เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ขณะคนทั้งคู่หลับนั้นไม่ได้ยิน คนที่ตอบกลับมีเพียงธีมนต์ที่ทำเสียงอืมอย่างไม่เต็มใจ
หลังจากที่อุ้มนัชชาเป็นแนวนอนขึ้นมาสำเร็จแล้ว เตชิตก็รีบก้าวเท้าออกจากห้องไป หมุนตัวเข้าห้องนอนใหญ่ วางคนลงบนเตียงที่อ่อนนุ่ม เมื่อเห็นว่าเธอไม่ต้องการที่จะตื่น เขาจึงกลับไปที่ห้องของลูกชาย ช่วยห่มผ้าห่มให้อย่างพิถีพิถันและปิดไฟหัวเตียงให้ จากนั้นก็เดินกลับออกมา
เมื่อกลับไปถึงห้องนอน ผู้หญิงที่อยู่บนเตียงก็ย้ายตำแหน่งการนอนของเธอ ร่างกายโค้งงอไปทางขวาเล็กน้อย ผมดำเงาแผ่กระจายไปบนเตียง
เสื้อยังคงสวมใส่เสื้อคลุมด้านนอกซึ่งดูไม่ค่อยสบายนัก ผู้ชายคนนั้นคิดอยู่ครู่หนึ่งไม่รู้คิดอะไร นัยน์ตาดำดิ่งลึกลง หันไปยังห้องเสื้อและหมวก หยิบชุดนอนผ้าไหมสีขาวมา
เดินกลับไปที่ข้างเตียง ปลดกระดุมเสื้ออย่างระมัดระวัง ไม่มีความคิดอื่น แค่อยากให้เธอนอนหลับสบาย แต่เมื่อเริ่มจัดการไปถึงส่วนล่าง ก็ปรากฎผิวสัมผัสที่ขาวเนียนจนเตะตา…
เขาไม่สามารถควบคุมลมหายใจตนเองได้ ค่อยๆลึกและหนักหน่วงขึ้น เขาเร่งความเร็วในการเคลื่อนไหว ถอดเสื้อของเธออย่างไม่ง่ายดายนัก ในเวลาที่เสื้อถูกเปิดออก เส้นโค้งที่พวยพุ่งออกมาจากขอบเสื้อชั้นในสีดำ สร้างความคมชัดของภาพที่มองเห็น ผิวขาวเนียนยังคงโชว์รอยที่หลงเหลือจากวันนั้นในห้องผู้ป่วยที่ทิ้งรอยจูบเอาไว้
เมื่อมองต่ำลงไป เขาเห็นรอยแผลเป็นที่เอวและหน้าท้องของเธอ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็น แต่ทุกครั้งที่เห็นกลับมีผลต่อจิตใจ
เตชิตขยับเข้าชิตร่างเธอขึ้นอีกนิด โค้งตัวและจูบลงที่รอยแผลเป็น ริมฝีปากที่บางเบาตกหลุมรักในส่วนนั้น จุดนี้ทำให้เขามีชีวิตใหม่และสัมผัสที่ไม่รู้จบ
เมื่อนึกถึงว่าธีมนต์ได้มาจุติสู่โลกนี้ ณ ที่แห่งนี้ เขาก็รู้สึกเลือดลมสูบฉีด
นัชชาเมื่อถูกเขาอุ้มเปลี่ยนที่นอนก็รู้สึกว่านอนหลับไม่สนิท ในตอนนี้ยิ่งถูกเขาจูบ เธอลืมตาขึ้นอย่างสลึมสลือและเห็นโคมไฟคริสตัลที่อยู่ด้านบนของศีรษะ
เธอกะพริบตาอยู่ครู่หนึ่ง ถูกแสงแยงเข้าตา หันศีรษะหนี เห็นชายคนนี้อยู่บนร่างของตน
“อ๊ะ!” เธอยังไม่ทันตื่นตัวจากอาการง่วงเหงาหาวนอน งอหดตัวด้วยสัญชาตญาณ มือก็ดันไหล่ของชายคนนั้นผลักออกไป
เตชิตไม่ได้คิดว่าเธอจะตื่นขึ้นมา เขาตกตะลึง และในช่วงเวลานั้นไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถูกเธอผลักไปที่ด้านข้าง
เขาเกือบจะตกเตียง หลังจากพยายามทรงตัวไว้ได้ก็รู้สึกขวยเขินขึ้นเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าส่วนบนของเธอสวมเพียงชุดชั้นในเท่านั้น ดวงตาแวววาวคู่นั้นมองเขาด้วยอาการหวาดกลัวเล็กน้อย ความขวยเขินนั้นกลับกลายเป็นความต้องการทางเพศ
เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้หญิงที่เขารักเช่นนี้ ผู้ชายคนไหนก็ไม่อาจอดทนที่จะไม่ทำอะไรได้
เตชิตคุกเข่าลงบนเตียง โน้มตัวเข้าหาเธอ มือข้างหนึ่งสัมผัสไปที่ตัวเธอ มืออีกข้างหนึ่งเชยคางเธอขึ้น เธอเผยอปากของเธออย่างเปิดเผยโดยไม่รู้ตัว ทันใดนั้นเขาก็จูบเข้าที่ปากเธอโดยไม่ลังเล
“อึ้ม!” นัชชาลืมตากว้าง ต้องการที่จะหลบไปทางด้านหลัง แต่ถูกเขารวบเอวเอาไว้และคืบไปด้านหน้าจนเธอต้องนอนราบ
เมื่อแผ่นหลังสัมผัสกับผ้าปูที่นอนที่เย็นเฉียบเธอก็อดไม่ได้ที่จะหดตัว เสื้อผ้าบนร่างกายไม่รู้ว่าถูกเขาถอดออกไปตั้งแต่เมื่อไร เธอรู้สึกอายและกังวลพยายามเบี่ยงตัวออกจากจูบของเขา “อย่าค่ะ!”
ที่จริงแล้วเธอก็ไม่ได้ต้องการพูดเช่นนั้น ความจริงแล้วเตชิตก็ไม่ได้คิดที่จะทำอะไร ก่อนที่จะสารภาพ เขาจะไม่ทำอะไรเธอเด็ดขาด แต่สายตาของเธอตอนนั้นช่างยั่วยวนเหลือเกิน เมื่ออยู่กันแนบชิดบนเตียงก็อดไม่ได้ที่จะจูบกอดสักนิด
แต่ใครจะคาดคิด จูบนั้นริมฝีปากนั้นทำให้เขาไปไหนไม่ได้ โดยปกติแล้วปากเธอชอบพูดแต่ในสิ่งที่เขาไม่อยากฟัง แต่เมื่อได้ลิ้มรสแล้วกลับมีรสชาติิที่หอมหวานละมุนมาก
ลมหายใจอันหนักหน่วงของฝ่ายชายพ่นใส่ลมหายใจของฝ่ายหญิงแลกเปลี่ยนน้ำลาย เสียงพันกันของริมฝีปากชัดเจนมากในห้องนอนที่เงียบกริบ ทำให้หูของคนเร่าร้อนขึ้นมา
“ติ๊ด!”
เตชิตเอื้อมมือกดปิดสวิทไฟที่หัวเตียง ห้องกลับเข้าสู่ความมืด สำหรับนัชชาแล้ว ถึงแม้ว่าจะมองไม่เห็นแต่แรงกระตุ้นนั้นก็ไม่ได้ลดลง เธอสามารถได้ยินเสียงลมหายใจของผู้ชายคนนั้นและเสียงผิวกายของพวกเขาอย่างแจ่มชัด
นัชชาผลักหน้าอกเขาออก แต่ต้องตกใจกับอุณหภมิที่สูงขึ้น ในที่สุดมือน้อยท้้งสองข้างก็อดไม่ได้ที่จะรวบรัดไปที่ต้นคอของเขา จูบที่ยาวนานทำให้หัวของเธอมึนงงเล็กน้อย มือของเธอค่อยๆไต่ลงที่ต้นคอของเขาจนหมดสติไป
เตชิตรู้สึกถึงการอ่อนระทวยลงของร่างผู้หญิงที่อยู่ภายใต้ร่างของเขา ตราบใดที่เขาเข้มแข็งอีกนิด เธอก็ไม่สามารถมีแรงที่จะต่อต้านได้ ผู้ชายส่วนมากมีความคิดริเริ่มในสิ่งต่างๆ เมื่อเห็นเธอผิวขาวตัวน้อยเช่นนั้นเขาก็เห็นเธอเป็นเหมือนเค้กชิ้นหนึ่ง
แต่ว่า…
ไม่ได้ อย่างน้อยคืนนี้ก็ไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด
แจ้งความแม่มเลยค่ะ ลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย งงนะ พระเอกนางเอกไม่มีใครด่าเลยว่าทำไมพาเด็กมาโดยไม่ขอก่อน...