“ชินชิน? หนูตื่นแล้วนี่เอง ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่ลงไปทานอาหารเช้าล่ะคะ? หนูไม่หิวเหรอลูก? แล้วก็ทำไมหนูไม่ใส่เสื้อคลุม?”
“………”
ไม่มีใครสนใจเธอ หลังจากที่ปรากฏตัวขึ้นมาแล้วพักหนึ่ง เขาก็หันหลังจะเดินไปอีก
เขาจะทำอะไร? ตั้งแต่เช้าตรู่แบบนี้!
เส้นหมี่เห็นแล้วนั้น ทำได้เพียงตามไปอยู่ทางด้านหลังเขา แล้วก็เดินไปด้วยกัน แต่กลับพบว่า หลังจากที่สองแม่ลูกออกมาแล้ว ด้านหน้าเป็นสวนลอยขนาดใหญ่ และเวลานี้เอง ลูกคนนี้ออกมาแล้ว ก็วิ่งออกมาเล่นในสนามเด็กเล่นที่อยู่ในสวนดอกไม้แห่งนี้เพียงลำพัง
จุ๊ๆ นี่คือโลกของคนรวยจริงๆ!
เส้นหมี่เอาอาหารเช้ามาวางลงบนโต๊ะหินที่อยู่ในสวน และมาที่สนามเด็กเล่นทางนี้ด้วยเช่นกัน
“ชินชิน เราทานอาหารเช้ากันก่อนแล้วค่อยเล่นดีไหมคะ? ไม่อย่างนั้นจะหิวเอาได้นะ”
“ไม่กิน!”
นับว่าชินจังเปิดปากออกมาแล้ว แต่เป็นสองคำที่ดูรำคาญมาก
เส้นหมี่รู้สึกว่ายากเล็กน้อย ลูกคนนี้ดูแล้วไม่ได้ง่ายเลยจริงๆ เขาไม่เหมือนกับน้องชาย ที่ทานข้าวอย่างว่าง่าย
เส้นหมี่นั่งยองๆลงข้างๆเขาแล้วคิด จู่ๆเขาก็คิดสิ่งหนึ่งขึ้นมาได้ : “ชินชิน น้าเดาว่า หนูจะต้องอยากเจอแด๊ดดี้แน่เลยใช่ไหมคะ? ขอแค่หนูทานอาหารเช้าให้หมด น้ารับปากว่าจะพาหนูไปหาเขา!”
“น้าพูดจริงไหม?”
แทบจะในทันที ที่เด็กคนนี้มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับ
ไม่ผิดแล้ว เด็กที่เป็นโรคออทิซึมจะเป็นแบบนี้ เขาสันโดษ เย็นชา ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมสังคม แต่คนประเภทนี้ ในใจของเขา จะมีคนที่สามารถพึ่งพาได้อยู่หนึ่งคน
และคนๆนี้ พวกเขาก็จะไม่แยกจากกัน
จู่ๆเส้นหมี่ก็รู้สึกอิจฉาผู้ชายหมาๆคนนั้นขึ้นมา
รอก่อนเถอะ ซักวันนึง เธอจะกลายเป็นคนๆนั้นเช่นกัน!
สุดท้ายแล้วชินจังก็ทานอาหารเช้าที่เส้นหมี่ยกมาจนหมด ตอนที่ป้าญาขึ้นมาเก็บชามไปนั้น ดวงตาก็แทบจะหล่นลงมาที่พื้นอยู่แล้ว
“คุณชายเล็ก นี่.....คุณชายทานจนหมดเลยหรือคะ?”
“ใช่ค่ะ เขาทาน ทำไมหรือคะ? มีอะไรไม่ถูกต้องอย่างนั้นหรือ?”
เส้นหมี่ได้ยินคำพูดนี้แล้วก็รู้สึกแปลกๆ นี่ก็คือปริมาณของเด็กหนึ่งคน ทำไมเธอจะต้องมีปฏิกิริยาใหญ่โตขนาดนี้ด้วย? หรือว่าเมื่อก่อนลูกจะไม่ได้ทานมากขนาดนี้?
เส้นหมี่ไม่รู้ ว่าเมื่อก่อนชินจังอยู่ที่บ้านไม่ค่อยทานอะไรเลยจริงๆ
นอกจากพ่อของเขาทำให้ เขาถึงจะทาน
ป้าญาถือชามลงไปด้วยความโมโห เดินไปพลางหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาแป้งร่ำไปด้วย : “คุณแป้งร่ำ คุณรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เก่งขนาดไหนไหมคะ? วันนี้คุณชายเล็กทานอาหารที่เธอทำจนหมด”
ถึงอย่างไร เธอเองก็จะต้องไปส่งยาอยู่แล้ว
แต่เธอไม่รู้ว่ากลางวันนี้ ลูกชายอีกคนหนึ่งของเธอ ก็ไปที่นั่นเหมือนกัน
“พี่คะ พี่ต้องระวังตัวด้วยนะ ถ้าหากเห็นคนไม่ดีแล้ว จะต้องสั่งสอนเขาแทนรินจังด้วยนะ ไม่ให้เขารังแกหม่ามี๊อีก”
ในโรงเรียนอนุบาล ตอนที่คิวคิวจะออกมานั้น รินจังก็กำชับข้างหูเขาอีกครั้งด้วยท่าทางที่โมโห
คิวคิวตีลงบนหน้าอกตัวเอง ตอบรับอย่างตรงไปตรงมา
หลังจากนั้นยี่สิบกว่านาที ตึกหิรัญชากรุ๊ปใจกลางเมือง
เนื่องจากกลัวว่าจะถูกคนจับได้ คิวคิวที่สวมเสื้อฮู๊ดเทพนักรบสีน้ำเงิน ด้านนอกยังมีเสื้อกั๊กยีนส์สีดำอีกหนึ่งตัว ไม่ได้เลือกเข้าทางประตูใหญ่ แต่หลังจากที่อ้อมไปยังที่จอดรถใต้ดินแล้ว เขาก็แทรกเข้าไปในลิฟต์
เด็กคนนี้ฉลาดมากจริงๆ
เพียงแต่ เมื่อเขาขึ้นลิฟต์มาถึงชั้นที่เขาหามาตามข้อมูลนั้น หลังจากที่เขาออกมาแล้ว จู่ๆก็พบว่าตรงหน้าเป็นประตูกระจกบานใหญ่ล็อคเอาไว้อยู่ เขาไม่สามารถเข้าไปได้เลย
“ไม่ใช่สิ ที่นี่คือสำนักงานของประธานนี่นา ทำไมถึงมีประตูกระจกนี่อีกกัน? หรือว่าเขาเข้าใจผิด?”
เขารู้สึกกลัดกลุ้มเล็กน้อย ยืนอยู่ตรงนั้นมองสำรวจไปรอบๆ ไม่เห็นว่าไม่มีการตอบสนองใดๆ จึงเตรียมที่จะกลับไปในลิฟต์อีกครั้ง เพื่อไปดูชั้นอื่นๆ
แต่นี่ จู่ๆประตูกระจกก็มีเสียงของหุ่นยนต์ผู้หญิงดังขึ้นมา : “แสกนใบหน้าสำเร็จ ชินจัง เปิดได้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก