ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 109

ตอนที่109 การปกป้องของเขา

สิบเอ็ดโมง ห้องประชุมผู้บริหารบริษัทบอยูเทคโนโลยีจำกัด

ทยาวีร์เพิ่งประชุมเสร็จเดินออกจากห้อง ช่วงนี้ข่าวดวิษส่งผลกระทบทำให้บริษัทมีปัญหา ลูกค้ารายเก่ามากมายรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายและบางรายก็ขอยกเลิกสัญญา เพื่อแก้ปัญหาทาวีร์เลยตั้งใจสร้างสถานการณ์นี้ขึ้น

เรียกรวมลูกค้ารายใหญ่ ดีที่ตอนประชุมทุกคนค่อนข้างจะใจเย็น

คนมากมายเดินมาที่หน้าประตู ทุกคนใส่เสื้อสูทดูดี ทยาวีร์เดินขอโทษยิ้มแย้มเดินมาส่งที่หน้าบริษัท

จับมือไปด้วย รับปากไปด้วย “คุณชนรพ คุณนภนต์ วางใจได้ครับ ตลอด20ปีที่ผ่านมาทางมีผ่านฐานที่ดี คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะถูกทำลาย ผลกระทบก็คงต้องมีเป็นธรรมดาแต่จะไม่ให้กระทบผลกระทบกับประโยชน์ของพวกคุณ”

“คุณทยาวีร์เราร่วมงานกันมานานขนาดนี้แล้ว ไม่ใช่ว่าเราไม่เชื่อคุณ แต่เรื่องในครั้งนี้คือ เรามีปัญหากับผู้บริหารเตนัท ถ้าเป็นใครใครก็คงจะกลัวคุณว่าจริงมั้ย”

ทย่าวีร์หุบยิ้ม ในใจรู้ดีว่านภนต์หมายความว่ายังไง “คุณนพภนต์วางใจได้ ทางโน่นเขาก็ไม่ได้กัดไม่ปล่อย เราเจรจากันได้”

หลังพูดจบ ลิฟท์หน้าตูบริษัทก็ถูกเปิดออก เขาเดินตรงเข้ามาในบริษัท

ทุกคนหยุดชะงัก ยืนดูมองเขา

รวมถึงทยาวีร์ด้วย มองดูเขาคนนั้นเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้า

นิ่งเงียบไปห้าวินาที หนึ่งในนั้นดึงสติกลับมาได้ เดินขึ้นหน้าเล็กน้อยแล้วยื่นมือทักทาย “คุณเตชิต ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว วันนี้เป็นเกรียติที่ได้เจอตัวจริง ผมนพภนต์ ทำไมวันนี้ถึงมีเวลาแวะมาถึงที่นี่”

เตชิตกวาดสายตาไปที่เขาเล็กน้อย แล้วก้มมองมือ ไม่เอื้อมมือไปจับตอบแค่พยักหน้ารับ

เขาเลยวางมือลงอย่างอายๆ และพูดคุยคนเดียว

เตชิตมองไปที่ทยาวีร์ แก่จะตายอยู่แล้ว หน้าตาเจ้าเล่ห์ไม่น่าเชื่อถือ ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนซื่อสัตว์

ถ้านี่เป็นเหตุผลที่นัชชาอยู่บ้านนี้ไม่ได้ มันก็ไม่ใช่เรื่อแปลก

มีพ่อยังไงลูกก็คงจะไม่ต่างจากพ่อ

ทยาวีร์สบตาเข้ากับเตชิต ใจรู้สึกกลัวแปลกๆ สายตาคู่นั้นเหมือนมองจนตัวเขาจะทะลุ

สายตาที่เตชิตมองมา เหมือนจะไม่ใช่เรื่องดี............

ทยาวีร์หลบสายตา แล้วบอกทักอย่างปลอมเปลือก “สวัสดีครับคุณเตชิต คุณจะมาทำไมไม่บอกเราก่อน ไม่ได้ต้อนรับคุณดีๆ.............”

พูดจบ เขาก็เอียงหัวดูข้างหลังเตชิต ว่างเปล่า

เตชิตยืนเอามือใส่ในกระเป๋า ท่าทางไม่มีมารยาทมากและเหมือนไม่ให้เกรียติเขา “ไม่ต้องมองหาใครเพราะฉันมาคนเดียว”

ทยาวีร์อายที่ถูกเขาจับได้ “เหอะๆ เปล่าครับ คุณคิดมากไปแล้ว”

เตชิตไม่ได้สนใจว่าเขาจะคิดยังไง สายตากวาดมองไปภายในตึกและหน้าประชาสัมพันธ์ สุดท้ายหยุดสายตาไว้ที่พนักงานต้อนรับ

“ไม่เลวหนิ สนใจไปทำงานที่เตนัทไหม”

พนักงานสาวตกใจ ไม่น่าเชื่อว่าผู้บริหารเตนัทพูดคุยกับเธอ และยังถามเธอว่าสนใจไปทำงานกับเขามั้ย เธอเขินหน้าแดง แต่ทยาวีร์อยู่เธอเลยไม่กล้าพูดอะไรออกมา

เพราะยังมีเงินเดือนค้ำคออยู่

เตชิตเหมือนไม่ได้อยากฟังเธอตอบ เขาพอใจที่เห็นสีหน้าตกใจของทยาวีร์และคนอื่นๆ

ทยาวีร์ยิ้มแห้ง “คุณเตล้อเล่นอะไรแบบนั้น..............”

“ฉันไม่ได้มาเล่นๆกับคุณ” หลังจากได้ยิน เขานิ่งชะงัก เหมือนคอแห้งเอื้อมมือไปจับต้นคอไม่ให้ไอออกมา “จะให้พูดตรงนี้หรือเข้าไปคุยกันข้างในดีล่ะ”

เขามาคิดบัญชีอย่างเห็นได้ชัด คนอื่นๆไม่ได้ตาบอดพวกเขาดูออก เตชิตจงใจขู่ให้พวกเขาดู ทำให้บริษัทของเขาขาดคนสนับสนุน

และพวกนี้ก็มีความคิดที่จะอยากยกเลิกสัญญาตั้งแต่แรก ตอนนี่เห็นท่าทางของเตชิต โบกมือบอกลาแบบไม่ต้องคิด

ทยาวีร์ไม่พอใจแต่ก็ไม่กล้าแสดงออกมาทางสีหน้า ทำได้แค่ต้อนรับเขา

ทยาวีร์มองดูผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้า ใบหน้าที่นิ่งเงียบไม่รู้ว่าต้องการอะไรจากเขา คาดเดาได้ยาก

เขาที่มีไข้สูง พยายามทำตัวเองให้มีสติ นิ้วยาวเคาะไปที่โต๊ะสองที ในที่สุดก็เปิดปากพูด “ได้ยินมาว่าดวิษยังคอยรังควานนัชชาอยู่ ไม่รู้ว่าคนที่เป็นพ่อรู้เรื่องนี้มั้ย”

แค่ประโยคเดียวก็รู้เลยว่าเป้าหมายในการมาคืออะไร

ทยาวีร์พูดยาก แต่สุดท้ายก็ยอมรับ “ดวิษยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่ ถ้ามีที่ไหนทำไม่ถูกก็ขอให้คุณเตชิตให้โอกาสเขา ผมจะบอกให้เขาปรับปรุงตัว”

“ฉันก็อยากให้โอกาสพวกคุณ” เตชิตก้มมองแก้วชาที่วางอยู่บนโต๊ะ พูดด้วยน้ำเสียงเหมาะสม “แต่โชคร้าย เขาสร้างปัญหาไปจนถึงคนในครอบครัวของฉันแล้ว มันทำให้ฉันรู้สึกไม่ค่อยพอใจ..........”

ทยาวีร์มือสั่น แววตาว้าวุ่น แต่ก็ทำเป็นนิ่งไม่รู้สึกอะไร “ดวิษสร้างปัญหาให้คนในครอบครัวคุณแล้วหรอ อันนี้ผมไม่รู้จริงๆถ้ารู้ก็คงไม่ปล่อยให้เขาทำแบบนี้หรอก”

เตชิตดูออกว่าทยาวีร์คงจะไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ แต่เขาก็ไม่คิดที่จะเข้าใจ “ในสายตาฉัน ไม่ว่าคุณจะรู้หรือไม่รู้ ลูกชายของคุณก็ทำมันลงไปแล้ว ที่ฉันมาเพื่อที่จะบอกแค่ว่าถ้ายังอยากบริหารบริษัทนี้ต่อ อย่าไปสร้างปัญหาให้นัชชาอีก”

ทยาวีร์วางแก้วลง ยิ้มแห้งๆ บรรยากาศเริ่มตึงเครียด เขาเปิดปากอธิบาย “คุณเตชิต เราทุกคนเป็นนักธุรกิจ ไม่ต้องถึงกับทำแบบนี้ ฝั่งดวิษผมจะคอยเตือนเขาเอง คุณสบายใจได้ จะไม่ให้เขาทำอะไรที่ไม่ดีอีก ผมรับปาก”

ทยาวีร์เรียกเขาว่าคุณ พูดเหมือนไม่ให้เกรียติ แต่ความเป็นจริงคือเขากำลังเล่นเกมส์ปั่นประสาทกับเตชิตอยู่ สิ่งที่เตชิตต้องการคือทั้งครอบครัวมันไม่ใช่แค่ทยาวีร์รับปากแค่คนเดียว

“ถ้าพูดถึงขั้นนี้ ฉันก็คงไม่มีทางเลือก” เตชิตไม่ได้สนใจคำพูดของเขา ตอนลุกขึ้นยืนก็แอบหน้ามือเซเพราะมีไข้ขึ้นสูง แต่เขาก็ยืนนิ่งไว้ได้

ทยาวีร์ตกใจลุกขึ้นตาม “คุณเตชิต”

เตชิตหยุดเท้า มองดูผู้ชายเตี้ยตรงหน้าด้วยสายตากดดัน เอาเรื่อง

ทยาวีร์กัดฟัน “ได้ครับ ผมรับปากว่าครอบครัวเราจะไม่ไปราวีนัชชาอีก”

“แต่.........” พูดถึงนี่ เขาหยุดชะงัก “คุณเตชิตก็รู้ว่า นัชชาได้สมบัติของเราไปครึ่งหนึ่ง เตนัทกับคุณมีบทบาทยังไงคงไม่ต้องให้ผมพูดนะครับ เราต่างรู้ดีอยู่แก่ใจ คุณคงไม่ต้องการให้ฉันปิดปากยอมรับการสูญเสียนี้............”

“การสูญเสีย” เตชิตมองหน้าเขา “ใครกันแน่ที่โดนเอาเปรียบ คุณไม่ได้รู้อยู่แก่ใจหรอ”

ทยาวีร์เปิดปากพูดโดยไม่ยิ้มเหมือนเคย “คุณเตชิต มีอะไรก็พูดมาตรงๆเลยดีกว่า”

เตชิตเปลี่ยนสายตาทำให้ทยาวีร์เห็นการข่มขู่จริงจังของเขา “ฉันไม่ต้องการให้คนในบ้านคุณโผล่หน้ามาให้นัชชาเห็นในชีวิต ถึงจะบังเอิญเจอกันก็ให้เดินอ้อม ถ้าฉันรู้ว่าพวกคุณทำอะไรลงไป บริษัทนี้ฉันจะยึดไปทันที”

พูดถึงตรงนี้ หน้าต่างบานสุดท้ายก็ถูกทะลาย ทยาวีร์หรี่ตามอง “คุณเตชิตมั่นใจขนาดนั้นเลยหรอ”

ใครจะรู้เตชิตยกยิ้ม เป็นยิ้มที่ทำให้คนกลัว “อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง แค่เรื่องบัญชีการเงินของบริษัท ฉันก็สามารถเอามันไปได้ง่ายๆ”

ทยาวีร์เหมือนถูกฟ้าผ่า เอื้อมมือไปจับเก้าอี้พยุงตัวไว้ มองดูผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเหงื่อแตก เขารู้สึกได้ว่า ถ้ายังไม่หยุดสักวันบริษัทนี้จะถูกเปลี่ยนเป็นชื่อเตชิต

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด