ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 241

ตอนที่ 241 การโกหกที่ร้ายแรง

ปณิตารู้ว่าเมื่อเธอเดินมาทางนี้แล้วไม่มีหนทางที่จะเดินย้อนกลับ พูดมากไปก็ไร้ประโยชน์ สิ่งที่เธอทำได้เธอก็ได้ทำไปทั้งหมดแล้ว ส่วนที่เหลือก็เรื่องของทีนาร์ เธอแค่ต้องการเงิน ทุกอย่างไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอ

“ถ้าอย่างนั้นคุณก็จัดการอย่างระวังหน่อย หลังจากได้รับของแล้ว คุณต้องโอนเงินสองในสามให้ฉัน”

“วางใจเถอะน่า ฉันไม่เบี้ยวหรอก” ทีนาร์รับปากอย่างมีความสุขมาก ท่าทางเธอเหมือนไม่มีสิ่งใดกวนใจ เพราะว่าตอนนี้ปณิตาเชื่อมั่นในตัวเธอ

เมื่อเงินส่วนแรกได้โอนมาเรียบร้อยแล้ว ครั้งนี้ไม่น่าจะพลาด แม้ว่าพลาดเธอก็ไม่กลัวที่จะถูกเปิดโปง เพราะตอนนี้พวกเขาได้กลายเป็นตั๊กแตนที่อยุ่ในห้องเดียวกันแล้ว

เมื่อคิดเช่นนี้เธอก็ค่อยวางใจ ทีนาร์ไม่มีวันทรยศเธอแน่นอน

ถึงอย่างนั้น เธอก็ประเมินพิษสงของผู้หญิงคนนี้ต่ำเกินไป ตอนนี้เธอยังไม่รู้ว่า เมื่อแผนการณ์นี้เริ่มต้นขึ้น เธอก็ได้ตกเป็นเหยื่อไปแล้ว

………

เจ็ดโมงกว่าในตอนเช้า หลังจากตรวจสอบของที่ต้องใช้ทั้งหมดในมื้อเย็นเรียบร้อยแล้ว ทีนาร์ก็หาข้ออ้างที่จะเข้าไปที่สวนดอกไม้ด้านหลังของโรงพยาบาล มีคนน้อยมากในตอนกลางวัน แม้แต่ตอนกลางคืนก็ไม่มีแม้เงาผู้คน

วันนี้การรักษาการณ์ของโรงพยาบาลค่อนข้างเข้มงวดมาก แต่ก็มีบางส่วนที่กล้องวงจรปิดมีอยู่บางตา ส่วนแรกคือบริเวณที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่การแพทย์ สองคือบริเวณที่อยู่ในระหว่างซ่อมบำรุงซึ่งตรงนั้นจะมีมุมอับอยู่

ถึงกล้องจะแน่นหนามาก แต่ก็ยังคงมีพื้นที่ลับอยู่เสมอ

ทีนาร์ใช้ “จุดอับ” นี้เองเพื่อที่จะเข้ามา เธอหาอยู่ที่มุมห้องเป็นเวลานานแต่ก็หาไม่เจอเสียทีจนรู้สึกร้อนใจ เมื่อการเตรียมตัวมาไม่ได้เป็นไปตามที่คิด ปลายเท้าเธอก็เตะไปที่ก้อนหินหนักก้อนหนึ่ง

เธอก้มตัวลงมอง ภายใต้หินสีเทา บนดินดีสีน้ำตาลมีการทำเครื่องหมายที่ชัดเจนไว้ เธอนั่งยองๆลง ไม่นานปลายนิ้วก็สัมผัสถูกท่อแก้วน้ำแข็ง

เธอดึงสิ่งต่างๆออกมาอย่างรวดเร็ว ขวดแก้วทรงกระบอกที่มีขนาดเล็กมีความหนาเท่ากับนิ้วโป้งเท่านั้น ของเหลวที่ถูกบรรจุอยู่ในนั้นถูกปิดผลึกไว้อย่างหนาแน่น

ดูจากลักษณะภายนอกแล้ว นี่คือขวดยาทั่วไปของคลินิคหรือโรงพยาบาล สำหรับใส่ยาเพื่อสำหรับหยด มีแต่ทีนาร์เท่านั้นที่รู้ว่าของสิ่งนี้น่ากลัวเพียงใด

ปริมาณเท่านี้สามารถฆ่าคนได้ทั้งคน

เธอซ่อนขวดยาไว้ในข้อมือของเธอ กำมือแน่นหัวใจเต้นรัว ชายเสื้อเธอตกลงมาปิดบังเอาไว้พอดี หลังจากกลบดินเรียบร้อยแล้วเธอก็รีบออกไปอย่างไม่รอช้า

พอเข้าใกล้เขตกล้องจับภาพเธอก็ทำตัวปกติไม่ให้น่าสงสัย เธอเข้าไปในบริเวณห้องพักรับรอง ที่นี่เป็นบริเวณที่เชื่อมกับจุดบอด ทำให้ดูเหมือนกับว่าเธอเพิ่งออกมาจากบริเวณห้องพักรับรอง

เพื่อสังเกตสิ่งเหล่านี้ ทีนาร์ได้ทำงานอย่างหนัก เดินสำรวจในโรงพยาบาลด้วยตัวเองนับครั้งไม่ถ้วน อ้างว่าเพื่อกายบริหารฟื้นฟูร่างกาย แต่ความจริงแล้วก็เพื่อสังเกตการณ์

ในที่สุดเธอก็กลับไปที่วอร์ด เวลาได้ล่วงเลยไปถึงหนึ่งทุ่มครึ่งแล้ว เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก็เห็นว่าเป็นเบอร์ของนัชชา คราวนี้เธอไม่ได้ใช้โทรศัพท์เครื่องเล็กแต่กลับใช้เบอร์ปกติในการโทร

โทรศัพท์ดังอยู่สองสามครั้งเธอจึงหยิบขึ้นมา เสียงที่ปลายสายอีกด้านหนึ่งฟังดูเหนื่อยล้า “ฮัลโหล”

“ฉันพูดอยู่” ทีนาร์รีบตรงเข้าประเด็น

นัชชากำลังนั่งอยู่บนโซฟา เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นหูเธอก็หน้ามุ่ยขึ้นในทันที เธอเหลือบไปมองที่ณัชชนม์ เห็นว่าหล่อนไม่ได้สนใจเธออยู่ เธอจึงถือโทรศัพท์แล้วเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง เธอต้องการที่จะถามว่าหล่อนมีเบอร์โทรศัพท์ของเธอได้อย่างไร เมื่อคำพูดมาถึงปลายลิ้นก็ต้องเก็บกลืนคำเข้าไป หล่อนมีเบอร์ของเธอก็ไม่แปลกอะไร เธอเป็นผู้หญิงที่ละเอียดรอบคอบ

“ฉันกับคุณทีนาร์มีความสัมพันธ์ที่จะต้องติดต่อกันทางโทรศัพท์ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”

ทีนาร์ไม่ได้สนใจต่อทัศนคติที่ไม่เป็นมิตรของเธอ เธอมีสิ่งสำคัญกว่าที่จะต้องทำ ดังนั้นเธอจึงพูดสิ่งที่เธอคิดมาอย่างถ้วนถี่หลายคราวหลายหนแล้วออกไป “ฉันรู้ว่าคุณคืนดีกับพี่เตชิตแล้ว ความจริงเรื่องต่างๆระหว่างเรา ฉันมักเป็นคนเริ่มพูดกับเธอก่อนเสมอ ตอนนี้พวกคุณก็รักกันดีแล้ว ให้ฉันได้ใช้โอกาสนี้บอกกับคุณ”

คำพูดนั้นนัชชาก็ไม่ได้จริงจังอะไร เธอหัวเราะออกมาหนึ่งคำ “รบกวนคุณหนูทีนาร์เปล่าๆ ไม่จำเป็นหรอก”

“ฉันรู้ว่าคุณกับฉันมีเรื่องบาทหมางกัน” ทีนาร์กล่าวในโทรศัพท์ “คราวนี้ก็เลยไม่ได้อยากจะรบกวนคุณให้มา แต่ที่นี่คือโรงพยาบาล ฉันคงทำเรื่องเดือดร้อนให้คุณที่นี่ไม่ได้หรอก เพียงแค่มีบางเรื่องฉันคิดว่าคุณควรที่จะได้รู้”

“งั้นก็ได้” นัชชาพยักหน้า “พูดในโทรศัพท์นี่ล่ะ”

“ไม่ได้ ฉันต้องการพูดต่อหน้าคุณ”

ริมฝีปากของนัชชาเบ้ออก ใจเริ่มมีความรู้สึกที่ไม่ดี “หมายความว่ายังไง”

เธอรู้สึกได้ถึงว่าอารมณ์หล่อนเริ่มเปลี่ยน ทีนาร์จึงเริ่มแต่งเรื่อง “พ่อเธอเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น เตชิตทำไมถึงกลับเย็นชา และสาเหตุที่ฉันอยู่ที่โรงพยาบาลไม่สามารถขยับเคลื่อนไหวได้ เธอไม่อยากรู้หรอ”

นัชชาลดเสียงลงต่ำ “ถ้าหากคุณหนูทีนาร์แค่อยากจะมากระตุ้นความสงสัยของฉัน งั้นฉันไม่อยากพูดต่อไปแล้ว จะวางสายแล้วนะ”

“มันเกี่ยวกับครอบครัวของฉัน เพียงแต่คุณต้องเห็นด้วยตาของคุณเองคุณถึงจะเชื่อ”

ทั้งสองฝ่ายตกอยู่ในความเงียบ นัชชาเอาโทรศัพท์ยื่นออกไปไกลตัวเธอสักพัก ใบหน้าเริ่มมีความกดดันและถอนหายใจออกมาเบาๆ เธอรู้ว่าตัวเองไม่ควรหูเบาเชื่อทีนาร์ ไม่แม้แต่คำเดียว แต่เธอก็ไม่อาจพูดได้ว่า หลังจากที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น พวกเธอก็ยังไม่ได้ไปมาหาสู่กันเช่นปกติ มีบางเรื่องที่ไม่สามารถอธิบายได้

ตอนดึก ในโรงพยาบาล ผู้หญิงสองคน และพยาบาลอีกนับไม่ถ้วน เธอพูดไม่ผิด ไม่น่าจะเกิดเรื่องอะไรได้

ขณะที่นัชชาคิดอยู่นั้น ทีนาร์ก็พูดคำพูดที่ทำให้เธอไม่ไปไม่ได้ “ในโรงพยาบาลนี้ นอกจากฉันแล้วยังมีคนอีกคนหนึ่งที่เตชิตเป็นห่วงเป็นใยอยู่ เธอไม่อยากเห็นหรอว่าเป็นใคร”

………

หลังจากนั้นสี่สิบนาที แท๊กซี่ก็มาจอดที่หน้าประตูโรงพยาบาล เธอมองลอดผ่านช่องว่างระหว่างคนขับไปเห็นประตูทางเข้าของโรงพยาบาล คนขับมองผ่านไปที่กระจกมองหลัง “คุณผู้หญิง ที่บ้านมีคนป่วยหรอครับ”

“เปล่าค่ะ มาเพราะธุระอย่างอื่นค่ะ”

คนขับรู้สึกแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้ถามต่อไป ในใจก็คิดว่ามาโรงพยาบาลไม่ได้มาเยี่ยมคนป่วยแล้วมาทำอะไรกัน

หลังจากที่ลงจากรถ ลมเย็นสายหนึ่งก็พัดผ่านมา นัชชาเอาเสื้อโค้ทห่อร่างกายของเธอเอาไว้ให้กระชับขึ้นและเดินไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเธอก็ได้รับสายของเตชิต

เธอดูชื่อที่ปรากฎอยู่บนโทรศัพท์อยู่เป็นเวลานานกว่าที่จะรับสาย “ฮัลโหล”

“ทำไมนานจังกว่าจะรับ อยู่ที่ไหนครับ” เสียงผู้ชายในโทรศัพท์ฟังดูเร่งรีบเล็กน้อย ช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเขาอยู่ในอารมณ์หดหู่โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเวลาไม่มีเธออยู่รอบกาย

สายตานัชชามองไปที่ลิฟต์ ท้ายที่สุดก็ไม่ต้องการให้เขาเป็นห่วง “ฉันอยู่ชั้นล่างของบ้าน กำลังจะขึ้นข้างบนแล้วค่ะ”

“อื้อ” เขาตอบด้วยเสียงที่แผ่วเบา และพูดต่อไป “ผมจะรอคุณเข้าประตูก่อนค่อยวาง”

หัวใจของนัชชาบีบแน่นกลัวว่าเขาจะจับได้ หลังจากความเสียใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่อยๆจางลง “แบตโทรศัพท์ฉันใกล้หมดแล้ว เดี๋ยวอีกสักครู่ฉันจะส่งข้อความหานะคะ”

เตชิตยังไม่ออกจากบริษัท ขณะที่เขาต้องการที่จะพูดบางอย่าง จู่ๆตรัณก็เดินเข้ามา “ประธานเตชิตครับ ตอนนี้ที่ประชุมพร้อมประชุมผ่านวีดีโอคอลแล้วครับ”

เมื่อนัชชาได้ยินก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “คุณไปก่อนเถอะ ไว้เสร็จธุระแล้วค่อยคุยกัน”

เตชินเหลือบมองที่ตรัณ ในที่สุดก็ต้องยอมแพ้ “เข้าบ้านแล้วบอกผมด้วย”

“โอเค”

หลังจากวางสาย หัวใจของนัชชาเต้นไม่เป็นจังหวะ เธอเดินไปข้างหน้าเพื่อกดลิฟต์ เห็นดวงตาของความสับสนวุ่นวายของตัวเองในกระจก

“ติ๊ง” ลิฟต์มาถึงแล้ว เธอเดินเข้าไป หลังจากนั้นไม่นานก็มาถึงชั้นที่ทีนาร์อยู่

ทางเดินของโรงพยาบาลในตอนกลางคืนนั้นว่างเปล่า โล่งเป็นพิเศษแต่ยังคงสว่างจ้า เธอเดินเข้าไป กดเปิดประตูสีขาวของห้องวีไอพี

ได้รับการต้อนรับอย่างรวดเร็ว “เข้ามาสิ”

นัชชาหายใจเข้าลึกๆ เธอพยายามทำตัวเองให้ดูสงบนิ่ง เมื่อผลักประตูเข้าไปเธอเห็นเงาของร่างที่ผอมบางนั่งอยู่ตรงขอบเตียง

ทีนาร์มองไปที่ผู้หญิงที่เพิ่งเดินเข้ามา เธอยิ้มอย่างเย็นชา “เธอมาแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด