ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 314

ตอนที่314 ถามคุณสามข้อ

“คุณจะไม่มาก็ได้ คุณมีทางเลือกอยู่ในมือ เขามีเงินมหาศาลเรื่องนี้เป็นแค่เกมส์เธอไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้ของเขาเลย

นัชชาเกือบจะหลุดปาก แต่ก็ยั้งเอาไว้ได้ “ห้าปีก่อนคุณตกเป็นเหยื่อ แต่ไม่คิดว่าในวันนี้ คุณจะใช้สิทธิ์ของเหยื่อมาขู่ฉัน!”

พูดไปแล้ว นี่คือจุดที่เจ็บปวดที่สุดของนัชชา เรื่องของ Davy ต้องได้รับการแก้ไข แต่เขาทำเช่นนี้ทำให้เธอเหลือทางเลือกแค่เผชิญหน้าเขาหรือยอมแพ้คดีนี้ไป

นัชชาไม่มีทางยอมแพ้ฉะนั้นก็ต้องไปพบเขา

“เกมส์นี้น่าสนใจและน่าสนุกมากใช่มั๊ย ความพยายามทั้งหมดที่คุณทำก็เพื่อทุกคนในครอบครัวรึ” เมื่อพูดจบก็ไม่รอเขาตอบ นัชชายิ้มอยากเมินเฉย “ทำไมประธานเตชิตถึงคิดว่าฉันจะจัดการกับเรื่องนี้ไม่ได้ เรื่องคดีฉันต้องรับผิดชอบให้ถึงที่สุด”

เธอไม่รู้ ก่อนที่เขาจะโทรหาเธอว่าเตชิตได้คุยกับKevinเรื่องการแถลงการณ์ขอโทษเรียบร้อยแล้ว เธอกำลังเข้าใจผิด

และคนที่ถูกเข้าใจผิด ก็ไม่ได้เตรียมตัวเพื่อนที่จะอธิบายให้เธอเข้าใจ เขาแค่ต้องการบังคับให้เธอมา แม้ว่าจะทำให้เธอเข้าใจผิดก็ตาม

“เป็นเรื่องดีที่คุณมีความมุ่งมั่นเช่นนี้” น้ำเสียงของเขาไม่เข้มไม่อ่อน เป็นการวางตัวที่ดี

นัชชารู้สึกตัวเองเหมือนเป็นมดที่อยู่บนหม้อไฟ ถูกเผาไม่ได้ แต่ชายคนนั้นมองด้วยสายตาเย็นชา เพิ่มไฟเข้าไปที่ก้นหม้อเพื่อให้ตัวเองรู้สึกสบายขึ้น

เธอกำโทรศัพท์ไว้แน่น ดูเวลาสักครู่ บ่ายสามโมง ยังไม่ค่ำ แทนที่ลากเรื่องนี้ให้ยืดเยื้อออกไป เป็นการดีกว่าที่จะตีเหล็กตอนร้อน

คิดถึงตรงนี้ นัชชาก็ไม่กลัวอีกต่อไปแล้ว “ประธานเตชิตตอนนี้มีเวลามั๊ยคะ เรานัดคุยกันเรื่องรายละเอียดของคดี”

“ผมค่อนข้างยุ่ง”

นัชชารู้สึกแน่นหน้าอก อยากอาเจียรแต่ก็อาเจียรไม่ออก ลำคอกลืนน้ำลายไม่ได้ ได้แต่อารมณ์เสียเท่านั้น “ถ้าอย่างนั้นคุณว่างเมื่อไหร่”

เธอทำอะไรไม่ถูกเพราะตอนนี้เธอเป็นฝ่ายขอความช่วยเหลือ ความโกรธตอนนี้มีเพียงสามในสี่ส่วนเท่านั้น

“เอาอย่างนี้แล้วกัน” เขาหยุดชั่วคราว ดูเหมือนว่ากำลังคิดถึงวิธีรับมือกับเธอ และความอึดอัดใจก็มาถึง “คุณมาหาที่ที่พักผม อย่างนี้ถึงจะสะดวก”

ที่พัก!

นัชชากัดกราม ใครกล้าพูดว่าเตชิตไม่จงใจ เธอเป็นคนแรกที่ไมเชื่อ! อารมณ์ของผู้ชายคนนี้เป็นอย่างไร เธอรู้มากเกินไป เขาพูดประโยคก่อนหน้าก็เพื่อที่จะพูดประโยคนี้

“ลอนดอนออกใหญ่ ร้านกาแฟตั้งมากมาย น่าจะมีหนึ่งหรือสองร้านที่ไม่ไกลจากที่พักคุณ ถ้าหากประธานเตชิตรู้สึกว่าไม่ว่าง ฉันขับรถไปรับคุณได้ค่ะ…”

“ไม่เต็มใจหรอ” เขาขัดจังหวะการพูดของนัชชา “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องมา”

“....”

เวลาชั่วครู่ เสียงเงียบหายไป ไม่มีใครพูดอะไร

นัชชาเกลียดจนกัดฟันแน่น ไม่รู้ว่าจะจัดการกับบุคคลนี้อย่างไร “ถ้าไม่มีอะไรจะว่างแล้วนะ”

“รอก่อน!” เธอบดฟัน หลังจากที่ไม่สามารถตกลงกันได้ “โอเค ฉันจะไปหาคุณ ตอนนี้!”

….

หลังจากนั้นสี่สิบนาที รถของนัชชาก็มาตามที่อยู่ที่ส่งมาทางมือถือ

ด้านหน้าของเธอเป็นบังกะโล เธอสังเกตอย่างระมัดระวัง ห่างออกไปหนึ่งกิโลเมตรมีร้านกาแฟที่ใช้ได้ แต่เขาต้องการให้เธอไปหาที่บ้าน เธอมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นในใจ

นัชชาไม่มีบัตรทางเข้า เธอปลดเข็มขัดนิรภัยออก เดินไปที่ประตูและกดออด คนที่นั่นไม่พูดจา เปิดประตูใหญ่ออก

รถเข้าไปข้างในอย่างราบรื่น เธอลงจากรถพร้อมเอกสารที่เธอเตรียมไว้ล่วงหน้า เธอยืนอยู่หน้าวิลล่าหายใจเข้าออกลึกหลายรอยก่อนที่จะยกมือขึ้นเคาะประตู

สิบกว่าวินาทีต่อมา ประตูนิรภัยไม้เนื้อแข็งก็เปิดออก ร่างกายของชายหนุ่มก็สะท้อนเข้ามาในดวงตา

เขาอยู่บ้านแต่งตัวสบายๆ เสื้อสเว็ตเตอร์ถักสีเทาเข้ม กางเกงขายาวสีดำตรง ใส่รองเท้าใส่ในบ้านสีขาว มันใช่การพูดคุยอย่างเป็นทางการ

ปฏิกิริยาแรกของนัชชาที่ปรากฎก็คือการระวังตัว นัยน์ตาคู่นั้นมองไปยังห้องรับแขก เตรียมที่จะมองออกไปรอบๆ ทันใดนั้นชายคนนั้นก็ก้าวไปข้างหน้าก้าวใหญ่ บงบังวิสัยทัศน์ของเธอจจนเกือบหมด

ลมหายใจของชายคนนั้นพุ่งใกล้เข้ามา นัชชาเซถอยหลังไปก้าวหนึ่ง “คุณจะทำอะไรน่ะ!”

“ผมทำอะไร!” ทีแรกเตชิตไม่อยากจะโมโห แต่เมื่อเห็นใบหน้าของเธอที่พร้อมจะร้องขอความช่วยเหลือและเต็มไปด้วยความกลัว เขาก็อดไม่ได้ที่จะโกรธขึ้นมา “คุณนัชชาต้องการที่จะคุยเรื่องงานไม่ใช่หรอ”

นัชชารู้ว่าเขาจงใจโยนความผิดให้เธอ แต่ก็ไม่อยากพูดมากเกินไป ได้แต่บอกว่า “เข้าไปคุยกันข้างในเถอะ”

เตชิตเลิกคิ้ว เปิดทางให้เธอเดิน นัชชาเดินผ่านเขาไปอย่างรวดเร็ว การกระทำนั้นแข็งราวท่อนไม้

ห้องนั่งเล่นของวิลล่ามีขนาดใหญ่มาก เธอนั่งลงที่โซฟา วางเอกสารและคอมพิวเตอร์ลงบนโต๊ะ “ประธานเตชิตช่วยมาดูหน่อยนะคะ”

เตชิตกำลังนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเธอ ขายาวเปิดออกท่านั่งสบาย เขามองดูข้อมูลในอดีต พลิกดูสองสามหน้าแล้วก็โยนมันลง “ไหนๆวันนี้คุณก็มาแล้ว ผมก็จะไม่อ้อมค้อมกับคุณ ค่าชดเชยและคำขอโทษที่ Davy ต้องการสามารถจัดการให้ได้ แต่คุณนัชชาต้องตอบคำถามผมสองสามคำถามก่อน”

“คำถามรึ” นัชชามองเขาอยู่ครู่หนึ่ง “คำถามอะไรคะ”

ดวงตาของชายหนุ่มร้อนแรงขึ้นมา “คำถามส่วนตัว”

ใจของนัชชาสั่นไหว ไม่คิดว่าเขาจะพูดออกมาตรงไปตรงมาเช่นนี้ เธอพยายามระงับการเต้นระส่ำระส่ายของหัวใจ พูดอย่างพนักงานที่มีคุณสมบัติที่ดี “ประธานเตชิต นี่คือเวลางาน ฉันจะพูดเรื่องงานเท่านั้นค่ะ”

“อย่างนั้นรึ” ชายคนนั้นยกมือขึ้นดูนาฬิกาข้อมืออย่างรวดเร็ว และลดแขนลง “เอาละ ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว”

“....”

นัชชาเปลือกตากระตุก ไม่คิดว่าเตชิตเริ่มต้นแล้ว…. ต้องการจะเล่นตุกติกรึ

“ประธานเตชิต…”

“ผมบอกแล้วแค่คุณตอบคำถามผม เอกสารพวกนี้ผมไม่จำเป็นต้องดูก็สามารถตกลงข้อเรียกร้องที่สมเหตุของคุณกับDavyได้” เขาไม่ชอบฟังเธอพูดจาคร่ำครึจึงขัดขึ้นอยู่เสมอ

นัชชาหลบสายตาและถอนหายใจลึก ดูเหมือนจะเป็นการท้าพนันกันในเรื่องนี้

เธอควรที่จะประณีประนอม ตอบเพียงไม่กี่คำถามไม่น่าจะมีอะไร

แต่เมื่อต้องเผชิญกับสายตาที่ชอบบังคับผู้คนของชายหนุ่ม นัชชาก็ไม่ค่อยมีความกล้าหาญสักเท่าไหร่ ถ้าเป็นห้าปีที่แล้วเธอไม่กล้าแม้แต่จะสบตา ห้าปีต่อมาเธอก็ยังเป็นเช่นเดิม

เธอโตขึ้น เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อห้าปีที่แล้วเช่นกัน

หลังจากที่เงียบไปนาน เขาก็วางแก้วน้ำอุ่นๆไว้ที่ข้างหน้าเธอ ริมฝีปากบางเปิดออก “คุณคิดออกรึยัง”

เสียงอันอบอุ่นที่พูดออกมานี้พร้อมกับคำพูดที่คุกคาม นัชชารู้สึกว่าเหมือนการประชดประชัน

นัชชาเองก็อยากที่จะชนะคดีนี้เช่นกัน และตอนนี้ก็ถูกเขาบังคับให้ต้องเจอกับทางตันดังนั้นเธอจึงยอมเปิดปาก “เอาล่ะ คุณถามมาสิ”

“โอเค ต้องรับปากก่อนว่าคุณจะไม่โกหก”

นัชชาตกลง ในใจก็คิดว่าไม่ว่าเธอจะโกหกหรือไม่โกหกเขาก็ไม่มีทางรู้หรอก ปากจึงสัญญาอย่างหนักแน่น “โอเค”

“คุณรู้รึเปล่า” ทันใดนั้นเขาก็นั่งตัวตรงจ้องมองเธออยู่ครู่หนึ่ง “เวลาที่คุณโกหก ผมดูออก”

“ตึกตัก--ตึกตัก--ตึกตัก”

เสียงหัวใจเต้นแรงขึ้นทันทีที่หูได้ยิน มีท่าทีที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย “ฉันจะไม่โกหก”

เตชิตพยักหน้าอย่างพอใจ ค่อยๆถามทีละคำขณะที่เธอเริ่มออกอาการหงุดหงิด “คำถามแรก -- คุณรู้จักกับชนุดมตั้งแต่เมื่อไหร่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด