ตอนที่21 แรงกดดันจากพ่อแม่
นัชชาเดินออกมาออกจากเตนัทลอว์เฟิร์ม ปากก็แอบบ่นเขาไปด้วย มันคงเป็นเพราะการกระทำเมื่อกี้ของเขาเตชิตเลยจัดคนขับรถไปส่งเธอ
นัชชาเดินนวดไหล่ไปด้วยปากก็ยังไม่หยุดบ่น ถ้าคราวหลังเธอมาทำงานเธอคงต้องอยู่ให้ห่างจากเขา ไม่งั้นคงได้โดนเขากระชากไปทำอะไรต่อมิอะไรแน่ๆ ไม่ต้องทำงานกันพอดี
“คุณนัชชาครับ จะตรงกลับไวโรจน์วิลล่าเลยมั้ยครับ” คนขับถาม
นัชชาคิดไปคิดมา “ไปหมู่บ้านมีสุข”
มันก็นานมากแล้วที่เธอไม่ได้กลับไปเยี่ยมพ่อแม่เลย ครั้งที่แล้วเป็นเพราะเรื่องดวิษถึงเวลาที่เธอต้องกลับไปแล้ว
ครึ่งชั่วโมงต่อมา รถจอดอยู่หน้าหมู่บ้านมีสุข นัชชาลงจากรถ เดินผ่านร้านขายของเลยแวะซื้อของบำรุงร่างกาย ตึกเก่าที่ไม่มีลิฟต์เธอเลยต้องแบกของเดินขึ้นบันไดไปถึงชั้น4
ณัชชนม์เปิดประตูมา เห็นมือเธอหิ้วโน่นนี่ไว้เลยรีบยื่นมือไปรับ “ทำไมถึงแล้วโทรบอกพ่อกับแม่จะได้ลงไปช่วยถือของด้วย”
“ไม่เป็นไรคะแม่ แค่นี้เองหนูถือเองได้สบายมาก”
“รีบเข้ามาข้างใน”
สองแม่ลูกเดินเข้ามาในบ้าน เมทนีที่กำลังเขียนพู่กันจีนอยู่ห้องครัวตรงโต๊ะกินข้าว นี่เป็นกิจกรรมยามว่างที่ทำมาตลอดหลายปีจนชินไปแล้ว
“พ่อ” นัชชาวิ่งเข้าไปเรียกด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ
ตั้งแต่นัชชาเป็นเด็กเมทนีก็รักและดูแลเธอเป็นอย่างดี เขาจะตรงกันข้ามกับณัชชนม์ เขาใจกว้างถึงแม้ว่าเธอจะแต่งงานแล้วทุกครั้งที่เธอกลับมาเขาก็จะดูแลทำตัวเหมือนนัชชายังเป็นเด็กอยู่
แต่คราวนี้ต่างจากเดิม ดูก็รู้ว่าเขาไม่ค่อยพอใจ “เธอยังรู้จักกลับบ้านอยู่หรอก”
นัชชาไม่เข้าใจ ณัชชนม์เลยแก้สถานการณ์ “เอาเถอะ ไหนๆลูกก็กลับมาแล้ว จะโกรธอะไรอีก”
“เธอว่าฉันจะโกรธเรื่องอะไร บ้านนั้นเขาถึงขั้นโทรมาฟ้องแล้ว ฉันอายคน ขายหน้า” พูดๆไปเขาก็โยนพู่กันลงโต๊ะ
นัชชาพอเดาเรื่องออก “พ่อ ดวิษมาหาพ่อใช่มั้ย”
ณัชชนม์ถอนหายใจแล้วลากนัชชาออกมา “ไม่ใช่ดวิษ แต่เป็นจรรยา”
นัชชาขมวดคิ้ว “เขามาหาพ่อทำไม”
ณัชชนม์หันมามองนัชชาแอบลังเลแต่ก็ถามออกไป “นัช ช่วงนี้ลูกไม่ได้กลับบ้านเลยใช่มั้ย”
“………………”
นัชชาเคยคิดว่าดวิษต้องใช้ข้อนี้มาข่มขู่เธอ แต่เธอนึกไม่ถึงว่าเขาจะถึงขั้นใช้มันกับพ่อแม่ของเธอ
เมทนีเห็นนัชชาเงียบไปก็เลยนึกว่าเธอยอมรับ ทำให้เขายิ่งโกรธ “นัชชา เธอแต่งงานแล้วก็คือแต่งงานแล้ว ไม่ว่าปัญหามันจะใหญ่แค่ไหน เธอก็ไม่ควรไม่กลับบ้าน ทำแบบนี้รู้มั้ยคนอื่นจะเอาไปพูดไปนินทายังไงบ้าง”
นัชชาอึ้ง “โดนเอาไปพูดเรื่องอะไร”
คนที่ต้องโดนพูดควรจะเป็นไอ้เลวดวิษ
“เธอไม่กลับบ้าน ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วแต่ไม่ยอมกลับบ้าน เธอว่าจะโดนนินทาเรื่องอะไร จรรยามาหาฉันถึงนี่บอกว่านอกเธอมีผู้ชายใหม่ แม่เธอกับฉันอึ้งจนพูดไม่ออก”
ตอนแรกเรื่องนี้เธอกับเขากะจะไม่พูด คิดว่ามันเป็นปัญหาของเด็ก ควรแก้กันเอง แต่วันนี้นัชชามา เขาก็เก็บกลั้นความโมโหไม่อยู่ ณัชชนม์ห้ามเขาตอนนี้มันก็ไม่ทันแล้ว
คำพูดที่ออกไป น้ำที่สาดออกไป
นัชชามองเมทนีด้วยสายตาเหลือเชื่อ “พ่อ พ่อพูดเรื่องอะไร คนอื่นใส่ร้ายหนู พ่อก็ร่วมใส่ร้ายด้วยหรอ”
นัชชาเดินมาถึงบันไดก็เริ่มร้องไห้ เธอวิ่งมาจนถึงสวนเล็กๆข้างหมู่บ้าน นั่งร้องไห้อยู่ตรงเก้าอี้ นึกถึงคำพูดของเนทมีที่ให้เธอหลับหูหลับตา นัชชารู้สึกเจ็บจนใจกลายเป็นปม
ให้ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอ
เธอไม่ได้มีใจที่ใหญ่ขนาดนั้น เธอเป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่สามารถทำเหมือนมองไม่เห็น ยิ่งไม่อนุญาตให้คนอื่นมาเหยียบย่ำความรู้สึกของตัวเอง ปณิตากับดวิษก็เหมือนขี้หมา ที่ทำให้เธอรังเกียจ เธอไม่สามารถพูดให้ชนะใจตัวเองได้
นัชชาสะอื้น เธอไม่เคยต้องการอะไรมาก เมื่อก่อนเธอรักดวิษมาก ไม่ว่าเขาจะทำอะไรให้เธอก็จะกิน ถึงแม้ว่าจรรยาจะทำให้ไม่พอใจมากแค่ไหนเธอก็ทนได้ ขอเพียงแค่ในใจของเขามีเธอก็พอ
เสียดายที่เรื่องแค่นี้เขาก็ไม่ยอมที่จะทำให้
ใช่ ทางนี้เป็นทางที่เลือกเอง ไม่ฟังที่พ่อแม่คัดค้านแล้วแต่งงานกับผู้ชายที่ตัวเองรักหมดใจ แต่มันเป็นเรื่องที่ผิดหรอ
เป็นเพราะเธอตาถั่วที่เลือกแต่งงานกับคนเลว แต่แค่ที่เธอรักหมดใจมันก็เป็นเรื่องผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่แล้ว เพราะว่าโดนทำร้ายอย่างร้ายแรงจากความรักครั้งนี้
ครืด ครืดๆ
โทรศัพท์ในกระเป๋าสั่น นัชชาทำเหมือนไม่ได้ยิน มันก็สั่นไม่หยุด เหมือนปลายสายจะแข่งรั้นกับเธอ ถ้าเธอไม่รับเขาก็จะโทรอยู่แบบนั้น
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู มันกลับเป็นดวิษ
“ฮัลโหล ทำไมนานจังกว่าจะรับสาย” น้ำเสียที่ไม่ค่อยพอใจของดวิษ
ทั้งความโกรธ ทั้งความน้อยใจของนัชชา เมื่อเธอได้ยินคำนี้ทำให้เหมือนถูกเข็มทิ่มทำให้ลมรั้ว “ดวิษ คุณเล่นจนพอใจรึยัง”
เธอประเมินตัวเองสูงไป การที่สู้ไปสู้มาและการที่ตอแยกันไม่เลิก แรงกายของเธอมันสู้ไม่ทันใจแล้ว
เสียงของเธอที่ออกจากจมูกและเสียงสั่นไม่นิ่ง ปลายสาย ดวิษที่อยู่ห้องทำงานนั่งตัวตรงขึ้นมาทันที “เธอร้องไห้หรอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด
แจ้งความแม่มเลยค่ะ ลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย งงนะ พระเอกนางเอกไม่มีใครด่าเลยว่าทำไมพาเด็กมาโดยไม่ขอก่อน...