ยั่วรักทนายคนโหด นิยาย บท 392

ตอนที่392 ช่วยเธอสวมชุดชั้นใน

เช้าวันรุ่งขึ้น นัชชาตื่นขึ้นเพราะได้ยินเสียงดังที่นอกประตู

เธอลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย ที่ทางด้านขวาของเธอว่างเปล่า เธอดูเวลานั่นเกือบแปดโมงแล้ว ที่ประตูห้องมีรอยแยกอยู่ เธอได้ยินเสียงการสนทนาของชายสองคนอย่างคลุมเครือ

“คุณลุง ผมอยากไปหาแม่ของผมครับ!”

“แม่หนูหลับอยู่นะ อีกสักครู่ค่อยมาใหม่นะครับ”

“ไม่ เราตกลงกันไว้แล้วว่าจะไปปีนหน้าผากันตอนเช้า ตอนนี้แปดโมงแล้ว ผมจะไปปลุกแม่ผม”

“ธีธีคนดี ฟังลุงนะ เมื่อวานแม่ของหนูเหนื่อยมาก ให้นอนพักอีกสักหน่อย หนูลงไปทานข้าวข้างล่างก่อนนะ”

“ผมไม่เอา!” ธีมนต์เสียงแข็งขึ้นมา เริ่มเปล่งเสียงดังขึ้น ในที่สุดก็กลั้นโมโหเอาไว้ไม่ได้ และยังพูดสิ่งที่คับข้องใจออกมา “เมื่อคืนแม่นอนอยู่ข้างผมชัดๆ ต้องเป็นคุณลุงแน่ๆที่ขโมยแม่มาตอนกลางดึก!”

เตชิตถึงแม้ว่าน้ำเสียงจะฟังดูอดทนมาก แต่ฟังดูแล้วก็โอดครวญมาก “เหอเหอ ลุงต้องแย่งกับหนูด้วยหรอ”

“...” นัชชาอึ้งไปสักครู่ พยุงตัวลุกขึ้นจากเตียง ยื่นมือออกไปหยิบเสื้อผ้าที่ข้างเตียง เมื่อมองลงไปถึงได้พบว่า ชุดชั้นในที่ใส่ไว้เมื่อคืนมันหายไป

ใครเป็นคนทำคงไม่ต้องพูดถึง เธอรีบถอดชุดนอนออก มองเห็นรอยจูบที่ฝังลึกบนหน้าอก ได้แต่ทำอะไรไม่ได้พูดอะไรไม่ออก

ไอ้คนนี้นี่มัน….. ตอดเล็กตอดน้อยก็เอา!

เธอหยิบกางเกงในที่อยู่ข้างตัว เมื่อกำลังจะหยิบ ทันใดชายคนนั้นก็บุกเข้ามาในห้อง

นัชชาตกตะลึงเล็กน้อยเมื่อเห็นเขา และเห็นเขาก็ตกตะลึงเช่นกัน ในใจรู้สึกประหม่า คว้าชุดชั้นในปิดตัวเองเอาไว้ แต่อย่างไรก็ปิดไม่มิด

ชายคนนั้นมองดูรูปร่างที่ผอมเพรียวของเธอ อีกมือหนึ่งก็ดึงประตูปิดและล็อคไว้ เดินไปไม่กี่ก้าวก็ยืนอยู่ที่ด้านหลังของเธอ ดวงตาของเขามองผู้หญิงที่อยู่ที่กระจกตรงหน้า “ให้ผมช่วยนะ”

“ไม่ ไม่ต้อง…”

การปฏิเสธของนัชชาไม่ได้มีผลอะไร ชายคนนั้นจับสายรัดทั้งสองข้างของชุดชั้นในเธอไว้ ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือไม่ การกระทำที่เรียบง่ายและชัดเจน แต่เขาใช้เวลาเกือบครึ่งนาที นิ้วที่หยาบเล็กน้อยวาดไปที่หลังของเธอ เขารัดแน่นขึ้นสองสามส่วนเพื่อให้หน้าอกเต่งตึงขึ้น

นัชชากำลังจะพ่นควัน เธอพยายามที่จะเร่งเขา “คุณเสร็จรึยัง”

เตชิตมองดูอกกลมที่เกิดจากการกระชับของเขา เมื่อมันแน่นพอแล้วเขาก็เกี่ยวตะขอเข้าให้เรียบร้อย “เสร็จแล้ว”

นัชชาไม่พูดพร่ำหยิบเสื้อเชิ้ตที่ด้านข้างสวมเข้าไป หลังจากที่แต่งตัวเสร็จก็รู้สึกมั่นใจขึ้นเล็กน้อย เธอถามเขาเกี่ยวกับร่อยรอยการจูบที่ไหปลาร้า “คุณทำเมื่อคืนใช่ไหม”

“ไม่ใช่”

นัชชาขมวดคิ้ว ถ้าไม่ใช่คุณแล้วจะเป็นใครไปได้ และวินาทีต่อมาก็ฟังที่ชายหนุ่มพูดต่อไป “ทำตอนตื่นมาตอนเช้า”

“...”

เขากลัวเป็นอย่างมากว่าเธอจะไม่เข้าใจในตัวเขา เขารีบออกปากอธิบายอย่าง ‘สนิทสนม’ “คุณก็รู้ว่าเวลาผู้ชายตื่นตอนเช้าจะตื่นตัวง่ายหน่อย ดังนั้นก็เลยหนีไม่พ้นที่จะ…”

นัชชาไม่อยากฟัง กัดฟันกรอด “ไปตายซะ!”

เมื่อพูดจบเธอก็ผลักไหล่ของเขาให้หลบไป และรีบก้าวเท้าออกจากห้อง

เตชิตมองผู้หญิงคนนั้นที่กำลังเดินหนีไป เห็นได้ชัดว่าเธอเดินอย่างรวดเร็ว สายตาเธอดูโกรธเล็กน้อย หายใจฟึดฟัด เขาเอ็นดูจนทำให้ยิ้มออกมาอย่างพอใจ

นัชชารู้สึกอัปยศจนอยากกระทืบเท้าใส่พื้น เธอหน้าแดงเหมือนลูกแอ๊ปเปิ้ลสุก เมื่อธีมนต์เห็นแม่เดินออกมา ก็มีความสุขมากอย่างไม่ต้องสงสัย “แม่ครับ แม่ไม่เป็นไช่รึเปล่าครับ”

นัชชาเกือบกัดลิ้นตัวเอง เธอรีบระงับความตื่นตระหนกและแสร้งทำท่าทางสงบนิ่ง “เปล่าครับ แม่รู้สึกร้อนนิดหน่อย”

เมื่อเตชิตได้ยินคำนี้เขาก็รีบมาสำทับ “แม่เธอแทบลุกเป็นไฟแล้ว”

“เตชิต!” นัชชาจะโมโหก็ไม่ได้ ได้แต่หันกลับไปดุ

เห็นเธอต่อว่า ผู้ชายคนนี้จึงรีบหยุดปาก ไม่ต้องการให้เธอหนีไปก่อนที่เขาจะได้สารภาพ ถ้าเป็นอย่างนั้นจะไม่ค่อยสนุกแน่

กว่าทั้งสามคนจะลงมาทานอาหารเช้าก็เป็นเวลาแปดโมงกว่าแล้ว นัชชายังไม่อยากไปที่ห้อง ตรงไปที่ซักผ้าชั้นหนึ่ง หลังจากทานเข้าเสร็จ เตชิตไปที่โรงรถเพื่อรับรถมา ก่อนที่จะไปก็ยังถามนัชชาว่าชอบคันไหน

เธอไม่ได้ว่ายังไงแค่บอกว่า “แล้วแต่คุณ”

เตชิตฟังและไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาหยิบกุญแจรถและเดินออกจากประตูไป

นัชชาเตรียมหมวกและกระติกน้ำที่เด็กต้องใช้ จูงมือธีมนต์ไว้และรออยู่ที่หน้าบ้านพัก

ไม่นานนัก Mercedes-Benz G63AMG6x6 ก็มาจอดอยู่ที่เบื้องหน้าพวกเขา รถออฟโรดสีดำรูปทรงค่อนข้างเหลี่ยม ยางรถยนต์ขนาดใหญ่สี่ล้อ สูงกว่าสองในสามส่วนของรถยนต์ทั่วไป

เหมือนกับแบบจำลอง ความคล่องตัวและแข็งแกร่งสูงมาก เป็นรถแบบที่ผู้ชายชอบ ผู้หญิงก็ชื่นชม

รถคันนี้ถูกซื้อในภายหลัง เธอไม่เคยเห็นมันมาก่อน ไม่เคยอยู่ในโรงรถของเขา แต่ว่าเมื่อคิดแล้ว เขาก็มีเงินมากมาย จะมีรถใหม่เพิ่มอีกสักสองสามคันขนหน้าแข้งก็ไม่ร่วง

ธีมนต์วนรอบรถหนึ่งรอบ “ว้าว รถคันนี้เท่ห์มาก เหมือนกับคิงคิงเลย”

“ธีธี ชอบก็ดีแล้ว ลุงมีรถเจ๋งๆอย่างนี้เยอะเลย”

ตอนนี้นัชชาตระหนักแล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างเตชิตและธีมนต์ได้ก่อตัวขึ้นแล้ว มันก่อรูปตัวขึ้นเพื่อที่จะรักษาเธอเอาไว้

เธอไม่ได้สนใจนัก แต่ไม่สนใจอย่างไรเธอก็จับตาดูพวกเขาทั้งสองคนทุกความเคลื่อนไหว ผู้ใหญ่ชายและผู้ใหญ่หญิงมีความแตกต่างกันในการเข้าหาเด็ก พ่อสามารถสอนลูกชายให้เป็นสุภาพบุรุษได้ดียิ่งขึ้น

เขาเป็นแรงบันดาลใจด้านความแข็งแกร่งให้กับเด็กคนนี้

นัชชาคิดและแอบเพ้อฝันไปบ้าง หลังจากที่เตชิตอุ้มเด็กขึ้นรถแล้วหันมาเห็นหญิงสาวยังคงยืนฝันกลางวันอยู่ เขาจึงยื่นมือออกเชยคางเธอ “ว่าไง หรือว่ารอให้ผมอุ้มขึ้นรถ”

นัชชาตกใจกับการกระทำและน้ำเสียงของเขา “ต่อหน้าเด็ก ระวังหน่อยได้ไหมคะ”

“ลูกจะยอมรับผมเป็นพ่อในไม่ช้าก็เร็ว เขาจะได้ปรับตัว ด้วยการที่ค่อยๆทำอยู่ทีละนิดๆอย่างเช่นตอนนี้”

เมื่อพูดจบก็เห็นได้ชัดถึงสายตาที่จริงจัง ไม่ได้ล้อเล่น

นัชชาคิดว่าเขาแค่ต้องการทำดีต่อหน้าลูก แต่ว่าเธอลืมคิดถึงข้อนี้ไป เธออดไม่ได้ที่จะหัวใจเต้นแรง ประโยคที่ชนุดมเคยพูดไว้นั้นถูกต้อง ชายคนนี้ไม่เคยคิดที่จะแยกจากเธอเลยตั้งแต่แรก

ความคิดพิจารณาทั้งหมดของเขาก็เพื่อที่จะทำให้เราทั้งสองคนได้กลับมาอยู่ด้วยกันใหม่อีกครั้ง

เมื่อคิดถึงตรงนี้ นัชชาก็อารมณ์เสีย เมื่อขึ้นรถก็เฝ้ามองที่เขา “พ่อคนนี้ ธีธีจะเอารึเปล่ายังไม่แน่ใจนะ”

เตชิตปิดประตูรถให้เธอ โดยไม่ได้อธิบายอะไรมาก เธอลองดูคืนนี้เอาละกัน

ทั้งสามคนมุ่งหน้าไปที่ภูเขาที่สูงที่สุดในเมือง J ภูเขาเชียนเฟิง ซึ่งใช้เวลาขับรถหนึ่งชั่วโมงไปทางทิศใต้ก็จะถึง วันนี้เป็นวันทำงาน ผู้คนไม่มาก มีที่จอดรถว่างมากมาย

หลังจากที่เตชิตจอดรถและอุ้มเด็กลงแล้ว นัชชาใส่หมวกมาเพื่อกันแดดและสะพายกระติกน้ำใบน้อยให้กับธีมนต์ หลังจากนั้นทั้งสามคนก็เดินไปที่ทางเข้าบริเวณเขตภูเขา

หลังจากที่ซื้อตั๋วแล้ว ทั้งสามคนก็ไปถึงบันไดเชิงเขา ทางตอนเริ่มต้นค่อนข้างราบเรียบ ขันบันไดก็ชันปานกลาง เมื่อปีนไปถึงหนึ่งในสาม ขาก็เริ่มยกไม่ขึ้น นัชชาไม่วางใจคอยติดตามอยู่ด้านหลังเด็ก เตชิตนำอยู่ข้างหน้าคอยนำทาง

ภูเขาเชียนเฟิงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักของเมือง J มีนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นจำนวนมากมาปีนเขา ขั้นบันไดถูกเหยียบมานับครั้งไม่ถ้วนจนออกจะเรียบลื่น นัชชาไม่ได้ออกกำลังกายหนักเช่นนี้มานานแล้ว พละกำลังไม่เพียงพอแต่ก็ไม่อยากให้คนนั้นดูถูกเธอได้ ก้าวหนึ่งที่ไม่ทันระวังก็ลื่นล้ม

โชคดีที่เธอยึดจับราวบันไดด้านข้างเอาไว้ได้ จึงไม่ได้ตกลงไปจริงๆ

เตชิตได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวจึงรีบหันกลับไปมอง เห็นใบหน้านัชชาขาวซีดยืนนิ่งอยู่กับที่ เขาปีนถอยกลับไปสองก้าวก็ไปหยุดอยู่ที่ข้างกายเธอ “ขาแพลงหรอ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด