ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 285

ตอนที่285ความจริงที่เข้าใจอย่างถ่องแท้

เตชิตปิดตาทั้งสองข้างแน่นน้ำเสียงสั่นไหว“ฉันคิดว่าจะรอเธอไม่ไหวซะแล้ว”

ลมหายใจของหญิงสาวขาดหายเป็นห้วงๆแต่ว่าเธอกลับไม่ผลักไสเขาออกไปและเอ่ยปากออกไปอย่างเนิบๆ“ไม่หรอกเธอก็เห็นว่าฉันกลับมาแล้วไม่ใช่เหรอหลังจากนี้ก็จะมีแค่พวกเราสองคนไม่มีคนอื่นมายุ่มย่ามได้ดีไหม?”

ดูเหมือนว่ามันยังไม่พอเธอพูดซ้ำอีกรอบ“เธอวางใจเถอะจะมีเพียงแค่พวกเราสองคน”

เตชิตสะดุ้งผวากับประโยคนี้อย่างเห็นได้ชัดนัชชาของเขาแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยพูดแบบนี้แต่ก่อนล้วนไม่เน้นอะไรแบบนี้ยิ่งคิดแทบประดาตายกว่าเดิมแสดงความรู้สึกเห็นแก่ตัวออกมาที่สุด

นี่ไม่ใช่นัชชาของเขา

เตชิตเบิกตากว้างผลักหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดออกไปอย่างทารุณหลังมือของเขากดเปิดสวิตซ์โคมไฟระย้าเสียงดัง‘ปัง’ห้องรับแขกกว้างใหญ่นี้พริบตาเดียวก็เต็มไปด้วยแสงไฟสว่างกระทบตาทำให้เขามองเห็นคนชัดเจนขึ้นมา

ทีนาร์ไม่ได้เตรียมป้องกันตัวไว้เธอถูกเขาผลักล้มถอยไปด้านหลังสองสามก้าวสุดท้ายกระแทกกับขั้นบันใดระหว่างห้องรับแขกเธอมองดูชายหนุ่มที่สร่างเมาด้วยความตื่นตระหนกตกใจตะลึงพรึงเพริดจิตใจที่สกปรกโสมมนั้นถูกเปิดเผยออกมาอย่างหมดเปลือก

“อาอาชิตทำไมเธอ……”

ได้ยินเสียงของเธอมองเห็นใบหน้านี้ทำให้เตชิตเหมือนกับกินแมลงวันเข้าไปรู้สึกกระอักกระอ่วนใจการปรากฏตัวของเธอทำให้เขารับไม่ได้การจากไปของนัชชามีสาเหตุมาจากเธอมันเป็นเพราะว่าเธอ

“เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”ชายหนุ่มขมวดหัวคิ้วด้วยความรังเกียจถึงแม้ว่าเสื้อนอกของเธอจะถูกถอดทิ้งไปแล้วมองเห็นแววตาของเธอราวกับมองเห็นขยะที่น่าขยะแขยง“สกปรก!”

สกปรกเหรอ?

เดิมทีทีนาร์ที่หน้าซีดๆนั้นก็ยิ่งเปลี่ยนเป็นดูไม่ได้เลยเธอเพิ่งจะออกจากโรงพยาบาลค่ำนี้จึงมาที่นี่ก็ถูกเขาปฏิบัตกับเธอเช่นนี้ถึงแม้ว่าจะรู้นานมาแล้วว่าภายในใจของเตชิตเบื่อหน่ายรำคาญเธอแต่ทว่าคำว่า‘สกปรก’สายตาช่างทำร้ายคนเกินไปหน่อย

แต่ว่าทีนาร์สงบอารมณ์ได้อย่างรวดเร็วมีอะไรที่จะทำให้เธอดีใจไปกว่าเรื่องที่นัชชาตายไปแล้ว?นับจากครู่นั้นที่ได้รับทราบข่าวนี้เธอก็ดีใจจนควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้นึกไปถึงหญิงสาวต่ำต้อยคนนั้นที่ไม่สามารถตามขวางระหว่างเธอกับเตชิตได้อีกแล้วเธอก็ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่สามารถอดทนต่อไปได้

“ฉันคิดถึงเธอมากได้ยินว่าระยะนี้สภาพร่างกายเธอไม่ค่อยดีตอนกลางคืนมักจะกลับไปดื่มเหล้าเลยอยากที่จะมาดูเธอ”ทีนาร์นั่งคุกเข่าลงไปบนพื้นมองมาทางเขาด้วยอากัปกิริยาที่น่าสงสารและโศกเศร้าเสียใจอย่างยิ่ง

แต่เตชินรู้แล้วว่าเธอไม่น่าสงสารสักนิดถ้าหากว่าเธอกลัวตนเองจริงๆตอนเดินเข้ามาในห้องก็คงไม่เปล่งเสียงใดๆออกมา

ในที่สุดแล้วเป็นเขาเองที่ก่อนหน้านั้นปล่อยให้เธอกระทำความผิดโดยไม่ห้ามปรามให้เธอยึดตนเองไว้โดยที่ไม่ทำอะไรเลยละเมิดเข้ามาในเส้นของเขาอยู่ไม่หยุด

ฤทธิ์เหล้าทำให้โง่เขลาเบาปัญหาเมื่อเจอใบหน้านี้ก็สร่างเมาไปแล้วครึ่งหนึ่งชายหนุ่มกวาดสายตามองแรงเห็นหัวคิ้วที่แสดงถึงการควบคุมอารมณ์ไว้ไม่ให้แสดงความรู้สึกออกมาเอ่ยปากขึ้นมาอีกครั้งน้ำเสียงที่ทำให้รู้สึกอึดอัดนั้นยิ่งหนาวขึ้นมาราวกับไม่กี่องศาเอง“ให้โอกาสก่อนที่ฉันจะโกรธออกไปซะดีๆ”

เค้าพูดกับเธอผู้ซึ่งสวมรอยเป็นนัชชาคนที่ไปแตะต้องเส้นของเขาเข้าแล้ว

ทีนาร์คิดไม่ถึงว่าเค้าจะพูดเด็ดขาดเช่นนี้พยุงตัวเองลุกจากพื้นด้วยอาการสั่นงกๆเงิ่นในตอนนั้นเธอแสร้งทำเป็นล้มลงน่าเสียดายที่ชายหนุ่มตรงหน้านั้นหนักแน่นราวกับหินผาจะช่วยเธอที่อยู่ต่อหน้าสักนิดก็ไม่มี

เธอฝืนใจลุกขึ้นมาจากพื้น“ขอโทษฉันไม่อยากรบกวนเธอเลยฉันรู้ว่าระยะนี้เธอมีสภาพจิตใจที่ไม่ปกติแต่ตามจริงแล้วฉันเป็นห่วงเธอมากเกินไปและก็คิดถึงเธอมากไปจอร์จบอกว่าฉันสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้วดังนั้นฉันจึง……”

“นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เธอควรจะมา”สายตาชายหนุ่มเย็นเฉียบจ้องเขม็งมายังเธอจนรู้สึกครั่นคร้ามหนาวๆร้อนๆ

ทีนาร์ถูกเค้ามองจนใจรู้สึกชากัดฟันเดินไปข้างหน้าเค้าพูดเสียงเจื้อยแจ้ว“อาชิตเธอไม่ยินดีฉันก็จะไปแล้วแต่คนตายฟื้นคืนมาไม่ได้เรื่องที่เป็นอดีตก็ปล่อยให้มันเป็นอดีตเถอะหลังจากนี้ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอเองดูแลเธออย่างดีเรื่องที่นัชชาสามารถทำได้ฉันก็สามารถทำได้เหมือนกันอาจจะดีกว่าเค้าด้วยซ้ำไป!”

“ดีกว่า?”เตชิตเงยหน้ากำหมัดทุบลงไปบนฝาผนังข้างๆใบหน้าหญิงสาวอย่างโหดเหี้ยมหมัดที่โหดร้ายนั้นพัดฟรึ่บไปพร้อมกับลมณวินาทีนั้นเสียงดัง‘โครม’ขึ้นมาอย่างน่าหดหู่ใจในบรรยากาศที่น่าตกใจนัยน์ตาลึกคู่นั้นเต็มไปด้วยแสงเพลิงแห่งความโกรธแค้นที่ไม่สามารถระงับไว้ได้เสียงกัดฟันกรอดๆดังออกมา“ใครอนุญาตให้เธอพูดว่าเค้าตายแล้วฮึ?”

เค้าคล้ายกับราชสีห์ที่ถูกยั่วให้โมโหนัยน์ตาลึกแดงก่ำไปหมดอยากที่จะกลืนกินร่างหญิงสาวยามที่เธอพูดถึงนัชชาไม่ดี

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เตชิตระเบิดอารมณ์ใส่ทีนาร์แต่ความจริงแล้วนี่คือครั้งแรกที่ทำให้ทีนาร์หวาดกลัวที่สุด

ตอนนี้คำว่า‘นัชชา’สองพยางค์นี้ก็เหมือนกับสวิตซ์ในตัวของชายหนุ่มที่เพียงแค่กดลงไปมันง่ายมากที่จะทำให้เค้าควบคุมอารมณ์ไม่อยู่

“ไม่ใช่ไม่ใช่แบบนั้น……”ทีนาร์ตกใจกลัวแสงที่มีอยู่ชัดเจนพอที่จะส่องให้เห็นกำปั้นที่มีเส้นเลือดนูนออกมาอีกนิดเดียวก็จะฟาดลงไปบนใบหน้าเธอแล้ว

ภายในห้องเข้าสู่ความเงียบเชียบขึ้นมาสักพักเห็นได้ชัดว่าเตชิตพยายามที่จะสงบสติอารมณ์ไม่อย่างนั้นเค้าอาจจะสามารถทำร้ายทีนาร์ได้

บรรยากาศตึงเครียดมากขาดอีกนิดนึงเปลวไฟทั้งหมดก็จะถูกจุดขึ้นมา

ในเวลานี้ทันใดนั้นประตูวิลล่ามีคนเคาะเสียงดังมาจากด้านนอก‘ตุ๊บๆๆๆ’เสียงที่เบามากนั้นแต่กลับดังพอที่เค้าจะได้ยินชัดเจน

เวลานี้หรือว่าจะเป็นปรันหรือเพื่อนคนอื่นๆ

ทีนาร์เหมือนกับจะยึดฟางเส้นนี้ให้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ทันใดนั้นเธอรีบเคลื่อนตัวไปด้านข้างสองก้าวออกไปเปิดประตูต้อนรับแต่กลับเจอคนหน้าตาดุร้ายที่ผ่อนลมหายใจเย็นๆออกมา

แสงไฟจากหน้าประตูที่ไม่นับว่าสว่างนักส่องสว่างสาดกระทบแฉลบลงบนศีรษะหญิงสาวสว่างขาวโพลนยังไม่เท่ากับว่าใบหน้านั้นคือใบหน้าที่ชวนขนหัวลุกคล้ายกับผ่านกรดกำมะถันกัดกร่อนส่วนของใบหน้าที่โค้งเว้าทั้งหมดเปลี่ยนสภาพเป็นบิดเบี้ยวแม้แต่เนื้อตรงริมคางยังยึดติดเหนียวกับคอแน่นหน้าผากมีรอยแผลแดงเถือกลากเป็นทางยาวบนใบหน้าสองสามแห่งจมูกหายไปหมดแล้วปลายจมูกมองไม่เห็นเค้าโครงเดิมแล้วเหลือไว้เพียงขนาดของรูจมูกที่ไม่เท่ากันบริเวณรอบๆริมฝีปากที่ถูกจัดไว้จนแยกไม่ออกเลยบวมน้ำอย่างน่าขบขันมีเพียงดวงตาคู่นั้นที่ยังนับว่าปกติอยู่

สิ่งที่พบเจอนี้ไม่คล้ายกับคนเลยคล้ายกับว่าเป็นผีป่าเร่รอน

ทีนาร์ใช้หลังมือปิดประตูสังเกตอากัปกิริยาของเค้าหญิงสาวเดินมาข้างหน้ายื่นมือยันช่องประตูไว้ถูกดันอย่างรังเกียจเดียดฉันท์แต่เค้าเหมือนกับไม่มีความรู้สึกเลยคิ้วก็ไม่ขมวดเลยพละกำลังก็น่ากลัวมากดุจดังคนใกล้ตายที่กำลังดิ้นรนเฮือกสุดท้าย

เห็นได้ชัดว่าทีนาร์ไม่ใช่คู่ต่อสู้ประตูถูกลากเปิดออกร่างนี้ย่ำฝีเท้าสองก้าวเดินช้าๆอย่างไม่มั่นคงตรงมาด้านหน้าแต่แล้วทีนาร์ก็ต้องถอยกรูดมาด้านหลัง“เธอเธอคือ……”

หญิงสาวหัวเราะประหลาดๆมีเพียงปากอัปลักษณ์นั้นที่ส่งเสียง‘ฮึดๆๆ’ออกมาคล้ายกับหมูแม้แต่คำพูดที่พูดออกมาก็แหบแห้งเป็นพิเศษยากที่จะฟังออกได้“เพิ่งจะผ่านไปสองสามวันแม้แต่ฉันเธอก็ไม่รู้จัก

เสียงนั้นคล้ายกับเทปที่ถูกทำลายแยกแยะไม่ออกแม้แต่น้อยว่าเธอกำลังพูดอะไร

แต่ทว่าทีนาร์กลับฟังเข้าใจเธอปิดปากมิดหลบตัวถอยไปด้านหลังแผ่นหลังมีเหงื่อเย็นไหลซึมออกมา“เธอ……”

“ใช่แล้วฉันเองฉันยังไม่ตายมาคิดบัญชีกับเธอแล้ว”หญิงสาวพูดจบก็หันหน้าตรงไปทางชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ“แต่ว่าก่อนอื่นนั้นฉันมีคำพูดต้องพูดกับคุณเตชิต”

เตชิตมองใบหน้าเสียทรงนั้นน้ำเสียงก็ไร้ความปราณี“เธอเป็นใคร?”

หญิงสาวตะลึงไปพักหนึ่งครั้นแล้วก็ยกมือลูบไปบนใบหน้าของตัวเองหัวเราะเยาะเย้ยถึงสองครา“ฉันคือปณิตา?”

ประตูด้านนอกลมพัดเย็นเข้ามาพัดจิตใจคนให้สั่นไหวหนาวเย็น

คำตอบนี้เกินความคาดหมายอย่างเห็นได้ชัดภายในความทรงจำของเตชิตถึงแม้ว่าหน้าตาของปณิตาจะเลือนลางไปแล้วแต่ก็ไม่ใช่หน้าตาที่ทำให้คนหวาดกลัวอย่างเช่นตอนนี้เด็ดขาด

“ฉันรู้ว่าตอนนี้ฉันมีสภาพพอๆกันกับผีที่ตายไปแล้วล้วนเป็นคุณหนูทีนาร์ที่ประทานมันมาให้”ปณิตากรอกสายตาทั้งสองข้างไปมาเหมือนกันกับนกเค้าแมวที่อยู่บนกิ่งไม้ในยามค่ำคืนที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีสายตาแหลมคมน่ากลัว“พูดแล้วฉันจะอธิบายอย่างชัดเจนกับคุณเตชิตสักนิดว่าฉันมีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับคุณหนูทีนาร์

ลักษณะท่าทางที่บิดเบี้ยวของเธอปรากฏออกมาเตชิตสะอิดสะเอียนที่สุดเตรียมให้คนของชนัยมาพาเธอออกไป“คำพูดของเธอเก็บไว้ไปให้การที่สถานีตำรวจเถอะ”

ฝ่าเท้าของปณิตาอยู่ในสภาพเดิมเป็นปกติไม่ขยับเขยื้อนมองด้วยความเสียใจจ้องเขม็งไปยังเขา“หรือว่าคุณไม่อยากรู้ว่าคดีของนัชชาในที่สุดแล้วเรื่องมันเป็นมายังไง?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด