ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 217

ตอนที่ 217 ดังนั้นคุณเลยไม่เชื่อฉัน

นัชชาไม่รู้ว่าตัวเองออกจากวิลล่ามาถึงโรงพยายาลได้อย่างไร เธอติดตามรถพยาบาล120มา คนทั้งหมดเหมือนเป็นซากศพเดินได้ เมื่อเห็นเมทนีเข้าไปในห้องผ่าตัดแล้ว และถูกลากออกจากห้องผ่าตัด สุดท้ายถูกจัดอยู่ให้พักในวอร์ดผู้ป่วยวีไอพี

ที่หรูหราก็คือ ห้องพักผู้ป่วยของทีนาร์ซึ่งอยู่ชั้นล่างของพวกเขา เตชิตในเวลาสามชั่วโมงที่ผ่านมา ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ก็ไม่ได้มาเยี่ยมเลยสักนิด

เขาไม่สนใจหรอก

เรื่องนี้ ทำให้เขาได้แสดงอารมณ์ทั้งหมดออกมา

ระหว่างทีนาร์และเธอ เขาไม่ลังเลที่จะเลือกทีนาร์ แม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะทำให้พ่อของเธอต้องหัวใจวาย เขากลับเพียงตำหนิเธอว่า “พอใจแล้วใช่ไหม”

นัชชามองไปที่เมทนีที่กำลังหลับอยู่บนเตียงผู้ป่วย ไม่รู้สึกถึงสัมผัสใดในใจ เธอรู้สึกว่าการกระทำของเธอในเวลานี้ช่างไร้ค่าและน่าเศร้านัก ณัชชมม์เห็นว่าดวงตาของเธอแดงก่ำ เธอไม่ได้พูดจาตำหนิอะไรเธอเลยสักคำ เธอได้แต่เดินมาตบไหล่ของเธอ “ไปพักผ่อนเถอะ แม่เฝ้าพ่อต่อเอง”

นัชชาตัดสินใจอยู่ดูต่ออีกพักหนึ่ง เธอยกมือขึ้นและเช็ดน้ำตา ไม่พูดอะไรลุกขึ้นและเดินออกจากวอร์ดไป

เธอเดินไปถึงหน้าต่างที่ปลายสุดของทางเดิน ลดหนาวพัดเข้ามาจากทางหน้าต่าง พัดใส่ใบหน้าที่แข็งกร้าวและโชยผมมาปิดบังใบหน้าของเธอ น้ำตาเธอไหลเหมือนลูกปัดและร่วงหล่นลง

ไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา เธอยังคุยกับเมทนีอย่างมีความสุขเรื่องจะไปที่บ้านของเตชิต แนะนำคนที่เธอรักให้กับพ่อแม่ได้รู้จัก เรื่องราวกลับกลายภายในพริบตา ทุกอย่างกลับกลาย ฉากกั้นระหว่างสวรรค์กับนรกทำให้เธอรู้สึกว่าทุกอย่างก่อนหน้านี้เหมือนเป็นเพียงฟองสบู่

เขาไม่เชื่อใจเธอเลย ไม่แม้สักนิด

นัชชากอดคอของตัวเองเอาไว้ คนทั้งหมดเหมือนจู่ๆก็ตกลงสู่น้ำที่เยือกเย็น ผิดหวังหรอ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ น่าจะเป็นความรู้สึกสิ้นหวังมากกว่าความผิดหวัง ชายคนนี้ซ่อนความลับนี้ของเขาเอาไว้ เพื่อให้เธอคิดว่าทีนาร์ไม่ใช่ปัญหา

บางทีมันอาจจะเป็นเหมือนที่ทีนาร์พูดจริงๆ ว่าเธอเป็นมือที่สามระหว่างพวกเขา

เมื่อเธอกำลังรู้สึกสับสนอยู่นั้น ปรัณก็เดินเข้ามาอย่างรีบเร่ง ใบหน้าที่มีสีหน้ากังวลไม่สามารถปกปิดได้มิด “นัชชา อาการของคุณลุง หัวใจถูกอุดตันด้วยลิ่มเลือดต้องทำการบายพาส ฉันประชุมกับแพทย์ที่ร่วมทีมแล้ว ไม่ต้องร้อนใจไป”

“การผ่าตัดต้องใช้ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่” นัชชายกมือขึ้นและเช็ดน้ำตาบนใบหน้า นี่คือจุดสิ้นสุดของเรื่องนี้ ฉันไม่ต้องการให้คนอื่นเห็นความอึดอัดใจของตัวเองอีกต่อไป

“ไม่ต้องห่วง คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องการรักษาพยาบาลที่นี่ ลงบัญชีของเตชิตเอาไว้แล้ว”ความจริงปรัณไม่ได้อยากบอก แต่ก็เกรงว่านัชชาจะยืนกรานสอบถามจนรู้ให้ได้

เตชิตรึ

น่ากลัวว่าอีกหน่อยจะไม่ได้ใช้บัญชีเขาแล้ว

นัชชายิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไร แค่ถามเขาว่า “ทีนาร์ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง”

ปรัณตกตะลึง เขาลังเลใจอยู่สองวินาทีจึงเปิดปากพูด “ตอนนี้ก็ยังโอเค เท่าที่ฉันรู้นะ”

ปรัณถอนหายใจ “ไม่ค่อยดี มีน้ำอยู่ในปอด ความดันยังไม่คงที่ ค่าต่างๆของร่างกายก็ยังไม่ดีเท่าไหร่ ต้องคอยสังเกตอาการ หมอของทางอเมริกาที่อยู่ที่นี่ก็กำลังจะรีบมาดู”

“รู้สึกตัวรึยัง”

“อื้อ ค่อยๆฟื้นตัวแล้ว” ปรัณมองดูที่นาฬิกาของเขา และพูดอย่างชัดเจน “เมื่อสิบนาทีก่อน”

นัชชาพยักหน้าและหายใจเข้าลึกๆ “ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปเยี่ยมเธอหน่อย”

ปรัณไม่ได้คาดคิดว่าเธอจะขอ เขาเลยต้องปฏิเสธ แต่เธออาจจะไม่พอใจ แต่ถ้าไปในตอนนี้…. อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นความเศร้าโศกที่ซ่อนอยู่ในสายตาของนัชชาแล้ว เขาก็ไม่สามารถพูดคำปฏิเสธออกมาได้

ช่างเถอะ เขาควรเชื่อมั่นในตัวนัชชาอีกสักหน่อย มันไม่มีเหตุผลที่จะไปห้ามเธอ อีกอย่างสถานการณ์ของเธอและเตชิตก็ยังไม่มั่นคง ณ ตอนนี้ ให้พวกเขาได้พบหน้ากันหน่อยก็น่าจะดี

ปรัณพาเธอไปที่วอร์ดผู้ป่วยชั้นล่าง มองลอดประตูไป นัชชาเห็นร่างสูงใหญ่อยู่ที่ขอบเตียง ร่างของเขากำลังโค้งงอเล็กน้อย หันหน้าเข้าหาหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง ทีนาร์เหมือนจะมองเห็นพวกเขา มือของเธอก็ถือเครื่องมือเอาไว้ยกขึ้นเล็กน้อย ไม่ช้าก็ถูกมือของชายหนุ่มยึดจับเอาไว้

หัวใจของนัชชารู้สึกเจ็บ เมื่อเธอพักเปลือกตาลง ปรัณก็กดกริ่งที่ประตู เธอกลัวว่าถ้ายิ่งเห็นจะยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากไปกว่านี้

เมื่อได้ยินเสียง เตชิตก็รีบลุกมาเปิดประตู เมื่อเขาเห็นผู้หญิงที่ยืนอยู่ที่หน้าประตูก็ตกตะลึง เขาสบตาและถามเธอด้วยเสียงที่แหบแห้ง “คุณลุงเป็นอย่างไรบ้าง”

หัวใจของนัชชานั้นเหมือนมะนาวเปรี้ยว กรดกัดกร่อนหัวใจเธอไปทีละน้อย ความเจ็บปวดนั้นแสนสาหัส หากไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้น เมื่อได้ยินประโยคนั้นเธอก็รู้สึกเหมือนถูกปลอบใจและรู้สึกซาบซึ้ง

นัชชาไม่กล้าคิดต่อไปไกล เธอมองดูผู้หญิงในวอร์ดและเธอก็กระซิบ “ฉันมีอะไรจะบอก”

ในใจของเตชิตสั่นเทา เมื่อได้ยินเธอพูดเช่นนี้ ทั้งที่ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องวุ่นวายใจ

“อาการเธอตอนนี้ยังไม่คงที่ ตอนนี้ยังไม่ควรถูกกระทบกระเทือน ถ้าคุณมีเรื่องอะไร ไว้ไปคุยที่ห้องทำงาน…”

“อ้อ” นัชชาไม่รอให้เขายิ้ม เธอยิ้มและชิงตัดบท มีหมอกควันในสายตาของเธอ “ไม่สะดวกใช่ไหม”

หลังจากนั้นเธอก็พยักหน้า เดินไปที่ม้านั่งแล้วนั่งลง “พูดตรงนี้แล้วกัน”

ปรัณอยากให้เธอไปที่ออฟฟิตของตัวเอง แต่ก็โดนสายตาของเตชิตหยุดเอาไว้ มันยากที่ไม่สามารถพูดอะไรในฐานะคนนอก แค่เพียงเว้นที่ว่างไว้ให้พวกเขา

เตชิตมองไปที่ผู้หญิงที่นั่งหลังตรงอยู่ที่ม้านั่ง เขาเดินไปและนั่งลงข้างๆเธอ “พูดสิ”

“ที่วิลล่า ทีนาร์กันพ่อแม่ของฉันไม่ให้เข้าประตู เธอบอกว่าเธอรักกับคุณมาตั้งแต่เด็ก ฉันเป็นมือที่สาม ภาษาที่เธอใช้เหลือทน เธอดูถูกพ่อแม่ของฉัน จนพ่อของฉันหัวใจวาย ทั้งหมดนี้น้ารินก็ได้ยิน สามารถเป็นพยานได้” นัชชาพูดทีละคำและพยายามทำเสียงให้ตื่นเต้นเล็กน้อย

เธอแค่ต้องการบอกข้อเท็จจริงบางอย่าง ไม่ได้สนใจว่าเขาจะเชื่อหรือไม่

เมื่อได้ยิน เตชิตก็รู้สึกตกใจ แม้ว่าความรู้สึกความรู้สึกของทีนาร์ที่มีต่อเขาจะยังคงอยู่เสมอ แต่ไม่เคยแสดงออกรุนแรงเช่นนี้ เธอเลือกที่จะพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้

แต่ว่าเขากลับไม่อยากเชื่อ เพราะว่าวันนี้เขาไม่รู้ว่าทีนาร์จะกลับมาจากวิลล่าทางตอนเหนือ เธอควรจะกลับมาในวันที่ห้า

ปวีณก็ไม่รายงานเขาว่าเธอจะกลับมา ดังนั้นเรื่องนี้ต้องมีการวางแผนเอาไว้แล้ว

ดังนั้นความตั้งใจของเธอก็คือต้องการที่จะจู่โจมพ่อแม่ของนัชชา

นัชชาเห็นใบหน้าเขากดต่ำลงและดวงตาที่กดลึก การซ่อนอารมณ์ที่ไม่มีใครเข้าใจได้ แต่ในเวลานี้เธอก็ไม่ได้ใส่ใจ แค่เล่าให้เขาฟังต่อไป “ฉันยอมรับ เมื่อฉันเห็นพ่อล้มลงกับพื้นฉันโกรธมาก ความโกรธนี้หาที่เปรียบไม่ได้ แต่ถึงโกรธก็ไม่ได้คิดจะฆ่าเธอ และด้วยคำพูดยั่วยุของเธอ ก็กระตุ้นฉันให้โมโหจนบีบคอของเธอ ฉันไม่ได้คิดจะฆ่า ฉันไม่ได้ผลักเธอ ฉันไม่ได้ออกแรงเลยสักนิด”

ริมฝีปากของชายผู้นั้นขยับเหมือนกับต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่ในที่สุดก็นิ่งไป เตชิตขยับหน้าอกขึ้นลง มีอาการหายใจไม่ออก สายตาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น “บางที คุณอาจคิดไปเองว่าตัวเองไม่ได้ออกแรง”

ทีนาร์เข้ามาร่วมด้วย เธอตกน้ำคงไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาล้อเล่น เธอว่ายน้ำไม่เป็น ด้วยอุบัติเหตุเล็กน้อย เธออาจจะไม่ได้เห็นแสงอาทิตย์ในวันพรุ่งนี้ เธอไม่มีวันแขวนชีวิตไว้บนเส้นด้ายอย่างนั้นหรอก

เมื่อนัชชาได้ยินคำตอบเช่นนั้น เธอเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองเขา ไม่มีอารมณ์ใดๆปรากฎบนใบหน้าของเธอ เธอรู้สึกชาไปหมด เขาทำร้ายเธอ

คำอธิบายทั้งหมดยังไม่ได้ถูกกล่าวออกไป พวกเขาทั้งสองแตกสลายง่ายๆด้วยคำพูดประโยคง่ายๆของเขา ไม่ต้องแล้ว คนคนเดียวที่ไม่เชื่อเธอ เธอพูดต่อไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร

เธอมองไปที่ดวงตาที่อ่อนโยนนั้นอีกเพียงครั้งเดียว ขณะนี้เหลือเพียงนัยตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา เธอละสายตาลงมา “ดังนั้น คุณก็เลยไม่เชื่อฉัน”

สีหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย การถามเธอก็เหมือนกับการถามตัวของเขาเอง “คุณบอกผมหน่อย ทำไมคุณถึงทำอย่างนั้นล่ะ”

ดวงตาทั้งสี่ประสานกันรับรู้ถึงความเจ็บปวดของอีกฝ่าย เธอยิ้ม และดันตัวลุกขึ้นยืน เธอส่ายหัวและพูดเพียงสองสามคำ “ฉันผลักเองแหละ ไม่ผิดหรอก ฉันทำเองค่ะ”

หากไม่สามารถอธิบายให้เชื่อได้ ถ้างั้นก็เข้าใจผิดไปเถอะ เข้าใจผิดไปให้เต็มที่แล้วก็ปล่อยเธอไปซะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด