ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 243

ตอนที่ 243 เป็นเธอที่ฆ่าหล่อน

หมอไม่ต้องการเถียงกับเธอ เขาปุ่มข้างเตียงนำผู้ป่วยไปที่ห้องฉุกเฉิน ไม่นานนักก็มีคนใส่ชุดสีดำวิ่งเข้ามา ใช้พละกำลังควบคุมแขนของเธอกดลง เขากดตัวเธอลงไปกับพื้น

แก้มเธอถูกกดลงกระแทก กระดูกของเธอปวดร้าว นัชชาพยายามบิดตัวพยายามดิ้นอย่างสุดแรง “ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน!”

“อย่าขยับ!” เสียงของชายคนนั้นหยาบกร้าน เมื่อได้ยินก็รู้ว่าไม่ได้ต้องการปฏิบัติต่อกันด้วยดี ยิ่งเห็นเธอต่อต้านเขาก็ยิ่งกระทำรุนแรงขึ้น ราวกับจะต้องการยกแขนทั้งสองของเธอขึ้นมา “ผมได้รับแจ้งมา คุณอยู่นิ่งๆอย่าขยับ!”

นัชชากัดริมฝีปากอย่างรุงแรง พยายามอดทนต่อความเจ็บปวดนี้ มีเหงื่อเย็นปรากฎบนหน้าผากเธอ เธอเงยหน้าขึ้นอย่างไม่เต็มใจและรอคอยการปรากฎตัวของทีนาร์ที่ประตูทางเข้า “คนที่คุณควรจับคือหล่อน ไม่ใช่ฉัน!”

แต่ว่าชายรูปร่างกำยำหลายคนนั้นกลับไม่ฟัง เขาบิดแขนของเธอและต้องการให้เธอลุกขึ้นมาจากพื้น “เดินไป!”

เมื่อเกิดสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นนี้ เธอเกี่ยวประตูไว้ด้วยเท้าข้างหนึ่ง ไม่ยอมผ่อนคลาย หลังจากที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกำลังจะยกตัวเธอขึ้นนั้น สุวีราก็รีบเดินเข้ามา “นัชชา คุณไม่เป็นไรนะ”

เมื่อเห็นเธอมา ใจของนัชชาก็ค่อยอุ่นขึ้นมาบ้าง “วีรา วีรา…”

สุวีราเห็นว่าเธอถูกจับไว้ ปวดใจเป็นอย่างมาก ยิ่งเห็นเธอหน้าซีดก็ยิ่งเป็นกังวลยิ่งร้อนใจ ปัดมือของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยออก “คุณไม่มีคุณสมบัติที่จะทำเช่นนี้กับเธอได้ ปล่อยเดี๋ยวนี้!”

“เป็นคำสั่งของคุณหมอบุรี เราแค่มาจับและพาคนไป ผมคิดว่าคุณยังไม่เข้าใจเรื่องราวนี้อย่าได้เข้ามาขัดขวาง! สิทธิอำนาจของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยังสูงกว่าเจ้าหน้าที่ฝึกหัดในโรงพยาบาล!”

สุวีราไม่ตกใจกลัวเมื่อถูกตะคอกใส่ เธอใช้เล็บจิกไปที่หลังของบุคคลนั้น คนคนนั้นยักคิ้วและโบกมือ ตัวของเธอก็ถูกกดไปที่กำแพง หลังศีรษะได้ยินเสียง “โป๊ก” อย่างไม่ตั้งใจ สักครู่หนึ่งเธอก็ไม่สามารถลุกขึ้น

“วีรา!” นัชชามองดูด้วยความกังวลยิ่งกว่าเดิม ต้องการที่จะพยุงเธอขึ้นแต่แม้แต่ตัวเองยังช่วยเหลืออะไรไม่ได้

สุวีรารู้สึกว่าตัวเองวิงเวียนศีรษะ ยังไม่ทันได้รอให้ร่างกายเธอได้ฟื้นสติ ฝ่ามืออันทรงพลังคู่หนึ่งก็จับแขนของเธอไว้ จากนั้นบุคคลนั้นก็ดึงตัวเธอขึ้นมา หลังจากนั้นก็ดึงตัวเธอเข้ามาในอ้อมกอดที่คุ้นเคย “ไม่เป็นไรนะ”

เขาจ้องมอง ประสาทสัมผัสทั้งห้าที่ละเอียดและอ่อนโยนของมนุษย์คนนั้นแสดงให้เห็นถึงความกังวลอย่างชัดเจน

เธอส่ายหัวและตาเริ่มแดงก่ำ “ไม่ ไม่เป็นอะไร นัชชา เธอโดนทำร้าย คุณรีบไปพูดกับพวกเขา…”

“เอาล่ะ เธอไม่ต้องร้อง ฉันจัดการเอง” ปรัณสัมผัสหน้าเล็กๆของเธอที่เต็มไปด้วยความตกใจ เขาตรวจสอบอย่างรอบคอบว่าเธอไม่ได้มีอาการบาดเจ็บใดๆและหันไปจ้องเขม็งไปที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย “คุณมีสิทธิ์อะไรมาทำกับแพทย์เช่นนี้”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรู้สึกผิด เขารู้ว่าตัวเองไม่ควรยอมให้ถูกยั่วยุ พละกำลังที่จับนัชชาอยู่เลยอ่อนลงบ้างเล็กน้อย “ขอโทษครับผู้อำนวยการ ผมไม่คิดว่าจะทำให้เธอพุ่งตัวออกไปชน….”

เห็นได้ชัดว่าคำขอโทษของเขาไม่ได้ช่วยดับไฟโกรธของปรัณ กลับยิ่งทำให้ไฟลุกโหมยิ่งขึ้น “ปล่อยมือคุณเดี๋ยวนี้ แล้วรีบออกไปซะ ถ้าพรุ่งนี้ผมยังเห็นคุณอีก ผมจะทำให้คุณได้อยู่ในโรงพยาบาลไปตลอดชีวีต”

“ผู้..ผู้อำนวยการปรัณ ผมผิดไปแล้ว ผม…”

“ออกไป อย่าให้ผมพูดอีกเป็นครั้งที่สาม”

ในมุมของปรัณ นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้รักษาความปลอดภัยคนนั้นเห็นมุมที่ดุร้ายของปรัณ เขากลัวเมื่อปรัณเปล่งเสียงออกมา ตกใจจนต้องปล่อยนัชชาในทันทีและเดินคอตกออกจากที่นั่น

คนที่เหลืออยู่ก็กล้าๆกลัวๆทำตัวไม่ถูก ค่อยๆผ่อนมือพวกเขาออกและเดินตามกันออกไป

สุวีรารีบพุ่งตัวไปด้านหน้า กังวลเกี่ยวกับรอยฟกช้ำที่โหนกแก้มของหล่อน “บวมมาก ฉันจะทายาฆ่าเชื้อให้”

นัชชากัดกรามแน่น ในที่สุดก็กลั้นใจพูดออกมาได้สามคำ “ไม่เป็นไร”

จากนั้นเธอก็มองไปที่ทีนาร์ซึ่งยืนอยู่ที่ปลายทางอีกด้านหนึ่ง “เพื่อที่จะวางแผนให้ฉันติดกับ เธอไม่ลังเลสักนิดที่จะใช้ชีวิตของญาติตัวเองเป็นเครื่องมือ ทีนาร์เธอร้ายกาจกว่าที่ฉันคิดมาก ไม่ใช่สิ เธอมันไม่ใช่คน เธอมันเป็นปีศาจ!”

ทีนาร์รีบปกปิดใบหน้าของคนทรยศเมื่อสักครู่เอาไว้ และร้องไห้ออกมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไร้เดียงสา เมื่อคนอื่นเห็นก็รู้สึกเหมือนว่าเธอนั้นเศร้าเสียใจอย่างแท้จริง “นัชชามาถึงตอนนี้เธอยังพูดเช่นนี้ ฉันเจตนาดีเรียกเธอมาพูดคุยด้วย เธอกลับมาวางยาคุณยายของฉัน เธอยังเป็นคนอยู่รึเปล่า!”

สุวีราและปรัณประมวลเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากคำบอกเล่าเพียงแค่สั้นๆ แต่กลับเป็นข้อมูลอันมหาศาล ไม่ต้องพูดถึงสุวีรา แม้แต่ปรัณเองก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ

เหตุการณ์ที่เกิดแก่โศจิรัตน์ถูกวางแผนเอาไว้ก่อนแล้วอย่างนั้นรึ

เขากวาดสายตาไปในห้องหนึ่งรอบ ก็พบว่าหลอดยาในตู้ยังมีเหลือยาอยู่บางส่วน เมื่อเห็นแล้วเขาก็รู้ได้ว่าไม่ใช่ฝีมือของคนที่ชำนาญการ

“นี่เอามาจากไหน”

นัชชามองไป สีหน้าเหมือนกระดาษ “ในกล่องยา ทีนาร์ให้ฉันเอามันออกมา”

“เธอพูดพล่อยๆ” ทีนาร์ส่งเสียงคำราม “เห็นชัดๆว่าฉันออกไปตามหมอมา เธอแอบเอาเข้ามาเอง!”

เมื่อพูดจบ เธอก็กลัวว่าคนอื่นจะไม่เชื่อตัวเอง รีบกล่าวต่อไปว่า “ในห้องนี้ก็มีกล้องวงจรปิด ดูเอาก็จะได้รู้!”

ปรัณหรี่ตาลง เขามองไปที่กระบอกฉีดยาก็เห็นรอยนิ้วมือที่ไม่ชัดเจนที่ตรงด้านบน ทีนาร์พูดไม่ผิด ห้องของผู้ป่วยทั่วไปจะไม่มีกล้องวงจรปิด แต่ห้องของโศจิรัตน์กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น เธอต้องได้รับการเฝ้าระวังตลอด24ชั่วโมง ดังนั้นจึงต้องมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้

ปรัณเพิกเฉยหล่อน หันหลังกลับไปมองสุวีรา “คุณหนูทีนาร์รบกวนรออยู่ที่ห้องผู้ป่วยก่อน ให้คนคอยดูไว้ สุวีราเธอพานัชชาไปที่ห้องพักรับรองก่อน”

สุวีราพยักหน้า เธอเอื้อมไปจูงมือที่สั่นเทาทั้งสองข้างของนัชชา “ไม่ต้องห่วง ฉันจัดการเอง”

หลังจากที่ปรัณเดินออกจากวอร์ด เขาต่อสายโทรหาเตชิตทันที “เต มีเรื่องไม่ดี เกิดเรื่องกับโศจิรัตน์!”

ในเวลานั้น เตชิตกำลังประชุมวีดีโอคอลกับเหล่าประธานผู้ถือหุ้นนับไม่ถ้วนในห้องประชุม เมื่อได้ยินข่าวนี้ เขารีบบอกให้ตรัณหยุดพักและหยิบโทรศัพท์เดินไปคุยที่ริมหน้าต่าง “เกิดอะไรขึ้น”

“ประโยคสองประโยคเล่าได้ไม่เคลียร์ ตอนนี้คนอยู่ในห้องฉุกเฉินแล้ว สถานการณ์….ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ยังมีอีกเรื่อง----” จู่ๆปรัณก็หยุดพูด ไม่รู้จะเรียบเรียงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังได้อย่างไร

เตชิตเคยเห็นเขาอ้ำๆอึ้งๆเช่นนี้น้อยครั้งมาก จะต้องมีเรื่องร้ายแรงที่เขาลำบากใจที่จะพูด เขาเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้น “มีเรื่องอะไรกันแน่”

ปรัณกัดฟัน และในที่สุดก็ปล่อยคลายออก แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ยังไม่พูดออกมาตรงๆ “คุณมาที่โรงพยาบาลเถอะ นัชชาก็อยู่ที่นี่ และก็ทีนาร์”

หลังจากได้ฟังประโยคนั้น หัวใจของเตชิตรู้สึกเหมือนถูกเหล็กหนักร้อยกิโลทับไว้ หายใจไม่ทั่วท้อง

เขาจำได้แม่นว่าเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนเขาเพิ่งจะคุยกับนัชชา เธอพูดว่ายังไงนะ เธอบอกว่าอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน แบตโทรศัพท์กำลังจะหมดแล้ว กำลังจะขึ้นไปข้างบน

แต่ตอนนี้ปรัณกลับบอกกับเขาว่า เธออยู่ที่โรงพยาบาล มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือ ที่ในขณะเดียวกันก็มีเรื่องเกิดขึ้นกับโศจิรัตน์ เมื่อเชื่อมต่อเรื่องราวต่างๆเข้าด้วยกันก็ทำให้คนหนาวสั่นขึ้นมา

เตชิตกำโทรศัพท์ที่อยู่ในมือแน่น เขาหันกลับและเดินออกไปที่ประตูทางออกท่ามกลางสายตาที่ตกตะลึงของตรัณ เขาผลักประตูที่ใหญ่หนาของห้องประชุมเปิดออก “ผมกำลังไปเดี๋ยวนี้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด