ตอนที่432 เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต
ตอนปรัณรับสายโทรศัพท์ที่โรงพยาบาลทั้งร่างก็สับสนมึนงง เขารู้ว่านัชชาไปอังกฤษแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าช่วงเวลาไม่กี่วันมานี้ลูกถูกประทินลักพาตัวไป เขาไม่ได้แพร่งพรายไปทั่ว เขาเข้าใจ ทั้งหมดก็เพื่อลูก
แต่เขาจะเกิดอุบัติเหตุหมดสติไปได้อย่างไรล่ะ?
หัวใจปรัณเหมือนกับถูกทอดซ่าๆในกระทะร้อน เขาก้าวฝีเท้าอย่างต่อเนื่องที่หน้าประตูห้องโถงในโรงพยาบาล ลูกน้องในโรงพยาบาลแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยเห็นท่าทางเขากระวนกระวายใจแบบนี้มาก่อน
แต่ตอนที่รถหวอพยาบาลดังขึ้น แล้วหยุดลงหน้าประตูโรงพยาบาล ตอนที่เขาก้าวเท้าพรวดพราดเข้าไปดูใบหน้าที่คุ้นเคยในเปลหาม ก็ยังคงตกตะลึงอยู่
ใบหน้าเขาซีดเซียน หน้าผากผุดเหงื่อที่ไหลออกมามากผิดปกติ สติหายไปหมด สิ่งที่กลัวยิ่งกว่าก็คือ ระหว่างทางปากและจมูกเขามีอาการเลือดไหลออกมา เลือดสีแดงเข้มไหล่ลงบนหน้าต่อกันไม่ขาดสาย น่าสยดสยอง
รู้จักกันมาหลายปี เป็นครั้งแรกที่เห็นท่าทางเขาแบบนี้ต่อหน้า ปรัณถึงขนาดค่อยๆไม่มีสติ
“คุณหมอปรัณ ประธานเตชิตอาการไม่ค่อยดี ต้องรีบช่วยให้ปล่อยภัย!” คุณหมอในอาชีพเดียวกันรู้จักผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ท่านนี้ เห็นเขากำลังเหมือนคว้าความหวังสุดท้ายอยู่
เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญแผนกศัลยกรรม วิชาเฉพาะทางด้านอื่นก็เข้าใจอยู่บ้างนิดหน่อย แต่ตอนนี้อาการของโรคชนิดนี้ที่ไม่เข้าใจเขาไม่เคยมีประสบการณ์จัดการมันมาก่อน
ปรัณถูกคุณหมอดึงกลับมาสู่ความเป็นจริง ดวงตาอ่อนโยนคู่นั้นยังคงแดงอยู่ อาการของเตชิตไม่อนุญาตให้เขาเกิดความเพิกเฉยแม้แต่น้อย เวลาเท่ากับชีวิตคน เขาต้องรีบรักษาให้รอดพ้นจากอันตรายอย่างมีประสิทธิภาพ!
“นำคนเข้าห้องฉุกเฉิน!” ปรัณฝืนกลั้นน้ำตาไว้ ตามหมอและพยาบาลนำเขาเข้าไป
ทางนี้ ทางด้านชนัยเมื่อรู้ข่าวว่าลูกปลอดภัยก็รีบไปโรงพยาบาลออกมาจากลิฟต์ก็เห็นปรัณเปลี่ยนชุดแล้วเตรียมเข้าไปในห้องฉุกเฉิน คิดอยากจะหยุดเขาไว้ “พี่ปรัณ พี่เตชิตไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“ไม่แน่ใจ” สีหน้าปรัณหนักอึ้งมาก ก่อนที่จะวินิจฉัยโรค เขารับประกันอะไรไม่ได้อย่างไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงภาวนาในใจให้เขาปลอดภัย
จิตใจชนัยจมดิ่งลงไป “งั้น......ต้องบอกนัชชาไหม?”
ทางเดินโรงพยาบาลตกอยู่ในความเงียบ นานสักพัก เขายกสายตาขึ้น กั้นด้วยผ้าปิดปากของแพทย์ ด้วยโทนเสียงหนักแน่น “บอกเถอะ เด็กๆปลอดภัยแล้ว สถานการณ์ของเตชิตยังต้องการเธอ”
ทิ้งประโยคหนึ่งไว้ ก่อนจะหันตัวเข้าไปในห้องฉุกเฉินที่ส่องไฟสีแดงดูน่าหวาดกลัว ทางเดินนอกห้องมีคนของเขาซึ่งสวมชุดเดียวกันที่เขาพามาด้วย
เครื่องแต่งกายสีดำสนิทค่อนข้างน่าเกรงกลัว ชนัยกังวงอย่างต่อเนื่อง โบกมือไปมาอย่างกระสับกระส่าย “พวกนายสามคนอยู่ที่นี่ ที่เหลือกลับไปให้หมด”
“ครับ!”
เสียงฝีเท้าดังขึ้นข้างหู ค่อยๆห่างออกไป จนในที่สุดก็เกิดความเงียบอีกครั้ง
ประตูหนึ่งกั้นไว้อยู่ บรรยากาศตลบอบอวลไปด้วยความอดทนต่ำอย่างต่อเนื่องทำให้คนที่อยู่ตรงนั้นล้วนเกิดภาพลวงตาที่ใกล้จะทำให้หายใจติดขัด
ชนัยเดินเข้าไปในทางสัญจรที่ปลอดภัยอีกด้าน หยิบบุหรี่หนึ่งมวนออกมาจากกระเป๋าด้วยท่าทางที่รีบร้อน ในตอนนี้มีเพียงแก๊ซที่แสบจมูกนี้เท่านั้นที่สามารถผ่อนคลายความกังวลในใจเขาได้
เวลาผ่านไป การรอคอยที่แสนยาวนานและยากที่จะอดทน เขาสูบบุหรี่จัดมาก ครึ่งนาทีบุหรี่มอดไปมากกว่าครึ่ง ขี้บุหรี่ร่วงลงสู่พื้นดิน เขาไม่มีเวลามาสนใจ รอจนเศษขี้บุหรี่นั้นร่วงถึงปลายเท้า แล้วทิ้งมันลงไป
สายตาเขาเปลี่ยน หยิบมือถือออกมาโทรหานัชชา เสียง ‘ตู๊ดๆ’ ราวกับเป็นการป่าวประกาศที่สงบเงียบครั้งสุดท้าย ในที่สุดก็รับสาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด
แจ้งความแม่มเลยค่ะ ลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย งงนะ พระเอกนางเอกไม่มีใครด่าเลยว่าทำไมพาเด็กมาโดยไม่ขอก่อน...