ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 248

ตอนที่ 248 เพื่อให้เขายอมแพ้

“ตึง” เสียงบางอย่างดังอยู่ในหัว บนผ้าห่ม ระหว่างหมอน เมื่อไม่กี่วินาทีก่อนผิวของเขายังมีความอ่อนโยน แต่เมื่อไม่กี่วินาทีก่อนหน้านี้ เธอกลับบอกว่าจะไปสถานีตำรวจ

เตชิตพยายามสงบสติอารมณ์ เอ่ยปากถามเธอด้วยความปวดใจ “คุณจะไปที่นั่นทำไม”

“มอบตัว” นัชชาไม่ได้ประหม่าเหมือนกับเขา เธอยังหัวเราะเมื่อพูดจบ “ดูเหมือนว่าจะพูดอย่างนี้ไม่ได้ ควรจะพูดว่าเพื่อการไต่สวนอย่างเหมาะสม”

นัยตาของชายผู้นั้นจ้องไปที่ใบหน้าบอบบางสีขาวในพริบตา เขาต้องการเห็นในใจของผู้หญิงคนนี้จริงๆว่าข้างในเป็นเช่นไร วินาทีก่อนยังโอบกอดกันอยู่ วินาทีต่อมาก็พูดถึงการตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว

เตชิตหายใจเข้าลึกๆ ความวิตกกังวลจากการที่สถานการณ์ที่บีบคั้นก็กลับมาอีกครั้ง กล้ามเนื้อมัดใหญ่ของเขาเผยออกจากผ้าห่ม แขนอันแข็งแกร่งเหยียดยาวออกมาเพื่อหยิบกล่องบุหรี่ คีบไว้ในปากหนึ่งมวนและจุดไฟ

ควันสีขาวอมเทากระจายออกมาจากปากอันเซ็กซี่ของชายคนนั้น เสียงของเขาเท่ห์เหมือนหยดน้ำค้างในยามเย็น “คุณรู้หรือไม่ว่า มันหมายความว่าอย่างไร”

นัชชาพยักหน้าอย่างจริงจัง “ฉันรู้”

“โอ้” ได้ยินคำตอบง่ายๆอย่างนี้ เตชิตหัวเราะ แสงอาทิตย์ที่ถูกนกฟีนิกซ์ยั่วยุ “คุณล้อผมเล่นใช่ไหม”

“ฉันพูดจริง” เปลือกตาของนัชชานั้นช่างเบาบาง ดวงตามีแววไม่สบายใจเล็กน้อย “แต่ว่าฉันเชื่อคุณ”

“คุณควรจะเชื่อมั่นในตัวเอง”

“การที่คุณไปไม่ได้มีอะไรดี ต่อคุณ ต่อผม ต่อหมอปรัณและโรงพยาบาลเลย” นัชชาหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าเสื้อของเธอออกมา ถ้าหากว่าไม่เห็นปลายนิ้วของเธอสั่น แทบจะมองอารมณ์เธอไม่ออก

เธอเลื่อนมือไปถึงข่าวพาดหัวของเรื่องนี้ในอินเตอร์เน็ต ความจริงไม่จำเป็นต้องเสียเวลาดูเรื่องที่ปรากฎอยู่ตรงหน้า เธอยื่นโทรศัพท์ไปที่ตรงหน้าเขา “เรื่องนี้ไม่สามารถหยุดมันได้แล้ว”

เพียงครึ่งวัน ข่าวแพร่ออกไปทั้งเมือง ทุกคนรู้ หากทุกอย่างยังคลุมเครือเหมือนอยู่ในฝุ่น ถ้าอย่างนั้นทุกคนก็จะกลายเป็นสมรู้ร่วมคิด ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเตชิต

สิ่งที่นัชชาไม่ต้องการเห็นมากที่สุดก็คือการที่เตชิตต้องพบกับปัญหาเพราะว่าตัวเธอเอง

นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย นี่เป็นคดีฆาตกรรม

เตชิตมองดูพาดหัวข่าวที่เห็นเด่นชัด เต็มไปด้วยลูกเล่นเพื่อดึงดูดคน รูปแรกที่อยู่ตรงหน้าคือภาพของโรงพยาบาลปรัณและดวงตาโมเสกของปรัณ

ริมฝีปากอันบอบบางของชายคนนั้นสั่นเล็กน้อย เต็มไปด้วยความเย้ยหยันและประชดประชัน เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกระแทกลงไป

“ปัง!”

“แกร๊ก!”

โทรศัพท์กระเด็นไปชนกำแพงและส่งเสียงเล็กๆออกมา กรอบอันแข็งแกร่งเปลี่ยนรูปร่างในทันที กระจายไปตามพื้นเป็นสามหรือสี่ส่วน หน้าจอแตกเหมือนลูกเต๋าแก้ว ขอบมีรอยบุ๋ม เห็นชัดว่าเสียหายอย่างรุนแรงมาก

นัชชาไม่คาดคิดว่าเขาจะปาโทรศัพท์เช่นนั้น เธอตกใจมาก “การหลบหนีไม่มีประโยชน์อะไร!”

เธอร้องคำรามออก นัยตามีวงสีแดงใหญ่ “ฉันไม่ต้องการเห็นคุณเป็นเช่นนี้! สิ่งที่ฉันไม่ได้ทำก็คือไม่ได้ทำ ฉันเชื่อว่ากฎหมายยุติธรรม ฉันเชื่อว่าตำรวจจะสืบหาความจริง แม้ว่าพวกเขาจะช่วยฉันไม่ได้ แต่ฉันยังมีคุณ! ใช่ ฉันกลัวจริงๆ แต่ว่านี่เป็นทางออกที่ดีที่สุด ฉันกล้าที่จะไปเพราะฉันรู้ว่าคุณจะเข้าใจทุกอย่าง และสุดท้ายจะพาฉันกลับบ้าน!”

หากมีทางอื่นให้เลือก เธอไม่ต้องการที่จะไปสถานีตำรวจ เธอไม่ได้กลัว แต่สิ่งที่เกิดขึ้น เธอเป็นคนที่ต้องแบกรับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด ไม่ควรปล่อยให้คนอื่นต้องรับกรรมแทน

นัชชากำลังเดิมพันอนาคตของเธอไว้กับความไว้วางใจของผู้ชายคนนี้

เตชิตเงียบลงเพราะคำพูดประโยคสุดท้ายของเธอ มือที่อยู่บนผ้าห่มนั้นนิ่งสนิท เห็นเส้นเลือดสีเงินโผล่ขึ้นมาจากที่ด้านข้างของแขน ดูเย่อหยิ่งอย่างน่ากลัว

เขาไร้ความสามารถแค่ไหน แม้แต่ผู้หญิงที่รักก็ไม่สามารถปกป้องได้ ช่างไร้น้ำยา….

ดูเหมือนเธอจะตระหนักถึงความเศร้าและความโกรธแค้นของเขา นัชชาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว พับขาครึ่งหนึ่งอยู่บนเตียง เธอเอนศีรษะกอดชายคนนี้ ผู้ซึ่งแต่เดิมมีแต่ความภาคภูมิใจแต่ตอนนี้กลับสิ้นหวัง “ไม่ใช่ความผิดของคุณ เพราะฉันเชื่อว่าคุณสามารถปกป้องฉันได้ ฉันถึงไป”

“ผมไม่อยากให้คุณไป” ไปแล้วอาจเกิดอะไรขึ้นก็ได้ ต้องเผชิญกับอะไร เขามองไม่เห็นและไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะว่าเขาจะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน เนื่องจากเขาเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี ทางตำรวจคงตำรวจคงจะไม่เปิดเผยอะไรกับเขามาก

เมื่อไม่เห็นเธอ เขาก็ไม่สามารถวางใจอะไรได้

“คุณวางใจเถอะ ฉันจะดูแลตัวเอง” นัชชาตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะไป “สิ่งที่ฉันควรทำในตอนนี้ก็คือการลบข้อสงสัย แทนที่จะหลบซ่อน ฉันทำอะไรผิดทำไมถึงต้องหลบซ่อน”

ไม่ต้องพูดถึงสถานการณ์ปัจจุบัน แม้ว่าในใจเขาอยากให้ซ่อน แต่ก็ซ่อนไม่ได้อยู่ดี

เตชิตฟังไปก็รู้สึกแน่นหน้าอก เขายกมือขึ้นและกอดเธออย่างแน่นหนา ทุกสิ่งทุกอย่างแม้กระทั่งลมหายใจมีสัมผัสที่ทำให้มั่นใจได้ในร่างกายของเธอ เมื่อนึกถึงความเชื่อมั่นของผู้หญิงคนนี้ที่จะจากไป เขาเป็นเหมือนศัตรู “ผมปล่อยคุณไปไม่ได้ ถ้าหากเกิดเรื่องอะไรขึ้น ผมจะชดใช้ได้อย่างไร….”

ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ ไม่มีการหันหลังกลับ ตัดสินใจผิดพลาดแม้สักนิดไม่ได้

การปล่อยให้เธอไปที่สถานีตำรวจ มันเสี่ยงเกินไป

ถ้าหากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เขายอมรับมันไม่ได้

นัชชาผละออกจากเขาเล็กน้อย มองเขาด้วยสายตา “ถ้าอย่างนั้นคุณต้องซ่อนฉันไว้ตลอดเวลาจนกว่าเรื่องจะกระจ่างอย่างนั้นหรือคะ นอกจากคุณกับฉัน คุณหมอปรัณจะทำยังไงคะ โรงพยาบาลจะทำยังไงคะ คนไข้ในโรงพยาบาลจะทำยังไงคะ คุณคิดบ้างไหมคะ ฉันคิดแล้ว เพราะฉะนั้นฉันจึงไม่สามารถหลบซ่อน แล้วปล่อยให้คนอื่นต้องรับเคราะห์!”

“แล้วผมล่ะ!”

นัชชามองเขาด้วยสายตาที่ซับซ้อน ความปวดใจกำลังกัดกร่อนเธอ เธอยกมือขึ้นเพื่อสัมผัสใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา “ฉันไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ”

เตชิตจับไปที่มือเย็นๆของเธอ ความแข็งแกร่งของชายคนนั้นทำให้เธอสั่นไหวเล็กน้อย เธอเชื่อใจเขาขนาดนั้น ฝากทั้งชีวิตไว้ในมือเขา เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความไว้วางใจนี้เขากลับไม่สามารถพูดคำใดออกมาได้…

ฆาตกรไม่ใช่เธอ ก็เหลือเพียงทีนาร์เท่านั้น เขาควรจะเลือกใคร

ก่อนหน้านี้นัชชาได้ติดต่อกับทางสถานีตำรวจไว้แล้ว เธอไม่ต้องการให้ใครลำบาก ดังนั้นจึงเลือกที่จะลำบากเอง เธอช่างเป็นผู้หญิงที่แสนดี

เมื่อตำรวจมาถึง นัชชาก็ได้ถูกเชิญไปที่ห้องรับรองของทางโรงพยาบาล ถัดจากเธอไปเป็นคนที่ไม่สามารถเพิกเฉยได้ เตชิต

ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้สังเกตเห็นความผิดปกติ เลขาตำรวจเมื่อเข้ามาเพื่อ “เชิญ” ทุกคน ที่จริงคิดว่าต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ไม่ได้คาดหวังว่านัชชาจะให้ความร่วมมืออย่างน่าประหลาดใจ

นัชชามองไปที่ข้อมือที่ว่างเปล่าของเธอและพูดออกไปอย่างเป็นธรรมชาติ “คิดว่าจะนำกุญแจมือมาด้วย”

เจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนถัดจากเขาใบหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย ไม่รู้ว่าจะไปต่ออย่างไร เลขาสักพักก็พูดต่อไปอย่างนุ่มนวลและหัวเราะออกมา “คุณนัชชาคิดมาก เราแค่พาคุณไปเพื่อทำการสอบสวน ไม่จำเป็นจะต้องใส่กุญแจมือ ถ้าหากไม่มีเรื่องอะไร เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะนำคุณกลับสู่ความบริสุทธิ์ได้”

นัชชาโค้งคำนับและยิ้ม โดยที่เธอไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะยิ้ม “ขอบคุณค่ะ”

เธอหายใจเข้าลึกๆ หันกลับไปมองที่ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงโซฟาตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ ยากที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้และบอกลา “ฉันไปนะคะ”

เตชิตเอาบุหรี่ออกจากริมฝีปากของเขา กดบุหรี่ลงในที่เขี่ยบุหรี่ ลุกขึ้นและเดินไปหาเธอและกอดเธอไว้ในอ้อมแขน เสียงแหบห้าวให้สัญญาไว้กับใบหูเธอ “รอผมนะ”

หนึ่งพันคำไม่สามารถเทียบน้ำหนักเท่ากับสองสามคำนี้ได้ นัชชาพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ฉันจะรอคุณค่ะ”

เตชิตไม่ได้ใช้เวลานานมากนัก สักพักเขาก็ปล่อยนัชชา ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ละสายตาไปจากเธอ เขาหันกลับไปบอกเลขาทางด้านหลัง “ฝากด้วยนะครับ”

ง่ายๆสั้นๆสี่คำ เขามีกิริยาอ่อนน้อมเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

แน่นอนว่าเลขารับอย่างเต็มปากเต็มคำ “คุณเตชิตวางใจได้ ทั้งหมดจะพูดคุยกันดีๆครับ…”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด