ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 315

ตอนที่315 อุบัติเหตุเมื่อห้าปีที่แล้วเกิดจากเป็นการจัดฉาก

นัชชาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเขาจะถามคำถามนี้ เธอคิดแต่เขาจะถามว่าเธอตกหลุมรักคนอื่นแล้วหรือไม่ หรือถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับผู้ชายคนอื่น คำถามนี้เกินความคาดหมาย เธอไม่ทันได้ตั้งตัว

เงียบ และยังคงเงียบ

ดวงตาของคนมืดมิด ราวกับในนั้นเก็บงำความลับเอาไว้มากมาย เขาเลิกคิ้ว “ระดับความอดทนของผมต่ำ ถ้าหากว่าใช้เวลานานเกินไปผมอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้…”

“ห้าปี!” หน้าอกนัชชากระเพิ่มขึ้นลง อารมณ์กวัดแกว่งเป็นอย่างมาก

“ผมถามถึงเวลาที่แน่ชัด” เขาเป็นเหมือนผู้ทรมาน ทุกประโยคถามถึงจุดที่นัชชาไม่ต้องการที่จะเผชิญหน้า

“ห้าปีก่อนที่ตอนที่คุณหาฉันเจอที่โรงแรมเล็กๆแห่งนั้น ตอนนั้นฉันบังเอิญเจอกับชนุดม”

คำตอบนี้ น่าแปลก มันเร็วกว่าที่เขาคิดไว้

เขาทำปากเย้ยหยัน “ตอนที่ผมตกใจกลัวไปหาคุณในวันนั้น คุณกลับอยู่กับเขาอย่างนั้นรึ”

นัชชารู้ว่าเธอพูดออกมา เขาต้องเข้าใจผิดอย่างแน่นอน “นั่นเป็นอุบัติเหตุ”

ตอนนั้นสถานการณ์อันตรายมาก เธอไม่รู้จักตัวตนของอีกฝ่าย เป็นการเจอกันโดยบังเอิญท่ามกลางสถานการณ์อันเลวร้าย ไม่บอกเขาก็เพราะกลัวว่าเขาจะเป็นห่วงเหมือนที่เป็นอยู่เช่นทุกวันนี้

“อุบัติเหตุรึ ได้” เขากลืนน้ำลายไปสองสามอึก ดูเหมือนจะพยายามระงับอารมณ์บางอย่างอยู่ “คำถามที่สอง --- คุณมาที่สหราชอาณาจักรกับเขาใช่หรือไม่”

นัชชาตกตะลึงไปเมื่อได้ยินคำถามนี้ หัวใจเธอไม่สามารถหยุดสั่นไหวได้ “ฉัน ฉัน…”

เธอต้องการจะบอกว่าไม่ใช่ แต่สายตาที่ร้อนแรงกำลังจับจ้องอยู่ ถ้าหากโกหกเมื่อไรก็จะถูกจับได้ในทันที

อย่างไรก็ตามปฏิกิริยาของเธอตอนนี้ก็ไม่ต้องการคำตอบ เตชิตมีคำตอบนั้นในใจแล้ว

นัยน์ตาสีดำแสดงถึงความผิดหวัง เขาเปิดปากต่อมาไม่ใช่คำถามแต่เป็นคำบอกเล่า “คุณมาอังกฤษกับเขา”

นัชชารู้ ตอนนี้เขาเข้าใจผิดไปใหญ่โตแล้ว

“คำถามสุดท้าย” เตชิตเหมือนมีเลือดออกที่หัวใจ ความจริงเขาเตรียมคำถามไว้สามข้อ ไม่คิดว่าจะสร้างบาดแผลให้แก่เขาตั้งแต่คำถามแรก เหลือเพียงคำถามสุดท้ายเท่านั้น

ถ้าหากเธอให้คำตอบที่เขาต้องการ เขาก็จะยกโทษให้เธอ

เขาคิดเช่นนี้ คิดที่จะยอมแพ้เช่นนี้

นัชชาแทบจะหายใจต่อไปไม่ไหว เธอมองไปที่ชายคนนั้นและยืนขึ้น ค่อยๆก้าวเข้าใกล้เขาทีละก้าวทีละก้าว เขาเอนตัวลง แขนอยู่ข้างหน้าเธอ กั้นไม่ให้เข้าใกล้ ไม่ใช่เพื่อเข้าใกล้ แต่เพื่อดูการแสดงออกทางสีหน้าของเธอ

ทันใดนั้นเธอก็เริ่มรู้สึกเสียใจ เสียใจที่รับปากทำตามคำขอนี้

ไม่น่าจะง่ายขนาดนั้น เขาต้องรู้อะไรมาแล้วแน่ๆ….!

“เธอ-----” ชายคนนั้นพ่นคำออกมาช้าๆ หายใจรดหน้าผากของเธอ “อุบัติเหตุครั้งนั้น เป็นอุบัติเหตุหรือว่าเป็นการจัดฉาก”

“บึ้ม” หัวใจของนัชชาเหมือนเพิ่งโดนระเบิดนิวเคลียร์ เธอกำลังจะตาย

เธอลนลานที่จะก้มศีรษะลง ตัวสั่นเหมือนแผ่นดินไหว วินาทีต่อไปก็โดนผู้ชายคนนั้นบีบคางเอาไว้ แรงอันแข็งแกร่งทำให้เธอเจ็บและอดไม่ได้ที่จะร้องออกมา “อ้า!”

“ตอบผมมา” เขาดุเดือดทุกคำ ต้องการให้เธอหวั่นไหว

นัชชาไม่ใช่ไม่ต้องการพูด แต่ว่าไม่กล้า ไม่มีอะไรทำให้เธอกลัวเตชิต ไม่มีจริงๆ แต่การที่ให้เธอพูดต่อหน้าเช่นนี้ “จัดฉาก” สองคำนี้ ทุกอย่างก็จะพังทลายลงมา เธอพูดอะไรไม่ได้จริงๆ

เตชิตไม่ต้องการอยู่กับภาพลวงตาอีกต่อไป เขาจินตนาการไปเองมาแล้วถึงห้าปี เขาไม่ต้องการที่จะสับสนอีกต่อไป เขาต้องแน่ใจ ดังนั้นเขาจะไม่ปล่อยให้เธอดิ้นหลุดแน่ “บอกผมมา ใช่หรือไม่ ห๊ะ”

“คุณอย่าบังคับฉัน!” เธอทนไม่ได้ กลืนน้ำลายไปอึกหนึ่ง “เตชิตคุณทำอย่างนี้กับฉันทำไม…”

“เป็นอุบัติเหตุที่ถูกคุณและเขาวางแผนเอาไว้แล้วใช่หรือไม่” เขาถามด้วยเสียงแหบห้าว ไม่สามารถแอบซ่อนความอ่อนแอเอาไว้ได้ “ทำไม บอกผมทีว่าทำไม!”

“เพราะคุณบังคับฉัน!” นัชชาหลับตาลงและเงยหน้าขึ้นมองด้วยความปวดร้าวที่สะสมมาทั้งหมดห้าปี “คุณบอกว่าเรื่องของฉันทำอะไรไม่ได้ การตัดสินใจสารภาพผิดโดยไม่ได้รับอนุญาต คุณได้ถามไหมว่าฉันต้องการรึเปล่า! คุณเชื่อทีนาร์โดยไม่มีเงื่อนไข คุณถามไหมว่าฉันรู้สึกอย่างไร! คุณไม่ได้สงสัยฉัน แต่คุณก็ไม่เคยคิดสงสัยว่าฆาตกรตัวจริงเป็นใครอย่างนั้นหรอ!”

เธอพูดจนเตชิตตกตะลึง ตาจ้องมองตรงที่เธอ

น้ำตาปั่นป่วนการมองเห็นของเธอ เธอกลืนรสเปรี้ยวในลำคอ นึกถึงสภาพที่เธอทำอะไรไม่ได้ในคุกเมื่อห้าปีที่แล้ว “ถ้าฉันไม่ใช้วิธีนี้เพื่อหลบหนีฉันจะทำอย่างไร ยังคงต้องนั่งรออยู่ในคุกรึเปล่า”

“ผมหาทางออกได้” เสียงของเขาเหมือนเชือกที่กำลังจะขาด “เชื่อในตัวผมมันยากขนาดนั้นเลยรึ…”

“ฉันไม่เชื่อในตัวคุณหรือยังไง คุณทำให้ฉันผิดหวังในการที่ไว้ใจคุณ คุณไม่คู่ควร” นัชชานึกถึงความรู้สึกตอนที่แอบท้องธีมนต์ “ฉันรอไม่ได้แล้ว ฉันรอไม่ได้”

“ดังนั้นคุณจึงวางแผนเรื่องทั้งหมดนี้ แกล้งตาย โดยทิ้งผมและยังญาติรวมถึงเพื่อนสนิทคุณเอาไว้โดยไม่สนใจไยดีรึ” เตชิตรู้ว่าเธอให้ความสำคัญกับเมทนีและณัชชนม์มาก ยิ่งรู้อย่างนี้เขายิ่งแน่ใจว่าการตัดสินใจหนีมาของเธอนั้นต้องแน่วแน่เป็นอย่างมาก

เธอต้องการหลบหนี จนไม่สนใจอะไรอื่นอีกแล้ว

นัชชาก็ยังไม่หายเศร้ากับเรื่องนี้เช่นกัน แต่ว่าความเสียใจของเธอนั้น ห้าปีต่อมาเขาถึงได้รู้ “เตชิต ถึงตอนนี้คุณยังต่อว่าฉัน ว่าที่ฉันหนีมา ว่าว่าฉันใจดำ คุณเคยคิดมั๊ยว่าฉันเลือกทางนี้อย่างอับจนหนทาง! ในตอนนั้นฉันอยู่ในจุดที่คิดว่าตัวเองเกิดมาเพื่อตาย ฉันถูกบังคับโดยไม่มีทางเลือก!”

“ไม่มีทางเลือกหรอ” เขาหัวเราะ หัวเราะอย่างคนปวดใจ “คุณรู้รึเปล่าว่าผมผ่านห้าปีนี้มาได้อย่างไร สองปีกว่าที่เราไปที่ถนนที่เกิดเหตุทุกวันเพื่อรอพบคุณ ทุกคนบอกว่าคุณตายแล้ว แต่ผมไม่เคยยอมแพ้ที่จะตามหาคุณ ผมออกจากอาชีพนักกฎหมายก็เพราะคุณ เพราะคุณผมถึงยอมแพ้กับงานนี้ ผมท้อแท้ ขัดแย้งกับครอบครัว ขัดแย้งกับเพื่อน พวกเขาบอกว่าผมมีพฤติกรรมที่ผิดปกติและบอกว่าผมเป็นบ้า แต่ผมก็เป็นคนบ้าที่อยู่มาถึงห้าปี!”

เขาเสียงสั่น “คุณรู้ไหมว่าผมเจ็บปวดแค่ไหน สำนึกเสียใจแค่ไหน ผมไม่สามารถเผชิญหน้ากับตัวเองได้ ไม่กล้าแม้แต่จะมองกระจกจนถึงตอนนี้ ผมคิดว่าเพราะความล่าช้าของผมทำคุณเกิดอุบัติเหตุในครั้งนั้น ผมตื่นขึ้นมาทุกเช้าก็เห็นแต่หน้าคุณ ดื่มมากก็เห็นคุณ สร่างแล้วก็ยังเห็นคุณ หากผมยังไม่มั่นใจว่าคุณตายแล้ว หากไม่เชื่อในภาพลวงตาเหล่านี้ ผมคงตายไปนานแล้ว! แต่ตอนนี้คุณกลับบอกผมว่า นี่คือภาพลวงตาที่คุณและชนุดมสร้างขึ้นมา เพื่อหลอกผม เพื่อทิ้งผมไปหรอ”

คำพูดของเขาเหมือนใบมีดที่กรีดลงที่หัวใจของนัชชา เธอรู้ว่าตัวเองผ่านมายากแค่ไหนในห้าปีที่ผ่านมา แม้ว่าชนุดมจะคอยอยู่ข้างๆคอยช่วยเหลือ แต่ผู้มีพระคุณก็คือมีพระคุณ ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเธอกว่าจะเดินแต่ละก้าวจนมาถึงทุกวันนี้

นัชชาคิดถึงมันบ่อยๆ อีกด้านหนึ่งในที่ไกล เขาจะมีชีวิตอย่างไร เขาจะเจ็บปวดไหมกับการจากไปของเธอ เสียใจรึเปล่า

ปีแรกผ่านไปเธอยังจำได้ดี ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้ก็เหมือนยิ่งทำร้ายตัวเอง จนถึงปีที่สอง สาม สี่ จนถึงในวันนี้ เธอพยายามป้องกันปัญหานี้ให้ได้มากที่สุด เพราะทุกครั้งที่คิดถึงใจเธอจะรู้สึกต่ำต้อย นานขนาดนี้ เขาลืมเธอไปแล้ว ไม่มีใครที่โดนทิ้งแล้วอยู่ต่อไปไม่ได้

ตอนนี้เธอเศร้าเกินกว่าที่จะบอกคำเหล่านี้กับเขา เป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าไม่มีความสับสนในใจ นอกจากความทุกข์และความโศกเศร้าแล้ว ยังมีความยินดีอีกส่วนหนึ่งที่เธอไม่สามารถพูดออกมาได้

ใช่แล้ว การที่ได้รู้ว่าเขาก็เหมือนเธอในห้าปีที่ผ่านมา รู้ว่าเขายังคิดถึงตัวเธออยู่ เธอรู้สึกว่าตัวเองโชคดีและดีใจจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ สิ่งนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับจิตใต้สำนึกส่วนตัว เป็นจิตใต้สำนึกที่ไม่รู้จะตอบสนองอย่างไร หลอกลวงเขาได้ แต่โกหกตัวเองไม่ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด