ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 225

ตอนที่ 225 คุณจะแกล้งทรมานฉันให้ตายเลยใช่มั้ย

"คุณเตชิต คุณนัชชาไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่ร่างกายอ่อนเพลีย บวกกับคออักเสบจนทำให้ไข้ขึ้น 39.2องศา ผมฉีดยาลดไข้ให้แล้ว ทานอาหารอ่อนๆพักผ่อนอีกสักสองวันก็น่าจะดีขึ้น" คุณหมอกล่าวกับชายหนุ่ม

มองชายหนุ่มหล่อเหลาที่ยืนตรงหน้าสีหน้าเรียบเฉย เขาเย็นชา หยิ่งทะนงที่ไม่เหมือนกับคนอื่นๆทั่วไป แบบที่ว่าถ้าเขาไม่เอ่ยปากก่อนเราจะไม่กล้าคุยกับเขาก่อน แต่ใบหน้านั้นก็ชวนให้อยากมองอย่างไม่ละสายตา คุณหมอหลบสายตาลงต่ำ แล้วอดคิดไม่ได้ว่ารอยสีแดงๆที่อยู่บนร่างของหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงในห้องนอนนั้นเป็นฝีมือของเขาหรือไม่

สายตาเตชิตยังคงจับจ้องที่ร่างของหญิงสาวบนเตียง "เมื่อไหร่ไข้เธอจะลด"

"เออ...น่าจะช่วงค่ำๆ ถ้ายังมีไข้ต่ำอยู่ ก็กินยาที่ผมสั่งไว้ให้ ถ้าอุณหภูมิไม่เกิน38.5ก็ไม่มีปัญหาอะไร"

"ขอบคุณครับ" ชายหนุ่มตอบแล้วหันไปมองน้าริน เป็นนัยยะว่าให้ส่งแขกกลับดีๆ

น้ารินเองก็เข้าใจความหมายของเขาดี จึงผายมือออกไปพร้อมกล่าวกับคุณหมอว่า "คุณหมอธีภพ เชิญทางนี้ค่ะ"

ทั้งสองเดินลงบนไดไป เมื่อทั้งสองคนจากไปแล้วระเบียงชั้นสองก็กลับสู่ความเงียบงันอีกครั้ง เตชิตยืนอยู่ตรงนั้นคนเดียวสักพักเหมือนกำลังคิดอะไร หลังจากนั้นก็หมุนตัวกลับแล้วผลักประตูเข้าห้อง

ขาเรียวยาวเดินไปข้างเตียง ยิ่งเข้าใกล้เขาก็ยิ่งทนไม่ได้ที่เห็นใบหน้าเล็กๆของเธอแดงเรื่อด้วยพิษไข้

ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ โดยเฉพาะผมด้านข้างใบหู ที่เปียกจนทำให้ผมติดอยู่ข้างใบหน้าเธอ คิ้วที่ค่อยๆขมวดเล็กน้อยประหนึ่งว่าเธออยู่ในความฝัน หรืออาจจะเพราะเหตุการณ์เมื่อสักครู่ทำให้เธอรู้สึกตกใจ

ช่วงหลายวันมานี้เธอเฝ้าอยู่ข้างกายของเมทนีโดยตลอด กินไม่อิ่มนอนไม่หลับ ร่างกายอ่อนเพลียมาก บวกกับที่เขามาทรมานเธออีก ทำให้ร่างกายเธอรับไม่ไหว

เตชิตทรุดตัวลงนั่งข้างๆเตียง ยกมือขึ้นลูบที่ใบหน้าของเธอ ข้างหูพลันนึกถึงคำพูดที่เธอพูดกับเขาเมื่อก่อนหน้านี้

"เตชิต คุณอย่าทำแบบนี้ ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย"

เสียงของเธอเบามาก คิดแล้วก็น่าละอาย เขานี่มันสารเลวจริงๆที่ทำกับเธอแบบนี้

เขามองไปที่ใบหน้าที่อยู่บนหมอน เตชิตลุกขึ้นแล้วเดินออกไป แล้วกลับเข้ามาอีกพร้อมกับผ้าเช็ดตัวในมือ เป็นครั้งแรกที่เขาดูแลคนอื่นโดยไม่มีใครคอยช่วย เขาถือผ้าเช็ดตัวเก้ๆกังๆอยู่สักพัก จึงค่อยๆเช็ดเหงื่อที่ผุดบนหน้าผากเธอ

ดูเหมือนว่าผ้าที่เขาเช็ดตัวเธอมันเย็นจนทำให้คิ้วเธอขมวดเข้าหากันมากขึ้น ปากก็เหมือนพึมพำอะไรบางอย่าง

เขาพยายามเงี่ยหูฟัง ว่าเธอพูดอะไร

"อย่ามาแตะต้องตัวฉัน…." อาจจะเพราะพิษไข้ริมฝีปากแห้งพูดพึมพำออกมาโดยไม่รู้ตัว

เตชิตโน้มตัวลงมาและชะงักอยู่อย่างนั้น สายตาเหลือบไปเห็นรอยแดงจ้ำๆ ซึ่งเป็นฝีมือเขาเอง

เสียใจตอนนี้ก็คงไม่ทันเสียแล้ว จะชดเชยให้เธอ เธอจะต้องการมั้ย

เขาบีบผ้าเช็ดตัวในมือแน่น ผู้ชายที่หนักเน้นเข็มแข็งมาโดยตลอดตอนนี้กลับรู้สึกสับสนภายในใจขึ้นมา เธอตื่นขึ้นมาคงต้องเกลียดตัวเองมาก

ขอโทษคำสองคำนี้ไหลวนอยู่ในลำคอ แต่เธอก็คงไม่มีทางได้ยิน แต่เขาก็ไปกระซิบเบาๆข้างหูเธอ "นัชชา ผมขอโทษ"

หญิงสาวที่จมอยู่ในความฝันไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับใดๆ และก็คงไม่สามารถตอบกลับเขาได้ ไข้สูงถึง39.2ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเขา

น้ารินหลังจากส่งคุณหมอกลับแล้ว ก็ถือยาเดินขึ้นมาชั้นบน เธอเคาะประตูหลังจากได้รับเสียงอนุญาตจากคนในห้องแล้วเธอจึงเดินเข้าไป ภาพที่เห็นคือเตชิตนั่งอยู่ข้างเตียงคอยดูแลนัชชาที่นอนอยู่บนเตียงอย่างถนุถนอม

พูดแล้วเธอเองก็ยังตกใจกลัวไม่หาย เมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันนี้ที่เตชิตลากนัชชากลับมาถึงบ้าน แล้วมีท่าทีโมโหดุดัน น่ากลัวมากขนาดไหน มาตอนนี้กลับกลายเป็นอ่อนโยนไปแล้ว

แต่น่าเสียดายที่ตัวนัชชาไม่ได้เห็นท่าทางอ่อนโยนแบบนี้ของเขา

เฮ้อ แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร

น้ารินถอนหายใจออกมาเบาๆ ไม่กล้าเข้าไปขัดจังหวะ ทำลายความเงียบภายในห้อง จึงวางยาเอาไว้ที่โต๊ะแล้วรีบเดินออกไป

ชายหนุ่มที่นั่งข้างเตียงก็ไม่ได้ขยับแม้เพียงเล็กน้อย แม้แต่ศีรษะเองก็ไม่ได้ผงกแสดงความรับรู้แต่อย่างใด จิตใจจดจ่ออยู่กับหญิงสาวที่นอนบนเตียงเพียงอย่างเดียว

เพราะความเจ็บในคอปลุกให้เธอตื่นขึ้น ภายในลำคอเจ็บปวดเหมือนมีอะไรบาด ทุกครั้งที่หายใจเธอแทบทนความเจ็บปวดไม่ไหว

เปลือกตาค่อยๆเปิดออก มองเห็นฝ้าเพดานที่คุ้นตา สายตาพร่ามัวเล็กน้อย ผ่านไปสักพักก็ค่อยๆชัดเจนขึ้น

สายตาลดลงมองเห็นผ้านวมไหมที่คลุมร่างเธออยู่ อุณหภูมิภายในห้องไม่หนาวไม่ร้อน ทำให้เธอค่อยๆนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดก่อนหน้านี้ทั้งหมด

ภาพที่เขาบังคับข่มเหงเธอแวบเข้ามาในความคิด นัยตาที่เป็นประกายดับวูบไปไม่ใช่เพียงเพราะเหตุการณ์ที่นึกถึงแต่เพราะชายหนุ่มที่เดินเข้ามา

เตชิตนั่งเฝ้าเธอที่ข้างเตียงตลอด แค่แวบลงไปสั่งให้น้ารินตุ๋นซุปไว้บำรุงร่างกายให้เธอเท่านั้น เธอก็ดันตื่นขึ้นมาพอดี เมื่อสบตาคู่โตที่ยังดูไม่ค่อยได้สตินักเขาก็รีบสาวเท้าเข้าไปหาทันที

เขากำลังจะยกมือขึ้นอังที่ศีรษะของเธอดูว่ายังมีไข้อยู่มั้ย เธอก็รีบหลบทันทีที่เห็นเขายกมือขึ้น

มือของชายหนุ่มค้างอยู่อย่างนั้น ไม่ยกขึ้นไม่เอาลง

สุดท้ายเขาก็เอามือลง ไม่ได้เซ้าซี้เธออีก แค่เพียงถามออกไปว่า"เวียนหัวมั้ย เดี๋ยววัดไข้สักหน่อยนะ"

พูดจบพลางยื่นมือเข้าไปหยิบปรอทวัดไข้อัตโนมัตออกมาจากกล่องยา วางไว้ที่ข้างมือของเธอ นัชชาเข้าใจสิ่งที่เขาพูด ไม่มีท่าทีต่อต้านหยิบปรอทวัดไข้มาวัดที่หู

37.2 ไข้ลดลงแล้วไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

ตอนนี้วางใจได้แล้ว ก็เริ่มเป็นห่วงปัญหาอื่นต่อไป

เตชิตเดินไปข้างเตียง มองเห็นพลาสเตอร์สีขาวที่คุณหมอแปะไว้บนหลังมือของเธอ ก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ "หิวมั้ย ให้น้ารินยกอาหารขึ้นมาหรือลงไปทานข้างล่างดี"

"ไม่ต้อง" เธอตกใจน้ำเสียงแหบพร่าของตัวเองทันทีที่พูดออกมาคำแรก เธอยักคิ้วเตรียมตัวจะกระแอมออกมา พอดีกับสายตาที่เหลือบไปเห็นไอร้อนพวยพุ่งขึ้นมาจากแก้วน้ำอุ่นยื่นมาตรงหน้า เธอค่อยๆมองไล่จากนิ้วมือทั้งห้าขึ้นมา ไม่ใช่เตชิตแล้วจะเป็นใครไปได้อีก

ในใจของเริ้มเต้นโครมครามขึ้นมา ไม่ใช่เพราะประทับใจแต่เพราะความกลัว การที่เขาเข้าใกล้เธอมันทำให้เธอกลัว

เธอไม่รับแก้วน้ำนั้นมาดื่ม แต่เธอดึงผ้าห่มที่คลุมตัวเธอออก เพื่อที่จะลุกเดินหนีเขา แต่ลุกเดินได้เพียงก้าวเดียวข้อมือของเธอก็ถูกเขายึดไว้ เสียงทุ้มต่ำเบาของเขาสะท้อนดังออกมา "นัชชา คุณอย่าหาเรื่องได้มั้ย"

หาเรื่องเหรอ

เธอไม่มีแม้แรงจะยกมุมปาก กลายเป็นว่าเธอเป็นคนชอบหาเรื่อง

"คุณปล่อยฉันนะ"

เธอไม่ได้หมุนตัวกลับไปและก็ไม่ได้หันหน้ากลับไปด้วย เหมือนกลับจะเสียแรงเปล่าที่จะหันกลับไปมอง เตชิตมองด้านหลังศีรษะของเธอ กัดฟันแน่น แล้วก็ต้องยอมปล่อยมือจากเธอพร้อมพูดว่า "ผมขอโทษ คุณยกโทษให้ผมได้มั้ย"

หญิงสาวชะงัก แต่ไม่ได้ตอบอะไร

"คุณบอกว่าจะไปจากผม ผมก็เลยโกรธจนไร้สติ ไม่รู้จะทำยังไง ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นไข้ ผมก็เลย…."

"ไม่รู้ "นัชชาขัดขึ้น นี่ถ้าฉันไม่ได้เป็นไข้ คุณคงจะแกล้งให้ฉันตายไปเลยใช่มั้ย

คำพูดแรงๆของเธอทำให้เขาต้องขมวดคิ้ว "ผมไม่ได้คิดแบบนั้นนะ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด