ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 289

ตอนที่289ลูกน้อยลืมตาดูโลก

นัชชาประสบเคราะห์กรรมและทรมานอยู่ในต่างแดนทั้งหมดนี้เตชิตล้วนคิดไม่ถึงร่างกายของเขาเสื่อมโทรมเริ่มพึ่งแอลกอฮอร์ทำให้ตัวเองไร้ความรู้สึกเวลาที่เนิ่นนานล้วนไม่ได้ใช้ทำอะไรเพียงแค่ใช้ชีวิตด้วยความทรมาน

ในหมู่ผู้คนปรัณทอดสายตามองเค้าที่ท้อถอยและไร้เรี่ยวแรงลงเตชิตแต่ก่อนนั้นถึงแม้จะไม่ค่อยแสดงความรู้สึกมีแต่คำพูดน้อยนิดแต่ทว่าลึกๆภายในใจกลับมีไฟแผดเผาตั้งแต่หลังจากที่นัชชาหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยชายหนุ่มคนนี้ในที่สุดก็เปลี่ยนไปภายในจิตใจของเขาแสดงออกมาว่าเบื่อโลก

เขาเกลียดโลกใบนี้ที่ที่นำมาซึ่งเขาผู้ที่เคยอ้างว่าหยิ่งยโสอย่างที่สุดเหมือนกันกับกฎหมาย

ทุกคนโน้มน้าวเขาไปก็ไม่มีประโยชน์อุปสรรคนี้มีเพียงเขาเองที่ทนทรมานยันกายเอาไว้ได้

ครึ่งปีที่ผ่านมาเตชิตไปบริษัทนับครั้งได้วันหนึ่งตอนเช้าเขากลับรีบมาที่ห้องทำงานธนัทกำลังดูตารางและจัดการงานอยู่เจอเค้าเดินเข้ามาก็แสดงอาการตะลึงพรึงเพริดครั้นแล้วก็ยืนด้วยความดีใจออกมาต้อนรับเค้า“ในที่สุดนายก็มาแล้ว”

เขาคิดว่าเตชิตคิดได้แล้วยอมกลับมาทำงานที่บริษัทเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

คิดไม่ถึงว่าเค้าต้องอ้าปากค้างตกใจออกมา“ฉันวางแผนที่จะลาออกจากวงการทนายวันนี้ตอนเที่ยงคงจะมีผลออกมา”

“อะไรนะ?!”ธนัทเคยเห็นผู้มีตำแหน่งทางสังคมที่ยิ่งใหญ่มาก่อนได้ยินเค้าพูดด้วยความตกตะลึงเสียใจ“อาชิตนาย……นายพูดอะไร?”

“ออกจากวงการทนายหลังจากนี้สิ่งของเล็กๆน้อยๆที่เกี่ยวข้องกับมันฉันล้วนไม่อยากแตะต้องอีกแล้ว”เขาต้องการห่างจากสภาพแวดล้อมแบบนี้มิฉะนั้นแล้วชั่วชีวิตนี้คงจะแค้นใจตัวเอง

เขาเชื่อในกฎหมายที่สุดจนช่วยเหลือคนมาไม่น้อยแต่กลับป้ายความผิดใส่หญิงสาวผู้เป็นที่รักที่สุดของตัวเองในชีวิตของเขานี้ไม่สามารถรับมันในสภาพเบาๆได้

ธนัทเห็นเขามีความคิดแน่วแน่เด็ดขาดอดไม่ได้ที่จะใช้มือสองข้างบิดหัวคิ้ว“อาชิตนายสงบสติอารมณ์สักนิดบริษัทจากที่ก่อตั้งมาจนถึงตอนนี้เริ่มมาจากน้ำมือของนายและฉันที่นำมันมาจนถึงทุกวันนี้ตอนนี้นายจะจากบริษัทไปแล้วจะทำอย่างไรกันดีล่ะฉันจะทำอย่างไรดี?”

“นายทำได้นะ”เตชิตทั้งอยากและไม่อยากพูดมันออกมานัยน์ตาที่มืดมนเหมือนเขียนบอกว่าตัดเยื่อใยไปแล้ว“บริษัทมีนายก็ไม่มีปัญหาแล้วหลิวเฉิงก็ไม่เลวนะรอฉันจากไปก่อนก็สามารถให้เค้าขึ้นมาช่วยเธอได้”

ทันทีที่เขาพูดแบบนี้ออกมาแสดงว่าเขาคิดมาดีแล้ว

เวลานี้ในฉับพลันที่ธนัทไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดีเตชิตตัดสินใจทำแบบที่เขาคาดไม่ถึงนี้แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้วันที่ชายหนุ่มลาออกจากวงการทนายไปจากอาชีพที่เค้าเคยรักมันที่สุด

เมื่อเริ่มเสร็จสิ้นในการศึกษาเค้าภูมิใจมันมากมั่นใจอย่างยิ่งที่จะเหยียบไปบนเส้นทางนี้ก่อนหน้านั้นมีลมคลื่นใหญ่ซัดสาดเรื่องที่เป็นอุปสรรคยากลำบากล้วนไม่เคยจู่โจมทำร้ายเค้าได้แต่ทว่าตอนนี้……

ธนัทสูดหายใจลึก“อาชิตฉันรู้ว่าในใจของเธอยังเสียใจอยู่มีบางคำพูดที่ถือว่าคนนอกอย่างฉันอาจจะไม่สมควรพูดแต่ถ้าถือว่าในความเป็นพี่เป็นน้องกันฉันอยากจะพูดจากใจจริงๆสักสองประโยคกับนายฉันรู้ว่าการจากไปของนัชชาสำหรับนายแล้วมันเป็นเรื่องที่กระทบจิตใจแต่ว่าคนตายไปแล้วไม่อาจฟื้นขึ้นมาได้ฉันหวังว่านายจะสามารถระงับความโศกเศร้าเสียใจได้ตอนนี้ชีวิตของนายที่เป็นอยู่คือสิ่งที่ฉันไม่อยากเห็นที่สุดแต่ไหนแต่ไรมาฉันก็ไม่เคยคิดว่าจะมีวันหนึ่งที่เธอเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้จากไปจากวงการทนายนายเคยคิดไหมว่าตัวเองต้องไปทำอะไร?ฉันถือว่านายไม่อยากรับผิดชอบต่อชีวิตตัวเองแต่ถ้าหากว่านัชชาอยู่บนโลกใบนี้แน่นอนว่าเธอก็คงไม่อยากเห็นนายเป็นแบบนี้”

เริ่มแรกคำพูดของธนัทฟังไม่เข้าหูข้างกายมีคนนับไม่ถ้วนโน้มน้าวเขาเวลาที่ผ่านมานานก็ฟังจนชินชาแต่ว่าคำพูดประโยคสุดท้ายไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะทิ่มแทงเข้าไปในใจของเขา

ชายหนุ่มตะลึงไปพักหนึ่งครั้นแล้วกลับยกมุมปากหัวเราะเย้ยหยันตัวเองนัยน์ตามีน้ำคลอเบ้าพูดพึมพำกับตัวเอง“ถ้าหากว่าเธออยู่บนโลกใบนี้จริงๆงั้นก็ดีแล้วล่ะ”

น้ำเสียงในคำพูดนั้นลดต่ำลงห้องทำงานตกอยู่ในสภาพเงียบยากที่จะเอ่ยคำพูดใดใดออกมาในตอนนั้นได้ตั้งแต่นัชชาเกิดเรื่องตลอดมาไม่มีอะไรเท่ากับเรื่องที่จะพูดว่ามันหนักหน่วงสายตาที่มองเห็นหญิงสาวอันเป็นที่รักจากไปจากข้างกายตนคนนึงยังมีชีวิตอยู่แต่อีกคนหนึ่งตายไปแล้วความเจ็บปวดอย่างนี้แน่นอนว่าทำให้คนยากที่จะยอมรับมันได้

แต่ทว่าถือว่านับกันเป็นพี่น้องที่ดีที่สุดคนหนึ่งเค้าไม่สามารถให้ชายหนุ่มคนนี้หวังสร้างภาพลวงตาให้ตนเองเรื่อยๆมาได้แต่ผลสุดท้ายก็มาทำร้ายตัวเองแล้วก็ทำร้ายคนอื่น

เขาระลึกถึงว่าในระยะเวลาเริ่มแรกนั้นงานเติมเต็มชีวิตของเค้าชายหนุ่มมีสติสัมปชัญญะหยิ่งผยอง“อาชิตต้องใช้เวลานานเท่าไหร่นายถึงจะเผชิญหน้ากับความเป็นจริง?”

เผชิญหน้ากับความเป็นจริง?

ชายหนุ่มเชิดริมฝีปากหัวเราะเย้ยหยันตัวเอง“วันที่หนึ่งหาไม่เจอก็วันที่สองวันที่สองหาไม่เจอก็วันที่สามถ้าหากว่าหาไม่เจอตลอดไปเลยฉันก็จะหาเธอไปตลอดชีวิตของฉันหาจนกระทั่งถึงวันสิ้นสุดท้ายของชีวิต

ธนัทได้ยินดังนั้นก็โมโหในใจ“นายอยากหาไปตลอดชีวิตหลังจากนั้นก็เพ้อฝันว่าเธอยังไม่ตายแน่นอนว่านายจะเจอเธอไหม?สุดท้ายแล้วนายต้องหลอกตัวเองไปถึงเมื่อไหร่กันถ้าหากว่านัชชายังมีชีวิตอยู่ตอนนี้ก็ต้องปรากฏตัวต่อหน้านายนานแล้ว!”

พูดประโยคนี้จบหลี่ชวนฮุยคิดว่าเขาคงจะมีปฏิกิริยาตอบกลับมาไม่มากก็น้อยบ้างอาจจะโกรธแค้นอาจจะเสียใจแต่คนคนนั้นสิ้นสุดลงเพียงแค่การยกมือจับจอนผมระหว่างปลายคิ้วอุ้งมือบังครึ่งหน้าของเขาเขาหมดกำลังใจนั่งพิงลงบนโซฟาอย่างเจ็บปวดสูดหายใจลึกเสียงกระจายไปทั่วทุกหนทุกอย่างไร้พลังและเรี่ยวแรง

เพราะว่าประโยคนี้ธนัทตกตะลึงและเสียใจสายตาของเขาจับจ้องมองดูชายหนุ่มบนโซฟาณเวลานี้คำพูดอะไรของเขาล้วนทำอะไรไม่ได้แล้วภายในคอหอยดูเหมือนจะมีก้อนอะไรๆติดมาอดกลั้นไม่ให้หน้าแดง

เวลานี้เขามองเห็นการตัดสินใจของชายหนุ่มคนนี้ชัดเจนแล้วเรื่องที่จะยอมรับการตายของนัชชาสำหรับเค้าแล้วนั้นมันคือการตายในแบบอื่น

……

หนึ่งเดือนต่อมาที่ลอนดอนประเทศอังกฤษยามบ่ายสี่โมงเย็นบนท้องฟ้าฝนตกรินแปะๆโปรยปรายลงมา

ที่แห่งนี้เป็นห้องคลอดข้างนอกที่เป็นจุดศูนย์กลางสำหรับเดือนแรกหลังคลอดที่ก่อตั้งโดยเอกชนซึ่งมีราคาแพงลิบลิ่วที่สุดช่วงเวลาเร่งด่วนที่มาถึงนี้แต่กลับมีเสียงฝีเท้าเป็นระเบียบเรียบร้อยเดินเข้ามาลูกจ้างดูแลคนไข้ที่คอยติดตามดูแลด้านนอกเดินมาเห็นเพียงชายหนุ่มที่เดินนำหน้ามาตัดเสื้อสูทที่สวมใส่พอดีกับตัวผมที่หวีเป็นระเบียบเรียบร้อยบนศีรษะบนดั้งจมูกเหนือขึ้นไปมีดวงตาประกายกร้าวเหมือนโลหะอวัยวะทั้งห้าบนใบหน้านั้นรับมิติประสานกันลงตัวเป็นที่สุดถ้าหากว่าข้างหลังของเขาไม่ใช่ผู้ติดตามซึ่งเป็นชายหนุ่มชุดดำกลุ่มหนึ่งคงทำให้คนคิดว่าเป็นสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับสูงจากไหนมากันแน่

เขาเดินเข้าไปใกล้ๆลูกจ้างดูแลคนไข้ได้กลิ่นดอกบัวหอมจางๆมาจากร่างของเขาที่กำลังคุยอยู่กลิ่นชัดเจนมากถึงแม้ว่าจะเข้าใกล้ก็ไม่ทำให้คนรู้สึกว่ากลิ่นรุนแรงสายตาที่มองมาดำขลับเหมือนหมึกอย่างชัดเจนเอ่ยปากสำเนียงอังกฤษดั้งเดิม“คนเป็นอย่างไรบ้างแล้ว”

ลูกจ้างดูแลคนไข้ถูกขบวนกลุ่มใหญ่นี้ทำให้กลัวแม้จะไม่รู้ว่าชนุดมมีตำแหน่งอะไรแต่ก็เข้าใจได้ว่าไม่ใช่คนว่างงานอย่างเด็ดขาดทันใดนั้นก็นอบน้อมตอบออกไป“ผ่าท้องคลอดค่ะสภาพการณ์โดยทั่วไปอีกชั่วคราวถ้าเป็นไปตามที่คิดทั้งหมดก็ราบรื่นแล้วค่ะ”

ไดยินคำตอบแบบนี้ชนุดมผ่อนลมหายใจเล็กน้อยเดิมทีนั้นเขาทำการค้าเงินดอลล่าห์มูลค่าเป็นร้อยล้านได้ยินข่าวจากทางโรงพยาบาลก็หยุดประชุมกลางคันเหมือนม้าที่ไม่หยุดย่ำฝีเท้ารีบมาอย่างไวโชคดีไปที่ไม่ได้มาช้า

หน้าตาที่หล่อเหลาเย็นชาแข็งทื่อมองตรงไปทางห้องคลอดแล้วหวั่นไหวขึ้นมาชายหนุ่มหมุนกายนั่งลงบนเก้าอี้ยาวตรงระเบียงมือทั้งสองข้างยันบนหน้าขามือเรียวยาวหนีบไปบนดั้งจมูกสูงสองข้างมองดูนาฬิกาข้อมืออยู่บ่อยครั้งรอคอยโดยที่ไม่เอ่ยคำใดใดออกมา

เวลาที่ผ่านไปในแต่ละวินาทีชนุดมเมื่อหลายปีก่อนก็เป็นคนเดียวกับที่ทำเรื่องต่างๆมากมายได้โดยใช้การรอคอยแต่ทว่ากลับไม่มีครั้งไหนทรมานเหมือนอย่างวันนี้

เริ่มแรกเขายังนั่งอยู่นานไปแล้วเขาก็ลุกขึ้นเดินทอดน่องเป็นวงกลมตรงทางระเบียง

ครึ่งชั่วโมงผ่านไปประตูห้องผ่าตัดในที่สุดก็เปิดออกแพทย์ที่สวมชุดป้องกันเชื้อโรคก็อุ้มสิ่งเล็กๆเนื้อยุ่ยๆออกมาชนุดมยืนขึ้นต้อนรับอยู่ข้างหน้าทันทีนัยน์ตาฝ่ายตรงข้ามมีรอยยิ้มให้เค้ามองดูเด็กน้อยที่กำลังร้องไห้“เด็กค่ะ2800-2700กรัมค่ะ”เด็กน้อยคนนี้เข้มแข็งมากเสียงร้องไห้ดังกึกก้อง

สายตาชนุดมทอดมองสิ่งที่เป็นยุ่ยๆตัวแดงแจ๊ดหน้าของเขาแทบจะมองไม่ออกว่าเป็นอย่างไรทั้งหมดยับยู่ยี่ไปด้วยกันปากกระจับเล็กๆทำเสียงพ่นออกมาผ่านเนื้อยุ่ยๆนั้นบนศีรษะมีขนและผมที่เป็นขนอ่อนโผล่ออกมาไม่กี่เส้นอย่าพูดว่าน่ารักพูดว่าน่าชังเขาอาจจะได้ไม่ต้องสนใจใยดี

นัชชาขาวผ่องออกอย่างนั้นแต่ว่าคนอีกคนหนึ่งกลับเกิดมาเป็นเด็กน้อยน่าชังเหรอนี่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด