ตอนที่382สารภาพรัก
นัชชาได้ยินเขาพูดอย่างจริงจังตัวเธอก็เริ่มจริงจังขึ้นมา“ตอนนี้เด็กธีมนต์ก็ไม่ค่อยร้องไห้และเป็นคนที่ร่าเริงมากด้วย”
“เด็กทุกคนที่อยู่ในอายุช่วงนี้ก็ร่าเริงทุกคนแต่ของเขาเป็นช่วงๆไม่ใช่ติดต่อกันตลอด”บ่อยครั้งที่เตชิตจะเห็นธีมนต์เหม่อเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่แต่ที่จริงแล้วเป็นการกระทำของเด็กที่ทำออกมาโดยไม่รู้ตัว
พอนัชชาได้ยินในใจก็รู้สึกไม่สบายกลัวว่าจะทำให้เด็กไม่สมบูรณ์ในด้านจิตใจ
“สาเหตุที่ทำให้เป็นแบบนี้มีสองอย่างคือข้อหนึ่งคือครอบครัวไม่สมบูรณ์ขาดอะไรหลายอย่างมากเกินไปทำให้เด็กขาดความมั่นใจแบบนี้เด็กเองก็ไม่รู้สึกแต่การกระทำเล็กๆน้อยๆของเขาเห็นได้อย่างชัดเจนข้อสองคือเค้าไม่ค่อยมีความทรงจำที่ดีเกี่ยวกับญาติพี่น้องความต่อต้านคนอื่นในการเข้าใกล้ตัวเองก็เลยมีมาก”
สองข้อนี้แทงเข้าไปในใจของนัชชาปัญหาพวกนี้เธอเคยคิดแต่ดูรวมแล้วอาการของเด็กโอเคเธอก็เลยคิดว่าไม่มีปัญหาอะไรมากหรอก
ตอนนี้เตชิตพูดแบบนี้เธอเองก็เริ่มกังวลแล้วเธอกลัวว่าเพราะความสะเพร่าของตัวเองทำให้เด็กไม่สมบูรณ์ในด้านจิตใจปัญหาพวกนี้อาจจะติดตัวเด็กไปตลอดชีวิตก็เป็นไปได้
มองไปทางสายตาของเธอที่เริ่มกังวลเตชิตนั่งข้างเตียงแล้วสบตากับเธอ“เธอก็ไม่ต้องคิดมากตอนนี้ปัญหาของเขายังไม่หนักไม่นานก็จะดีขึ้นดังนั้นเธอไม่ต้องกังวลและกลัวตลอดเวลาฉันรู้ว่าเธออยากจะชดเชยให้เขาแต่นี่ไม่ใช่เรื่องดีเลยนะ
ครอบครัวทั่วไปเวลามีปัญหาก็จะเอาเด็กไปฝากไว้กับปู่ย่าตายายหรือไม่ก็บ้านญาติทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องปกติที่ธีมนต์ก็ควรจะมีประสบการณ์พวกนี้บ้าง
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาอยู่บ้านเขาอาจจะกลัวแต่ว่าครั้งที่สองครั้งที่สามก็ไม่กลัวแล้วทำแบบนี้จิตใจของเค้าถึงจะแข็งแกร่งขึ้น
นัชชาเป็นห่วงจะแย่อยู่แล้ว“ต้องหาหมอจิตมาช่วยหน่อยไหม?”
“ไม่ต้อง”พูดถึงตรงนี้สายตาของผู้ชายเริ่มดูหมองลง“ตอนนี้เธอกลับมาแล้วสิ่งที่ควรจะให้เขาเราก็จะให้ได้ทุกอย่าง”
คำพูดของเขามีอีกความหมายซ่อนอยู่นัชชารู้ว่าเขาหมายความว่าอย่างไรแต่เธอไม่รู้จะตอบกลับไปยังไง
ห้องผู้ป่วยพิเศษไม่เหมือนห้องฉุกเฉินก่อนหน้านี้ในห้องเงียบสงบไม่มีใครพูดได้ยินแม้กระทั่งเสียงรถที่ดังขึ้นมาจากด้านล่างไฟที่อยู่บนหัวเป็นไฟที่ดูอบอุ่นส่องมาทางทั้งสองและทำให้เห็นเงาที่ยาวเหยียด
เงียบไปซักแป๊บเตชิตก็ไปจับที่มือของเธอโดยไม่สนว่าเธออยากจะให้จับหรือไม่เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“นัชชาพวกเราคืนดีกันเถอะ”
คำพูดคำเดียวของเขาทำให้สมองของนัชชาเบลอไปหมด
คืนดีกัน
ความหมายของคำนี้มีมากมายความขัดแย้งของพวกเธอทั้งสองเมื่อห้าปีก่อนและความยากลำบากในระหว่างห้าปีที่ผ่านยิ่งไปกว่านั้นคือสิ่งที่เกี่ยวกับเด็กทั้งหมด
“คืนดี?”ดวงตาของนัชชาสั่นถามกลับไปว่า“คืนดียังไง?”
พูดแล้วก็ตลกจริงๆเพราะเธอไม่รู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะดี
“ฉันอยากจะดูแลเธอกับธีมนต์อยากจะให้ครอบครัวที่อบอุ่นกับพวกเธอ”ลูกกระเดือกของผู้ชายขยับน้ำเสียงที่แหบพูดทุกคำพูดด้วยความจริงจัง“ฉันปล่อยเธอไปไม่ได้แล้วปล่อยเด็กไปไม่ได้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นผู้หญิงคนนั้นหลอกเธอตั้งแต่ต้นจนจบฉันไม่เคยมีใครเลยมีแต่เธอคนเดียว”
เสียงทุ้มๆของเขาเหมือนลมเบาๆที่เป่าเข้าไปในหูเธอความรู้สึกชาๆซึมเข้าไปในหัวใจของเธอ
ที่จริงเขาแค่อ่อนโยนแล้วใช้เหตุผลกับเธอใจของเธอที่แข็งเหมือนก้อนหินก็จะอ่อนลงแล้วอย่าว่าแต่ตอนนี้เลยที่เขาอ่อนโยนขนาดนี้
นัชชาอดที่จะหลงเข้าไปในตาอันมืดมนของเขาไม่ได้มองไปยังตาของเขาที่มีแสงสว่างกระพริบกระพริบนอกจากความประหลาดใจแล้วยังมีความไม่เข้าใจ
เตชิตปล่อยมือของเธอแล้วเปลี่ยนไปเป็นจับที่หน้าของเธอทำให้เธอไม่สามารถหลบหน้าได้ให้เธอมองเห็นความจริงในใจของเขา“ระยะเวลาห้าปีมานี้ฉันไม่เคยลืมเธอแม้แต่วินาทีเดียวบังคับเธอเป็นเรื่องหลอกลวงกลัวว่าเธอจะไม่กล้าสู้หน้าฉันแล้วหนีไปเรื่องที่จะแย่งเด็กก็เป็นเรื่องโกหกเธอคือแม่ของเด็กและฉันคือพ่อของเด็กฉันไม่เคยคิดที่จะแยกจากกันที่จริงความคิดที่ไม่อยากทะเลาะไปถึงศาลฉันมีตั้งนานแล้วแต่แค่ไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากพูดกับเธอยังไง
หัวใจของนัชชาเต้นรัวมากเพราะคำพูดของเขาเธอแทบจะไม่เหลือสมองที่ใช้คิดอารมณ์ทั้งหมดไปตามเขาหมดแล้ว
เตชิตมองไปทางใบหน้าของคนตรงหน้าตัวเองคิ้วของเธอและปากของเธอที่ยิ้มมุมปากตั้งแต่หน้าผากยังคางของเธอทั้งหมดนี้อยู่ในใจของเขาอย่างชัดเจน
ผ่านไปนานมากเขาเข้าไปใกล้ๆแล้วไปหยุดตรงหน้าเธอระยะห่างพวกเธอมีเพียง5เซนติเมตรแล้วใช้น้ำเสียงแหบๆพูดว่า“พวกเราแต่งงานแล้วเราเลี้ยงลูกด้วยกันนะ”
คำๆนี้มันระเบิดดังปั้งขึ้นมาในสมองของนัชชา
เธอลืมแม้กระทั่งกะพริบตาแล้วมองไปทางเขาอย่างอึ้งๆเธอตกใจจนพูดติดๆขัดๆ“นายนายพูดว่าอะไรนะ?”
เหมือนจะคิดไม่ถึงว่าเธอจะถามอีกครั้งผู้ชายเอียงหน้าแล้วเลียริมฝีปากของตัวเองที่แห้งด้วยความประหม่าในใจก็ตื่นเต้นเหมือนกัน“ฉันกำลังสารภาพกับเธออยู่”
นัชชาฟังจบแล้วพยักหน้า“ฉันรู้แล้ว”
สิ่งที่เธอไม่เข้าใจคือทำไมเตชิตต้องสารภาพรักกับเธอในตอนนี้เมื่อวานเพื่อที่จะเจอเขาเธอยังโดนแกล้งอยู่เลยนะ
แล้วทำไม......มาเป็นแบบนี้ได้!?
ความสงสัยในตาของเธอชัดเจนจนเกินไปเตชิตอยากจะมองข้ามก็คงจะทำยากแต่ก็ยอมอดทนและอธิบายกับเธอ“เธอคิดมาตลอดว่าที่ฉันทำร้ายเธอเพราะอยากได้ลูกแล้วเธอเคยคิดบ้างไหมที่ฉันชอบเด็กคนนี้เพราะเธอเป็นคนคลอดเขาถ้าเป็นผู้หญิงอื่นไม่มีทางได้รับการยอมรับจากฉันมีแค่ลูกของเธอและฉันเท่านั้น”
ตอนที่พูดคำพวกนี้แผ่นหลังของเขาเหงื่อออกเต็มไปหมดเขาเคยผ่านสถานการณ์ที่กดดันมาได้แต่ไม่คิดว่าจะมีเรื่องหนึ่งที่ทำให้เขากลัวได้ขนาดนี้แค่เรื่องสารภาพรักเรื่องเดียว
น้อยมากที่เขาจะพูดคำอ่อนหวานอย่าว่าแต่สารภาพรักเลยถึงแม้จะมีพูดคำหวานๆก็เป็นเมื่อห้าปีก่อนในตอนนั้นเขาก็ยังไม่ถนัดการพูดคำหวานๆตอนนี้เขาพูดออกมาในตอนที่ไม่รู้ว่าเธอจะตกลงไหมสีหน้าของเขาดูนิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรแต่ในใจของเขาตื่นเต้นจะตายอยู่แล้ว
สิ่งที่ควรพูดก็พูดไปหมดแล้วผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าจ้องมาแต่ทางเขาไม่มีการตอบสนองใดๆตาคู่นั้นดูจนเขาเริ่มขนลุก
เตชิตรู้สึกว่าหัวของตัวเองจะมีควันลอยออกมาแล้วเขาไม่กล้าไปสบตาเธอหน้ากากทุกอย่างของเค้าเริ่มแข็งตัวอย่างช้าๆ
เขารอจนตัวจะแข็งอยู่แล้วแต่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่มีการตอบสนองใดๆเลย
นี่หมายความว่าอย่างไร
อาจจะเป็นเพราะอายก็เลยโมโหหรือว่าเขินอายเกินไปเตชิตลดมือที่ไปจับแก้มของเธอลงแล้วไปจับที่ไหล่เธอเขย่าตัวเธอ“ฉันพูดกับเธออยู่ได้ยินไหม?”
“ได้ยินแล้ว”นัชชาตอบกลับทันทีแต่เตชิตยังไม่ทันโล่งอกคำพูดต่อไปที่เธอจะพูดก็เกือบทำให้เขาช็อคตาย“ทำไมนายต้องสารภาพรักกับฉัน?”
แต่ที่รู้สึกว่าตัวเองรักนัชชามากๆถ้าตอนนี้เป็นคนอื่นมาพูดแบบนี้แล้วถูกถามแบบนี้คงจะบีบคอเธอตายตั้งนานแล้วแหละ
เขาบ้าจนหัวเราะออกมาแต่หลังจากที่หัวเราะเสร็จตาคู่นั้นดูจริงจังมากขึ้น“เพราะฉันอยากจะจีบเธอใหม่เหตุผลนี้เพียงพอไหมหืม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด