ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 228

ตอนที่ 228 การหลีกเลี่ยงของเขา

ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนหน้านี้จะเห็นสุวีราอยู่กับปรัณบ่อยๆ แต่นัชชาเองก็ไม่เคยคิดเลยว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองจะมาขั้นนี้แล้ว

เธอถึงกับตกตะลึงและก็ไม่อยากให้คนอื่นได้ยินเสียงเล็ดลอดจากด้านนอกเลยรีบเตรียมหันตัวกลับปรากฎช่วงที่นัชชาจะกลับประตูที่อยู่ด้านในกลับเปิดออกเอง

สุวีราถึงกับเขินจนหน้าแดงแล้วรีบวิ่งออกมา เธอคาดไม่ถึงเลยที่เห็นนัชชากำลังหันตัวยืนอยู่ที่หน้าประตู “นัชชา?”

พวกเธอมองหน้ากันสักพักปรัณก็เดินออกมา สามคนได้แต่มองหน้ากัน แต่นัชชาตั้งสติเร็วกว่าคนอื่น เธอชูใบเสร็จที่มือขึ้นมา “ฉันมาหาหมอปรัณจะถามเรื่องค่ารักษาพยาบาล”

เธอพูดเสร็จอย่างเขินอายที่เห็นทั้งสองคนกำลงทำอะไรอยู่ “ขอโทษที่มารบกวนทั้งสองคนค่ะ”

“ไม่เป็นไร” สุวีราแอบก่นด่าในใจถ้าจะโทษก็โทษสัตว์ร้ายที่หิวโหยที่อยากทำอะไรในห้องทำงานจนชาวบ้านเห็นหมด เธอทนไม่ไหวกับบรรยากาศอึดอัดแบบนี้เลยขอตัวก่อน “เธอเข้าไปเถอะ ฉันขอตัวก่อน”

นัชชาพยักหน้าให้เธอและไม่ได้พูดอะไรเธอเข้าใจว่าเธอลำบากใจ

สายตาของปรัณได้แต่มองตัวสุวีราที่หนีหลบไปจนมองไม่เห็น เขาถึงได้ละสายตามาเป็นครั้งแรกที่บุรุษที่หน้าตาอันหล่อเหลาแสดงสีหน้าอันน่ากลัวออกมา

นัชชาคิดมาตลอดว่าปรัณเป็นเพื่อนที่ดีในหมู่เพื่อนของเตชิตแต่ตอนนี้ดูออกเลยว่าคนคนนี้ยังมีด้านที่ดุร้าย แต่เพียงเขาไม่แสดงออกมาให้คนอื่นเห็นเท่านั้นเอง

ปรัณหันตัวกลับเพื่อให้เธอได้มีช่องว่างระหว่างกัน “เข้ามาคุยกันหน่อย”

ในห้องทำงานของเขานัชชาเข้าไปพลันหยิบใบเสร็จวางไว้บนโต๊ะที่อยู่หน้าลำตัว “หมอปรัณคะ คือเมื่อกี้ฉันไปจ่ายเงินที่แผนกการเงินมาแล้วเขาบอกว่าค่ารักษาพยาบาลของฉันทั้งหมดไปเก็บกับเตชิต ฉันมีเรื่องอยากรบกวนคุณหน่อยค่ะ คุณสามารถแยกจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ไหมคะ ค่ารักษาพยาบาลของพ่อฉัน ฉันจ่ายเอง”

ปรัณได้เตรียมใจไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่สามารถตกลงตามนั้นได้ ได้แต่ทำเสียงกึ่งปลอบใจเธอว่า “คุณไม่ต้องคิดมากในเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ตัวผมเองก็เป็นเพื่อนกับเตชิต ส่วนคุณก็เป็นเพื่อนของผม ผมไม่เก็บค่ารักษาพยาบาลที่แพงมากขนาดนั้น อย่างมากก็ค่าอุปกรณ์ และก็ค่าผ่าตัดไม่ได้แพงอะไรมากนัก อย่าเก็บไปคิดเลย ”

“ฉันรู้ค่ะ” นัชชาที่กำลังนั่งสบายถึงกับหลังตรงขึ้นมาทำเหมือนเป็นการเรียกพลังออกมา “ฉันหมายความว่า ไม่ว่าจะกี่บาท ค่ารักษาพยาบาลในส่วนนี้ฉันจะจ่ายเองค่ะ”

“นัชชา ผมรู้นะว่าตอนนี้คุณกับเตชิตมีปัญหากันอยู่แต่เรื่องนี้เตชิตฝากเรื่องไว้กับผมแล้ว เขากลัวว่าคุณจะรับมือไม่ไหว......”

“พี่ปรัณคะ” นัชชาพูดแทรกเขา เธอไม่อยากจะฟังต่อกลัวว่าถ้าฟังประโยคต่อไปใจที่เพิ่งจะเข้มแข็งขึ้นมาเมื่อกี้จะทรุดลงอีก “ฉันรู้ค่ะเรื่องนี้ทำให้พี่ลำบากใจ แต่ฉันขอร้องแหละ โอนค่ารักษาพยาบาลกลับมาให้ฉันเถอะค่ะ”

นัชชาใช้คำว่าขอร้อง อย่างไรก็ตามปรัณเองก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง จะให้กล่อมเธอต่อไปแน่นอนเลยว่าไม่ได้แน่ การโอนสิทธิ์ การจ่ายค่ารักษาพยาบาลนั่นง่ายแต่ปัญหาข้อระหองระแหงของทั้งสองคนนี่สิเมื่อไหร่จะสิ้นสุดลงสักที ?

…..

ในที่สุดการโอนสิทธิ์การจ่ายค่ารักษาพยาบาลก็สำเร็จ หลังงจากนัชชาจ่ายเงินเสร็จเธอถึงกับถอนหายใจเลยทีเดียว โรงพยาบาลประจำตระกูลของปรัณเป็นโรงพยาบาลเอกชน อัตราการเบิกค่ารักษาพยาบาลก็ไม่ได้สูงมากนักแต่ก็น่าจะถึง 30 เปอร์เซ็นต์ เธอเก็บใบเสร็จต่างๆทุกใบอย่างเรียบร้อยแล้วค่อยเดินกลับเข้าห้องพักของผู้ป่วย

เธอคิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อเดินถึงหน้าประตูกลับเห็นเตชิตนั่งอยู่บนโซฟากำลังคุยอะไรกันอยู่กับเมทนีที่กำลังนั่งอยู่บนรถเข็น

นัชชาใจเต้นยังไม่ทันคิดอะไรเลย เธอรีบร้อนเปิดประตูจนมันชนกำแพงจนเสียงดัง ‘ปัง’ เธอรีบก้าวยาวเข้ามายืนอยู่หน้าเมทนี เธอทั้งตื่นเต้นและระมัดระวังอย่างที่สุดที่เอ่ยปากคุยกับผู้ชายที่อยู่ด้านตรงข้าม “คุณมาที่นี่ทำไม!”

ผู้ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นสายตามองไปทางเธอมันเต้มไปด้วยการป้องกันและการเอาชนะ ตาของเขาดูเหมือนเป็นการเย้ยหยันเขาหลับตาลงแล้วเอ่ยว่า “ได้ข่าวว่าวันนี้คุณลุงจะออกจากโรงพยาบาล”

“คุณไม่ต้องยุ่งกับเรื่องนี้!” นัชชาพูดใส่อารมณ์ เธอกลัวจริงๆว่าพ่อของเธอจะมีเรื่องมาให้กระทบจิตใจอะไรอีกครั้ง “คุณไปซะเถอะ”

เตชิตรีบเดินออกมาทางประตูตามทางที่นัชชาชี้นิ้วไล่ เธอรีบจนไม่มีกะจิตกะใจปิดประตูกลัวว่าเตชิตจะทำอะไรที่ไม่ดีกับพ่อของเธอ?

ในใจของเธอเขาไม่ได้มีความน่าเชื่อถือใดๆเลยสักนิด

ระหว่างที่ทั้งสองคนเผชิญหน้ากัน เมทนีที่อยู่ด้านหลังยกแขนขึ้นกระตุกแขนนัชชา “นัชชา ลูกออกไปก่อนนะ พ่อกับคุณเตชิตขอคุยกันเองสักสองสามประโยคนะ”

“พ่อ!” นัชชาหันหลังกลับมามองสีหน้าอันขาวซีดของเขาอย่างไม่ไว้ใจ

“พ่อมีเรื่องอะไรที่จะคุยกับเขา?”

“พ่อบอกว่ามีก็ต้องมีสิ!” เมทนีขมวดคิ้วอย่างมีอารมณ์

“…….” นัชชาไม่อยากโต้เถียงกับพ่อ มองในแง่ดีเขาเพิ่งฟื้นไข้มาเขาอยากทำอะไรก็ตามใจเขาไป “ได้ค่ะ พ่อพูดเลย หนูอยู่ฟังด้วย”

“ไม่เกี่ยวกับแก แกออกไป” เมทนีเห็นนัชชายังคิดจะพูดอะไรอีก เขาพูดซ้ำใช้น้ำเสียงที่แรงกว่าเดิม “ออกไป!”

เธอเห็นพ่อของเธอที่ตัดสินใจแน่วแน่ นัชชาถึงกับสูดลมหายใจแรงๆแล้วปล่อยมันออกมา เธอเดินออกไปทางด้านข้างของผู้ชายคนนั้น ตั้งแต่เข้ามาถึงณเวลานี้เธอเพิ่งพูดออกมากับเขา “พ่อฉันเพิ่งหายป่วย คุณอย่ามาทะเลาะกับพ่อเลย”

เตชิตเบะปากอย่างไร้อารมณ์ “ในสายตาคุณเนี่ยผมไม่ได้เรื่องขนาดนั้นเลยหรอ”

“คุณสัญญากับฉันก็พอ”

เธอเดินออกไปก็พลางหันหัวกลับมาดูเรื่อยๆ การกระทำทั้งหมดแสดงออกเลยว่าเธอสงสัยในตัวเขา

จนกระทั่งร่างเธอหายไปจากประตู เตชิตถึงได้กับมาพูดกับเมทนีอีกครั้ง “ลุงครับ ลุงก็เห็นแล้วตอนนี้ความสัมพันธ์ของเราสองคนเป็นแบบนี้ นัชชาเขาโทษผม”

เมทนีทำเสียงเหอะอย่างหมดอารมณ์ “เธอไม่โทษคุณหรือคุณจะให้เธอมาขอบคุณคุณล่ะ?”

พูดเสร็จเขากพูดต่อ “นี่คุณเตชิต ผมรู้ว่าคุณช่วยนัชชาก็ไม่น้อยเลย ทั้งเรื่องหย่าร้างทั้งเรื่องงานคุณก็ช่วยอย่างเต็มใจ แต่ว่านัชชาเป็นคนตรงไปตรงมาตั้งแต่เด็ก เขาไม่คุ้นเคยกับคนมีหน้ามีตาชื่อเสียง”

“คุณลุงครับ ผมจริงจังกับนัชชาซึ่งเรื่องพวกนี้มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพื้นฐานครอบครัวหรือตำแหน่งของผมเลยครับ ผมเชื่อว่าเธอรักผมและก็ไม่ได้รักผมที่เงินของผมด้วยครับ” เรื่องนี้เตชิตรู้ดีเลยแหละเพราะเธอไม่เหมือนผู้หญิงที่เคยเข้ามาใกล้ชิดเขา

“เด็กสาวแหละมักจะรู้สึกดีกับผู้ชายที่เก่งมากแบบนี้” เมทนีพูดน้อยแต่ต่อยหนักแค่พูดประโยคเดียวถึงกับทำให้เตชิตเก็บปากเก็บคำ

เตชิตทอดสายตาลงมองมือตัวเองทั้งข้างที่วางอยุ่บนหน้าตักขา บังคับเสียงที่กำลังอยู่ลำคอ “คุณลุงครับ ผมทราบว่าตอนนี้คุณลุงกับคณป้าไม่พอใจผม ผมไม่มีอะไรที่นอกเหนือจากนี้จริงๆก็แค่อยากมาเยี่ยมคุณลุงเห็นว่าจะออกจากโรงพยาบาลแล้ว ผมก็สบายใจแล้วครับ”

“น้ำใจของคุณผมรับไว้ คราวหน้าไม่รบกวนแล้ว” เมทนียังไม่รู้สึกถึงการหักหน้า รู้ดีว่านี่มันเป็นเรื่องที่ดีแต่ยังทำให้มันวุ่นวายไปถึงแบบนี้

เตชิตไม่ได้คุยกับเมทนีนานนัก เรื่องแรกเพราะยังคุยไม่ถึงเรื่องที่อยากคุย สองเพราะกลัวเด็กสาวที่อยู่ด้านนอกจะเป็นห่วงมากเกินไป

ผู้ชายที่รูปร่างใหญ่โตสูงถึงหนึ่งเมตรแปดสิบแปดเซนติเมตรแถมบุคลิกดูเกรงขาม เมทนีใช้ชีวิตเกือบครึ่งชีวิตยังถูกความน่าเกรงขามของเขาทำให้กกดันก็ไม่รู้ว่านัชชาไปคบกับผู้ชายแบบนี้ได้อย่างไร

ประตูถูกผลักเข้ามา ตามที่คิดไว้ไม่มีผิดเป็นสาวน้อยที่น่าตาเคร่งเครียดคนนั้น

นัชชาเห้นเขาเดินออกมา เธอไม่พูดอะไรสักคำรีบเดินจ้ำอ้าวเข้าห้องแต่กลับถูกเตชิตดึงข้อมือไว้ ตอนแรกคิดว่าเขาต้องพูด อะไรที่ไม่ดีแน่ เธอเตรียมคำพูดต่อกรกับเขาเรียบร้อยแล้ว ที่ไหนได้เขากับพูดเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับสถานการณืในตอนนี้เลย “คุณ พักอยุ่บ้านสักอาทิตย์นะ รอพ่อคุณร่างกายแข็งแรงดีแล้วค่อยกลับมาไวโรจน์วิลล่าา”

นัชชาอึ้งไปสักพักนึกว่าเธอคิดไปเอง ไม่คิดเลยว่าเขาก็พูดดีๆเป็นด้วยสักพักถึงตั้งสติได้แล้วพยายามดึงมือกลับและเดินก้มหน้าผ่านตัวเขาไป แต่พูดตอบกลับอย่างชัดเจนแบบขอไปทีว่า “รู้แล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด