ตอนที่343 เด็กคนนั้นหายไป
สองวันต่อมานัชชาและจินต์เดินเล่นทานข้าวด้วยกันทั้งสองไม่เจอกันมานานจึงมีเรื่องคุยกันมากมายในเวลานั้นเองนัชชารับโทรศัพท์ที่โทรมาจากณัชชนม์
เพิ่งรับสายก็ได้ยินเสียงของณัชชนม์พูดอย่างร้อนใจว่า“ นัชชาหลานหายไปแล้ว! ”
ตะเกียบในมือของนัชชาหล่นเมื่อได้ยินประโยคนี้หัวของเธอมึนไปหมดหลังจากนั้นไม่กี่วินาทีก็ถามอย่างเหม่อลอย“แม่พูดว่าอะไรนะคะ… ?”
เหมือนเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นณัชชนม์ก็ทำตัวไม่ถูกร้องไห้พลางพูดกับเธอ“เมื่อกี้แม่พาธีมนต์มาซื้อขนมทานแม่กำลังจ่ายเงินอยู่คลาดสายตาไปแป๊บเดียวก็หาเขาไม่เจอแล้วเมื่อกี้แม่ก็หาแถวนี้จนทั่วพ่อก็ช่วยกันหาพวกเราจะทำยังไงกันดีลูก……”
นัชชามึนไปพักใหญ่พอนึกถึงธีมนต์หายไปเหมือนต้นคอโดนตอไม้ฟาดเข้าให้เต็มแรงไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น
จินต์สังเกตเห็นเธอสีหน้าไม่สู้ดีขมวดคิ้วแย่งโทรศัพท์จากเธอมาพูดสายเอง"สวัสดีค่ะ? "
"จินต์เธออยู่กับนัชชาใช่ไหม?ธีมนต์หายไปแล้วเหตุเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อกี้เองเมื่อกี้แม่บอกนัชชาแล้วดู
นัชชาด้วยนะอย่าให้อะไรเกิดขึ้นกับเธอตอนนี้กำลังตามมาธีมนต์อยู่..."
เมื่อจินต์ได้ยินว่าลูกของนัชชาหายไปก็ร้อนใจตามแต่ถ้าเทียบกับนัชชาเธอยังมีสติอยู่"เด็กหายไปเมื่อไรคะ? "
"เมื่อกี้นี้เองเพิ่งจะผ่านไปไม่ถึงสิบนาที..." ทางด้านนี้ณัชชนม์ยังไม่ทันพูดจบจินต์เห็นร่างของนัชชาลุกไปอย่างรวดเร็ว
เธอลุกขึ้นไล่ตามไปอย่างทันควัน"นัชชา!นัชชา! "
ร่างกายของนัชชาเหมือนไม่ใช่ของตัวเธออีกต่อไปฝ่าเท้าเริ่มเย็นเธอรู้แค่ว่าต้องรีบวิ่งออกไปดวงตาเบิกกว้าง
วิ่งกันไปถึงทางเข้าห้างจินต์ถึงได้คว้าตัวเธอไว้ได้"นัชชาเธอสงบสติอารมณ์ลงก่อน!"
ในเวลานี้นัชชาไม่สามารถสงบสติอารมณ์ของตัวเองได้คำพูดเมื่อสักครู่ของณัชชนม์วนเวียนอยู่ในหัวดวงตาของเธอชุ่มไปด้วยน้ำตา“ ธีมนต์หายไปแล้ว...”
" ฉันรู้ฉันรู้" จินต์รีบปลอบเธอ" คุณป้าบอกว่าเขาหายไปเมื่อกี้นี้เพิ่งจะผ่านไปสิบนาทีเรารีบกลับไปบ้านระหว่างทางฉันจะให้เพื่อนของฉันช่วยเช็คกล้องวงจรปิดให้เธอลองคิดดูดีๆว่ามีใครน่าสงสัยบ้าง"
หลังพูดจบจินต์ก็รีบจูงมือเธอไปที่ลานจอดรถใต้ดินสภาพเธอในตอนนี้คงไม่สามารถขับรถได้ดังนั้นจึงให้นัชชานั่งอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับ
เธอถอยรถออกมาจากที่จอดรถและโทรหาตำรวจเพื่อแจ้งความพูดยังไม่ถึงสองประโยคก็ทะเลาะกับตำรวจ"อะไรนะไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงก็ยังไม่ต้องแจ้งความ!เด็กอายุแค่สี่ขวบครึ่งไม่ใช่ผู้ใหญ่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นพวกคุณสามารถรับผิดชอบได้หรอ! "
นัชชาได้ยินรู้สึกใจเสียมือของเธอวางไว้บนหน้าตักเย็นเยือกไม่มีอุณหภูมิทั้งสิ้น
ความสะพรึงที่น่ากลัววกกลับมาในหัวใจของนัชชาเธอตัวสั่นเทาอย่างไม่สามารถควบคุมได้แม้แต่การหายใจก็โดนกระทบไปด้วย
ใจเย็นๆนัชชา
เธอนั่งปลอบใจตัวเองบอกกับตัวเองว่าในเวลานี้ลูกหายไปเธอต้องมีสติใจเย็นๆ
ส่วนจินต์เห็นว่าแจ้งตำรวจไม่เป็นผลจึงทำได้เพียงวางสายโทรศัพท์ด้วยความโกรธสบถคำหยาบกี่คำ
บรรยากาศภายในรถหนักหนาสาหัสรถขับไปด้วยความเร็วสูงจินต์ไม่สนใจชีวิตเหยียบคันเร่งอย่างสุดแรง
ทันใดนั้นนัชชานึกถึงชายที่ไม่ปรากฏตัวต่อหน้าเธอมาสองวันแล้ว
หรือจะเป็นเขา?
ในเวลานี้ยอมฆ่าผิดเป็นหมื่นดีกว่าปล่อยผิดเป็นพันเธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋าหาเบอร์ของเตชิตแล้วโทรออก
อีกฝ่ายรับสายอย่างรวดเร็วน้ำเสียงสงบเรียบ"สวัสดีครับ? "
"ธีมนต์หายตัวไป" นัชชาบอกข่าวเขาด้วยคำพูดที่ตรงที่สุด
ทางปลายสายเสียงของชายผู้นั้นหายไปครู่หนึ่งวินาทีต่อมาเสียงเขาก็เปลี่ยนเป็นหนักอึ้งเห็นได้ชัดว่าเขากำลังพยายามระงับสติอารมณ์ที่กำลังจะปะทุอยู่“เมื่อไร?”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ความหวังสุดท้ายของนัชชาก็ดับวูบลงไม่ใช่เตชิตถ้าอย่างนั้นใครที่ลักพาลูกไป?
นัชชาไม่เชื่อว่าเรื่องนี้จะเกิดด้วยความบังเอิญคนที่ลักพาตัวจะต้องเป็นคนที่รู้จักเธอหรือไม่ก็เป็นคนที่เธอรู้จักอย่างแน่นอน
"เมื่อกี้ลูกหายไปตรงหน้าบ้านฉัน" นัชชานึกถึงคำพูดของณัชชนม์เส้นประสาทที่ตึงเปรี๊ยะก็ขาดลงเธออ้าปากพูดอย่างตะกุกตะกัก" แม่ของฉันบอกว่าคาดสายตาไปแป๊บเดียวก็หายตัวไปตอนนี้กำลังออกตามหากับพ่อของฉันอยู่..."
เตชิตได้ยินเสียงตะกุกตะกักของเธอก็รู้ว่าตอนนี้เธอทุกข์ทรมานใจมากเพียงใดเขาก็ไม่ต่างจากเธอ รีบถือกุญแจรถเดินออกไปข้างนอกทันทีพลางปลอบเธอ"เราต้องมีสติลูกหายไปเธอยิ่งต้องสงบสติอารมณ์ฉันจะรีบไปที่บ้านของเธอเดี๋ยวนี้เพิ่งจะหายตัวไปแป๊บเดียวน่าจะไม่เป็นอะไรเชื่อฉันในเมืองเจ ไม่มีใครสามารถทำร้ายลูกของฉันได้"
คำพูดของเขาทุกคำทุกประโยคทรงพลังและหนักแน่นหลังจากฟังคำพูดของเขานัชชาจึงคลายความกังวลไปได้นิดหน่อยพลางปาดน้ำตา" ตอนนี้เราจะทำอย่างไรดีเมื่อกี้จินต์โทรหาตำรวจพวกเขาบอกว่ายังไม่สามารถแจ้งความได้ "
"ฉันจะให้คนช่วยหาเดียวฉันจะไปเจอกับคุณลุงคุณป้าก่อน" พูดจบกลัวว่าเธอจะพูดอะไรมากมาย" เธอรอฉันอยู่ที่นั่นฉันกำลังไปหา"
"ได้คะ" นัชชาหลับตาลงน้ำตาเม็ดแล้วเม็ดเล่าร่วงลงบนหน้าตักของเธอ"...คุณรีบมาหน่อยนะ"
คิ้วของเขาขมวดแทบจะติดกันเป็นห่วงความปลอดภัยของธีมนต์เขารู้สึกเป็นกังวลมากในใจก็คิดว่าจะเอาคนที่ลักพาลูกชายไปทรมานให้สาสม"ได้"
......
ทั้งสามรีบมุ่งหน้าไปที่หมู่บ้านมีสุขทันทีนัชชามาถึงก่อนเพราะรู้ข่าวเร็วกว่าและก็อยู่ไม่ไกลจากที่นั้นแต่เมื่อเธอมาถึงก็เห็นเตชิตขับรถมาถึงประตูบ้านพอดี
ยากที่จะจินตนาการว่าเขาขับรถมาด้วยความเร็วเท่าไหร่และอันตรายเพียงใด
ณัชชนม์และเมทนีอยู่หน้าบ้านนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นชายผู้หลั่งเลือดไม่หลั่งน้ำตาอย่างเขากลับอดไม่ได้ที่ต้องร้องไห้ออกมา"นัชชามาแล้วหรอ"
“พ่อแม่อย่าร้องไห้เลยคะธีมนต์คงไม่เป็นอะไรหรอกคะ” คำปลอบโยนของนัชชาไม่ได้มีความหมายอะไรเลยเพราะแม้แต่ตัวเธอก็กลัวจนตัวสั่น
เตชิตมองไปรอบๆหัวใจของเขาเหมือนถูกทอดอยู่ในกระทะร้อนๆเขาพยายามที่จะทำใจให้สงบลง"เด็กหายไปจากที่ตรงไหนครับ?"
"ตรงนั้น" ณัชชนม์ชี้ไปที่ด้านหลังร้านขายขนมร้านเปิดอยู่ด้านล่างของอาคารหมู่บ้านของพวกเขาเป็นอาคารเก่าๆแบบธรรมดาๆชั้นแรกของอาคารส่วนใหญ่จะเปิดร้านขายของเล็กๆน้อยๆ
เตชิตขมวดคิ้วระยะทางใกล้แค่นี้เด็กไม่น่าจะหลงทางได้พวกลักพาเด็กก็ไม่น่าอุกอาจมาลักพาเด็กถึงในหมู่บ้านจะต้องมีใครจ้องไว้ก่อนแล้วก่อนที่จะลงมือลักพาเด็กไป
เขายืนด้านข้างหยิบโทรศัพท์มือถือโทรไปที่หัวหน้าสถานีตำรวจน้ำเสียงน่ายำเกรง" ลูกชายของผมโดนลักพาตัวพวกคุณส่งคนมาตรวจสอบหน่อยสิ"
พูดจบไม่เพียงแต่จินต์แม้เมทนีกับณัชชนม์ก็อดไม่ได้ที่จ้องมองเขาคำว่า' ลูกชายของผม' ที่พูดออกมาจากปากของเขารู้สึกมีพลังเขย่าใจคนฟัง
แต่ในตอนนี้จะมีใครพูดอะไรได้บ้าง? ธีมนต์เป็นลูกชายของเขาจริงๆและเพราะลูกชายคนเดียวของเขาหายตัวไปทำให้เขาเลือดไหลออกตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด