ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 237

ตอนที่ 237 ความรู้สึกลึกๆของเขาไม่มีใครเข้าใจ

วินาทีที่แล้วเธอเพิ่งโทรคุยกับปณิตา พอวินาทีต่อมาเขากลับเข้ามา

จินต์ตกใจกลัว ติดอ่าง “ตะ เต คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่”

เตชิตไม่น่ามาวันนี้ แต่นัชชามาขอใบรับรอง ทางโรงพยาบาลแจ้งไป เขาก็เลยรีบมา แต่ก็มาไม่ทันเธอกลับไปก่อนแล้ว

แต่ตอนนี้ เห็นท่าทางของจินต์ เขารู้สึกแปลกเลยถามเธอ “เธอทำอะไรอยู่”

จินต์ยกยิ้ม พยายามทำให้ตัวเองดูปกติที่สุด “เมื่อกี้ฉันอยากลงไปเดินเล่น..........”

ยังไม่ทันพูดจบ เธอนึกขึ้นได้ เรื่องที่จะทำให้เขาไม่จับผิดเธอ ก็คือเรื่องของนัชชา “เออใช่ เมื่อกี้ฉันเจอนัชชาที่ทางเดิน”

เป็นไปตามคาด เตชิตขมวดคิ้ว “พวกเธอคุยอะไรกัน”

“เธอมาทำธุระที่นี่ แล้วเจอฉันโดยบังเอิญ ก็ไม่ได้พูดอะไร เธอบอก

แค่..........คุณจะส่งฉันกลับ” พูดถึงนี่จินต์แกล้งทำเสียงเศร้า ให้ดูน่าสงสาร

“ถ้าเธอไม่หาเรื่องเธอก่อน เธอไม่มีทางพูดแบบนี้” เขาพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ

ถึงฟังแล้วอารมณ์เสีย แต่ก็เปลี่ยนเรื่องคุยไปได้ จินต์ต้อการปกปิดความคิดในหัว เธอเลยยอมรับ “คุณก็รู้ เราเคยมีเรื่องเข้าใจผิดกัน.........”

ถ้าเทียบกับเรื่องที่ถูกเขาจับได้เรื่องที่ติดต่อกับปณิตา เธอยอมให้เขาเข้าใจว่าที่ท่าทางแปลกๆเป็นเพราะเรื่องนัชชา

“จินต์ อย่าทำอะไรที่ฉันจะทนไม่ได้มากกว่านี้ ความอดทนของฉันมีขีดจำกัด” เตชิตเดินเข้าไปข้างเตียง พยายามห้ามอารมณ์ของตัวเองไว้

กลัวว่าเขาจะทนไม่ไหว แล้วเผลอพูดอะไรที่ทำให้จินต์รับไม่ได้

ในห้องเงียบ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ระหว่างพวกเขามันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง เมื่อก่อนไม่รู้สึกอะไรกับคำขอของเธอ แต่ตอนนี้เขารู้สึกเหนื่อย

“ยายของเธอ ฉันให้คนย้ายท่านมารักษาตัวที่นี่ ถ้าทุกอย่างเรียบร้อย คืนนี้ก็ย้ายเข้ามาอยู่ได้เลย อยู่ห้องข้างๆเธอตรงนี้เอง”

ได้ยิน จินต์ไม่เชื่อหูตัวเอง “ว่า ว่าไงนะ”

เมื่อกี้ยังคิดมาก กลัวว่าเขาจะจับได้ แต่นึกยังไงก็นึกไม่ถึงว่าเขาจะย้ายให้เธอมารักษาตัวที่นี่

ถ้าเป็นแบบนี้ แผนของเธอก็จะสำเร็จง่ายกว่าเดิม มันเป็นเรื่องที่ดีของเธอ

และเตชิตกลับไม่รู้แผนการของเธอ เขานึกว่าเธอยังไม่รู้อาการของโศจิรัตน์ เลยเลือกปิดบังมันไว้ก่อน เพราะกลัวว่าเธอจะรับไม่ได้ “คืนนี้เธอก็ได้เจอยายแล้ว”

“ดีจังเลย” จินต์ตื่นเต้นดีใจ “เต ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ............”

เธอตื่นเต้น ดูออกว่าดีใจ เตชิตรู้ว่าโศจิรัตน์เป็นญาติคนเดียวที่เธอเหลืออยู่ ถึงแม้จะไม่ค่อยสนิทกัน แต่นึกถึงหลายเรื่องที่ผ่านมาก็ยังคงรู้สึกไม่สบายใจ

ถ้าจะให้พูดก็เป็นเพราะเขาพ่อแม่จินต์ก็เลยตาย มันเป็นหน้าที่ที่เขาไม่สามารถเลี่ยงได้ และอีกอย่างพวกเขาก็เอ็นดูเหมือนลูกชายแท้ๆ เขาทิ้งไปไม่ได้

‘ก็อกๆๆๆ’

เสียงเคาะประตู เตชิตตอบรับ “เข้ามา”

ปรันถือแฟ้มบางอย่างมา เขามองยิ้มเป็นเชิงทักทายให้จินต์ เดินเข้าไปตบไหลเตชิต “ออกมาแปป ฉันมีเรื่องจะคุยกับแก”

เตชิตมองจินต์ แน่ใจว่าคงไม่มีอะไร เขาเลยเดินตามปรัณออกมา ตรงไปที่ห้องทำงานผู้บริหาร

“แกย้ายโศจิรัตน์มาอยู่นี่ ฉันไม่มีปัญญา แต่มันมีบ่งเรื่องที่แกต้องรู้” ปรัณถอนหายใจ “อาการของเธอค่อนข้างแย่ อาการหนักคงรักษาไม่หาย มันเป็นเรื่องของเวลาว่าจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน และไม่มีโรงพยาบาลที่ไหนอยากรับ ฉันรู้ว่าแกต้องการปิดบังเรื่องนี้กับจินต์ แต่ต้องบอกให้แกรู้ โศจิรัตน์อยู่ได้มากสุดไม่น่าจะถึงสามเดือน น้อยสุดอาจจะอยู่ได้แค่เดือนกว่าๆ แกควรทำใจไว้ล่วงหน้า”

หลังรู้เรื่อง ปรัณไม่ได้ลังเลอะไรเขารับปากตอบตกลง ทางโรงพยาบาลของเขาอัตราการตายของคนไข้ต่ำมาก และนี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคนใหญ่คนโตมากมายมาเข้ารักษาตัวที่นี่

เพิ่มอัตราการตายของหนึ่งคน มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตอะไร แต่เขากลัวว่าเตชิตจะทำใจไม่ได้

เขาพยักหน้ารับ “ฉันรู้”

“แล้วมีอีกเรื่อง แกขอให้ปิดเรื่องนี้ไม่ให้จินต์รู้ ฉันคงต้องให้หมอเจ้าของไข้เซ็นยอมรับข้อตกลงลับนี้ ให้มั่นใจว่าเธอจะไม่รับรู้เรื่องนี้ และอนาคตก็จะไม่รู้เรื่อง แกต้องคอยให้ความร่วมมือ”

“อืม ได้ ไม่มีปัญหา”

“งั้น ก็ไม่มีอะไรแล้ว เดี๋ยวกลางคืนฉันส่งคนไปคอยดูแล การรักษาจะเป็นไปตามปกติ จะไม่มีการยอมแพ้ แกสบายใจได้”

“โอเค” เตชิตล้วงไปเอาบุหรี่จากข้างในกระเป๋าเสื้อ “สูบม้วนเดียวได้มั้ย”

ปรัณมองหน้าที่เริ่มมีขอบตาดำ ถอนหายใจ “สูบเถอะ คืนนี้ฉันกับชนัยนัดกินข้าวกัน แกจะร่วมด้วยมั้ย ช่วงนี้ไอ่เด็กนั่นถามหาแกอยู่บ่อยๆ”

เตชิตจุดไฟแช็ก ยื่นเข้าไปใกล้บุหรี่ที่คาบไว้ในปาก เขาดูดเข้าไปแล้วพ้นควันขาวออกมา “ไป”

ปรัณนึกไม่ถึงว่าเขาจะยอมตกลงง่ายๆ “โอเค สองทุ่ม ที่คลับ”

………

ผู้ชายสามคนมาตามนัด ห้องวีไอพี เตชิตเป็นคนมาตรงเวลาตลอดแต่วันนี้เขามาสาย

“ประชุมนานไปหน่อย” เขาพูดจบ รีบยกแก้วเหล้าบนโต๊ะขึ้นดื่ม “ลงโทษตัวเอง”

ชนัยไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้ งงไปสักพักแต่ก็รีบยกแก้วเฮฮาเป็นเพื่อนเขา “มาๆพี่ เดี๋ยวผมดื่มเป็นเพื่อน ก็แค่เหล้าถ้าหมดเราก็แค่เอามาเพิ่ม”

คนหนึ่งอยากดื่ม อีกคนไม่ห้ามกลับจะดื่มด้วยหรอ

ปรัณก็ไม่ได้คัดอะไร ไหนก็มากันแล้ว ไม่อยากทำลายบรรยากาศ ก็มองว่ามันเป็นการปลดปล่อยอย่างหนึ่ง

และนี่เป็นครั้งแรกในรอบสามสิบกว่าปีที่เขาดื่มหนัก เมาจนไม่รู้เรื่อง ถึงแม้เขาจะสามารถเดินเองได้ แต่ก็ขาดสติสัมปชัญญะไปแล้ว

เห็นสภาพเขา ปรัณเรียกคนขับรถให้เขา ปรัณดึงลากเขาขึ้นรถ “ไวโรจน์วิลล่า รู้มั้ยว่าอยู่ที่ไหน”

คนขับรถไม่มีใครไม่รู้จักพวกเขา เขาพยักหน้า “รู้ครับ ถึงอย่างปลอดภัยแน่นอน คุณปรัณไม่ต้องเป็นห่วงครับ”

ปรัณถึงจะวางใจ มองดูรถหายจากสายตาไป

แต่ที่เขานึกไม่ถึงคือ เตชิตตื่นมากลางทาง มองดูทางข้างนอก ความคิดบางอย่างแล่นเข้ามาในหัว “ไปหมู่บ้านมีสุข”

คนขับตกใจที่เขาเปลี่ยนเส้นทางกะทันหัน “คุณเต จะไปไหนนะครับ”

“หมู่บ้านมีสุข”

น้อยมากที่เขาจะเห็นหมู่บ้านเก่าแก่แบบนี้ ทำให้คนขับไม่ค่อยมั่นใจว่าจีพีเอสเปิดถูกที่แล้ว “เป็นที่นี่ใช่มั้ยครับ”

เตชิตฝืนลืมตาดูด้วยความยากลำบาก “อืม”

…….

ครึ่งชั่วโมต่อมา รถมาจอดอยู่ข้างล่างบ้านนัชชา คนขับรถจอดรถสนิท หันหลังกลับไปบอกเขา “คุณเต ถึงแล้วครับ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด