ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 223

ตอนที่ 223 ไม่ต้องคิดว่าจะจากฉันไป

ร่างกายของเมทนีฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว สัปดาห์แรกหลังจากการผ่าตัดก็สามารถเอาหลอดอาหารออกได้ เขาสามารถนั่งตัวตรง และเดินโดยมีคนประคองได้ ทำให้ความรู้สึกกังวลใจของณัชชนม์เบาบางลง

นัชชาเชิญผู้ดูแลมาช่วยอีกคนหนึ่ง ส่วนตัวเองก็ใช้เวลาส่วนใหญ่คอยดูแลพ่อของเธอ ณัชชนม์อายุมากแล้วดูแลได้ไม่นานต้องดูแลสลับกันสองคนอาจจะลำบากไปสักหน่อย แต่เขาก็ไม่เหนื่อยเหมือนก่อนหน้านี้

เตชิตมาเป็นครั้งคราว เขาจะมาส่งของใช้ประจำวันและไปพบแพทย์สอบถามอาการของพ่อนัชชา ความสัมพันธ์ของเขาและเธอไม่เหมือนเมื่อก่อน เขาดูแลเธอมากขึ้นกว่าเดิมแต่ใจเธอกลับว่างเปล่า การได้รับการดูแลแบบนี้เธอกลับไม่รู้สึกยินดีเลยสักนิดอย่างอื่นก็ไม่ต้องพูดถึง

ในสายตาของเธอ ทุกสิ่งที่เตชิตทำ ทุกอย่างก็เพื่อทีนาร์เท่านั้น ตอนนี้เธอไม่สามารถก้าวข้ามผ่านจุดนี้ไปได้

นัชชาเป็นไข้หวัดแบบไม่ได้ตั้งตัว เธอดูแลพ่อได้ประมาณสิบกว่าวันก็ไม่ได้ไปโรงพยาบาลอีก กลัวว่าไข้หวัดจะไปติดเมทนีเหลือแต่ณัชชนม์เฝ้าไข้อยู่โรงพยาบาลคนเดียว

นัชชานำบัญชีไปที่ธนาคาร นำเงินส่วนหนึ่งที่ได้ตอนหย่าร้างกับดวิษมาเป็นค่าผ่าตัด

หลังจากนั้น เธอนั่งแท็กซี่ไปเตนัทลอว์เฟิร์ม เธอไม่ได้แจ้งให้ใครทราบก่อนว่าเธอจะมา ดังนั้นเมื่อนวียาเห็นนัชชาถือจดหมายลาออกยืนอยู่ในออฟฟิศของเธอ เธอยังไม่ได้สติ

" เธอกำลังจะทำอะไรนี่ ... ? "

นัชชาวางจดหมายลาออกไว้บนโต๊ะ เสียงแหบพล่าพูดออกมาว่า " ขอโทษค่ะ ผู้อำนวยการนวียาในที่สุดฉันก็ต้องทำให้คุณผิดหวัง ช่วงนี้มีปัญหาถาโถมมามากมายหลายเรื่อง ตอนแรกฉันคิดว่าทนๆไปไม่นานปัญหาทั้งหมดก็จะผ่านพ้นไป แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ... "

เมื่อพูดถึงตรงนี้ เธอหยุดไปพักหนึ่ง แล้วยิ้มกับตัวเอง “ ดูเหมือนว่าฉันไม่สามารถจัดการกับมันได้ ”

นวียามองไปที่จดหมายลาออก เธอไม่รับพลางพูดว่า " นัชชา ฉันรู้ว่าคุณพ่อของเธอไม่สบาย ฉันอนุญาตให้เธอลากิจไปดูแลครอบครัวได้ ส่วนเรื่องการลาออกมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เธอเป็นคนมีความสามารถ การทำงานก็ยอดเยี่ยม เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เธอจะยอมแพ้แบบนี้ "

นัชชาหลบตาลงมองพื้นมือที่ซ่อนอยู่ด้านหลังกำแน่น พยายามควบคุมอารมณ์ ครึ่งอึดใจเธอจึงเปิดปากพูด " ผู้อำนวยการนวียา ฉันต้องขอโทษด้วยค่ะ "

นวียาถอนหายใจอย่างหมดหนทาง “ นัชชา ลากิจของเธอยังไม่ครบกำหนด เธอกลับไปคิดใหม่ดีๆ ฉันไม่รีบ ”

" ไม่ต้องคิดแล้วแหล่ะค่ะ ฉันตัดสินใจแล้ว "

สีหน้าของนวียาค่อนข้างลำบากใจ “ เธอก็รู้ว่าการอนุมัติลาออกจะต้องส่งเรื่องไปทีขั้นจนถึงผู้บริหาร ความสัมพันธ์ของเธอกับท่านประธานเตชิต ฉันไม่อยากจะ ... ”

"ฉันรู้คะ" นัชชาพูดต่อจบประโยค แล้วยิ้ม "คุณบอกเขาก็พอ"

นวียาชะงักไปชั่วครู่ สงสัยว่าระหว่างคนทั้งสองจะต้องเกิดปัญหาอะไรขึ้นแน่ ๆ แต่ไม่ว่าจะยังไง เธอค่อนข้างชื่นชมในตัวของนัชชา หว่านล้อมเธอสักพัก มองดูเธอตัดสินใจอย่างแน่วแน่หันหลังกลับ เธอจำใจหยิบหูโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

……

เดิมทีเตชิตวางแผนไว้ว่าอีกไม่กี่วันเมทนีหายดีแล้ว ทุกวันเขาจะให้แพทย์รายงานสภาพร่างกายของเขา หวังว่าเมื่อเขาออกจากโรงพยาบาล เตชิตก็จะได้ใจเย็นๆคุยกับนัชชา

รอแล้วรอเล่า รอมาตั้งนาน ในที่สุดยังไม่ทันรอถึงเมทนีหายดี แต่กลับได้รับข่าวว่านัชชายื่นใบลาออก

ในเวลานั้นเอง เขากำลังเดินทางจากโรงพยาบาลไปที่บริษัท หลังจากเขารู้ว่านัชชาตัดสินใจลาออก เขาก็หันหัวรถไปที่ไวโรจน์วิลล่าทันที

เขาร้อนรนดั่งไฟเผา กลัวว่าหากไปช้าเพียงก้าวเดียวแล้วจะเกิดอะไรไม่ดีขึ้น เขาเหยียบคันเร่งจนมิดไม่รู้ว่าละเมิดกฎจราจรไปเท่าไร หากไปเร็วหน่อยก็จะได้ไปถึงก่อนหน้านัชชาเล็กน้อย

เมื่อถึงบ้านเขายังไม่ลงรถ นั่งอยู่ในรถนิ่ง มองเห็นเธอค่อยๆเดินเข้าประตูวิลล่ามา สีหน้าของเธอสงบราบเรียบทำให้เขารู้สึกใจลงไปที่ตาตุ่ม

เตชิตดับก้นบุหรี่ด้วยปลายนิ้ว เปิดประตูรถ ลมหนาวพัดมา เขาสวมแค่เสื้อเชิ้ตกับชุดสูทบาง ๆเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้รู้สึกถึงความหนาวสักนิด เขารีบเดินไปที่ผู้หญิงร่างบอบบางนั้นทันที

เห็นได้ชัดว่านัชชา สังเกตเห็นสถานการณ์ที่เป็นอยู่ แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรเป็นพิเศษ เธอยังคงเดินไปที่ประตูวิลล่าอย่างช้า ๆ

เตชิตคว้าตัวเธอเมื่อเธอกำลังจะกดรหัสผ่านเปิดประตู โทสะถูกกดไว้บนสีหน้า ความคิดเพียงชั่วครู่ว่าจะพูดคุยกันดี ๆหรือจะระเบิดความโกรธออกมาเลย

ทั้งคู่มีอารมณ์ที่ตึงกันอยู่แล้ว ต้องการเลือกทางที่ร้ายที่สุดน่าจะเป็นเตชิต

นัชชามองฝ่ามือของเขา การสัมผัสเพียงเล็กน้อยนี้อุณหภูมิร่างกายของเขาแผ่ซ่านมาถึงเธอๆสะดุ้งไปชั่วครู่ระงับอารมณ์ความรู้สึกที่มี และพูดอย่างเฉยเมยว่า " อย่ามาแตะต้องตัวฉัน "

ใช่ อย่าแตะต้องตัวเธอ ทันทีที่เขาเข้าใกล้ เธอจะนึกถึงเขาหันหลังอุ้มทีนาร์เดินจากไป

ความรู้สึกดี ๆของเธอและเขาทั้งหมด หลังจากเหตุการณ์สระน้ำวันนั้นทำพังทลายไม่เหลือชิ้นดี

"เธอจะลาออก?" เขาหายใจจนหน้าอกกระเพื่อม ดูออกว่าตอนนี้เขาค่อนข้างตื่นเต้น "ฉันเคยพูดไม่ใช่หรอว่า หากไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน เธอห้ามไปไหนเด็ดขาด?"

"เคยพูด" นัชชาหยุดไปวินาทีหนึ่ง และตอบเขาในไม่ช้า เมื่อเธอพูดจบเธอก็หัวเราะออกมา เหมือนว่าเธอกำลังเผชิญหน้ากับเรื่องตลก เงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างเย้อหยัน แล้วพูดว่า "คุณคงไม่คิดว่าเพราะประโยคนี้เพียงประโยคเดียวแล้วฉันต้องถูกคุณล็อคไว้อยู่ข้างตัวตลอดหรอกนะ?คุณคิดผิดแล้วหล่ะ นั้นเพราะฉันเต็มใจ แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ฉันไม่เต็มใจแล้ว "

ดังนั้นแม้ว่าการที่เธอจะออกไปจากที่นี่ เธอต้องหัวร้างข้างแตก หรือบิดร่างกายของเธอจนหงิกงอ ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไร เธอต้องจากไปอยู่ดี

เตชิตเห็นแววตาเย้อหยันของเธอ เหมือนถูกใครเอามีดแทงที่หัวใจ แล้วเลือดไหลเข้าสู่อวัยวะภายในของเขา มีสิ่งใดกำลังเปลี่ยนแปลง กำลังจะสูญเสียไป เขาอดไม่ได้ที่จะบีบมือที่กำไว้ สะกดอารมณ์โทสะที่กำลังจะควบคุมไม่ได้ " พวกเรามีเรื่องที่จะต้องคุยกัน "

เขาพูดซ้ำอีกครั้ง " นัชชา พวกเรามีเรื่องที่จะต้องคุยกัน "

“มีอะไรจะต้องคุยกันอีก?” นัชชาเงยหน้าขึ้น มีของเหลวใส ๆคลออยู่ที่หางตา “ จะคุยเรื่องที่ฉันผลักทีนาร์ลงไปได้อย่างไร หรือว่าจะคุยเรื่องที่เธอทำยังไงให้พ่อของฉันโมโหจนล้มป่วย หรือว่าจะคุยว่าความสัมพันธ์ประหลาดๆของเราทั้งสามคน ? "

“……”

" เตชิต คุณอย่าเล่นตลกกับฉันอีกเลย ตอนนี้ฉันรับอะไรไม่ไหวอีกแล้ว ฉันทำผิดเอง ทุกๆอย่างฉันผิดเองได้ไหม?ฉันเองที่อยู่ระหว่างคุณสองคน ฉันไม่ควรใกล้ชิดกับคุณ ทุกอย่างเป็นเพราะฉัน ปล่อยฉันไปเถอะทุกอย่างจะได้ยุติสักที ได้ไหม? " ในที่สุดนัชชาก็อดกลั้นไม่อยู่ น้ำตาไหลพรากจากดวงตาคู่นั้นสายแล้วสายเหล่า จนกระทั่งใบหน้าอันโรยราเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา

เสียงสะอึกสะอื้นร่ำไห้ออกมาจากเธอ เหมือนความโศกเศร้าออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ เมื่อเตชิตได้ยินเสียงเธอร้องไห้เจ็บเหมือนโดนใครมากระชากใจ แต่เขาก็ไม่สามารถลืมคำพูดเมื่อสักครู่ของเธอได้

เธอต้องการที่จะจากไป

จะทำแบบนั้นได้อย่างไร

เธอกลายเป็นส่วนหนึ่งของเขาไปเสียแล้ว หากเธอจากไปเขาจะไม่สมบูรณ์อีกต่อไป ดังนั้นไม่ได้ ตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่ เขาจะไม่มีวันปล่อยเธอไป

เขายกมือเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเธอ แต่หนักมือไปหน่อยทำให้ผิวหน้าของเธอแดง แต่เสียงของเขากลับนุ่มนวลมาก "นัชชา ตราบใดที่เธอไม่จากฉันไป เธอต้องการอะไรฉันจะให้ทุกอย่าง ดีไหม?"

นัชชาไม่ลังเลเลยสักนิด " ไม่ดี "

เมื่อก่อนถ้าเธอได้ยินประโยคนี้ เธอคงจะซาบซึ้งจนทำอะไรไม่ถูก แต่ตอนนี้เธอได้ยินประโยคเดียวกันนี้ กลับรู้สึกหนาวเหน็บสุดขั้วหัวใจ จนตัวสั่น

เธอกลัวจริงๆต้องการยุติความสัมพันธ์นี้ อย่างน้อยก็ตอนนี้

เพราะทุกครั้งที่เธอหลับตา เธอจะนึกถึงภาพที่เมทนีล้มลง นึกถึงภาพของณัชชนม์ตะโกนร่ำไห้ นึกถึงภาพสีหน้าสะใจเมื่อแผนการสำเร็จของทีนาร์ นึกถึงภาพเตชิตไม่ไว้ใจเธอ

เธอกลัว การจะลบล้างเงาร้ายเหล่านี้ออกไปจากความทรงจำไม่ง่ายเลย

เป็นเพราะประโยคนั้น คำตอบที่ไร้เยื่อใยของเธอ ทำลายความอ่อนโยนเส้นสุดท้ายในแววตาของเขา ดวงตาดำขลับมองไม่เห็นก้นบึ้งคู่นั่น เกิดพายุโหมกระหน่ำในแววตาของเขา

เตชิตยิ้มเยาะ มองเธอด้วยรอยยิ้มที่น่าขนลุก “ อยากไป อยากจากฉัน มันก็ขึ้นอยู่ว่าเธอมีความสามารถขนาดไหน! ”

นัชชายังไม่ทันได้เข้าใจความหมายของประโยคที่เขาพูดจบ ชายผู้นี้ก็กึ่งลากกึ่งผลักเธอเข้าไปในบ้าน น้ารินได้ยินเสียงจาก หน้าประตูแต่ก็ไม่กล้าเข้าไปยุ่ง เห็นเตชิตโมโหถึงขนาดนั้น กลัวว่านัชชาจะได้รับบาดเจ็บเลยจะเข้าไปขวางไว้ แต่กลับโดน สายตาอันคมกริบเย็นชาของเขาสกัดไว้หยุดกึกอยู่กับที่ "อย่ามาขวางทาง! "

นัชชากลัวว่าน้ารินจะโดนลูกหลง เธอมองไปที่น้ารินส่ายหัวทั้งน้ำตา " น้าริน อย่าสนใจเลยค่ะ อย่าสนใจเลยค่ะ ... "

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด