“ผมจะแต่งงานกับนิรานะครับ คุณแม่รู้ใช่ไหมครับ ว่าผมแค่บอก ไม่ได้มาขอความคิดเห็น” เสือหมายความตามที่พูดนั่นแหละ ถ้าเขามั่นใจ เขาไม่ต้องการคำโต้แย้งหรืออะไรทั้งนั้น แค่บอกให้ท่านรับรู้ว่านิราคือคนที่เขาจะแต่งเข้ามาเป็นสะไภ้ของท่าน
“เห็นแม่เป็นหัวหลักหัวตออีกแล้วใช้ไหมเสือ แม่ยังไม่ยอมรับหรอกนะ แม่จะจัดให้แค่งานหมั้นเท่านั้น ถ้าอีก 1 ปี เสือกับเธอยังรู้สึกเหมือนเดิมค่อยมาคุยกับแม่เรื่องแต่งงาน”
“เรื่องการงานไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะเสือ มันหมายรวมหลายๆ อย่าง ลองคบกันไปก่อน ถ้าไปไม่รอดอย่างหนูมัลลิกา มันยังพอจะถอนหมั้นได้นะ แต่ถ้าแต่งคือเสือจะไม่มีวันได้หย่าอีกเลย”
การแต่งงานสำหรับ อัครโยธินกุล มันไม่ใช่แค่การรับผิดชอบชีวิตคนๆ หนึ่งเท่านั้น แต่หุ้นและทุกอย่างที่พ่วงมากับนามสกุลของท่าน จะถูกผูกมัดรวมกับการแต่งงานนี้ ถ้ามันพังคือทุกอย่างที่ท่านสร้างมาต้องดิ่งลงเหว และที่สำคัญท่านไม่อยากให้ลูกเกิดการหย่าร้างเหมือนท่านเท่านั้นเอง
“เข้าใจใช่ไหมเสือ เข้าใจนะหนู และก็คุณนิตยาใช่ไหม ฉันไม่ได้ห้ามถ้าคนทั้งสองจะเกิดรักไคร่ชอบพอกันถึงขั้นแต่งงาน แต่เท่าที่ฉันรู้มา หนูกับเสือเพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่นาน แถมยังอยู่ในฐานะเลขาด้วย มันเร็วเกินไปที่จะแต่งงาน” คุณหญิงเอ่ยต่อด้วยเสียงราบเรียบ ทั้งยังมองคนทั้งสามที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามสลับกันไปมา
“ค่ะ เอาแบบที่ท่านพูดนั่นแหละคะ” เป็นนิราที่พูดขึ้นมาหลังจากท่านเงียบไปสักพัก จึงเห็นว่าเสือหันมามองด้วยสายตาดุๆ ทำไมเล้า ก็ฉันยังไม่พร้อมนี่นา
“หนึ่งปีต่อจากนี้ เข้าไปเรียนมารยาทกับฉันทุกเดือน เสือหาอะไรให้เธอทำสักอย่าง อย่างน้อยเธอต้องมีพื้นฐานที่ดีกว่าตอนนี้ เพื่อตัวเธอเอง จะได้ไม่ต้องโดนคนดูถูกเอาได้ ส่วนคุณนิตยา เสือบอกว่าคุณจะเข้ารักษามะเร็ง ก็ตั้งใจรักษาตัวตามที่หมอบอก เข้าใจนะว่าชีวิตคุณสำคัญกับลูกแค่ไหน” คุณหญิงปรายตามาทางผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าท่านมาก แต่กลับดูสูงวัยกว่า เพราะคงจะกรำงานหนักมาตลอด
“แม่พูดจบแล้ว มีอะไรอีกไหม” คุณหญิงพูดจบก็เผยรอยยิ้มอ่อนโยนให้คนที่นั่งรวมโต๊ะทั้งหมด นิราจึงยิ้มได้ เพราะท่าทีที่เปลี่ยนไปของคนตรงหน้า
“เอาตามที่คุณแม่เห็นสมควรนั่นแหละครับ” เสือยิ้มอย่างอ่อนโยนให้บุพรารีอีกครั้ง ท่านแนะนำแต่สิ่งดีๆ ให้เขาเสมอมา เขาถึงขึ้นมายืนอยู่จุดนี้ได้นานขนาดนี้ และการหมั้นกับมัลลิกาก็เช่นกัน ท่านแนะนำมาว่าดี เขาก็เลยลองทำตาม แต่มันก็ไปไม่รอด และตอนที่ท่านรู้เรื่องที่มัลลิกาถอนหมั้น ท่านก็ไม่ได้กล่าวโทษใครเลย
และทั้งโต๊ะอาหารก็เกิดเสียงพูดคุยไถ่ถามเรื่องอื่น ที่นอกเหนือจากเรื่องการแต่งงาน
คุณหญิงไม่ได้รังเกียจเด็กสาวตรงหน้า เพราะเท่าที่ฟังมาเธอก็ไม่ใช่คนขี้เกียจอะไร คนที่มีพื้นฐานเป็นคนขยันคือสิ่งที่ดี แต่เด็กคนนี้ขยันผิดที่และขาดต้นทุน ถ้าอยู่ข้างๆ ลูกชายเธอที่มีทั้งความรู้และต้นทุน เด็กคนนี้อาจจะไม่ได้หยุดอยู่แค่ตำแหน่งเลขาก็ได้ และเธอต้องไปได้ไกลกว่านี้ ถึงจะไม่โดนคนในสังคมดูถูกดูแคลนเรื่องฐานะที่แตกต่างกัน
มื้ออาหารจบลงไปแล้ว แต่เรือที่โดยสารอยู่ ยังไม่ถึงเวลาเข้าฝั่ง แม้ทุกอย่างบนโต๊ะจะถูกเก็บไปหมดแล้ว แต่คนทั้งหมดก็ยังนั่งกันอยู่ที่เดิม
“สิงค์กับเจน นี่ยังไงกัน เอาแต่นั่งเงียบ ทะเลาะกันรึไง” คุณหญิงหันไปถามลูกชายคนเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆ พร้อมกับคนรักที่เอาแต่นั่งเงียบกันมานาน
“ไม่หรอกครับแม่ เจนคงจะเหนื่อย” สิงค์แก้ตัวแทนเจนจิรา ช่วงนี้ไม่รู้เจนเป็นอะไร ไม่ยอมคุยกับเขาเลย เมื่อวานตอนที่จะไปส่งพี่ชาย ก็พูดด้วยแค่นั้น แล้วไม่พูดด้วยอีกเลย หรือเพราะเขาไม่ง้อเธอต่องั้นเหรอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่ว