ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 290

ตอนที่290เด็กที่ชื่อว่าธีมนต์

แพทย์ดูเหมือนจะเคยชินกับปฏิกิริยาแบบนี้อธิบายแบบยิ้มๆ“เด็กทารกที่เพิ่งคลอดล้วนเป็นแบบนี้เจริญเติบโตอีกสักนิดถึงจะสามารถดูรูปร่างหน้าตาออกได้”

เห็นเขาแข็งตัวเล็กน้อยคุณหมอก็เตือนเขา“คุณสามารถสัมผัสเค้าเบาๆได้”

ชนุดมอายุสามสิบกว่าปีมานี้นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นbabyกำเนิดมามือทั้งสองข้างที่เคยถือเงินและเคยกุมมีดเพียงแต่ตอนนี้มือนั้นกลับจัดการมันไม่ได้

แตะกับกำปั้นขนาดลูกวอลนัตกลับไปกลับมาอยู่สองสามครั้งระมัดระวังปีกน้อยๆนั่นในพริบตาที่เนื้อหนังสัมผัสกันและกันในก้นบึ้งหัวใจก็มีเส้นประหลาดๆที่รู้สึกขึ้นมา

แม้ว่าไม่ใช่ลูกของเขาแต่เริ่มแรกก็รู้มาโดยตลอดว่านัชชาตังครรภ์นี่ก็ใกล้จะหนึ่งปีแล้วในใจลึกๆนั้นมักจะสะเทือนใจด้วยอารมณ์ที่ไม่เหมือนกัน

เขาเคยฆ่าคนด้วยมือเดียวมานับไม่ถ้วนแต่นี่เป็นครั้งแรกที่ดีอกดีใจในชีวิตหนึ่งที่เกิดมาเช่นนี้

ใช่แล้วภายในใจของชนุดมดีอกดีใจ

หลังจากที่แพทย์ให้เขาดูเด็กแล้วอีกพักก็เปลี่ยนมือส่งต่อให้พยาบาลเด็กที่เพิ่งจะเกิดมาจำเป็นต้องส่งไปเข้าตู้อบชนุดมจนรอไฟในห้องคลอดดับลงหลังจากนั้นก็มองเห็นนัชชาถูกเข็นเข้าไปในห้องคนไข้เขาจึงสาวเท้าก้าวเข้าไป

ท้องผ่าคลอดไม่เหมือนท้องที่คลอดธรรมชาติหลังจากที่คลอดเด็กออกมานัชชาสภาพดูไม่ค่อยดีร่างกายอ่อนแอผิดปรกติหน้าที่ใหญ่เท่าฝ่ามือจมลึกอยู่ในหมอนบนใบหน้าไม่เลือดฝาดสักนิดแม้แต่ริมฝีปากก็เป็นสีเขียวคล้ำ

ไรผมบนหน้าผากถูกไหลเหงื่อซึมติดกับหน้าผากเพียงแค่มองไกลๆก็สามารถรู้ดีว่าร่างกายทั้งหมดนั้นอ่อนแอ

แต่ว่าดีที่ยังอยู่นี่เธอรู้สึกตัวขึ้นมา

ภายหลังจากที่คลอดเด็กเสร็จพยาบาลให้เธอดูหน้าลูกเวลานี้เห็นเขาเดินเข้ามานัชชาเร่งเร้าถามขึ้นมา“ลูกล่ะ?”

เขาไม่มีท่าทีเล่นหัวเดินไปใกล้ๆเตียงคนป่วยลากเก้าอี้มานั่งลง“ส่งไปเข้าตู้อบทารกแล้ว”

ภายหลังจากที่นัชชาได้ฟังเช่นนี้ก็วางใจแล้วความอ่อนเพลียที่มีถูกปลดปล่อยไปทั้งร่างถึงแม้ว่ายาชาจะยังไม่หายไปแต่เธอสามารถรู้สึกได้ว่าท้องว่างปล่าแล้วสิบเดือนที่ตั้งครรภ์มันเหมือนกับว่าร่างกายของเธอสิ่งเล็กๆที่เป็นสายเลือดที่เชื่อมกันไว้ในที่สุดก็ลืมตาออกมาดูโลกใบนี้แล้ว

เขาเอ่ยปากพูดคุยกลัวเธอกังวล“เด็กคนนั้นน้ำหนัก2800-2700กรัมคุณหมอพูดว่าสภาพไม่เลวเลยไม่ต้องกังวลนะ”

ได้ยินแบบนี้นัชชาหลับตาลงแผ่วเบารอบๆดวงตาแดงระเรื่อขึ้นมาอดทนเข็มแข้งไว้อดทนเข็มแข้งไว้แต่ว่าไม่สามารถทนไว้ได้น้ำตาไหลผ่านจอนผมตรงปลายคิ้วเปียกชื้นเป็นทางยาว

ผ่านไปสักประเดี๋ยวเดียวเธอก็ลืมตาขึ้นคล้อยสายตามองลงไปยังชายหนุ่มที่วางฝ่ามือไว้บนหัวเข่านิ้วมือขยับยุกยิกใช้ความพยายามอย่างที่สุดก็ยกไม่ขึ้นคิ้วที่พริ้มเพราอดไม่ได้ที่จะขมวดขึ้นมา

ดูเหมือนว่าจะสังเกตเห็นความตั้งใจของเธอชายหนุ่มขยับตัวนำมือวางลงไปจับฝ่ามือที่เย็นเฉียบของธอ“เธอเพิ่งจะคลอดลูกเสร็จอย่าขยับเลย”

นี่เป็นครั้งแรกที่นัชชาไม่ต่อต้านการแตะเนื้อต้องตัวของเค้าฉีกร้อยยิ้มอ่อนเพลียออกมาด้วยความจริงใจมองไปยังนัยน์ตาของเค้าสว่างคล้ายแสงดาวส่องแวววาวระยิบระยับสั่นไหวในตัวเอง“ชนุดมขอบคุณเธอนะ”

เธอจับฝ่ามือชายหนุ่มตอบกลับเบาๆด้วยเรี่ยวแรงน้อยนิดน้อยจนแทบจะสังเกตไม่เห็นแต่ว่าในระดับความเบาแบบนี้เหมือนกับจะเกาะกุมหัวใจของเขาไว้ได้

นัชชาไม่ได้มีความคิดไม่ซื่ออันใดความรู้สึกหวั่นไหวนั้นล้วนคือความรู้สึกของของคนเป็นแม่ในยามแรกเธอรู้ว่าถ้าไม่มีชนุดมเด็กคนนี้ก็คงไม่ได้เปล่งเสียงร้องออกมาสักแอะเป็นเขาเองที่ให้โอกาสเด็กน้อยมาเกิดบนโลกใบนี้สามารถให้เขาดูความสวยงามบนสถานที่แห่งนี้ได้

ความรู้สึกของความเป็นแม่ที่ซ่อนอยู่ในร่างกายนั้นทำให้นัชชาเปลี่ยนเป็นคนที่อ่อนไหวขึ้นมาเธอมองชายหนุ่มตรงหน้าทุกคำพูดล้วนเอ่ยออกมาช้าๆแผ่วเบา“รอเขาโตแล้วฉันจะบอกเค้าว่าเค้ามีคุณลุงคนหนึ่งเพื่อต้อนรับเขาที่เปิดเครื่องบินส่วนตัวมาอยู่ข้างกายแม่”

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะบรรยากาศที่งดงามอย่างยิ่งนี้หรือไม่ชนุดมอดไม่ได้ที่จะถูกยั่วให้หัวเราะใบหน้าที่เยือกเย็นเคร่งขรึมปรากฏเรื่องราวในอดีตขึ้นในสมองใบหน้าแสดงความซาบซึ้งใจเสียงทุ้มต่ำพ่นออกมาคำหนึ่ง“ดี”

ภายหลังจากเด็กออกมานัชชาเป็นบุคคลที่ดูแลร่างกายให้ฟื้นฟูได้เร็วมากเพราะว่าอายุยังน้อยนอกจากส่วนหน้าท้องที่เหลือรอยแผลเป็นไว้จางๆรูปร่างของเธอแทบจะไม่เสียทรงแม้กระทั่งผิวก็ดีกว่าเมื่อก่อนอีกเป็นคนที่มีเสน่ห์ของหญิงสาวมากขึ้น

เกี่ยวกับปัญหาสำมะโนครัวของเด็กชนุดมก็จัดการปัญหาได้ดีมากชายหนุ่มคนนี้มักจะวิธีการตอบโต้กับปัญหาที่จัดการยากมีประสิทธิภาพสูงจนทำให้คนตกใจอิทธิพลลับหลังนี้ก็ยิ่งใหญ่จนทำให้คนตกใจเหมือนกัน

นัชชาไม่รู้ว่าเค้าจัดการเรื่องราวทั้งหมดนี้ให้เรียบร้อยได้อย่างไรเค้าไม่พูดเธอก็ไม่เคยถาม

“ชื่อของเด็กคนนี้คิดออกหรือยัง?”บนสำมะโนครัววันนั้นชนุดมถามเธออย่างนี้

นัชชาเคยคิดไว้เมื่อไม่นานมานี้ตอนที่มองเห็นเด็กน้อยนอนหลับสบายบนเตียงทารกพูดออกมาเอื่อยๆสองพยางค์“ธีมนต์”

ชนุดมยกคิ้วไม่คาดคิดว่าในที่สุดเธอจะให้เด็กใช้นามสกุลเหมือนกันกับเธอภายหลังอยู่ร่วมกันเช้าเย็นเขามักจะไม่ชอบมองเด็กน้อยที่ทำให้นึกถึงเตชิต

ชายหนุ่มครุ่นคิดสักนิดก็เปล่งเสียงออกมาเบาๆ“มนต์?”

“ขึ้นชมธรรมชาติบนที่สูงทอดสายตามองไปไกลธีมนต์ผู้โต้ลมที่พัดมา”นัชชาทอดสายตามองไปทางเค้าหัวเราะคลายความข้องใจออกมา“ครึ่งค่อนชีวิตน้อยๆของฉันนี้ใช้ชีวิตด้วยความคับอกคับใจยิ่งนักลำบากยิ่งนักหวังว่าเค้าจะสามารถเติบโตได้อย่างเข้มแข็งปล่อยเสียงเต็มที่ร้องเพลงคำรามออกมายาวๆ”

ชนุดมพยักหน้า“ดีงั้นเอาตามเธอแล้วกัน”

นัชชามองเค้าแน่วแน่ลักษณะแบบไม่ละสายตานั้นทำให้ชายหนุ่มชำเลืองมองดู“มองอะไร?”

“ไม่มีอะไร”เธอถอนสายตากลับ“เพียงแค่รู้สึกว่าเธอปฏิบัติกับฉันอย่างนี้ฉันไร้หนทางที่จะตอบแทนจริงๆ”

ได้ยินเธอพูดแบบนี้ชายหนุ่มวางแก้วน้ำในมือลงหันร่างไปทางนัชชาเล็กน้อยมือทั้งสองข้างกอดอกไว้ข้างหน้าปรากฏนาฬิกาข้อมือที่ราคาแพงลิบลิ่วตรงข้อมือรูม่านตาทั้งสองข้างที่แคบและยาวมองดูสิ่งของเหมือนกันนี้ด้วยจิตใจมุ่งมั่นมีอารมณ์หนาวๆร้อนๆอยู่ภายในนัยน์ตามีเงาหมอกควันปกคลุมหนาทึบ“ไร้หนทางที่จะตอบแทนก็ไม่เท่ากับนำร่างกายมามอบให้?”

เขาดูเหมือนจะล้อเล่นแต่ก็ไม่ใช่ล้อเล่น

ภายในใจของนัชชาตึงเครียดฉับพลันก็มีจุดยืนที่แสดงความบริสุทธิ์ใจ“เธอก็รู้ว่าฉันไม่สามารถ……”

“ทำไมถึงไม่ได้?”ชนุดมตัดบทในปลายคำพูดของเธอไม่ชอบฟังเธอพูดแบบนี้สีหน้าสายตาคมกริบขึ้นมา“อยู่กับฉันเธอกับลูกล้วนมีแต่ได้ประโยชน์พวกเธอจะอยู่ในสภาพที่สดใสอย่างแน่นอนไม่ต้องรู้สึกว่าจะได้รับความไม่เป็นธรรมแม้แต่นิดเดียววัตถุฉันก็สามารถทำให้เธอพอใจได้ไม่ดีเหรอ?”

“ไม่ดี”ใช้มือทั้งสองข้างบิดคิ้วหน้าเล็กๆเคร่งขรึมขึ้นมา“ฉันขอบคุณมากที่เธอทำทั้งหมดให้ฉันกับลูกแต่ความซาบซึ้งใจนี้มันไม่ใช่ความรัก”

“งั้นหลังจากนี้เธอจะแข็งใจมองดูลูกที่เพราะว่ามีแต่แม่จึงต้องประสบกับการถูกเบียดเบียนเหรอ?การที่ถือว่าเป็นหญิงสาวที่ท้องก่อนแต่งคนหนึ่งจุดยืนของเธอก็จะทำให้ลำบากมากนะ”

“ทั้งหมดนี้ฉันควรจะยอมรับมัน”นัชชากัดริมฝีปากฟันที่เรียงตัวขาวกระทบริมฝีปากเหลือไว้เพียงรอยยาวตาทั้งสองข้างมองเค้าอย่างดื้อรั้น“อาจจะไม่ยุติธรรมต่อเด็กนักแต่ฉันก็ต้องรับผิดชอบต่อความรู้สึกตัวเองหวังว่าเธอจะเคารพต่อการตัดสินใจของฉันนะ”

ความรู้สึกที่ผ่านการเริ่มต้นอย่างพ่ายแพ้มาถึงสองครั้งนัชชาไม่มีใจคาดหวังกับสองลักษณะความสัมพันธ์นี้แล้วเธอไม่รู้ว่าตัวเองยังจะรักคนอื่นได้อีกไหมแต่ช่วงระยะเวลาตอนนี้คงไม่ได้

ชนุดมมองดูหน้าเล็กๆที่ห้ามใจไม่แสดงความรู้สึกออกมาทันใดนั้นในอกก็สั่นไหวหัวเราะเสียงทุ้มออกมา“ฉันไม่ใช่คนที่ชอบถูกปฏิเสธแต่แปลกมากการปฏิเสธของเธอยังดึงดูดใจฉันมากกว่าการรับปาก”

“……”นัชชาอ้าปากค้างไม่มีคำพูดใดใดที่สามารถตอบโต้ได้

เธอสามารถเข้าใจได้ว่าคนคนนี้มีนิสัยแผลงๆใช่ไหม?

“นี่เป็นเพียงหนึ่งในข้อเสนอของฉันเธอไม่ยอมงั้นฉันก็ไม่เสนอ”พูดเสร็จในทันใดนั้นสายตาของชายหนุ่มลุ่มลึกและเงียบขึ้นมาสายตาที่แหลมคมปานเหยี่ยวก็ทอดสายตามองไปบนร่างกายเธอ“เธอเป็นคนที่มีเกราะหุ้มกันไว้ไม่ช้าก็เร็วฉันจะจัดการอย่างเรียบร้อยให้เธอเอง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด