ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 390

ตอนที่390รู้จักแย่งคนกับพ่อตั้งแต่เด็กเลยนะ

เตชิตลงมาชั้นล่างอีกทีก็ตอนที่กินข้าวตอนเย็นแล้วนัชชาพาเด็กเล่นจนเหนื่อยตอนนี้เข้าไปล้างมือแล้วมานั่งที่โต๊ะอาหารมองไปทางสองคนที่ยืนอยู่ข้างโต๊ะอาหารยักคิ้วแล้วถามว่า“วันนี้ไม่ไปแล้วเหรอ”

ทั้งที่เป็นแค่คำธรรมดาแต่นัชชาก็ฟังออกว่าเขากำลังกวนๆอยู่

เธอทำตัวไม่ค่อยถูกก็เลยมองไปทางอื่นแล้วพูดออกมาเบาๆเหมือนเสียงยุง“อืม”

พูดจบเธอก็พูดต่อว่า“เด็กบอกว่านัดกับคุณไว้ว่าจะไปปีนเขาก็เลยจะอยู่ต่อ”

คำนี้ของเธอกำลังบอกเขาว่าไม่ใช่เธออยากจะอยู่ต่อแต่เป็นเด็กต่างหากที่อยากจะอยู่ต่อเธอก็แค่เป็นห่วงเด็กก็เลยอยู่เป็นเพื่อน

แต่เธอเองไม่รู้ว่าตอนนี้น้ำเสียงของเธอไม่ตรงกับเนื้อหาที่เธอพูดเลย

เตชิตรู้ว่านิสัยเธอดีเธอกลัวว่าถ้าตัวเองยังกวนอีกผู้หญิงคนนี้คงจะกลับไปทันทีก็เลยไม่พูดอะไรต่อแล้วมองไปทางเธอ“กินข้าวเถอะ”

นัชชาถอนหายใจแล้วดูแลเด็กตัวเองก็กินข้าวด้วย

ไม่ได้กินข้าวฝีมือของน้ารินมา5ปีแล้วตอนนี้ตักเข้าไปในปากก็คิดถึงมากๆ

“น้ารินฝีมือของน้าดีกว่าเดิมตั้งเยอะเลยนะคะ”ตอนนี้นัชชาไม่ค่อยกินอะไรตอนกลางคืนแต่พอเห็นกับข้าวแล้วก็อดใจไม่ไหว

“คุณนัชชาชอบก็ดีแล้วค่ะน้าไม่มีอะไรที่ถนัดแต่เรื่องทำกับข้าวยังโอเคอยู่”

“อ๋อใช่แล้วลูกชายของน้าแต่งงานแล้วใช่ไหมคะ?”

“แต่งแล้วค่ะแต่งเมื่อปีที่แล้วอายุไม่น้อยแล้วที่บ้านก็เร่งเขาตลอด”

“ลูกสะใภ้เป็นคนที่นี่หรอคะ?”

“ใช่ค่ะเป็นคนที่นี่กตัญญูมากเลยตอนนี้ทั้งสองซื้อบ้านได้2หลังและรถ2คันน้าก็หายห่วง”น้ารินก็ไม่มีความกดดันจากการใช้ชีวิตมากขนาดไหนแค่เขายังแข็งแรงก็เลยอยากทำนี่ทำนู่นหน่อย

น้ารินเป็นแม่เลี้ยงลูกคนเดียวมาโดยตลอดนัชชาที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมา5ปีก็เข้าใจความรู้สึกของน้าได้ดี

“คุณนัชชาก็ต้องรีบๆนะคะแต่งงานแล้วชีวิตก็มีความสุขดี”น้ารินพูดเตือนเธอ

เพิ่งไปสักแป๊บก็รับรู้ถึงสายตาของผู้ชายที่ดุเดือดเธอก้มหน้าดูกับข้าวในถ้วยทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น“ฉันไม่รีบหรอกค่ะเรื่องนี้ไว้ค่อยพูดทีหลัง”

แต่เธอไม่รู้ว่าคำนี้ทำให้เตชิตขมวดคิ้วแน่นการกระทำของเธอที่หลีกเลี่ยงเรื่องนี้และน้ำเสียงของเธอทำให้รู้ว่าเธอไม่เคยคิดเรื่องนี้จริง

กินข้าวกินถึงครึ่งทุกคนก็เงียบไปส่วนใหญ่จะเป็นนัชชาคุยกับลูกหรือเตชิตถามธีมนต์แต่คนเป็นพ่อเป็นแม่แทบจะไม่ได้คุยอะไรกันเลย

หลังจากที่กินข้าวเสร็จนัชชาก็ไปเล่นกับเด็กไม่ได้เดินออกจากห้องนอนเลย1คือไม่ได้เจอเด็กหลายวันอยากจะอยู่กับเด็ก2คืออยากจะหลีกเลี่ยงไม่รู้ว่าจะไปเผชิญหน้ากับผู้ชายที่อยู่ด้านล่างยังไง

จนกระทั่งเวลาสามทุ่มใกล้จะสี่ทุ่มแล้วธีมนต์ง่วงจนแทบจะลืมตาไม่ได้นัชชาอาบน้ำให้เขาเสร็จก็หยิบหนังสือนิทานมาเล่าให้ลูกฟัง

วันนี้เล่นมาทั้งวันไม่นานธีมนต์ก็หลับไปมองไปทางหน้าของเด็กที่หลับสนิทสายตาของนัชชาอ่อนโยนไปหมดก้มหน้าไปจูบที่หน้าผากของเด็กก่อนที่จะดึงลูกเข้ามาในอ้อมกอด

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะได้กลิ่นตัวของแม่หรือเปล่าเด็กน้อยยกมือไปกอดตัวเธอแล้วนอนหลับต่อ

เตชิตกินข้าวเสร็จก็นั่งดูทีวีที่ห้องโถงส่วนใหญ่คือรายการธุรกิจเป็นการสนทนาของผู้เชี่ยวชาญและส่วนใหญ่คือเนื้อหาที่เขารู้มาเมื่อ2เดือนก่อน

ในวงการธุรกิจสิ่งที่พูดถึงและสำคัญมากที่สุดก็คือความเร็วของข่าวมีแต่สังเกตและติดตามความเคลื่อนไหวของธุรกิจถึงจะรู้ว่าจะไปต่อได้ยังไง

เขาเองก็ฟังไม่เข้าหูหรอกเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา

น้ารินเห็นเขามองไปทางบันไดบ่อยๆอยากจะถามว่าต้องไปเรียกคุณนัชชาลงมาไหมแต่เธอไม่ได้สนิทกับเตชิตขนาดนั้นก็เลยไม่ได้พูดอะไร

จนกระทั่งถึงสี่ทุ่มชั้นบนก็ยังไม่มีอะไรเลยผู้ชายทนไม่ไหวแล้วจับรีโมทโยนไปที่โซฟาเดินขึ้นไปที่ชั้น2ตรงๆ

ห้องของเด็กอยู่ด้านขวามือติดกับห้องนอนของเขาเขาเดินไปตรงหน้าประตูมือกำลังจะไปเปิดประตูแต่ไม่รู้คิดอะไรได้ก็เลยหยุดจากนั้นเอาหูชิดกับประตูฟังดูด้านในกำลังทำอะไร

ไม่มีเสียงอะไรเลยไม่มีแม้กระทั่งเสียงพูดคุย

ถึงแม้การป้องกันเสียงของบ้านจะทำได้ดีมากแต่ก็ไม่ถึงขั้นนั้นที่ไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้นเลย

พอนึกถึง5ปีที่เธอหายไปทำให้เตชิตกลัวขึ้นมาทันทีเขาใช้มือไปจับกลอนประตูจากนั้นเปิดประตูในห้องมืดมีแสงเล็กน้อย

เธอได้เปิดแค่ไฟที่ติดข้างกำแพงในห้องยังมีของเล่นที่ยังไม่ได้เก็บทั้งสองนอนอยู่บนเตียงอย่างสงบโดยเฉพาะภาพที่ธีมนต์อยู่ในอ้อมกอดของนัชชาเขางอตัวน้อยๆของเขาท่านอนของเขาทำให้ไปสัมผัสโดนจุดที่อ่อนโยนมากที่สุดของหัวใจง่ายๆ

ความกลัวในสายตาของเตชิตหายไปเปลี่ยนไปเป็นสายตาที่อ่อนโยนที่มองไปทางสองแม่ลูกเขาเดินเท้าเสียงเบาๆถึงข้างเตียงมองทั้งสองอย่างระยะใกล้

ไฟในห้องปรับเป็นขนาดที่สว่างน้อยที่สุดแสงไฟส่องไปที่ผิวหนังของผู้หญิงถึงแม้ปีนี้ไม่ได้กระทบกระเทือนเธออะไรมากแต่เขาก็มองเห็นกะที่อยู่ใต้ตาของเธอเส้นผมของเธอก็น้อยกว่าเดิมการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแบบนี้เขาไม่เคยพูดแต่ก็รู้ว่ามันเปลี่ยนไปแล้ว

นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงหลังจากที่เธอคลอดลูกถ้าเป็นผู้หญิงธรรมดาก็อาจจะดีหน่อยรับทุกอย่างที่ชนุดมให้หรือเห็นเขาเป็นตัวสำรองแต่เธอไม่มีทางทำแบบนั้นเธอเข้มแข็งพึ่งพาตัวเองการที่จะไปขออะไรจากคนอื่นเป็นเรื่องยากสำหรับเธอ

ยากที่จะคิดอยู่ต่างประเทศไม่มีที่พึ่งพาเพิ่งทำคลอดเสร็จก็ตกอยู่ในความยากลำบากไม่มีแม้กระทั่งเวลาที่ตัวเองจะออกไปทำงานเพราะจะต้องดูแลเด็กจะเป็นความรู้สึกและสถานการณ์ที่ยุ่งยากมากขนาดไหน

และทั้งหมดนี้ก็เกิดขึ้นเพราะเขาเพราะคลอดลูกของเขาเพราะดูแลลูกของเขาความโกรธที่อยู่ในใจของเขาที่ไม่สามารถจะพูดออกมาได้

5ปีที่ผิดพลาดไปสำหรับเธอแล้วมันขาดทุนมากๆต้องใช้ทั้งชีวิตของเขาไปชดเชยทุกอย่างให้กับเธอที่ผ่านมา

พอเตชิตคิดถึงตรงนี้อารมณ์ของเขาก็เริ่มจะควบคุมไม่ได้มือไปกุมขมับกั้นความเอ็นดูและความสงสารไว้

ก้มหน้าลงอีกครั้งสายตามองไปทางสมุดนิทานที่อยู่ข้างมือนัชชาหยิบขึ้นมาดูแล้วเป็นนิทานเรื่องเจ้าชายกบเขาสามารถคิดได้เลยว่าตอนที่เธออ่านตัวหนังสือพวกนี้นั้นจะอ่อนโยนมากขนาดไหน

ผู้ชายยิ้มที่มุมปากหัวใจทั้งดวงของเขากลายเป็นสีชมพูทั้งหมดเพราะภาพที่อยู่ตรงหน้าจากนั้นเอาสมุดวางบนหัวเตียงเตรียมตัวจะอุ้มขึ้นมาแต่ยังไม่ทันอุ้มก็รู้สึกว่ามีคนกำลังดึงแขนของเธออยู่เด็กน้อยกอดไว้แน่นๆปากก็เรียกพร่ำว่า“แม่จะเอาแม่.....”

เตชิตตากระตุกจำเป็นต้องปล่อยตัวนัชชาก่อนจากนั้นก็เอาแขนอ้วนๆของลูกชายออกแล้วพูดเสียงต่ำว่า“เจ้าเด็กนี่รู้จักแย่งแม่กับพ่อตั้งแต่เด็กเลยหรอ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด