ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 356

ตอนที่356 คุณพ่อมือใหม่

ชนุดมเห็นหน้าขาวซีดของเธอ ยื่นมือไปพยุงให้เธอมานั่งบนโซฟา เขาพอเดาออก “เตชิตเอาลูกไปใช่มั้ย”

“อืม”

อพาร์ทเม้นท์มีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยสูง แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น ก็ไม่สามารถห้ามหรือทำอะไรผู้ชายคนนั้นได้

เขาใช้วิธีแบบนั้นรังควานเธอ อย่าว่าเขาอยากทำแบบนี้ เขายังมีชนัยอีกคน เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องง่ายดาย และอีกอย่างคืนนี้พวกเขาก็อยู่ด้วยกัน เป็นอะไรที่ทางสะดวกมาก

นัชชาก็หวาดกลัวอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งไม่เห็นลูก เธอยิ่งใจหาย หยิบมือถือขึ้นมา “เราโทรแจ้งความกันเถอะ”

ชนุดมห้ามไว้ “ไม่มีประโยชน์ นี่มันที่ไหน เราไม่ได้อยู่เมืองนอก”

นัชชาใจร้อน เธอพูดเสียงดัง “แต่ลูกถูกเอาไป ก็น่าจะมีคนรับเรื่องสิ”

“เตชิตบอกแค่ว่าเขาคือพ่อของเด็ก แค่นี้ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว”

เป็นเรื่องในครอบครัว ถึงจะเป็นตำรวจก็ไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยว

ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ไม่ได้กว้าง และก็ไม่ได้แคบ ทุกคนก็รู้จักกัน เตชิตเป็นคนใหญ่โตของที่นี่ คงไม่มีใครกล้าหืออือ

วู้วามไป ก็ไม่มีประโยชน์

นัชชามองดูห้องที่ว่างเปล่า เธอนึกภาพไม่ออก เมื่อ20นาทีก่อนลูกยังนอนหลับรอเธออยู่ในห้อง แต่ไม่กี่นาทีต่อมา กลับไม่เหลืออะไรเลย

เธอเพิ่งรับรู้ถึงตอนที่เขาใจร้ายขึ้นมา มันโหดเหี้ยมแค่ไหน แค่เพียงเขากระดิกนิ้ว ก็จะทำให้เธอไม่เหลืออะไรเลย

“เธออย่าเพิ่งตื่นตระหนก อย่างน้อยเขาก็ไม่ทำร้ายตัวเด็ก ข้อนี้เธอสบายใจได้” ชนุดมก็นึกไม่ถึงว่าเขาจะโหดขนาดนี้

ใช่ ความปลอดภัยก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร

แล้วความรู้สึกของเด็กล่ะ

“ธีมนต์เพิ่งรู้ว่าเขาเป็นพ่อได้ไม่นาน ก็พาตัวไปลูกต้องไม่คุ้นเคยแน่ๆ และลูกก็คงไม่กล้าพูด...............” นัชชาพูดต่อไม่ไหว แค่คิดเธอก็เจ็บใจแล้ว

“หลังจากนี้ฉันจะแจ้งบริษัทให้ห้ามเขา เรื่องนี้ฉันจะจัดการให้ เธอจะได้เจอลูกเร็วๆแล้ว” ก่อนมาชนุดมเตรียมพร้อมไว้บางอย่าง เขาเป็นนักลงทุน ใครจะสะอาดกว่าใครหรอ มันต้องมีสักทางที่จะจัดการกับเขาได้

นัชชากำมัดแน่น เล็บจิกเข้าไปในเนื้อแต่เธอไม่รู้สึกเจ็บ ตอนนี้เธอรู้สึกเพียงแม่คนหนึ่งที่ทำลูกหาย ถึงแม้ว่าลูกต้องอยู่กับเตชิตแน่นอน แต่เธอก็ไม่วางใจ

แล้วเธอจะทำอะไรได้ นอกจากบอกให้ตัวเองใจเย็นๆ ถ้าตอนนี้เธอห้ามตัวเองไม่ได้ แล้วเธอจะไปช่วยลูกยังไง

นัชชาดึงทิชชู่เปียกออกมาหนึ่งแผ่นมาแปะไว้ที่ชีพจรข้อมือ ทำให้เธอใจเย็นลง “พรุ่งนี้ฉันจะไปหาเขา ฉันจะดูว่าเขาจะเอาลูกไปซ่อนไว้ที่ไหน”

ชนุดมไม่วางใจให้เธอไปคนเดียว “ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉัน สภาพแบบนี้เธอคงจะไม่ไหว”

“ไม่” นัชชาส่ายหน้า สายตาจริงจัง “นี่เป็นปัญหาระหว่างฉันกับเขา ต้องเป็นฉันเองที่ต้องจัดการ เขาตั้งใจบังคับฉัน ก็ได้ ฉันจะยอมเล่นตามน้ำ”

…………………

อีกฝั่ง เวลาสี่ทุ่มครึ่งที่วิลล่า อยู่บนเตียงใหญ่ ตัวใหญ่ตัวเล็กนั่งจ้องกัน เขาจ้องมองฉัน ฉันจ้องมองเขา บรรยากาศค่อนข้างแปลกประหาด

เตชิตนั่งมองตัวน้อยที่อยู่ตรงหน้า ถึงจะอายุแค่สี่ขวบ แต่ดูเหมือนจะโตกว่าเด็กคนอื่นๆที่รุ่นเดียวกัน เด็กมองเขาด้วยสายตาสงสัย ตากลมโตจ้องมองเขา จมูกน้อยๆ และปากตรงเป็นเส้น การกระทำนี้เหมือนเขาเป็นอย่างมาก

เตชิตยิ่งมองยิ่งรู้สึกน่าสนใจ รู้สึกแปลกๆในใจ ใบหน้ายิ้มๆแต่ไม่ได้พูดอะไร

เขาเคร่งขรึมแบบนี้ เหมือนจะไม่ค่อยดีที่เขากำลังยิ้มตอนนี้

มองไดสักพัก ยังไงเด็กก็ต้องแพ้ผู้ใหญ่ เขาเอ่ยปากพูด “คุณลุง รับตัวผมมาบอกคุณแม่รึยัง ถ้าไม่บอกคุณแม่ต้องเป็นห่วงแน่ๆเลย”

คุณลุงหรอ

เพราะการเรียกนี้ทำให้เตชิตขมวดคิ้ว เขาเรียกไม่ออกหรือตั้งใจยั่วโมโหเขา

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร เขาก็ต้องยอมรับ

เขาอารมณ์ดี ตอบกลับเขา “แม่รู้ว่าธีอยู่ที่นี่”

“จริงหรอครับ” เขาสงสัย แบมือขอเขา “งั้นผมขอยืมโทรศัพท์หน่อย จะโทรหาแม่”

หึ ไอ่เปี๊ยก ฉลาดหนิ รู้จักถามก่อนแล้วค่อยขอโทรศัพท์จากเขา เหมือนตบหน้าเขาตรงๆ

แล้วเตชิตเป็นใคร เขาผ่านอะไรมาเยอะแยะ แค่เด็กกะเปี๊ยกคนเดียวมีหรอเขาจะเอาไม่อยู่

เขาเลยยกมือดูเวลา “ตอนนี้ก็สี่ทุ่มกว่าแล้ว แม่เหนื่อยมาทั้งวันแล้วก็คงจะหลับไปแล้วแหละ ถ้าโทรตอนนี้อาจจะรบกวนเวลาพักผ่อนของเธอ”

พูดจบ เขาก็ดูสีหน้าของเด็ก เห็นเขากำลังคิด เลยพูดแทรกขึ้น “เอางี้มั้ย ลูกนอนก่อน พรุ่งนี้เช้าตื่นมา ลุงจะโทรหาแม่ให้ดีมั้ย”

ได้ยินดังนั้น ก้มหน้าเหมือนคิดอะไรบางอย่าง สักพักเขาเห็นว่ามันเข้าท่า แต่ก็ไม่เชื่อใจเตชิต “ถ้าพรุ่นี้เช้าลุงเปลี่ยนใจขึ้นมาจะทำยังไง”

“ลุงไม่มีทางเปลี่ยนใจ” เตชิตพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ไม่ได้จะโกหกเขา เพราะนัชชาคงทนได้ไม่เกินพรุ่งนี้

ธีมนต์ลังเล เขาเอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ “แต่ผมไม่เชื่อคุณ”

เขาพูดคำนี้ด้วยน้ำเสียงอ่อนๆ ถึงแม้ตอนที่พาเขามาเขาเสียแรงไปไม่น้อย กลับมาก็โดนเขาถามมากมาย แต่รอบนี้ เตชิตรู้สึกได้ ครั้งนี้อารมณ์เขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

เป็นเพราะเขาเป็นพ่อขอเด็ก เขาจึงเข้าใจอย่างมาก

ที่เขาไม่เชื่อใจเขา ไม่ได้เป็นเพียงเพราะเรื่องที่พาเขาออกมาจากบ้าน แต่ยังเป็นเพราะเรื่องที่เขาไม่เคยดูแลเขาและแม่เลย ในเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้

คำพูดสั้นๆนี้ก็เป็นเหมือนการต่อว่าเขา

รอยยิ้มตรงหน้าเตชิตจางหายไป รู้สึกผิด เจ็บปวดหัวใจ และรู้สึกอบอุ่นมากกว่า เขายกมือจับหัวเขา ไม่สนใจที่เขาจะเอียงหัวหนี เขาพูดอธิบายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ฉันรู้ แต่เรื่องที่ลุงรับปากไปก็จะทำตามที่สัญญาไว้ ให้โอกาสลุงได้มั้ย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด