิ่นปักผมทองให้สองพี่น้องสักคู่หนึ่ง ส่วนเรื่องอื่นๆ ข้าจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง ท่านคิดเห็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ”

“ที่แท้พวกเจ้าก็ตั้งใจจะมารีดไถเอาเงินเก็บส่วนตัวของข้าใช่หรือไม่!” ฮูหยินผู้เฒ่ากัวชี้ไปยังฮูหยินใหญ่เหมี่ยน หัวเราะร่าพลางกล่าว “ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนที่มีอะไรก็เก็บเอาไว้ไม่พูดออกมา ข้าก็จะไม่ตอแยเจ้าแล้ว เจ้าเพียงพาพวกนางสองพี่น้องไปตัดชุดและสั่งเครื่องประดับ ค่าใช้จ่ายพวกนี้ข้าจะเป็นคนรับผิดชอบเองทั้งหมด!”

โจวเสาจิ่นและโจวชูจิ่นหัวเราะคิก และร่วมหยอกล้อด้วยอย่างสนุกสนาน ไม่รอให้ฮูหยินใหญ่เหมี่ยนเอ่ยปาก ก็รีบก้าวออกไปกล่าวขอบคุณฮูหยินผู้เฒ่ากวนก่อนแล้ว

ฮูหยินผู้เฒ่ากวนยิ้มแก้ปริอย่างไม่สามารถปิดบังเอาไว้ได้ กล่าวกับฮูหยินใหญ่เหมี่ยนอย่างตรงไปตรงมาว่า “ข้าจะออกให้ห้าสิบเหลี่ยง นอกจากตัดชุดและสั่งทำเครื่องประดับให้พวกนางสองพี่น้องแล้ว เจ้าก็ตัดชุดให้เก้าเกอเอ๋อร์และอี้เกอเอ๋อร์ด้วยคนละสองชุดก็แล้วกัน เพราะอีกไม่กี่วันก็จะถึงเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ในวันที่สิบห้าเดือนแปดแล้ว”

ฮูหยินใหญ่เหมี่ยนจึงยิ้มพลางกอดไหล่ของโจวเสาจิ่นและโจวชูจิ่นไว้ในอ้อมแขน กล่าวขึ้นว่า “ครั้งนี้เก้าเกอเอ๋อร์และอี้เกอเอ๋อร์ของพวกข้าถือว่าได้ลาภจากความโชคดีของพวกเจ้าสองพี่น้องเสียแล้ว ถึงเวลานั้นข้าจะให้พวกเขามากล่าวขอบคุณพวกเจ้าสองพี่น้อง”

โจวชูจิ่นกล่าวยิ้มๆ ว่า “ไม่ต้องกล่าวขอบคุณหรอกเจ้าค่ะ พวกเราเองก็ไม่ได้ลงแรงอะไร ไม่สู้ให้น้องชายทั้งสองช่วยร่างรูปวาดดอกเหมยฤดูหนาวทั้งเก้ามาให้พวกข้าสักสองสามแผ่น พวกข้าจะได้เอาดอกเหมยมาระบายอยู่ที่เรือนในยามว่างได้เจ้าค่ะ”

ทุกคนต่างหัวเราะกันเสียงดังลั่น

ฮูหยินใหญ่เหมี่ยนจึงเรียกช่างตัดเย็บเข้ามาตัดชุดให้พวกนาง

โจวเสาจิ่นบอกปัดไปว่า “ท่านตัดชุดให้พี่สาวไปทั้งหมดเลยก็แล้วกันเจ้าค่ะ ข้ายังมีชุดใหม่ที่ยังไม่เคยได้สวมใส่อยู่ ถึงเวลานั้นท่านช่วยข้าเลือกมาสักหนึ่งชุด หากว่าไม่มีชุดที่เหมาะสมจริงๆ ค่อยตัดใหม่ก็ยังไม่สาย”

แน่นอนว่าโจวชูจิ่นต้องไม่เห็นด้วย โจวเสาจิ่นต้องเสียเวลาพูดไปกว่าครึ่งค่อนวันถึงสามารถเกลี้ยกล่อมพี่สาวได้สำเร็จ

ช่างตัดชุดที่ตกลงกันเอาไว้เข้ามาที่จวนช้าไปกว่าครึ่งชั่วยาม

นางเช็ดเหงื่อบนหน้าผากไปด้วยอาการหอบฮัก กล่าวอธิบายไม่หยุดว่า “ความจริงมาถึงตั้งนานแล้ว แต่ใครจะรู้ว่าจะได้พบกับ**บใส่ของขนาดใหญ่หลายคันรถของคุณชายน้อยผู้เป็นญาติของจวนสามเข้า ทำให้เกี้ยวที่นั่งมาถูกกีดขวางอยู่ด้านนอก ข้าจำต้องรอคุณชายน้อยเคลื่อน**บใส่ของอยู่ที่นั่น…”

“คุณชายน้อยผู้เป็นญาติของจวนสามหรือ” ฮูหยินใหญ่เหมี่ยนขมวดคิ้วมุ่น “เป็นผู้ใดกัน”

นางสงสัยอยู่เล็กน้อยว่าอาจจะเป็นคนจากตระกูลหง…

ใครจะรู้ว่าช่างตัดชุดกลับกล่าวขึ้นว่า “ได้ยินว่าเป็นคนจากตระกูลเดิมของนายหญิงผู้เฒ่าจวนสาม ทำการค้าเจริญรุ่งเรืองอยู่ที่ก่วงตง กลับบ้านเดิมคราวนี้จึงตั้งใจแวะมาเยี่ยมนายหญิงผู้เฒ่าเป็นการเฉพาะ” ขณะที่นางกล่าว ก็ใช้มือแสดงท่าทางไปด้วย “ได้ยินว่ามีปะการังสีแดงที่มีความสูงกว่าสามฉื่อมาด้วยคู่หนึ่ง…”

แย่แล้ว!

นางลืมเรื่องที่หลี่จิ้งจะเข้ามาที่จวนไปได้อย่างไร!

โจวเสาจิ่นกระโดดตัวโหยงขึ้นมา

ชาติก่อน ในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว ตอนที่หลี่จิ้งไปคารวะฮูหยินผู้เฒ่าหลี่นั้น เป็นตอนที่เฉิงเจียกำลังนั่งดื่มน้ำถั่วเขียวและฆ่าเวลาด้วยการเล่นไพ่เป็นเพื่อนฮูหยินผู้เฒ่าหลี่อยู่ หลี่จิ้งสนใจเฉิงเจียตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น พอได้พบอีกครั้งก็ตกหลุมรัก

ตอนนี้หลี่จิ้งมาถึงแล้ว แต่เฉิงเจียกลับถูกกักบริเวณอยู่ แล้วพวกเขาจะได้พบหน้ากันได้อย่างไร

นี่เป็นเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากที่นางกลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง กล่าวคือ ชาติก่อน นางกับเฉิงสวี่ไม่ได้ตัดขาดกัน อู๋เป่าจางก็ไม่ได้มีเรื่องพิพาทกับนาง และนางก็ไม่ได้คิดบัญชีกับพานชิงด้วย…แต่ตอนนี้ เรื่องราวทั้งหมดกลับเปลี่ยนแปลงไป

หลี่จิ้ง ถึงแม้ว่าจะมาจากครอบครัวพ่อค้า ตำแหน่งไม่สูงส่ง ทว่ากลับเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ช่วยชีวิตของเฉิงเจียเอาไว้

อย่างน้อยสุดท้ายแล้ว…เฉิงเจียก็ยังมีหลี่จิ้งที่ปฏิบัติกับนางเป็นอย่างดีอยู่ผู้หนึ่ง

ตอนที่ 88 แขกผู้มาเยือน 1

ตอนที่ 88 แขกผู้มาเยือน 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยามดอกวสันต์ผลิบาน