ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 222

ตอนที่ 222 จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด

เสียงนี้ ...

สุวีราเงยหน้าขึ้นมองดูคนที่อยู่ด้านหลังเมื่อสายตาจับไปที่ใบหน้าหล่อเหลานั้น เธอก็ตกตะลึงเล็กน้อย เขา เขามาอยู่ที่นี่ได้ อย่างไร?

หลังจากคิดได้ว่านัชชาเป็นแฟนของเตชิต ตอนนี้พ่อของเธอรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว เขาต้องใส่ใจเป็นพิเศษหากเขาจะมาตรวจคนไข้หลังจากการผ่าตัดก็ไม่น่าแปลกอะไร

แค่เพียงว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญเกินไปที่ทั้งสองคนจะพบกันที่นี่

ตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เกิดเรื่องขึ้นที่วิลล่าเขตเหนือไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำงานหรือชีวิตส่วนตัวสุวีราก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาอีกในเวลานี้เธอรู้สึกว่ามีฝ่ามือของเขาสัมผัสที่แผ่นหลังของเธอทำให้เธอคอแห้งผาก

ปรัณมองเห็นสายตาตกใจของเธอ ถึงรู้ตัวว่าการกระทำของเขามันดูใกล้ชิดเกินไปจึงรีบดึงฝ่ามือออก แม้ว่าใจของเขาจะรู้สึก เต้นไม่เป็นจังหวะก็ตาม แต่สีหน้าของเขายังคงเป็นปกติเหมือนเดิม หลังจากเก็บอารมณ์ได้แล้ว เพื่อกลบเกลื่อนเรื่องเมื่อสักครู่ เขากำลังจะพูดกับเธอ แต่ดูเหมือนว่าหญิงต่อหน้าเขาไม่ต้องการรับฟังอะไรกำลังจะเดินหลีกเขาไปด้านข้าง

ตอนนี้มีร่องรอยความเจ็บปวดบนใบหน้าที่อ่อนโยนของผู้ชายคนนี้ เขาขมวดคิ้ว ขมวดคิ้วอย่างหนัก เขาดึงข้อมือของเธออย่างแร เหวี่ยงเธอกลับมายืนที่เดิมพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ " ผมบอกให้คุณไปได้แล้วหรือ? "

สุวีราเหมือนแมวที่ถูกเหยียบหาง เธอสะบัดแขนกลับแต่ไม่ว่าเธอจะใช้แรงขนาดไหนก็สะบัดไม่หลุดจากมือของชายผู้นี้มือของเขาแข็งแรงพอๆกับโซ่เหล็กที่ล็อคเธอไว้แน่น .

" ผู้อำนวยการปรัณ คุณทำอะไรน่ะ? " เสียงเธอสั่น เพราะความโกรธ

ปรัณฟังเธอพูดจบเขาก็สงบลงมองดวงตากลมโตของเธอที่เต็มไปด้วยอารมณ์ส่วนตัว แล้วพูดน้ำเสียงถากถาง “ พนักงานที่ กล้าสั่งสอนฝ่ายบริหารคุณคิดว่ามันปกติดีหรือ คุณคิดว่าผมทำอะไร หืม?หรือคุณคิดว่าการที่ผมให้คุณอยู่ตรงนี้เป็นเพราะความ รู้สึกส่วนตัว? "

สุวีราคิดอย่างนั้นจริงๆ ดังนั้นเมื่อปรัณพูดเช่นนั้น ใบหน้าขาวใสของเธอ ก็แดงก่ำขึ้นมาทันที

เธอทั้งโกรธทั้งเขินรอคนที่อยู่ข้างหน้าพูด เมื่อคิดถึงตอนที่เขาวิจารณ์อย่างไม่ใยดีอดไม่ได้ที่จะโต้กลับ " ผู้อำนวยการปรัณฉัน ไม่รู้ว่าคุณต้องการหมอที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพมาทำอะไร! "

อันที่จริงประโยคนี้เป็นประโยคที่ทำให้เธอเจ็บมากที่สุด

ปรัณชะงักไปชั่วครู่ระลึกถึงความไม่พอใจในวันที่เกิดเรื่อง เขาหรี่ตาลงครั้งแรกที่สายตาอันสดใสของเขาปรากฏความหม่นหมองหลังจากได้ยินเธอพูด ดังนั้นแล้วเขาก็อารมณ์ดีขึ้นหน่อยเธอยังนึกถึงเรื่องนี้ก็แสดงว่าเธอใส่ใจ

เธอ เธอใส่ใจเรื่องของตัวเอง

ความรู้สึกนึกคิดพุ่งออกมาจากสมอง ปรัณใจเต้นไม่เป็นจังหวะในช่วงหลายปีที่ผ่านมาชีวิตของเขาเกี่ยวข้องกับความเกิด แก่ เจ็บตาย จนทำให้ใจของเขาชาชิน อย่าว่าแต่ความรู้สึกของผู้ชายที่มีต่อผู้หญิงเลย แต่ในขณะนี้ใจเต้นแบบนี้ทำให้เขาไม่คุ้นเคยเอาซะเลย

วินาทีต่อมา ตอนที่เธอไม่ทันระวังตัวเขาก็ปล่อยมือเธอ ร่างชายที่สวมเสื้อคลุมสีขาวเดินไปข้างหน้า" มาที่ออฟฟิศของผม "

พูดจบ เขาไม่มองกลับเดินตรงผ่านหน้าเธอไป

สุวีรายังคงยืนอยู่กับที่มองร่างสูงโปร่งขายาวๆย่างก้าวดูเหมือนเต๊ะท่าทำให้รู้สึกน่าหมั่นไส้

"ถ้าคุณยังไม่ตามมา พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องมาทำงานที่โรงพยาบาลนี้อีก "

สุวีราดวงตาเบิกกว้าง ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งปรัณจะใช้เรื่องงานแก้แค้นเรื่องส่วนตัว เธอกัดฟันกรอด แม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจนัก แต่ก็ต้องรีบเดินตามไปทันที

……

หลังจากเข้ามาในออฟฟิศ ปรัณไม่รีบที่จะนั่งลงแต่ยืนอยู่ที่ทางเข้าประตูรอเธออยู่ สุวีราเกือบจะชนอกของเขาทันทีที่เข้าประตูมา

ทำไมต้องอยู่ใกล้ๆประตูด้วยเนี่ย ... สุวีรากัดฟันรู้ว่าเขาตั้งใจเธออดทนกดความไม่สบอารมณ์ไว้" รบกวนผู้อำนวยการปรัณ หลบไปหน่อยได้ไหมคะ "

ปรัณเหลือบมองเธอ สายตาที่เหมือนเลเซอร์สอดส่องอารมณ์บนสีหน้าของเธอ เมื่อสุวีราเกือบจะเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ เขาก็ค่อยๆขยับเท้าถอยออกมา และให้เธอมีที่ว่างเดินเข้าห้อง

อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาจะขยับตัวแล้ว แต่ระยะห่างของทั้งสองฝ่ายก็ยังใกล้มากอยู่ดี ในขณะที่เธอเดินผ่านเขา ไหล่ของเธอชนอีกฝ่ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เธอไม่กล้าแม้แต่จะดูว่าเธอชนเขาตรงไหน เธอหน้าแดงเดินเข้าไปในออฟฟิศของเขา

' ตึง ' เสียงประตูปิดลง เข้ามาในห้องนี้นับครั้งไม่ถ้วน แต่ครั้งนี้กลับรู้สึกลำบากใจเป็นที่สุด

สุวีรายืนอยู่ในออฟฟิศเหมือนทหารที่รอการสอบสวน แม้แต่เธอก็ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้กระวนกระวายใจมากขนาดนี้ เธอแค่รู้สึกว่าวันนี้ทุกอย่างดูผิดปกติไปหมด บรรยากาศระหว่างเขาและเธอก็รู้สึกไม่ชัดเจนเลย

นอกจากความเงียบ ก็ยังคงเงียบ

ในที่สุดสุวีราก็ทนไม่ไหวที่ถูกมองด้วยดวงตาขุ่นๆคู่นั้น เธอรู้สึกว่าหากเธอยังไม่พูดอะไร เธอคงโดนสายตาคู่นั้นเผาสุกแน่ ๆ เธอพูดเสียงสั่นๆเบาๆว่า “ ผู้อำนวยการปรัณ คุณเรียกฉันมามีเรื่องอะไรคะ? ”

เขาเดินอ้อมไปนั่งเก้าอี้ล้อเลื่อนที่ทำด้วยหนังด้านหน้าของเธอ เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ท่าทีมีเลศนัย " คุณคิดว่ายังไงหล่ะ? "

ให้เธอคิด? เธอคิดว่าอะไรได้อีก?

สุวีราสูดลมหายใจลึก พยายามสงบจิตสงบใจ " ผู้อำนวยการปรัณ คุณให้ฉันมาที่นี่ ฉันไม่ได้มาหาคุณ คำถามนี้คุณไม่ควรถามฉัน? "

คำก็ผู้อำนวยการปรัณ สองคำก็ผู้อำนวยการปรัณเรียกซะคล่องปาก ปรัณฟังแล้วรู้สึกเหมือนโดนเหน็บแนม คิดว่าเธอตั้งใจขีดเส้นแบ่งเขตของตนไว้อย่างชัดเจน

ปรัณหัวเราะ เสียงหัวเราะทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกขนลุก เขานั่งลงที่เก้าอี้แม้ว่าตัวเขาจะดูเตี้ยลง แต่บรรยากาศก็ยังคงทำให้รู้สึกตัวสั่น " ผมได้ยินมาว่า คุณกำลังหาข่าวเกี่ยวกับผม? "

เมื่อเขาพูดจบลง สุวีราอึ้งไปพักใหญ่ เมื่อเร็วๆนี้เธอหาข่าวเกี่ยวกับเขาจริง ๆ แต่เนื่องจากเป็นห่วงความสัมพันธ์ระหว่างทีนาร์และนัชชา แต่ก็ไม่กล้าถามนัชชาโดยตรง เธอรู้สึกไม่สบายใจจึงอยากรู้เรื่องพวกนี้ แต่เขาจะรู้ได้อย่างไร ...

" อยากรู้ผมรู้ได้อย่างไร? " ปรัณมองปราดเดียวก็รู้สิ่งที่เธอคิดอยู่สายตาแฝงไปด้วยทีเล่นทีจริง " ที่นี่เป็นโรงพยาบาลของผม "

กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า เขาต้องการรู้อะไร ก็ต้องมีคนมารายงานให้เขาฟัง

สุวีรารู้สึกเหมือนถูกถอดเสื้อผ้าหมดแล้วโดนตรวจสอบ เธออยากจะอธิบายตะกุกตะกักอยู่นานไม่รู้ว่าจะพูดอะไรก่อน เธอรุกรนจนหน้าแดงไปถึงคอ

" สุวีรา คุณต้องการรู้เรื่องของผมทำไม ?" ปรัณตั้งใจถามซ้ำแล้วซ้ำอีก เหมือนต้องการถามจนรู้คำตอบอะไรสักอย่าง

" ฉัน ... ฉัน ... " สุวีรากัดริมฝีปาก แล้วเธอก็พูดมาตามตรง" ฉันไม่ได้ตั้งใจอยากรู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับคุณ ฉันแค่อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนัชชาเท่านั้น "

" ดังนั้นคุณจึงหาข่าวคร่าวเรื่องของผม? " ปรัณยืนขึ้นแล้วเดินไปหยุดตรงหน้าเธอ " คุณกำลังละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของผู้บริหาร คุณเข้าใจไหม? "

สุวีรารู้ตัวว่าเธอทำผิด พูดอะไรไม่ออก ได้แต่ปล่อยให้เขาไต่สวนตนเอง

ช่วงนี้ที่เธอรู้แก่ใจแต่ไม่พูดออกมา บางทีเผลอบ้างไม่เผลอบ้างเธอก็แอบมองเขา ความรู้สึกที่ถูกฝังอยู่ในใจของเธอก็ระเบิดขึ้นในทันที เหมือนแมกม่าร้อนที่ระเบิดจากปล่องภูเขาไฟ ร้อนจนถึงหัวใจและดวงตา จมูกรู้สึกแสบๆ พูดขอโทษอย่างเสียไม่ได้ " ขอโทษค่ะ ฉันจะไม่ทำอีก "

หลังจากพูดจบ เธอดูเหมือนจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ต่อได้ เธอหันหลังและเดินไปที่ประตูทันที ไม่ว่าชายคนนั้นจะตอบโต้อย่างไร

ปรัณตะลึงไปชั่วครู่ ตอนเธอหันกลับไปเขามองเห็นตาแดงๆของเธอแล้วจะปล่อยเธอไปได้อย่างไร?

ขายาวๆสองก้าวก็เดินไปคว้าข้อมือเธอไว้ เขาเริ่มกระวนกระวาย น้ำเสียงก่อนหน้าที่สบายๆก็เปลี่ยนไป "ทำอะไรผิดก็จะหนีอย่างเดียว เมื่อไรจะเผชิญหน้ากับตัวเอง?"

" ฉันไม่สามารถเผชิญหน้าได้" สุวีราตอบในขณะที่หันหลังให้เขา มองไม่เห็นแววตาที่ทำให้รู้สึกหายใจไม่คล่องคอคู่นั้น เธอถึงมีความกล้าต่อล้อต่อเถียง "คุณอาวุโสกว่าฉัน เป็นผู้บริหาร คุณพูดว่าอะไรฉัน ฉันต้องฟัง "

เธอโกรธจนพูดประชด น้ำเสียงและคำพูดของเธอแสดงออกถึงความไม่ยอมจำนน

ปรัณเลิกคิ้ว เขาใช้แรงเหวี่ยงเธอหันหน้ามาหาเขา มองดูดวงตากลมโตที่น้ำตากำลังจะหลั่งพรูออกมา เขากระชากจนเธอแทบจะเซลงที่อกเขา

" เผชิญหน้าไม่ได้? " ปรัณเชิดคางของเธอแล้วจูบไปที่ริมฝีปากชมพูอ่อนของเธอ " ผมช่วยคุณ "

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด