ตอนที่587 จูบปลอบใจ
เมื่อเขาเข้ามาก็พูดประโยคดังกล่าวในทันที ดุลยายังไม่ทันได้ตั้งตัว “ลูกพูดเรื่องอะไร”
“ผมบอกว่า เรารับข้อเสนอของคุณชนุดมกันเถอะ” ไวศทย์กลัวว่าแม่ของเขาจะไม่เข้าใจความหมายที่เขาพูด เขาจึงตั้งใจที่จะอธิบายให้เธอฟังอีกรอบ “เขาเป็นคนบอกว่าจะเป็นคนออกค่ารักษาพยาบาลของพี่สาวเอง”
เมื่อไม่กี่วันก่อนดุลยาได้ถามความเห็นไวศทย์เกี่ยวกับเรื่องนี้ ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นคนในครอบครัว คนที่เธอปรึกษาได้ก็มีเพียงเขาเพียงคนเดียว แต่ว่าตอนนั้นไวศทย์ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร ดุลยายังคิดว่าเขาเองอาจจะไม่เห็นด้วย
เมื่อเธอเห็นความคิดเขาเปลี่ยนไปเร็วเช่นนี้ ก็รู้สึกแปลกใจ “แต่ว่า…”
“ไม่มีแต่อะไรอีกแล้วแม่ เราต้องการเงิน” ภายในเวลาหนึ่งคืน ไวศทย์ก็ได้เข้าใจ “ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าชีวิตของพี่สาว ถ้าอยากให้พี่สาวฟื้นขึ้นมา ได้แต่รับความช่วยเหลือจากคุณชนุดมไว้เท่านั้น”
ดุลยาถอนหายใจเงียบๆ ทำไมเธอจะไม่เข้าใจคำพูดเหล่านั้น แต่เมื่อเธอคิดถึงจำนวนเงินที่ต้องใช้ในการรักษา เมื่อนึกถึงตัวเลขที่มหาศาล เธอก็รู้สึกท้อ ไม่ใช่ไม่อยากให้ลูกสาวหายดี ถ้าหากเป็นไปได้ เธออยากแบบรับความเจ็บปวดเอาไว้เอง แต่เธอกลัวว่าหลังจากที่ชีวภาฟื้นขึ้นมาแล้ว จะกลายเป็นหนี้ที่ติดตัวเธอตลอดไป เธอจะรับมันได้อย่างไร
“ไวไวเอ๋ย แม่รู้ว่าลูกสนิทกับพี่สาวลูกมากมาตั้งแต่เล็ก แม่ก็รู้สึกเสียใจไม่น้อยไปกว่ากัน แม่เป็นคนทุกข์ใจที่สุด แต่ว่าค่ารักษาพยาบาลไม่ใช่จำนวนเงินน้อยๆ ไม่นานก็พุ่งถึงล้าน เงินนี้ใช้ไปแล้ว อีกหน่อยก็ต้องหามาคืนในวันข้างหน้า ถ้าหากพี่สาวลูกฟื้นขึ้นมาแล้ว เธอจะเผชิญเรื่องนี้อย่างไร…”
“ไม่ต้องให้พี่สาวเผชิญหน้า” ไวศทย์พูดโดยไม่คิดอะไร เขามีท่าทีที่สงบนิ่งมาก เปรียบกับอาการคลั่งเมื่อสองวันก่อนราวกับเป็นคนละคน “เรื่องพวกนี้ผมจัดการเอง แม่ครับ แม่เชื่อลูกชายคนนี้นะ ในอนาคตผมจะหาเงินจำนวนนี้มาให้ได้ เพื่อชำระหนี้ครั้งนี้”
ดุลยาฟังคำพูดเหล่านี้ ตาเธอก็แดงขึ้นมา เธอกระซิบ “แม่ไม่เอาไหนเอง ต้องโทษแม่….”
ไวศทย์เดินไปกอดแม่ของเขาไว้ในอ้อมอก และมองไปที่ชีวภาซึ่งสวมหน้ากากออกซิเจนอยู่บนเตียง เด็กชายอายุสิบแปดกำลังเติบโตขึ้นในขณะนี้ นี่เป็นแรงกระตุ้น เป็นการรู้แจ้งอย่างหนึ่งเมื่อต้องประสบกับความเป็นความตายที่ยิ่งใหญ่ตรงหน้า “แม่ครับ มันจะผ่านไปได้ ทุกอย่างจะผ่านไปได้ เมื่อก่อนมีพี่ ตอนนี้ก็มีผม ครอบครัวเราต้องผ่านเรื่องนี้ไปได้ครับ”
---
หลังจากที่ไวศทย์ปลอบใจดุลยาแล้ว เขาก็รีบไปพบชนุดมทันที หลังจากที่รับเงินก้อนนี้ ก็นับว่าเขาเป็นหนี้ชายคนนี้ในทันที
ชนุดมไม่ปฏิเสธ เขารู้นิสัยของไวศทย์ว่าดื้อมาก ข้อนี้เขาเหมือนกับพี่สาวของเขามาก ใจเขาต้องการรับผิดชอบและทำหน้าที่ของตัวเอง
“เธอเลือกวิชาเอกอะไร” ในที่สุดชนุดมก็ถามเขาถึงเรื่องนี้
ไวศทย์ตกตะลึงและตอบไปตามจริง “การเงินครับ”
ชนุดมเลิกคิ้วและหัวเราะ “คิดไม่ถึง”
“ทำไมครับ”
“ผมแค่คิดว่าคุณจะเลือกสาขาที่ดีกว่านี้ อุตสาหกรรมการเงินอยู่ภายใต้การแข่งขันกันอย่างหนักหน่วง มีกฎและข้อบังคับมากมาย ดีไม่ดีอาจจะได้เป็นแค่ลูกจ้างทางการเงินไปตลอดชีวิต”
“ผมเป็นเด็กสายวิทยาศาสตร์ คล่องเรื่องเลข ไม่ว่าอนาคตการจ้างงานจะเป็นอย่างไร ผมหวังว่าจะได้เลือกสาขาวิชาที่ผมสนใจจริงๆ” ไวศทย์ครู่เดียวก็เปลี่ยนกลายเป็นเหมือนเด็กที่โตแล้ว
ชนุดมพยักหน้าและไม่พูดอะไรมาก เขาเพียงแต่แจกนามบัตรทองคำของเขามอบให้กับชายหนุ่มคนนั้น “พี่สาวของคุณคงยังไม่เคยบอกกับคุณ ผมเป็นนักลงทุน การเงินเป็นเรื่องที่ผมถนัด ถ้าหากคุณต้องการทำงานนอกเวลาหรือว่ามีความคิดเห็นอะไรก็สามารถมาหาผมได้ และถ้าหากคุณมีความมั่นใจในตัวเองแล้วล่ะก็ คุณสามารถไปที่บริษัทของผมโดยตรงได้เลย”
ไวศทย์รับนามบัตรด้วยมือทั้งสองข้าง เมื่อเห็นว่าบนนั้นมีตำแหน่งอยู่ห้าตำแหน่งด้วยกัน แต่บรรทัดก็เป็นชื่อที่ฝังไว้ด้วยทองคำ สองแห่งในนั้นเป็นชื่อบริษัทที่เขาใฝ่ฝันอยากเข้าไปทำงาน ไม่คาดคิดที่แท้จริงแล้ว…
ไวศทย์เป็นคนที่จริงจังมาก เขารู้ว่าชนุดมไม่ใช่คนธรรมดา แต่ก็คิดว่าเขาคงเป็นแค่ระดับ “เถ้าแก่” หรือไม่ก็ “ลูกคนรวย” ประมาณนี้เท่านั้น ไม่ได้คาดคิดว่าเขาจะเป็นถึง….
พี่สาวของเขาไปมีความรักกับชายคนนี้ได้อย่างไรกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยั่วรักทนายคนโหด
แจ้งความแม่มเลยค่ะ ลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย งงนะ พระเอกนางเอกไม่มีใครด่าเลยว่าทำไมพาเด็กมาโดยไม่ขอก่อน...