ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 283

ตอนที่283อยากตายแทนเธอ

เมทนีกับณัชชนม์ไม่รู้ว่าในชั่วเวลาฉับพลันที่เซ็นชื่อลงไปในที่สุดแล้วต้องใช้ไปพลังไปมากมายเท่าไหร่กันพวกเขาแม้แต่จะดูก็ยังไม่ได้ดูตัวอักษรดำๆที่อยู่บนกระดาษขาวนั้นกระดาษบางๆสามแผ่นสำหรับพวกเค้าแล้วก็เหมือนกับอสุรกายปากใหญ่ที่มีเลือดอยู่พลังที่บุกโจมตีแบบนั้นสามารถโจมตีความมีชีวิตชีวาจนพังทลายได้

เซ็นชื่อเสร็จนัชชาคนนี้ในที่สุดก็หายไปจากโลกใบนี้แล้วนับจากนี้ต่อไปไม่มีบันทึกฐานะของคนคนนี้และก็ไม่มีร่องรอยของช่วงชีวิตทั้งหมดหลงเหลืออยู่เลย

และเมทนีกับณัชชนม์ก็กลายสภาพมาเป็นผู้โดดเดี่ยวเดียวดายที่แท้จริงๆ

แต่จริงๆแล้วความน่ากลัวคือความรู้สึกที่จู่โจมเข้ามาสองคนที่ใช้ชีวิตมาห้าสิบปีปิดหน้าไร้เสียงน้ำตาตกแต่ทว่าน้ำตาไม่ว่าจะไหลรินมากเท่าไหร่ก็ไม่พอที่จะคลี่คลายความเจ็บปวดภายในใจได้

หลังจากที่ทำขั้นตอนเสร็จสิ้นแล้วหัวหน้าตำรวจก็หันหน้ามาทางเตชิตที่ตลอดมาไม่ยอมเอ่ยปากใดใด“คุณเตชิตงั้นคุณดูช่วงระยะทางบนถนนที่เกิดเรื่องหรือยังจำเป็นที่จะต้องปิดล้อมต่อไปอีกไหมครับ?”

ความหมายที่บอกเป็นนัยว่าคนก็ไม่อยู่แล้วไม่ต้องหาอีกต่อไปหาไปก็เสียเวลาเปล่าเท่านั้นเอง

ได้ยินคำพูดนี้เตชิตหันไปมองหัวหน้าตำรวจนัยน์ตาเย็นยะเยือกแทบจะสามารถทำให้คนแข็งตายได้“แค่คนวันเดียวก็หาไม่เจอช่วงระยะทางบนถนนก็ยังจำเป็นต้องปิดล้อม”

หลังจากฟังคำพูดนี้ในทันทีนั้นหัวหน้าตำรวจก็วางสีหน้าลำบากใจสุนัขรับใช้ก็เปิดปากพูดสำนวนราชการ“คุณเตชิตผมคาดหวังอย่างยิ่งว่าจะมีปาฏิหาริย์มากพอให้คณหนูนัชชามีชีวิตกลับมาได้ตามหลักแล้วช่วงระยะทางบนถนนนี้ไม่ใช่ของผมคนเดียวที่วางแผนสั่งการได้ระยะเวลาที่ยึดมาใช้นานแบบนี้เกรงว่าค่อนข้างจะทำได้ยาก……”

ทำยาก?

สีหน้าของเตชิตสงบมากอารมณ์ความรู้สึกบนใบหน้าล้วนไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด“ก็คือจะพูดว่าเรื่องนี้คุณไร้สมรรถภาพที่จะทำมันได้?”

“ก็ไม่เชิงว่าหมายความอย่างนั้นครับผมก็รู้ว่าจิตใจคุณกระวนกระวายร้อนรนแต่ผมเป็นแค่หัวหน้าตำรวจชั้นผู้น้อยจริงๆแล้วก็มีกำลังน้อยนิดไม่พอ……”หัวหน้าตำรวจยังคิดว่าเตชิตยอมที่จะปล่อยมันไปแล้วก็ยุ่งกับการนำคุณงามความดีของตนออกมาพูด一一อย่างละเอียดถี่ถ้วน“คุณดูจากที่เกิดเรื่องจนถึงตอนนี้ก็กินเวลาไปไม่น้อยแล้วตลอดมาที่ผ่านมาผมมีความกดดันสูงที่จะจัดการเรื่องนี้ตอนนี้ก็ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรจริงๆมิฉะนั้นแล้วผมก็คงไม่พูดออกมาแบบนี้”

“ไม่เป็นไร”เตชิตพยักหน้าเบาๆความหมายราวกับว่าจะกล่าวโทษเขาสักนิดก็ไม่มีต่อเนื่องจากที่พูดไว้เขาก็พูดเสริมขึ้นมา“เรื่องที่คุณทำไม่ได้ผมก็จะหาคนอื่นทำก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาอีกกี่ปีถึงจะปลดเกษียณคุณอยากจะสมความปรารถนาหรือเปล่า”

ได้ยินเตชิตพูดแบบนี้สีหน้าของผู้กองในขณะนั้นเปลี่ยนไปทันทีมาถึงอายุปูนนี้แล้วนอกจากชื่อเสียงลาภยศที่อยู่ข้างกายที่ใส่ใจที่สุดก็คือจะสามารถปลดชีวิตเกษียณได้อย่างราบรื่นไหมแท้จริงแล้วสองสามปีให้หลังมานี้ก็ถูกคนสอบสวนลงโทษทางวินัยมาไม่น้อยตำแหน่งของตัวเค้าเองในปีเหล่านี้ก็ต้องการตำแหน่งที่มีหน้ามีตาก็พอแล้วกังวลอยู่อย่างเดียวก็คือสิ่งสุดท้ายนี้มันกำลังสั่นคลอน

แต่ทว่าฟังความหมายของเตชิตที่พูดมาราวกับเตรียมจะเกี่ยวขาเค้าให้ล้มลง

หัวหน้าตำรวจเมื่อถูกขู่แล้วก็ขยับกายลุกขึ้นยืนขาและเท้าเคลื่อนออกจากเก้าอี้‘จุ๊’ครู่หนึ่งเสียงกระทบหูดังขึ้นมา“คุณชายเตชิตเรื่องนี้ปรึกษากันดีๆก็ได้มันถือว่าค่อนข้างทำได้ยากแต่ว่าก็ไม่ใช่ว่าทั้งหมดไม่มีหนทางที่จะดึงดันไกล่เกลี่ยได้

เค้าเพิ่งเปลี่ยนท่าทางมารยาสาไถยน้อมคำนับให้กับเตชิตอย่างขอไปทีเพิ่งจะเจอเขามีลักษณะผิดหวังท้อใจมากเท่านี้อดไม่ได้ที่จะคิดไปถึงข้อเสนอที่ต้องการแต่กลับลืมไปว่าไม่ว่าชายคนนี้จะเสื่อมโทรมกลายมาเป็นลักษณะไหนเขาก็คือเตชิตเค้ามีวิธีการเพียงพอที่จะทำให้คนมั่วซั่วไม่ได้

ความอ่อนแอของเขาล้วนมีไว้ให้กับนัชชาหญิงสาวคนนั้นสำหรับคนอื่นแล้วเขาก็ยังเป็นชายหนุ่มที่มีความเข้มงวดปราศจากเยื่อใยใดใด

เค้าหยิบเรื่องความเป็นความตายออกมาพูดสำหรับชายคนนี้แล้วเรื่องราวมันก็ง่ายมากแค่สักพักก็จัดการเสร็จแล้ว

“งั้นก็ดีเธอก็รู้ฉันดูค่อนข้างหนักแน่นกับเรื่องนี้ครั้งหน้าอย่าให้ฉันพูดอีก”ในน้ำเสียงที่พูดคุยของชายหนุ่มฟังไม่ออกถึงอารมณ์ที่รุนแรงอันใดแต่ทว่ากับทำให้ภายในคอหอยคนถูกเค้นจนหายใจไม่ออก

หัวหน้าตำรวจปล่อยลมหายใจในใจเคียดแค้นเหลือเกินใบหน้ายุ่งอยู่กับการพยักหน้าก้มหัวลงไปมา“ครับๆคุณเตชิตผมจะจำไว้!”

เมทนีกับณัชชนม์ได้ยินการสนธนาระหว่างสองคนนี้ก็ไม่พูดอะไรออกมาคนตายไปแล้วส่วนในเรื่องอื่นๆสำหรับคนชราสองคนนี้ล้วนกลายเป็นเรื่องไม่สำคัญอะไรแล้ว

“คุณคะณัชชนม์ร้องเรียกตาแก่ที่บ้านด้วยเสียงสะอึกสะอื้น“พวกเราไปกันเถอะ”

เมทนีไม่พูดอะไรนัยน์ตาแดงๆยันกายประคองณัชชนม์ขึ้นมาแม้ว่าสองสามวันมานี้กินก็ไม่ได้นอนก็ไม่หลับความกระปรี้กระเปร่าก็มีสภาพตึงเครียดอย่างยิ่งเรี่ยวแรงก็ไม่เยอะเหมือนเมื่อก่อนเพียงยืนลุกขึ้นมาด้วยความใจลอยเท้าก็ลื่นไถลเล็กน้อยลอยไปในอากาศ

เตชิตรู้สึกตัวรีบยื่นมือไปพยุงเธอณัชชนม์ถอยตัวออกจากเค้า

ฝ่ามือของชายหนุ่มยกค้างเก้อยิ้มด้วยความเก้อเขิน

ณัชชนม์ไม่แม้แต่จะมองเขาแต่กลับมองไปฝั่งประตูพูดขึ้นมาลอย“คุณอยู่ที่นี่อย่ามาหลอกลวงทำเป็นใจดีฉันกับพ่อนัชชานั้นไม่ใช่เพราะคุณหาตามหาเธอแล้วจะซาบซึ้งใจคุณฆ่านัชชาตายทางอ้อมนับว่าคุณเป็นฆาตกรครึ่งหนึ่งนัชชาของพวกเราคงไม่ให้อภัยคุณตลอดชีวิต”

เตชิตมองดูนิ้วมือทั้งห้าที่ว่างเปล่าในหัวมีความขมขื่นทะลักพรั่งพรูคำพูดทุกคำของณัชชนม์ล้วนเหมือนมีดที่เสียบแทงเข้าไปในใจเขา“คุณลุงคุณป้าผมรู้ว่าพวกคุณแค้นเคืองผมโกรธผมผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคนที่เกิดเรื่องขึ้นควรเป็นผมเป็นความจริงที่ว่าผมทำร้ายนัชชาผมขอโทษเธอและก็ขอโทษคุณลุงคุณป้าด้วยที่ผมไม่ตายไปซะ——”

ได้ยินประโยคนี้ของเขาเดิมทีณัชชนม์ไม่มีค่าควรแก่การให้ความสนใจเพิ่งจะเย้ยหยันเยือกเย็นก็ได้ยินเตชิตพูดต่อไป“ผมรู้การมีชีวิตแบบขอไปทีแบกความละอายใจไม่เป็นสุขและความคิดถึงไปชั่วชีวิตหาเธอไม่เจอชั่วชีวิตนี้ก็ไม่แต่งหญิงอื่นคุณป้ากับคุณลุงผมก็จะดูแลไม่ใช่เพื่อจะทวงขออะไรเพียงแค่อยากจะไถ่โทษซึ่งผมติดค้างพวกคุณอยู่”

ณัชชนม์ได้ยินคำพูดนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหันหน้าออกยกมือเช็ดน้ำตาพูดได้น่าฟังจะไปนึกถึงเรื่องหลังจากนี้ได้อย่างไร?พวกเค้าเดิมทีล้วนไม่เคยนึกถึงซูถีน่าในเรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนกัน

เดิมทีเธอก็ไม่ใช่คนใจดำอำมหิตไม่ใช่ผู้หญิงจัดจ้านพรรค์นั้นยิ่งไปกว่านั้นชายหนุ่มคนนี้คือคนที่ลูกสาวของเธอรักมากก่อนที่จะถึงแก่กรรมเธอจะเผชิญหน้าได้อย่างไรกัน……

เมทนีรวบณัชชนม์ไว้ในอ้อมกอดถึงแม้ว่าจะร้องไห้จนตาบวมแล้วแต่ไม่เท่ากับมองมาทางเตชิตด้วยลักษณะอันน่าเกรงขาม“คุณไม่ได้ติดค้างพวกเราคุณติดค้างนัชชาคนที่คุณต้องตอบแทนไม่ใช่พวกเราเธอได้จากไปแล้วคุณยังไม่เข้าใจชัดแจ้งอีกไร้หนทางที่เธอจะคืนกลับมาแล้วดังนั้นจงใช้ชีวิตต่อไปด้วยความทรมานเถอะพวกเราจะไม่อภัยให้คุณเพราะว่าคนที่ต้องพูดประโยคนี้ได้จากไปตลอดกาลแล้วและจากนี้ตลอดไปคุณไม่คู่ควรที่จะได้รับการยกโทษจากลูกฉัน”

พูดจบเมทนีก็ไม่มองตาของเค้าเลยอีกสักครั้งประคองณัชชนม์มุ่งตรงออกไปจากห้องทำงานที่ด้านนอกเตชิตกำชับกำชาคนติดตามทั้งสองท่านไว้เป็นอย่างดีกลัวพวกท่านจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นในระหว่างการเดินทาง

ห้องทำงานมีเพียงเขาและหัวหน้าตำรวจที่ยังอยู่ชายหนุ่มกำมือทั้งสองข้างแน่นปล่อยลงข้างกายอากาศในรูจมูกเหมือนกับจะแน่นขึ้นมาสมองราวกับมีก้อนหินขนาดใหญ่ทับไว้อาการที่หนักหน่วงของเค้าคือหายใจไม่ออก

เค้างอตัวลงเล็กน้อยยกมือขึ้นกุมขมับห้องหัวใจที่อ่อนนุ่มเร็วๆนี้ราวกับเกิดพุ่มไม้ที่มีหนามออกมาทุกครั้งที่หดตัวล้วนเจ็บปวดทรมานรุนแรงอยู่สักพัก

“คุณเตชิต?”หัวหน้าตำรวจเห็นสภาพเค้าแบบนั้นก็ตะโกนเสียงดังออกมาด้วยความเป็นห่วง

เตชิตทั้งหลับตาทั้งลืมตาไปมาตาเหยี่ยวแหลมคมคู่นั้นหันมาโดยที่ไม่มีสีสันและแสงแวววาวเลยแม้แต่น้อยไม่เหมือนในอดีตวังเวงว่างเปล่าพิกลเขาล้วนไม่พูดอะไรออกมาเลยหันกายเดินออกมาจากห้องทำงาน

เขาเหมือนเมื่อก่อนนั้นที่สามารถเดินบนถนนสามารถพูดคุยได้แต่ทว่ารูปการณ์ที่ต้องเป็นไปแบบนี้เพราะเมื่อเร็วๆนี้เค้าถูกสภาพความเป็นจริงจู่โจมทำร้ายยืดชีวิตที่ตายแหล่มิตายแหล่ไปวันๆ

เค้าเดินออกมาจากสถานีตำราจแสงนอกห้องตกกระทบลงบนเปลือกตาของเขาชายหนุ่มหรี่รูม่านตาลงเล็กน้อยหางตาชุ่มชื้นเป็นแพยาว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด