ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 294

ตอนที่294การห้ามความรู้สึกที่โหยหา

ที่เมืองJเตชิตวางมือจากงานทนายมาสามปีแล้วสามปีมานี้เขาก็แทบจะไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับงานในวงการทนายอย่างที่เขาพูดไว้เลยแม้แต่น้อย

เขาเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทเตนัทลอว์เฟิร์มงานของเขาตอนนี้มีธนัทเป็นคนดูแลเขาไม่อยากเข้าไปก้าวก่ายอะไรเป็นความต้องการของเขาเองที่อยากจะถอยออกมาแต่ธนัทก็ไม่ยอมเขายื่นคำขาดว่าจะตัดขาดความเป็นเพื่อนระหว่างพวกเขาถึงทำให้เตชิตยอมได้ทุกๆปีธนัทจะโอนเงินโบนัสก้อนโตให้เขาโดยไม่สนว่า

เตชิตจะยอมรับหรือไม่

แต่เงินก้อนนี้เขาก็ไม่เคยแตะมันเลย

ช่วงหลายปีมานี้เขาเดินทางไปหลายที่ส่วนใหญ่เป็นที่แห้งแล้งยากไร้เขาจะใช้เงินเก็บของเขาไปบริจาคเพื่อการกุศลหรือไม่ก็ลงทุนในพื้นที่นั้นโดยที่ตัวเขาเองไม่ได้คาดหวังกำไรอะไรแต่ในสังคมธุรกิจไม่ว่าทำอะไรก็ต้องคำนึงถึงผลกำไรของทุกคนแม้เขาจะไม่ได้คาดหวังอะไรแต่ก็ประสบความสำเร็จไม่น้อย

การทำกุศลจนถึงที่สุดแล้วก็เหมือนเป็นการได้ผลประโยชน์กันทั้งสองฝ่ายก็เหมือนการลงทุนอย่างนึงอาจจะเป็นเพราะเขาเกิดมาเพื่อที่จะเป็นนักธุรกิจหลายปีมานี้เขาเลยกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนและคร่ำหวอดในวงการการกุศล

เดือนเมษายนปีนี้เขาเดินทางไปเมืองเคปทาวน์ในทวีปแอฟริกาซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของทวีปนี้เดิมทีคือมีงานของบริษัทที่ต้องจัดการหลังจาไปแสดงตัวแล้วเขาก็ให้ลูกน้องจัดการต่อตัวเขาเองเดินทางไปที่แหลมกู๊ดโฮปจุดที่มหาสมุทรแอตแลนติกและมหาสมุทรอินเดียบรรจบกัน

ที่นี่มีท้องฟ้าสีฟ้าเมฆสีขาวและมหาสมุทรที่สะอาดบริสุทธิ์จุดที่มหาสมุทรแอตแลนติกและมหาสมุทรอินเดียเชื่อมต่อกันนั้นมีคลื่นลมแรงตลอดน้ำทะเลถูกซัดสาดเข้าหาฝั่งกลายเป็นฟองคลื่นสีขาวเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามตรึงตา

เขาอยู่ห่างจากผู้คนยืนอยู่บนที่สูงมองออกไปอย่างมีความหวังนอกจากวิวทิวทัศน์ของทะเลแล้วยังมีสัตว์ที่ไม่ได้ออกมาให้พบเห็นบ่อยๆอย่างเจ้าลิงบาบูนและกวางรวมไปถึงสัตว์เขตร้อนอื่นๆเสียงลมข้างหูผสมผเสปนเปกับเสียงคลื่นที่โถมเข้ามาผมที่ค่อนข้างยาวของชายหนุ่มถูกลมพัดยุ่งปิดบังใบหน้าของเขาไปครึ่งหนึ่ง

แว่นกันแดดสีดำตั้งอยู่บนดั้งโด่งของของชายหนุ่มสันจมูกที่นูนขึ้นมามีความเซ็กซี่แบบที่บอกไม่ถูกไม่ต้องกลัวว่าจะมองเห็นหน้าเขาไม่ชัดเพราะแค่ริมฝีปากบางคู่นั้นกับคางทีเรียวยาวก็เพียงพอที่จะสะกดสายตาของคนอื่นเอาไว้ได้แล้ว

ใบหน้าที่ดูเหมือนไร้ซึ่งอารมณ์ทางเพศนั้นทำให้หลายคนทนไม่ไหวที่จะเข้าไปดึงกระดุมเสื้อของเขาให้ขาดเพื่อเข้าไปค้นหาเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ด้านใน

ในขณะที่เตชิตปล่อยสมองให้ว่างเปล่าซึมซับภาพทิวทัศน์ที่สวยงามตรงหน้านั้นโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าของเขาก็ดึงขึ้น

ช่วงหลายปีมานี้เขาแยกแยะงานที่บริษัทและเรื่องส่วนตัวอย่างชัดเจนนอกจากเวลางานเขาก็ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับงานใดๆอีกและคนที่จะโทรหาเขานั้นก็มีไม่มาก

ชายหนุ่มมองลงมายื่นมือหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์ที่ไม่ค่อยคุ้นเคยแต่ก็ไม่ใช่เบอร์ของคนแปลกหน้า

คิ้วหนาสวยได้รูปของเขาค่อยขมวดเข้าหากันตรงกลางเขาตัดสายทิ้งอย่างไม่ได้รีบร้อนเตรียมจะเอาโทรศัพท์ใส่ลงไปที่เดิมแต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกเป็นแบบนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ยอมลดละจนกว่าเขาจะยอมรับสาย

ชายหนุ่มขมวดคิ้วแน่นยิ่งขึ้นกดรับสายแล้วนำโทรศัพท์แนบหูแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรเท่าไหร่นักว่า"ผมบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอว่าไม่ต้องโทรหาผมอีก"

"ฉันรู้ค่ะฉันรู้ว่าคุณไม่อยากให้ฉันโทรหาคุณแต่ว่าฉันไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วจริงๆ"เสียงปลายสายเป็นเสียงเล็กๆของหญิงสาวเธอพูดอย่างน้อยอกน้อยใจปนมากับเสียงสะอื้นเล็กๆ

แต่เตชิตก็ไม่ได้สนใจสำหรับเขาแล้วเธอจะเป็นอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับเขาจะดูแลเทคแคร์อะไรเขาไม่เข้าใจเขาไม่เคยคิดจะสนใจ

เหมือนจะรู้ทันว่าเขาเตรียมจะวางสายหญิงสาวจึงรีบเอ่ยปากก่อน"คุณจะไม่สนใจฉันก็ได้แต่คุณจะไม่สนใจสองตายายทีาบ้านเหรอคะวันนี้อาการโรคหัวใจของคุณยายกำเริบเพิ่งส่งตัวไปโรงพยาบาลประจำตระกูลของคุณหมอปรัณฉันกลัวจะเกิดเรื่องเลยรีบโทรแจ้งคุณก่อน"

นิ้วมือของเขาที่เตรียมจะกดปุ่มวางสายชะงักค้างอยู่อย่างนั้นตั้งแต่เกิดเรื่องกับนัชชาคนที่บ้านก็พยายามโน้มน้าวให้เขากลับไปทำงานที่บริษัทบีบให้เขายอมรับความจริงที่ว่านัชชาตายจากเขาไปแล้วนานวันเข้าทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับครอบครัวค่อยๆห่างกันไปเรื่อยๆขึ้นชื่อว่าเป็นคนในครอบครัวเขาก็ยังมีความห่วงใยและกตัญญูรู้คุณ

เมื่อได้ยินเธอพูดออกมาแบบนี้เขารู้สึกใจหายวูบ"เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ""คุณยายคุณป่วยเป็นกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลันตอนนี้อยู่ที่ห้องฉุกเฉิน

เสียงเธอดังก้องเข้ามาในหูวินาทีนั้นภาพท้องฟ้าท้องทะเลที่สวยงามไกลสุดลูกหูลูกตานั้นไม่อยู่ในสายตาเขาอีกต่อไปชายหนุ่มหมุนตัวกลับรีบก้าวขาออกไปทันที

"คุณเฝ้าท่านไว้ก่อนนะมีอะไรรีบบอกผมทันทีคุณรีบไปหาคนที่ชื่อปรัณนะเขาน่าจะมีทางช่วยผมจะรีบหาไฟล์ทที่เร็วที่สุดบินกลับไป"

เช้ามืดวันต่อมาเมื่อเครื่องบินจากเคปทาวน์บินมาลงจอดที่เมืองJ

ออกจากช่องVIPมาที่ประตูสนามบินก็มีรถตู้มาจอดรถรอเขาอยู่แล้วเมื่อคนขับรถเห็นเขาก็รีบเปิดประตูด้านหลังทันทีพร้อมกับเชิญเขาด้วยความเคารพ"ท่านประธานเตชิตเชิญขึ้นรถครับ"

ชายหนุ่มไร้ซึ่งปฏิกิริยาใดๆก้มตัวขึ้นรถไป

รถมุ่งหน้าไปโรงพยาบาลด้วยความเร็วที่เกินหนึ่งร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมงเพราะความอ่อนเพลียและความกังวลระหว่างการเดินทางทำให้ชายหนุ่มดูเหมือนไม่ได้รีบร้อนมากกว่าปกติ

ขับมาเกือบสองชั่วโมงก็ถึงประตูโรงพยาบาล

จากลานจอดรถชั้นใต้ดินขึ้นลิฟต์มาเมื่อออกจากลิฟต์เขามองเห็นเธอยืนรออยู่ที่ทางเดินระเบียง

เดรสสีแดงผมยาวพลิ้วระดับเอวใบหน้าถูกเติมแต่งด้วยเครื่องสำอางค์บางๆเมื่อเปรียบเทียบกับหมอพยาบาลกับคนไข้ที่กำลังยุ่งอยู่ทางด้านหลังแล้วเป็นความสวยงามที่เหมือนจะอยู่ผิดที่ผิดทางไปเสียหน่อย

สายตาชายหนุ่มมองไปอีกทางไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆทำเหมือนมองไม่เห็นเธอหมุนตัวเดินไปทางห้องผู้ป่วย

หญิงสาวยังสวมรองเท้าสันสูงอีกด้วยเขารีบสาวท้าวไปอย่างรีบร้อนเธอจึงต้องวิ่งตามหลังเขาไปพร้อมกับเสียงร้องเท้าส้นสูง"แต็กแต็ก"

"คุณคุณไม่ต้องเป็นห่วงตอนนี้อาการเริ่มทรงตัวแล้วเพิ่งเสร็จจากการผ่าตัด"หญิงสาวหายใจหอบพูดกับชายหนุ่มตรงหน้าใบหน้าที่สวยหมดจดเหมือนถูกเขียนด้วยคำว่าเอาใจกับเอาหน้าไว้ทั่ว

แต่ผู้ชายที่เดินอยู่ข้างหน้ากลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆไม่แม้แต่จะชายตามองเธอ

หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่นเธอจะทำอะไรได้อีกถึงแม้ในใจจะโกรธแค้นแค่ไหนก็แสดงออกมาไม่ได้ผู้ชายคนนี้ไม่เคยสนใจเธอตั้งแต่แรกเธอจึงทำได้แค่พยายามเอาอกเอาใจเขาเท่านั้น

แล้วยังไง

นิสัยหยิ่งทะนงอย่างเขาไม่เคยจะต้องกลัวเธอเองก็ยินดีทำให้ทุกอย่าง

เตชิตรีบเดินเข้าห้องผู้ป่วยเมื่อผลักประตูเข้าเข้าไปก็เห็นจริยานั่งอยู่ข้างเตียงคนป่วยที่ยืนสวมชุดออกกำลังอยู่อีกด้านคือเวธนี

ขาของเขาชะงักแต่ก็เพียงแค่สองวินาทีเท่านั้นหลังจากนั้นก็เดินเข้าห้องไปพยายามกลบเกลื่อนเสียงแข็งและไม่เป็นธรรมชาติ"มาแล้วเหรอครับแม่"

พูดจบเขาก็หันไปทางเวธนี"เวธนี"

"พี่เตชิต"เวธนียังคงเป็นเด็กดีเรียบร้อยหน้าใสๆของนักศึกษาปีหนึ่งแสดงออกมาให้ทางสีหน้าเห็นชัดเจนเมื่อเห็นหน้าตาที่ไม่ค่อยเป็นมิตรของเขา

จำนวนครั้งที่เวธนีพบเตชิตไม่มากไม่น้อยตอนเด็กๆเหมือนจะบ่อยหน่อยแต่พอโตขึ้นปีหนึ่งจะได้พบเขาสองครั้งเรื่องเกี่ยวกับพี่ชายที่เธอรู้ล้วนมาจากปากของจริยาผู้เป็นแม่โดยทั้งสิ้นเธอรู้ว่าเตชิตเป็นที่มีความสามารถหาเงินเก่งแต่เรื่องนิสัยกับความชอบของพี่ชายเธอแทบจะไม่รู้เลยแต่เธอก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนนิ่งๆจึงไม่กล้าพูดอะไรมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด